ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ดราม่า,ไซไฟ,ทะลุมิติ,ดราม่า,นิยายวาย,แฟนตาซี,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สุดท้ายตัวผมก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมนี้อย่างงง ๆ
แอ็ดด…
ชายปริศนาในชุดผ้าคลุมสีนํ้าเงินเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“ทะ ท่านฮิมเมลอยู่นี่เองสินะขอรับ”
?
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ฮิมเมลถามพลางก้าวขาเดินไปใกล้ชายหนุ่มปริศนา
“เอ่อ คือผมได้รับมอบหมายให้พาท่านไปลงเลือกวิชาเรียนน่ะขอรับ”
“อ่อ โอเค ๆ ”
ชายหนุ่มปริศนาถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้ฮิมเมลอย่างโล่งใจ
“ไปก่อนนะ”
ฮิมเมลพูดพลางหันหลังไปโบกมือให้กับเด็กชายด้านหลัง
เขามองฮิมเมลก่อนจะยกมือขึ้นโบกตอบกลับ
“เชิญทางนี้เลยขอรับ”
ฮิมเมลเดินตามชายหนุ่มที่อ้างว่าตัวเองได้รับมอบหมายให้พาเขาไปลงเรียนวิชาเลือก
ว่าแต่คนที่อยู่ในห้องชมรมวิทยาศาสตร์…เขาชื่ออะไรนะ เราได้ถามหรือยัง?
ช่างมันก่อนเถอะเดี๋ยวยังไงก็จะได้เจอกันอีกอยู่แล้ว
“จริงสิขอรับ กระผมชื่อซิราจ โจฮา นะขอรับ”
“อืม ๆ ฉันทะ… ไม่สิชื่อฮิมเมล แอสเธอร์”
“ขอรับผมทราบดี”
ซิราจพูดพลางยิ้ม
“ถึงแล้วขอรับ” ซิราจเปิดประตูบานยักษ์ใหญ่ก่อนจะก้มหัวและทำท่าเชิญให้ฮิมเมลเดินเข้าไปก่อน
ฮิมเมลเขาเองก็ค่อนข้างที่จะชินไปกับการปฎิบัติของคนรอบข้างที่มีต่อเขาแล้ว
“อืม ๆ ขอบใจ เซอร์วิสดีแท้”
“ครับ?” แม้ซิราจจะไม่เข้าใจว่าคำว่า ‘เซอร์วิส’ ที่ฮิมเมลพูดมันคืออะไรแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม
อืมม อย่างน้อยก็เลือกเรียนวิชาที่อยากเรียนได้อ่ะนะ
แต่…นี่มันมีแต่วิชาอะไรวะเนี่ย
ฮิมเมลถึงกับหัวปวดนิ้วมือที่พลางเลื่อนบนจออากาศเวทย์มนต์สีนํ้าเงิน
-เวทย์ธาตุแสง -เวทย์อัญเชิญ
-เวทย์แปรธาตุ -เวทย์ธาตุดิน
-เวทย์ธาตุมืด -เวทย์ธาตุนํ้า
-เวทย์ธาตุนํ้าแข็ง
…
มีวิชาดาบด้วยแฮะแต่ไม่ไหวหรอก
ฮิมเมลเลื่อนจนสุดจอแล้วแต่ก็ไม่เจอวิชาที่ตัวเองพอจะลงเรียนได้เลย
ก่อนจะไปสะดุดกับวิชาที่อยู่ล่างสุดของจอ
-โคหนึ่ง
คือ?
ฮิมเมลสงสัยจึงเอ่ยปากถามกับซิราจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัว “คืออะไร”
“โคหนึ่ง วิชานี้จะเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และภาษาของอาณาจักรต่าง ๆ ขอรับ รวมถึงการคำนวณด้วยขอรับ”
“แต่ก็แทบที่จะไม่มีคนเลือกลงเรียนวิชานี้เลยขอรับเพราะ ไม่ค่อยได้ใช้จริง”
“เอาอันนี้”
“ครับ?”
.
.
.
โอ้โหแล้วปีหนึ่งคนลงเรียนวิชาโคหนึ่งมีแค่สี่คนรวมเราด้วย
แหะ แหะ…
ก่อนหน้านี้
“ทะ ท่านฮิมเมลจะลงเรียนแค่วิชาเดียวจริง ๆ หรือขอรับ แถมยังเป็นวิชาโคหนึ่งอีก”
ช่วยไม่ได้นี่นา วิชาอื่นดูคนอย่างผมไม่น่าจะลงเรียนได้เลยคับบ
ตารางเรียนของผมเลยออกมาเป็นแบบนี้…
ฮิมเมลคิดพลางก้มหน้ามองดูกระดาษที่มีตารางเรียนของตัวเองเขียนอยู่พร้อมกับเดินไปด้วย
เท่ากับหนึ่งสัปดาห์เราได้เรียนแค่สองคาบเอง
เพราะฮิมเมลเอาแต่จ้องมองกระดาษในมือจึงไม่ทันระวังเผอยเดินไปชนเข้ากับคนอื่น
ตึงง…
“โอ้ยย ขะ ขอโทษครับ”
มือซ้ายยกขึ้นนิ้วมือนวดไปที่หน้าผากของตัวเองจุดที่ไปชนเข้ากับคนอื่นเข้า
“ขอโทษนะ เจ็บมากหรือเปล่า”
เสียงเด็กชายพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
ฮิมเมลเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ปรากฏเป็นชายที่ฮิมเมลเจอในห้องวิทยาศาสตร์
“นายเองสินะ ขอโทษนะ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอกแต่นาย…”
“อ่อ แค่นี้เองไม่เป็นไร”
“ขอโทษนะ ฉันทำนายเจ็บตัวตลอดเลย”
“มะ ไม่เป็นไร”
ตลอด?
ช่างมันเถอะ
.
.
.
“ฉันใช้เวทย์ฮีลให้แล้ว ขอโทษนะ”
เขาพูดขอโทษอีกครั้งพลางก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรไง ขอโทษกี่รอบแล้วเนี่ย”
“จริงนะ”
“จริง”
ไม่จิงโจ้แน่นอน
“งั้น…”
“พวกเราไปเดินเล่นในเมืองกันไหมครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยชวนฮิมเมลด้วยท่าทางอ้อน ๆ
?
“ได้เหรอ ออกจากอคาเดมี่ได้?”
เขาส่ายหน้าไปมาอย่างแรงก่อนจะตอบคำถามฮิมเมล “ไม่ อคาเดมี่มีกฎห้ามออกนอกรั้วโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ฉันมีเวทย์มนต์ที่สามารถพานายไปได้ทุกที่”
“ถ้าโดนจับได้โทษจะหนักแค่ไหน” ฮิมเมลเอ่ยปากถามเด็กหนุ่ม
“ก็คงจะโดนพักการเรียน แต่ไม่ต้องกลัวนะไม่ถูกจับได้หรอก ฉันจะปกป้องนายเอง” เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้มให้กับฮิมเมล
อยากไปเหมือนกันคงจะไม่เป็นไรหรอก(มั้ง) ฉันเองก็ไม่มีเรียนด้วยสิ
“โอเค ๆ ”
เด็กหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ฮิมเมลก่อนจะอุ้มฮิมเมลขึ้น
!!!
เดี๋ยวว เด็กตัวแค่นี้ยกฉันไหวเหรอ
“จะไปแล้วนะ”
“เดี๋ยว อุ้มฉันไหวแน่นะ”
เด็กหนุ่มทำตาโตมองฮิมเมลสักพักก่อนจะหลุดขำออกมาอย่างชอบใจ
“ไหวครับ ไหว”
จากนั้นก็มีเวทย์มนต์สีนํ้าเงินมารายล้อมรอบตัวของเด็กหนุ่ม
“ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ”
ฮิมเมลลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย ว่าตัวเองยังไม่รู้ชื่อของอีกฝ่าย
.
.
.
“ไม่เอาน่าไทป์ ใจเย็นก่อน…”
“ไทป์…”
ในขณะที่ฮิมเมลกำลังพูดปลอบใจตัวเองอยู่เขาก็รู้สึกแปลก ๆ
“ไทป์…ไทป์คือใคร”