เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๑๐
ทุกคนได้ออกไปช่วยกันตามหารุ่นน้องทั้งสี่คน เว้นก็แต่เพียงโนอาที่ยังนอนหลับอย่างสบายใจอยู่คนเดียวที่ห้องพัก ผ่านไปราว ๆ สองชั่วโมงก็เสียงตะโกนดังลั่นอยู่ภายในป่า ว่ามีคนเจอตัวทั้งสี่คนแล้ว น้ำเหนือและอันดาจึงรีบวิ่งตามเสียงตะโกนนั้นไปด้วยท่าทีร้อนรนปนกับความเป็นห่วงรุ่นน้องทั้งสี่คน
ไม่นานก็วิ่งมาถึงจุดที่เจอตัวทั้งสี่คน แต่ทว่าทั้งสี่คนนอนหมดสติอยู่และตามตัวของทั้งสี่คนมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด
“พาน้องไปโรงบาลก่อนเถอะ” น้ำเหนือพูดจบ ก็ปรี่เข้าไปอุ้มร่างผืนป่าทันที
จากนั้นคนอื่น ๆ ก็เข้าไปอุ้มรุ่นน้องสามคนที่เหลือ และนำส่งโรงพยาบาลทันที โดยที่น้ำเหนือเป็นคนขับรถตู้พาทั้งสี่คนไปส่งโรงพยาบาลพร้อมกับอันดา ส่วนคนอื่น ๆ ก็รออยู่โรงแรม
หลังจากรถตู้ของน้ำเหนือออกไปพ้นรั้วของโรงแรม ปิ่นก็เอ่ยบอกกับทุกคนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความโมโหสุดขีด
“ไอโนอาอยู่ที่ห้องใช่มั้ย” สกายพยักหน้าตอบรับคำถามปิ่น
“งั้นเดี๋ยวกูมานะพี่กาย” จากนั้นปิ่นก็ปลีกตัวออกมาจากกลุ่มคนที่ยืนคุยกันอยู่ และตรงไปที่ห้องโนอาทันที หลังจากปิ่นเดินออกไป สกายได้แต่งุนงงว่าปิ่นถามหาโนอาทำไม แต่จู่ ๆ ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
“ฉิบหายแล้วไง ไอโนอาตายแน่” สกายรีบเร่งฝีเท้าตามปิ่นไป
แต่แล้วก็สกายก็มาช้าไปเพียงหนึ่งก้าว ภาพที่สกายเห็นหลังจากเปิดประตูห้องโนอาเข้ามา ก็เห็นโนอานั้นนอนกองอยู่ที่พื้นพร้อมกับมีเลือดออกที่ปากหรือเรียกง่าย ๆ ว่าเลือดกบปากนั่นเอง และมือของปิ่นยังคงจับไปที่คอเสื้อของโนอาอยู่ด้วย
“เชี่ย อะไรวะเนี่ย กูว่ากูมาเร็วแล้วนะ ทำไมยังช้าอยู่วะ” สกายเอ่ยพูด พลางส่ายหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็นตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าสบตากับปิ่น
“ใจเย็นนะปิ่น พี่ว่าเราไปหาไอเหนือกับอันดาที่โรงบาลดีกว่า” สิ้นเสียง ปิ่นค่อย ๆ ปล่อยมือจากคอเสื้อโนอาและเดินออกไปทันที สกายเลยหันหน้าไปหาโนอา
“เดี๋ยวกูบอกไอรามกับไอจอมมาเอายามาให้แล้วกัน” สกายพูดด้วยน้ำเสียงราบ ๆ พร้อมกับสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ก่อนจะเดินตามหลังปิ่นออกไป
“ปิ่นรอพี่ด้วยสิ”
“รีบเดินสิ ช้าอยู่ได้”
“หยุด! เดี๋ยวก่อนเลย รู้...ว่าโมโหไอโนอา แต่จะมาลงที่พี่ไม่ได้นะ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย” สกายเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงงอแงน้อยใจราวกับเด็กน้อย
“อือ ขอโทษ ๆ จะไปได้ยัง” สกายจึงรีบพยักหน้าตอบและวิ่งแจ้นไปยังรถที่โรงเตรียมไว้ให้ทันที เมื่อปิ่นเดินมาถึงรถ สกายที่ยืนรออยู่แล้วก็เอื้อมมือไปเปิดประตูรถพร้อมกับทำท่าผายมือเชิญปิ่นขึ้นรถ ก่อนจะพูดอย่างสุภาพนอบน้อม
“เชิญครับ” ปิ่นเดินขึ้นไปนั่งอย่างงงงัน จากนั้นสกายก็ปิดประตู และเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ เมื่อสกายปิดประตู ปิ่นจึงได้พูดขึ้นพร้อมกับหันไม่มองหน้าชายหนุ่มที่กำลังคาดเข็มขัดอยู่
“แปลก ๆ นะพี่กาย มึงเป็นไรหรือเปล่าเนี่ย ผีเข้าเหรอ”
สกายไม่ได้เอื้อนเอ่ยวาจาใดตอบกลับปิ่น เพียงแต่อมยิ้มพร้อมกับกดสตาร์ทรถ และขับออกจากลานจอดรถไปช้า ๆ ทว่าความคิดของสกายได้เปลี่ยนไปตั้งแต่โดนผีนางรำบีบคอเมื่อคราวที่แล้ว จากสกายที่ไม่สนใจใคร ไม่คิดจะจริงจังกับใคร เปลี่ยนผู้หญิงไปวัน ๆ อย่างไม่ซ้ำหน้า แต่หลังจากที่รอดจากความตาย สกายเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว เปลี่ยนเป็นคนเห็นใจคนอื่น ไม่ปากร้าย ไม่ข่มคนอื่น และที่สำคัญคือสกายรู้ใจตัวเองแล้ว ว่าจริง ๆ ชอบใครกันแน่
ไม่นานสกายและปิ่นก็มาถึงโรงพยาบาลที่น้ำเหนือและอันดาพาน้องทั้งสี่คนมาส่ง เมื่อเดินเข้ามาในโรงพยาบาลก็เจอทั้งสองคนนั่งรออยู่ที่ห้องฉุกเฉิน สกายเลบเดินเข้าไปถามน้ำเหนือพร้อมมองไปที่ประตูห้องฉุกเฉิน
“เป็นไงบ้างวะเหนือ”
“นายกับมีนาหัวใจหยุดเต้นไปแป๊บนึงว่ะพี่”
“น้องต้องไม่เป็นไรเว้ยเหนือ อย่าเพิ่งคิดมาก” สกายตบไปที่ไหล่น้ำเหนือเบา ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ
น้ำเหนือในตอนนี้เอาแต่จดจ้องไปที่ประตูห้องฉุกเฉินพร้อมกับมีสีหน้าเป็นกังวล ส่วนอันดา ปิ่น และสกายก็ไม่ต่างกัน ทั้งสี่คนเอาแต่จ้องมองอยู่เช่นนั้น ไม่นานประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกพร้อมกับพยาบาลเข็นเตียงที่มีผ้าขาวคลุมอยู่ออกมา น้ำเหนือลุกพรวดพราดวิ่งตรงดิ่งเข้าไปที่เตียงนั้นทันที และค่อย ๆ เปิดผ้าขาวออก จนเห็นใบหน้าของคนที่นอนไร้ลมหายใจอยู่ใต้ผ้าขาว
อันดาที่เห็นใบหน้าของคนที่นอนอยู่ก็เป็นลมล้มฟุบไปทันที ปิ่นจึงได้รีบประคองร่างของอันดากลับมานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินก่อน ส่วนน้ำเหนือยังคงจ้องมองไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียง พร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายในหัว
ทำไมถึงไม่ออกไปตามหาตั้งเมื่อคืน
ทำไมถึงยอมให้น้องเข้าไป โดยที่ไม่ห้ามอะไรเลย
แล้วพ่อแม่น้องจะว่ายังไง
จะเสียใจมากแค่ไหน
“ไม่จริงใช่มั้ยพี่ ผมไม่น่าปล่อยให้น้องมันเข้าไป ผมไม่น่าทำตามที่พี่โนอาบอกเลย” น้ำเหนือพูดพร่ำเพ้อออกมาทั้งที่สายตายังคงจดจ้องไปยังใบหน้าของนายรุ่นน้องปีหนึ่ง
“เอ่อ ญาติช่วยหลบก่อนนะคะ”
สกายจับแขนน้ำเหนือ ก่อนจะดึงตัวให้ออกห่างจากเตียง และพาน้ำเหนือกลับไปนั่งเก้าอี้ข้างอันดา ทว่าน้ำเหนือยังคงเหม่อลอยราวกับคนไร้สติไปเสียแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ที่รุ่นพี่ทั้งสี่คนยังคงตกใจทำอะไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้า ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกมาครั้ง พร้อมกับมีพยาบาลเข็นเตียงออกมาสองเตียง น้ำเหนือที่เห็นเช่นนั้นก็ได้สติกลับมา จึงได้ลุกเดินตรงเข้าไปที่สองเตียงนั้นทันที ก็พบว่าทั้งสองคนพ้นขีดอันตรายแล้ว และกำลังจะส่งตัวไปที่ห้องพักฟื้น น้ำเหนือที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นพยาบาลก็เข็นเตียงของน้องทั้งสองคนไปยังห้องพักฟื้น น้ำเหนือก็ได้แต่มองตามเตียงของทั้งสองคนไปจนลับสายตา จึงได้หันกลับมาบอกอันดา
“จันจ้าวกับผืนป่าปลอดภัยแล้วนะอันดา แต่...” น้ำเหนือชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ
“แต่มีนา...ยังไม่ออกมาเลย”
ขณะที่ทั้งสี่คนยังคงนั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมกับภาวนาขอให้มีนารอดปลอดเหมือนกับจันจ้าวและผืนป่า ทางด้านของโนอา จากที่โดนปิ่นต่อยหน้าไป ก็ได้สงสัยว่าตนนั้นทำอะไรผิด ทำไม่ปิ่นถึงได้โมโหจนมาทำร้ายตนเองเช่นนี้
ขณะที่กำลังนั่งงุนงงอยู่ รามกับจอมก็เข้ามาพอดี เห็นโนอานั่งพังกำแพงพร้อมกับมีเลือดออกที่ริมฝีปาก รามที่เดินเข้ามาก่อนและเห็นสภาพของโนอา ก็หน้าตาตื่นตกใจรีบเดินตรงเข้าไปถามไถ่โนอาทันที
“เฮ้ย ใครทำไรมึงวะ”
“อีปิ่นไง อยู่ ๆ แม่งเข้ามาต่อยกูเฉย กูยังไม่ได้ทำไรผิดเลย” รามกับจอมมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก
“คือ...ว่า...คือเอ่อ...คือ”
“คืออะไรของมึงหนักหนาวะไอ้ราม ชาตินี้กูจะรู้เรื่องมั้ย”
“คือว่าเจอน้องสี่คนที่หายไปแล้ว” ราวตอบด้วยสีหน้าที่ยังเป็นกังวล
“เห็นมั้ยกูบอกแล้วว่าเดี๋ยวพวกแม่งก็ออกมาเองแหละ แล้วมึงจะทำหน้าอย่างงี้ทำไม” รามและจอมมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่จอมเป็นคนตอบกลับคำถามของโนอา
“น้องไม่ได้ออกมาเองเว้ยไอโนอา ตอนนี้น้องอยู่โรงบาล ไม่รู้เป็นไงบ้าง กูว่ามึงควรไปดูหน่อยนะโนอา” โนอาอ้าปากค้าง และนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะได้สติกลับมาและถามจอมต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“แล้ว...ตอนนี้อยู่โรงบาลไหน”
“โรงพยาบาล xxx ตอนนี้พวกไอเหนือกับไอกายอยู่ที่นั่น มึงจะไปมั้ย พวกกูกำลังจะออกไปพอดี” โนอาพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด จากนั้นสามคนก็ไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อมาถึงลานจอดรถ ก็เจอน้ำเหนือและอันดาที่ลงมาเอาของที่รถพอดี รามจึงได้ตะโกนเรียกพร้อมกับโบกมือให้น้ำเหนือ
“เฮ้ย ไอเหนือ” น้ำเหนือถอยหลังออกจากรถตู้ และมองไปรอบ ๆ ตามเสียงเรียกของใครบางคน ก็เจอรามยืนโบกมืออยู่ แต่เมื่อมองผ่านไปทางด้านหลังของราม ก็เห็นโนอากำลังเปิดประตูรถลงมาพอดี
เพล้ง!!
น้ำเหนือทิ้งของในมือ และเดินปรี่เข้าไปหาโนอาทันที พร้อมกับคว้าคอเสื้อโนอาลากมาที่หลังรถ ก่อนจะต่อยไปที่หน้าของโนอาสองถึงสามที จนโนอานั้นร่วงลงไปกองที่พื้น น้ำเหนือจึงก้มลงไปพูดกับโนอาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“คนเหี้ย ๆ แบบมึงแม่งไม่สมควรเกิดมาหรอก คนที่ตายมันควรจะเป็นมึงด้วยซ้ำ” โนอาตาเบิกโพลงก่อนจะเอ่ยถาม
“ใครตาย มีใครตาย”
“นายไง นายมันตายแล้ว เพราะมึง เพราะมึงคนเดียว” น้ำเหนือกำลังจะพุ่งตัวเข้าไปต่อยโนอาอีกครั้ง แต่อันดาได้เข้ามาห้ามเอาไว้เสียก่อน
“เหนือพอ พอแล้ว” น้ำเหนือถอยกลับมา พร้อมกับมีท่าทีที่อ่อนลงจากเมื่อสักครู่เล็กน้อย
“มึงจำเอาไว้ ว่าที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้...ก็เพราะมึงคนเดียว ไอ้โนอา” โนอาไม่เพียงแต่ไม่สนใจคำพูดของน้ำเหนือ แต่กลับเหม่อลอยอย่างคนไร้สติ เอาแต่พูดพร่ำเพ้อวกไปวนมา ว่า
“น้องกู น้องกูอยู่ไหน น้องกู น้องกู น้องกูอยู่ไหน” น้ำเหนือและอันต่างก็หันมองหน้ากัน ก่อนจะมองไปที่รามและจอมที่ตอนนี้ก็มองโนอาอยู่เช่นเดียวกัน
“น้องอะไร น้องใคร” น้ำเหนือตะคอกถามโนอา โนอาจึงค่อยคลานเข่ามาหาน้ำเหนือ พร้อมกับกอดขาน้ำเหนือเอาไว้ ก่อนจะพูดพร่ำเพ้อออกมาอีกครั้ง
“พากูไปหาน้องหน่อย กูจะไปหาน้องกู” น้ำเหนือสะบัดโนอาออก และคว้าแขนอันดาเดินจากไปทันที ปล่อยให้โนอานั่งพูดพร่ำเพ้ออยู่ตรงนั้น
ไม่กี่วินาทีต่อมา รามและจอมก็พยุงร่างของโนอาขึ้น และเดินตามน้ำเหนือเข้าไปภายในโรงพยาบาลทันที สกายที่เห็นโนอาเดินเข้ามา ก็มีอาการตกใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปถามอันดา
“อันดา เมื่อกี้ได้เจอโนอาที่ลานจอดรถมั้ย” อันดาพยักหน้าตอบรับ สกายจึงได้เอ่ยถามต่อ
“แล้วเมื่อกี้...ไอเหนือได้พูดอะไรกับมันมั้ย” อันดาพยักตอบอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยพูดสิ่งที่ทำให้สกายต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เหนือบอกว่านายตายแล้ว และพี่โนอาก็พูดอะไรแปลกน่ะค่ะ พี่สกายมีอะไรหรือเปล่าคะ” อันเลิกคิ้วขึ้นเชิงสงสัย
สกายยังคงไม่ได้เอ่ยตอบอะไรอันดาออกไป แต่กลับหมุนตัวหันไปมองโนอาที่กำลังเดินเข้ามาอย่างเหม่อลอยไร้สติพร้อมกับเรียกหาใครบางคนราวกับคนบ้าเสียอย่างไรอย่างนั้น
โนอาเดินเหม่อลอยเข้ามาจนถึงจุดที่สกายนั่งอยู่ ก็ได้ตรงเข้าไปถามสกายทันทีด้วยท่าทางคล้ายกับสูญเสียคนที่รักไป
“น้องกูล่ะกาย น้องกูล่ะไอกาย น้องกูอยู่ไหน” สิ้นประโยคสุดท้าย โนอาก็ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้นตรงหน้าสกายพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจตาย