เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๙
จากนั้นกลุ่มของสกายก็ได้เข้าไปตามหาธงในป่า โดยที่ครั้งนี้รุ่นพี่แบ่งไปเป็นคู่ ส่วนรุ่นน้องทั้งสี่คนไปด้วยกัน ผ่านไม่ราว ๆ หนึ่งชั่วโมง ก็ได้มีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นออกมาจากป่า ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีคนวิ่งหน้าตาตื่นออกมา ซึ่งคู่น้ำเหนือและอันดานั้นวิ่งออกมาก่อน ตามมาด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ อันดาจึงได้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบว่า
“เจอเหมือนกันมั้ย” ทุกคนที่วิ่งออกมาต่างก็พยักหน้าตอบรับ
ขณะที่เพื่อนกำลังหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ โนอากลับพูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย
“ธงล่ะ มีใครเอาออกมาด้วยมั้ย” น้ำเหนือได้แต่ส่ายด้วยเอือมระอาสุด ๆ ก่อนจะยกธงที่ถืออยู่ในมือขึ้นมาโชว์ให้โนอาดู โนอาก็หลุดยิ้มดีใจออกมาอย่างไม่รู้สึกสำนึกอะไรเสียเลย น้ำเหนือเลยถามด้วยเสียงเรียบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ
“อยากได้มากใช่มั้ย” สายตาของน้ำเหนือยังคงจดจ้องไปที่ใบหน้าของโนอาด้วยสายตาที่คาดได้ยาก จากนั้นก็ขว้างธงใส่หน้าโนอา พร้อมพูดประชดประชันใส่โนอา
“งั้นก็เอาไปซะ เก็บไว้ให้ดีด้วยล่ะ เดี๋ยวน้องจะไม่เคารพ เพราะหาไม่เจอ” น้ำเหนือละสายตาจากโนอา และกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจจำนวนคน
“น้องสี่คนล่ะ ยังไม่ออกมาเหรอ” อันดาที่ได้ยินเช่นนั้นก็กวาดสายมองเช่นเดียวกับน้ำเหนือ
“ยังเลยนะ ยังไม่มีน้องวิ่งออกมาเลย มีแต่พวกเรา”
“ถ้างั้นอีกห้านาทีถ้าน้องยังไม่ออกมา พวกเราเข้าไม่ตามหาน้องกัน เผื่อน้องจะหลง” น้ำเหนือพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อน้ำเหนือพูดจบ โนอาก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างทันควัน
“ป่าแค่นี้จะไปหลงอะไร เดี๋ยวพวกมันก็ออกมาเองแหละ กลับไปรอที่ห้องประชุมก็ได้ป่ะวะ” สิ้นเสียงโนอา น้ำเหนือกำลังพุ่งตัวเข้าไปโนอาทันที แต่ปิ่นดันยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับหันไปกระซิบกับน้ำเหนือ
“มึงไม่ต้อง เดี๋ยวกูเอง” ปิ่นหันกลับไปมองหน้าโนอา ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทางชวนหาเรื่อง
“เก็บปากไว้แดกข้าวซะนะพี่ หรือจะแดกตีนแทนข้าวก็ได้นะ ไม่ติด พร้อมเสมอ”
“งั้นก็เชิญพวกมึงยืนรอกันไปเถอะ” พูดจบก็กำลังจะเดินจากไปทันที แต่ทว่าปิ่นกลับเรียกเอาไว้เสียก่อน
“อ้อ แล้วถ้าน้องสี่คนเป็นอะไรขึ้นมา มึง เจอ กู” ปิ่นเน้นย้ำประโยคสุดท้ายทีละคำ โนอาที่ได้ยินเช่นนั้นก็หมุนตัวกลับและเดินจากไปทันที
“สะใจอีช้อยยิ่งนัก ทำดีทำถึง” เกลปรบมือพร้อมเอ่ยชมปิ่นอย่างไม่ขาดปาก
จากนั้นคนที่เหลืออยู่ ก็ได้นั่งรอรุ่นน้องทั้งสี่คนอย่างใจจดใจจ่อ จนเวลาผ่านไปห้านาทีแล้ว ก็ยังไร้วี่แววของรุ่นน้องทั้งสี่คน อันดาจึงหันไปบอกน้ำเหนือที่นั่งรออยู่ ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลปนกับความเป็นห่วง
“เราเข้าไปตาหาน้องกันมั้ยเหนือ”
“งั้นเอางี้นะ โทรกลุ่มไว้ ถ้าห้าทุ่มยังหาไม่เจอให้กลับมาเจอกันที่นี่ก่อน โอเคมั้ย” น้ำเหนือเอ่ยบอกกับทุกคน ก่อนที่จะหันไปหาสกาย
“พี่ไหวใช่มั้ย” สกายเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ ก่อนลุกขึ้นยืน
จากนั้นก็แยกย้ายไปเป็นคู่เช่นเดิม ทุกคนช่วยกันตามหารุ่นน้องทั้งสี่คนอยู่ราว ๆ สองชั่วโมงได้ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของรุ่นน้องทั้งสี่คน แต่ทุกคนก็ยังไม่ย่อท้อและตามหาน้องทั้งสี่คนต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาห้าทุ่ม น้ำเหนือที่เห็นว่าเป็นเวลาห้าทุ่มแล้วจึงได้เรียกทุกคนผ่านโทรศัพท์
“ทุกคนกลับไปเจอกันตรงที่เรานั่งรอเมื่อกี้นะ”
ไม่นานทุกคนก็กลับมาเจอกับที่เดิน และน้ำเหนือได้บอกกับทุกคนว่าค่อยมาช่วยกันตามหาตอนเช้าอีกครั้ง เพราะดึกมากแล้ว และจะได้ไปขอความช่วยเหลือจากโรงแรมด้วย
จากนั้นทุกคนก็เดินกลับมาที่โรงแรมเพื่อพักผ่อน แต่ทว่าทุกคนกลับรวมใจกันเดินตรงไปหาโนอาเสียก่อน เมื่อมาถึงน้ำเหนือปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้อของโนอาทันที สกายที่เห็นเช่นนั้นจึงได้รีบพุ่งตัวเข้ามาห้ามน้ำเหนือเอาไว้เสียก่อน ไม่เช่นนั้นโนอาคงได้นอนจมกองเลือดเป็นแน่
“ใจเย็นก่อนไอเหนือ” น้ำเหนือละสายตาจากโนอา และหันจ้องเขม็งใส่สกาย สกายจึงค่อย ๆ ปล่อยมือตัวเองออกจากแขนของน้ำเหนือ น้ำเหนือจึงหันหน้ากลับไปหาโนอา
“มันควรเป็นมึง ที่น่าจะหายตัวไปในป่านั่น” โนอาสะบัดมือของน้ำเหนือออกจากคอเสื้อตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่ได้รู้สำนึกเสียเลย
“อะไรของพวกมึง!” พูดจบ ก็ยกมือขึ้นมาจัดระเบียบคอเสื้อตัวเอง
“มึงรู้มั้ย ว่าตอนนี้พวกกูยังหาน้องไม่เจอ” สกายตอบกลับแทนน้ำเหนือด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ช่างตรงข้ามกับภายในใจที่ตอนนี้พร้อมจะพุ่งตัวเข้าไปต่อยหน้าโนอาให้รู้แล้วรู้รอด
“แล้วไงวะ เดี๋ยวตอนเช้าพวกแม่งก็ออกมาเองแหละ พวกมึงจะตื่นเต้นไปทำไมก่อน” โนอาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาทพร้อมกับนั่งเล่นโทรศัพท์ต่ออย่างหน้าตาเฉย ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ ก่อนที่จะละสายตาจากโทรศัพท์ และหันมาพูดเหน็บแนมใส่สกาย
“เอ้อ แล้วอีกอย่าง ครั้งที่แล้วมึงยังตามด่าไอเด็กสองคนนั้นอยู่เลย ไหงตอนนี้เป็นห่วงพวกมันล่ะ” โนอาละสายตาจากโทรศัพท์ และหันมาพูดเหน็บแนมใส่สกาย
“กูยังมีความเป็นคนอยู่เว้ยโนอา กูไม่ได้ห่วงภาพลักษณ์ หรือกลัวว่ารุ่นน้องจะเคารพหรือไม่เคารพ อีกอย่างนะ กูไม่ได้เห็นแก่ตัวแบบมึง” หลังจากพูดจบ สกายก็เบือนหน้าหนีโนอาทันที และหันไปสบตากับน้ำเหนือก่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวังในตัวโนอา
“ไปเหอะ กูไม่อยากเห็นหน้าแม่งแล้วว่ะ เดี๋ยวจะอดไม่ได้” น้ำเหนือจึงหันไปมองหน้าตากวนประสาทของโนอา ก่อนจะหันกลับมาพยักหน้าตอบรับสกาย
จากนั้นทุกคนก็เดินออกมาทันที และแยกย้ายกันกลับห้องพักของตัวเองเพื่อเก็บแรงเอาไว้ตามหารุ่นน้องทั้งสี่คนที่หายไปตั้งแต่เช้าตรู่ ทว่าตลอดทั้งคืนสกายเอาแต่คิดถึงเรื่องการกระทำของโนอาที่เปลี่ยนไปมากเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองมากแค่ไหน แต่ก็คงไม่ถึงกับปล่อยให้รุ่นน้องหายไปเช่นนี้ได้ แต่ต่อให้คิดเป็นร้อยเป็นพันครั้ง สกายก็คิดไม่ออกจนผล็อยหลับไป
เช้าตรู่น้ำเหนือและอันดาที่ตื่นก่อนคนอื่น ๆ และได้ติดต่อขอให้พนักงานของโรงแรมนั้นช่วยตามหารุ่นน้องทั้งสี่คน ซึ่งในตอนแรกที่พนักงานทราบเรื่องว่าคนหายตัวไป ก็ได้โทรแจ้งความคนหายกับสถานีตำรวจ แต่ทว่าตำรวจกลับไม่รับเรื่องด้วยเหตุผลที่ว่ายังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงนั้นเอง
พนักงานของโรงแรมจึงได้ตกลงที่จะช่วยตามหารุ่นน้องสี่คน เพราะว่าถ้ารอให้ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อน แล้วตำรวจถึงจะมาช่วย รุ่นน้องทั้งสี่คนคงจะหมดลมหายใจไปเสียก่อน