เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๘
เช้าตรู่โนอาได้ประกาศเรียกรวมรุ่นน้องทุกคนที่ห้องประชุมของโรงแรมอีกครั้ง และได้นัดหมายให้ทุกคนกลับมาเจอในตอนหกโมงเย็น เพราะจะมีการทำโทษกลุ่มที่หาธงมาไม่ครบ จากนั้นก็ปล่อยทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน
น้ำเหนือที่รู้ว่าโนอายังคิดที่จะทำกิจกรรมต่อราวกับว่าเมื่อวานไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น น้ำเหนือจึงได้ตามหาโนอาไปทั่วโรงแรมเพื่อถามเหตุผลในการทำกิจกรรมต่อ แต่แล้ว ก็มาเจอโนอานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องพัก น้ำเหนือจึงปรี่เข้าไปหาโนอาทันที
“พี่คิดจะทำอะไรกันแน่วะ เรื่องมันเกิดขึ้นขนาดนี้ พี่ยังคิดที่จะกิจกรรมต่ออีกเหรอ เพื่อนพี่ก็ไม่ฟื้นขึ้นมาเลยนะเว้ย คิดไรอยู่วะ”
ทางด้านอันดาที่เพิ่งเดินตามมา ก็เห็นว่าน้ำเหนือกำลังจ้องมองโนอาอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ จึงรีบเดินตรงเข้าไปทันที
“มีอะไรกันหรือเปล่า” ทว่าทั้งสองกลับไม่สนใจเลยว่าอันดาจะเดินเข้ามา และน้ำเหนือยังคงเค้นถามเพื่อเอาคำตอบจากโนอาต่อ
“ตอบมาดิ พี่ทำเพื่ออะไร แทนที่จะรอให้พี่สกายหายดีแล้วกลับกรุงเทพฯ พี่รอแค่นี้มันจะตายเหรอวะ ภูมิใจมากเหรอที่มีคนเคารพเพราะทำตัวแบบนี้”
“แล้วไงวะ ถ้ากูทำแบบที่มึงบอก ก็เท่ากับว่ากูปอดแหก แล้วอย่างงี้รุ่นน้องที่ไหนมันจะเคารพรุ่นพี่แบบเราวะเหนือ มึงตอบกูดิ” สิ้นคำพูดของโนอา น้ำเหนือก็ได้ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะเอ่ยเพียงสั้น ๆ ว่า
“คิดได้แค่นี้เหรอ ปัญญาอ่อนฉิบหาย” จากนั้นก็จูงมืออันดาเดินออกมาทันที
เดินออกมาไกลจากโนอาพอสมควร น้ำเหนือก็ทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ริมทางเดิน พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ อันดาที่เห็นท่าทางของน้ำเหนือเช่นนั้น ก็ได้แต่งุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามออกไป ทำได้แค่ยืนมองน้ำเหนืออยู่แบบนั้น จนเจ้าของเสียงทุ้มต่ำต้องเอ่ยถาม ก่อนจะเงยหน้ามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่นั่งเหรอ” อันดาจึงค่อยหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับอ้าปากเอ่ยพูดออกมา
“มีอะไรกันเหรอ ทำไม่เหนือ...ถึงโมโหขนาดนั้นล่ะ” หลังจากคำถามของอันดาถูกส่งออกไป น้ำเหนือก็หมุนตัวหันหน้าหาอันดา พร้อมกับตอบคำถามของอันดาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ช่างแตกต่างจะเมื่อสักครู่ราวฟ้ากับเหว
“เราแค่เป็นห่วง กลัวจะมีใครเป็นอะไปอีก รวมถึงเธอด้วย” ประโยคหลังน้ำเหนือพูดเบาราวกับกระซิบ
“แล้วทำไมเหนือถึงไปว่าพี่โนอาเขาแบบนั้นล่ะ” น้ำเหนือมองตาอันแวบหนึ่งก่อนจะตอบกลับ
“เขาจะทำกิจกรรมต่อ ที่หาธงมาไม่ครบน่ะ” สิ้นคำพูดของน้ำเหนือ อันก็ทำท่าทางหวาดกลัวขนลุกซู่ พร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบแขนทั้งสองข้าง
“เป็นอะไรเปล่า” น้ำเหนือเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจ
“ก็ถ้าปิ่นรู้ เหนือคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ” พอได้ฟังคำตอบของอันดา ท่าทางของน้ำเหนือก็ไม่ต่างกับท่าทางเมื่อสักครู่ของอันดาเลย เพราะเมื่อคิดถึงสภาพโนอาในตอนปิ่นรู้เรื่อง ก็หนาวเย็นขึ้นไปถึงกระดูกสันหลังเลยทีเดียว
หลังจากนั้นทั้งสองได้ชวนกันไปดูอาการสกายที่ห้องพัก แต่ทว่าระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปที่ห้องพักของสกาย กลับได้ยินซุบซิบพูดคุยเรื่องที่สกายโดนผีนางรำหลอก อันดาจึงหันหน้าไปมองน้ำเหนือก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“มีคนรู้เรื่องผีเมื่อคืนด้วยเหรอ”
“นั่นสิ” น้ำเหนือกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าเริ่มมีสายตาจับจ้องมาตัวเองและอันดา
“เรารีบไปก่อนเถอะ” น้ำเหนือดันตัวอันดาให้เดินนำไปก่อน
ไม่นานก็เดินมาถึงห้องที่สกายพักอยู่ เมื่อทั้งสองคนเปิดประตูเข้ามา ก็ไม่พบสกายนอนอยู่ ทั้งสองคนกำลังจะวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อตามหาสกาย แต่สกายเดินออกมาจากห้องน้ำได้ทันเวลาพอดี ทั้งสองคนจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เป็นไรกัน”
“ก็คิดว่าโดนผีลากไปหักคออีกน่ะสิ”
“มึงอย่าพูดคำนี้ได้มั้ยเหนือ กูรู้สึกเจ็บคอขึ้นมาเลย” สกายเอ่ยพูดพร้อมกับยกมือมาจับคอ ก่อนจะเอ่ยถามหาโนอา
“เออแล้วไอโนอามันไปไหนของมันวะ”
“ไม่รู้หรอกว่าไปตายอยู่ที่ไหน” ร่างสูงเอ่ยตอบอย่างไม่สบอารมณ์ สกายได้แต่เลิกคิ้วอย่างุนงง
“เป็นไรของมึง ทะเลาะกับมันมาไง๊”
“ก็เพื่อนพี่จะให้เข้าไปตามหาธง...เย็นนี้”
“เพื่อไรวะเนี่ย ที่เจอเมื่อคืนยังไม่เข็ดมั้งน่ะ เดี๋ยวกูไปคุยให้เอง นิสัยแม่งไม่เหมือนใคร” พูดจบสกายก็เดินนำทั้งสองออกจากห้องและตรงไปหาโนอาทันที
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วนิสัยที่แท้จริงของโนอา มีเพียงสกายเท่านั้นที่รู้ เนื่องจากโนอาในสายตาคนอื่นอาจจะเป็นเพียงคนที่คอยตามติดสกายเฉย ๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว โนอาเป็นคนจริงจังกับชีวิตมาก และห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองยิ่งกว่าอะไรดี และถ้าคิดจะทำอะไรแล้วก็ไม่มีใครหน้าไหนขวางได้แม้แต่ตัวสกายเอง แถมโนอานั้นเป็นคนที่ควบคุมได้ยากมาก ๆ ไม่สนอะไรผิดถูก ดีไม่ดี
ทั้งสามคนเดินตามหาโนอาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะมาเจอว่าโนอานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนหย่อมข้างโรงแรม ทว่าระหว่างทางที่เดินมา ทุกสายตาต่างก็จับจ้องมาสกายเป็นตาเดียวกัน แต่สกายก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจกับสายตาเหล่านั้นเท่ากับเพื่อนสนิทอย่างโนอา
“โนอา มึงทำไรอยู่”
“นั่งเล่นไง มึงเห็นว่ากูทำไร แล้วนี่หายดีแล้วเหรอ” โนอาเหลือตามองสกายแวบหนึ่ง ก่อนจะแสร้งทำเป็นมองไปทางอื่น
“มึงอย่ามาตลกได้มั้ยโนอา มึงไม่คิดว่าคนอื่นจะเป็นอันตรายแค่เพราะมึงกลัวว่ารุ่นน้องจะไม่เคารพตัวเองเนี่ยนะ มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ” สกายเอ่ยถามพร้อมกับเอียงคอมองอย่างสงสัย
“ก็แค่หาธงให้ครบป่ะวะ มึงจะอะไรหนักหนา ไม่มีใครเป็นอะไรหรอก มึงเชื่อกูดิ” โนอายังคงยืนกรานในคำพูดของตัวเอง และหลังจากที่พูดจบโนอาก็ลุกพรวดพราดเดินหนีไปทันที
และแล้วเวลาก็ได้ล่วงเลยไปจนถึงหกโมงเย็น ทุกคนได้มารวมกันที่ห้องประชุมของโรงแรมตามที่โนอาได้นัดหมายเอาไว้ เมื่อมาทุกคนมารวมกันครบแล้ว โนอาจึงได้เริ่มชี้แจงบทลงโทษ ก็คือการเข้าไปตามหาธงที่เหลือออกมาให้ครบ ซึ่งธงที่เหลืออยู่ในป่าจะเปลี่ยนที่ซ่อน และต้องหาให้เจอก่อนสองทุ่ม