เมื่อนักเลงคีย์บอร์ดทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ - บทที่10 ไทป์คือใคร? โดย DUR_ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ดราม่า,ไซไฟ,ทะลุมิติ,ดราม่า,นิยายวาย,แฟนตาซี,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ดราม่า,ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ทะลุมิติ,ดราม่า,นิยายวาย,แฟนตาซี,#BL

รายละเอียด

เมื่อนักเลงคีย์บอร์ดทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

ผู้แต่ง

DUR_

เรื่องย่อ

    ไทป์ที่มีงานอดิเรกเป็นการอดข้าวแล้วเอาเงินไปซื้อนิยายมาอ่าน จนมาถึงนิยายแนวโรแมนติกแฟนตาซีเรื่องล่าสุดที่เขาพึ่งอ่านจบไปหยก ๆ แล้วรู้สึกโคตรที่จะหน่วงกับเรื่องราวของตัวร้ายเลย นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขารู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันไม่ยุติธรรมกับตัวร้ายหรือตัวประกอบบ้างตัวเลย เอาจริงความรู้สึกนี้มันก็จะอยู่แค่สองสามวันนั้นแหละ เดี๋ยวก็กลายเป็นปกติเองแต่ตอนนี้คือหน่วงมากนะ "ถ้าได้ทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวร้ายก็คงดี ฉันจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอเด็ดขาด!!" ไม่ทันขาดคำภาพตรงหน้าของเขาก็เริ่มที่จะมัว ๆ มองเห็นไม่ชัดก่อนจะค่อย ๆ จบสู่ความมืดมิด ไทป์คิดในใจ โอ้กูจะตายแล้วเหรอไม่แปลกใจเท่าไหร่คงจะได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องนี้... ซึ่งไม่ผิดไทป์เข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้จริง ๆ 

สารบัญ

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่00 ตัวร้ายไม่มีสิทธิ์,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่1 กรูว่าไม่ใช่ละ,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-ตอนที่2 ความบรรลัยในภายภาคหน้า,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่3 คนแบบนี้พี่เจอมาเยอะแล้ว,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-ตอนที่4 ไม่มีความรู้(โง่),ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่5 คิดจะสู้กับนักเลงคีย์บอร์ดอย่างพี่ยังเร็วไปร้อยปีไอ้หนู,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่6 เด็กน้อย,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่7 ผ่านมาเป็นสิบปี,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่8 ไซฮาร์,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่9 ที่ผ่านมาเหงามากเลย,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่10 ไทป์คือใคร?,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่11 ดาวนับล้านดวงบนท้องฟ้า,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่12 ข้อมูลของโลกทางฝั่งนี้,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่13 ตัวปลอม,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-วันเกิด ตัวละคร

เนื้อหา

บทที่10 ไทป์คือใคร?






    สุดท้ายตัวผมก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมนี้อย่างงง ๆ 

    แอ็ดด…

    ชายปริศนาในชุดผ้าคลุมสีนํ้าเงินเปิดประตูเข้ามาในห้อง

    “ทะ ท่านฮิมเมลอยู่นี่เองสินะขอรับ”

    ?

    “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

    ฮิมเมลถามพลางก้าวขาเดินไปใกล้ชายหนุ่มปริศนา

    “เอ่อ คือผมได้รับมอบหมายให้พาท่านไปลงเลือกวิชาเรียนน่ะขอรับ”

    “อ่อ โอเค ๆ ”

    ชายหนุ่มปริศนาถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้ฮิมเมลอย่างโล่งใจ

    “ไปก่อนนะ”

    ฮิมเมลพูดพลางหันหลังไปโบกมือให้กับเด็กชายด้านหลัง

    เขามองฮิมเมลก่อนจะยกมือขึ้นโบกตอบกลับ

    “เชิญทางนี้เลยขอรับ”

    ฮิมเมลเดินตามชายหนุ่มที่อ้างว่าตัวเองได้รับมอบหมายให้พาเขาไปลงเรียนวิชาเลือก

    ว่าแต่คนที่อยู่ในห้องชมรมวิทยาศาสตร์…เขาชื่ออะไรนะ เราได้ถามหรือยัง?

    ช่างมันก่อนเถอะเดี๋ยวยังไงก็จะได้เจอกันอีกอยู่แล้ว

    “จริงสิขอรับ กระผมชื่อซิราจ โจฮา นะขอรับ”

    “อืม ๆ ฉันทะ… ไม่สิชื่อฮิมเมล แอสเธอร์”

    “ขอรับผมทราบดี”

    ซิราจพูดพลางยิ้ม

    “ถึงแล้วขอรับ” ซิราจเปิดประตูบานยักษ์ใหญ่ก่อนจะก้มหัวและทำท่าเชิญให้ฮิมเมลเดินเข้าไปก่อน

    ฮิมเมลเขาเองก็ค่อนข้างที่จะชินไปกับการปฎิบัติของคนรอบข้างที่มีต่อเขาแล้ว

    “อืม ๆ ขอบใจ เซอร์วิสดีแท้”

    “ครับ?” แม้ซิราจจะไม่เข้าใจว่าคำว่า ‘เซอร์วิส’ ที่ฮิมเมลพูดมันคืออะไรแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม

    อืมม อย่างน้อยก็เลือกเรียนวิชาที่อยากเรียนได้อ่ะนะ

    แต่…นี่มันมีแต่วิชาอะไรวะเนี่ย

    ฮิมเมลถึงกับหัวปวดนิ้วมือที่พลางเลื่อนบนจออากาศเวทย์มนต์สีนํ้าเงิน

    -เวทย์ธาตุแสง -เวทย์อัญเชิญ

    -เวทย์แปรธาตุ -เวทย์ธาตุดิน

    -เวทย์ธาตุมืด -เวทย์ธาตุนํ้า

    -เวทย์ธาตุนํ้าแข็ง

    …

    มีวิชาดาบด้วยแฮะแต่ไม่ไหวหรอก

    ฮิมเมลเลื่อนจนสุดจอแล้วแต่ก็ไม่เจอวิชาที่ตัวเองพอจะลงเรียนได้เลย

    ก่อนจะไปสะดุดกับวิชาที่อยู่ล่างสุดของจอ

    -โคหนึ่ง

    คือ?

    ฮิมเมลสงสัยจึงเอ่ยปากถามกับซิราจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัว “คืออะไร”

    “โคหนึ่ง วิชานี้จะเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และภาษาของอาณาจักรต่าง ๆ ขอรับ รวมถึงการคำนวณด้วยขอรับ”

    “แต่ก็แทบที่จะไม่มีคนเลือกลงเรียนวิชานี้เลยขอรับเพราะ ไม่ค่อยได้ใช้จริง”

    “เอาอันนี้”

    “ครับ?”
    .
    .
    .

    โอ้โหแล้วปีหนึ่งคนลงเรียนวิชาโคหนึ่งมีแค่สี่คนรวมเราด้วย

    แหะ แหะ…

    ก่อนหน้านี้

    “ทะ ท่านฮิมเมลจะลงเรียนแค่วิชาเดียวจริง ๆ หรือขอรับ แถมยังเป็นวิชาโคหนึ่งอีก”

    ช่วยไม่ได้นี่นา วิชาอื่นดูคนอย่างผมไม่น่าจะลงเรียนได้เลยคับบ

    ตารางเรียนของผมเลยออกมาเป็นแบบนี้…

    ฮิมเมลคิดพลางก้มหน้ามองดูกระดาษที่มีตารางเรียนของตัวเองเขียนอยู่พร้อมกับเดินไปด้วย

    เท่ากับหนึ่งสัปดาห์เราได้เรียนแค่สองคาบเอง

    เพราะฮิมเมลเอาแต่จ้องมองกระดาษในมือจึงไม่ทันระวังเผอยเดินไปชนเข้ากับคนอื่น

    ตึงง…

    “โอ้ยย ขะ ขอโทษครับ”

    มือซ้ายยกขึ้นนิ้วมือนวดไปที่หน้าผากของตัวเองจุดที่ไปชนเข้ากับคนอื่นเข้า

    “ขอโทษนะ เจ็บมากหรือเปล่า”

    เสียงเด็กชายพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

    ฮิมเมลเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ปรากฏเป็นชายที่ฮิมเมลเจอในห้องวิทยาศาสตร์

    “นายเองสินะ ขอโทษนะ”

    “ฉันไม่เป็นไรหรอกแต่นาย…”

    “อ่อ แค่นี้เองไม่เป็นไร”

    “ขอโทษนะ ฉันทำนายเจ็บตัวตลอดเลย”

    “มะ ไม่เป็นไร”

    ตลอด? 

    ช่างมันเถอะ
    .
    .
    .

    “ฉันใช้เวทย์ฮีลให้แล้ว ขอโทษนะ”

    เขาพูดขอโทษอีกครั้งพลางก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองอย่างรู้สึกผิด

    “ไม่เป็นไรไง ขอโทษกี่รอบแล้วเนี่ย”

    “จริงนะ”

    “จริง”

    ไม่จิงโจ้แน่นอน

    “งั้น…”

    “พวกเราไปเดินเล่นในเมืองกันไหมครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยชวนฮิมเมลด้วยท่าทางอ้อน ๆ 

    ?

    “ได้เหรอ ออกจากอคาเดมี่ได้?”

    เขาส่ายหน้าไปมาอย่างแรงก่อนจะตอบคำถามฮิมเมล “ไม่ อคาเดมี่มีกฎห้ามออกนอกรั้วโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ฉันมีเวทย์มนต์ที่สามารถพานายไปได้ทุกที่”

    “ถ้าโดนจับได้โทษจะหนักแค่ไหน” ฮิมเมลเอ่ยปากถามเด็กหนุ่ม

    “ก็คงจะโดนพักการเรียน แต่ไม่ต้องกลัวนะไม่ถูกจับได้หรอก ฉันจะปกป้องนายเอง” เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้มให้กับฮิมเมล

    อยากไปเหมือนกันคงจะไม่เป็นไรหรอก(มั้ง) ฉันเองก็ไม่มีเรียนด้วยสิ

    “โอเค ๆ ”

    เด็กหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ฮิมเมลก่อนจะอุ้มฮิมเมลขึ้น

    !!!

    เดี๋ยวว เด็กตัวแค่นี้ยกฉันไหวเหรอ

    “จะไปแล้วนะ”

    “เดี๋ยว อุ้มฉันไหวแน่นะ”

    เด็กหนุ่มทำตาโตมองฮิมเมลสักพักก่อนจะหลุดขำออกมาอย่างชอบใจ

    “ไหวครับ ไหว”

    จากนั้นก็มีเวทย์มนต์สีนํ้าเงินมารายล้อมรอบตัวของเด็กหนุ่ม

    “ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ”

    ฮิมเมลลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย ว่าตัวเองยังไม่รู้ชื่อของอีกฝ่าย



.
.
.
    “ไม่เอาน่าไทป์ ใจเย็นก่อน…”

    “ไทป์…”

    ในขณะที่ฮิมเมลกำลังพูดปลอบใจตัวเองอยู่เขาก็รู้สึกแปลก ๆ 

    “ไทป์…ไทป์คือใคร”