เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๑๕
เวลาล่วงเลยไปจนเกือบจะห้าโมงเย็น ทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ห้องพักของน้ำเหนือ จู่ ๆ โนอาก็เปิดประตูเข้ามา ทุกคนจึงได้หันไปมองโนอาเป็นตาเดียวกัน เพราะโนอานั้นเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า โนอาหันหลังกลับไปปิดประตู ก่อนจะหมุนตัวกลับมามองหน้าทุกคนที่นั่งอยู่ พร้อมกับเอ่ยพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ขอ...อยู่ด้วยได้มั้ย” ทุกคนมองหน้าอย่างเลิ่กลั่ก ใจหนึ่งก็กลัวว่าผีนางรำจะตามโนอามา อีกใจก็กลัวว่าโนอาจะเกิดอันตราย ทว่าเกลได้หันไปตอบโนอาโดยที่ไม่ปรึกษาคนอื่น ๆ
“ได้ดิ” จากที่ทุกคนมองโนอา ตอนนี้ต้องหันไปโฟกัสเกลที่เพิ่งเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสดใสราวกับว่าสถานการณ์นั้นปกติดี แต่โนอาเห็นว่าทุกคนดูจะไม่ต้อนรับการมาของเขาเสียเท่าไร จึงคิดว่าจะกลับไปนอนที่ห้องเดิมดีกว่าที่ต้องมาทนสายตาของแต่ละคน
“ไม่เป็นไรดีกว่า เดี๋ยวกลับไปนอนห้องเดิมแหละ” โนอากำลังจะหมุนตัวเดินไปเปิดประตู แต่ก็ถูกน้ำเหนือเรียกเอาไว้เสียก่อน
“นอนด้วยกันนี่แหละ ไหน ๆ ก็ลงเรือรำเดียวกันแล้ว ไม่ปล่อยให้ใครตายอีกหรอก ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น” โนอาหลุดยิ้มออกมาด้วยดีใจ ถึงแม้ในใจอยากจะกระโดดเข้าไปกอดน้ำเหนือมากเสียเท่าไร แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ โนอาจึงเดินเอากระเป๋าไปเก็บ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งร่วมวงกับคนอื่น ๆ ไม่นานโนอาก็พูดเปิดประเด็นขึ้นมากลางวงสนทนา
“กูพร้อมจะเล่าเรื่องวันนั้นแล้วนะ” ทุกคนที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเฮฮา ก็นิ่งเงียบพร้อมกับจ้องมองไปยังโนอาด้วยสีหน้าจริงจัง โนอามองหน้าเพื่อนจนครบทุกคน และเอ่ยพูดว่า
“กูเล่าเลยนะ”
“เอาเรื่องจริงทั้งหมดนะ ไม่ใช่แต่งขึ้นมา” น้ำเหนือกำชับโนอาก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด
“เออรู้แล้ว” สกายที่นั่งฟังทั้งสองคนคุยกันก็เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น
“เลิกถาม เลิกพูดไอเหนือ มันจะได้เล่าสักที กูรอฟังอยู่ครับ”
“ก็คือ...วันนั้นหลังจากที่ไอกายชวนทุกคนกลับขึ้นบ้านไปแล้ว...”
หลังจากที่สกายชวนทุกคนกลับขึ้นบ้าน เพราะไม่เห็นว่าที่ศาลไม้จะมีอะไร เป็นเพียงศาลไม้เก่า ๆ หลังหนึ่ง แต่เมื่อสกายและคนอื่นเดินขึ้นบ้านไปแล้ว รามกับจอมได้พูดเชิงเหน็บแนมใส่โนอา ว่าโนอานั้นหาแต่เรื่องไร้สาระมาให้สกาย พร้อมกับบอกว่าโนอางมงายเกินไป โนอาที่โมโหและกลัวจะเสียฟอร์มจึงได้เผลอพูดออกมาว่า จะพารามและจอมกลับมาที่ศาลไม้อีกครั้งตอนที่ลงมาอาบน้ำ จากนั้นทั้งสามก็เดินตามคนอื่นกลับขึ้นบ้านไปและทำตัวปกติ จนถึงเวลาที่ต้องลงมาอาบน้ำ โนอาเดินไปบอกรามและจอม แต่ทว่ามีรุ่นน้องสองนั่งอยู่ใกล้ ๆ จึงได้ยินสิ่งที่ทั้งสามคนคุยกัน เลยขอร่วมด้วย เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ทั้งห้าคนก็อาศัยช่วงเวลาที่คนอื่นกำลังเข้าไปจัดที่หลับที่นอนเพื่อเดินลงมาข้างล่าง และตรงดิ่งไปยืนอยู่ที่หน้าศาลไม้หลังบ้านทันที จู่ ๆ โนอาก็พูดโพล่งขึ้นมา ทำเอาทั้งสี่คนนั้นตกใจไปตาม ๆ กัน “ถ้าแน่จริงก็ออกมาให้เห็นหน่อยนะครับ พวกผมทุกคนอยากเจอ” เมื่อโนอาพูดจบกำลังจะหมุนตัวกลับมามองทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แต่แล้วในตอนที่โนอาหมุนตัวกลับมา โนอาดันไปถูกศาลโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ศาลไม้หักพังร่วงไปกองอยู่ที่พื้นดิน ทันทีที่ศาลร่วงสู่พื้นดิน บรรยากาศรอบข้างเริ่มแปรเปลี่ยน จากที่มีลมพัดเบา ๆ เย็นสบาย กลับกลายเป็น ลมพัดแรง อากาศเย็นยะเยือก โนอารีบยกมือไหว้ขอโทษและยกศาลขึ้นมาตั้งไว้เช่นเดิม แต่ทว่าโนอาเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรจะพูดออกมาอีกครั้ง “ผมขอโทษนะครับ ไว้จะทำบุญไปให้ หรือถ้าอยากได้อะไรก็มาเข้าฝันบอกได้เลยนะครับ” จนกลางดึกคืนนั้น โนอาโดนผีนางรำหลอก และหลังจากที่โดนหลอกแล้ว โนอาได้ฝันเห็นนางรำคนหนึ่ง ยืนหันหลังให้โนอาอยู่ ไม่นานนางรำคนนั้นก็หมุนตัวหันหน้ากลับมามองที่โนอา แต่โนอามองไม่เห็นใบหน้าของนางรำคนนั้น ทว่านางรำกลับพูดอะไรบางอย่างออกมา “ชีวิต” โนอาก็สะดุ้งตื่นในตอนเช้าเพราะได้ยินเสียงของใครบางคนอยู่ที่หน้าประตู พอสกายเปิดประตูออกไปก็พบเป็นปิ่นและเกลที่ยืนอยู่หน้าประตู หลังจากนั้นโนอาก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร รวมถึงสี่คนที่ลงไปด้วยกันรอบที่สอง โนอาเล่ามาถึงตรงนี้ขอบตาเริ่มแดงคล้ายกับกำลังจะร้องไห้ออกใน
“จบแค่นี้แหละ”
“เรื่องพูดไม่คิดนี่ยกให้มึงเลยว่ะ ไอ้โนอา” สกายพูดเหน็บแนมพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้โนอา โนอาได้เพียงยิ้มแห้ง ๆ ส่งกลับไปให้สกาย
“จะเอายังไงต่อกับสิ่งที่พูดออกไป ได้คิดไว้บ้างมั้ย” น้ำเหนือถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ แต่โนอากลับส่ายหน้าตอบกลับเบา ๆ
“เฮ้อ งั้นก็คงต้องหาทางช่วยกันแก้ปัญหา เพราะพูดไปแล้วว่าทุกคนอยากเจอ” น้ำเหนือเน้นประโยคสุดท้ายพร้อมกับหันมองโนอาที่นั่งหน้าหงอยอยู่
“เอ่อ...งั้นแยกย้ายกันไปเก็บของต่อดีกว่าเนอะ” อันดาพูดขึ้น เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มตึงเครียด ก่อนจะหันไปพูดกับน้ำเหนือพร้อมกับลากแขนน้ำเหนือออกมาจากห้องนอน
“ไปเหนือ ไปเก็บของต่อ”
ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเก็บของในส่วนของตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในตอนรุ่งเช้าพรุ่งนี้ ฉะนั้นในห้องจะเหลือเพียงแค่โนอาที่นั่งอยู่คนเดียว โนอาทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังของทุกคนที่เดินออกไปอย่างทำอะไรไม่ได้
ผ่านไปสักพักสกายก็เดินกลับเข้ามา และหย่อนก้นนั่งลงข้าง ๆ โนอา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เมื่อฟังดูแล้วนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและความสงสาร
“พวกกูไม่ปล่อยให้มึงตายอีกคนหรอก ไม่ต้องคิดมากนะเว้ย” พร้อมกับตบไปที่ไหล่โนอาเบา ๆ อย่างรู้ใจ
“ขอบคุณนะมึง ที่ถึงแม้ว่ากูจะทำเหี้ยแค่ไหน มึงก็ยังอยู่ข้าง ๆ กูสัญญานะเว้ยว่าต่อไปนี้ กูจะคิดให้ดีก่อนที่จะพูด หรือทำอะไร” สิ้นคำพูด โนอาปล่อยโฮออกมาและโผล่เข้ากอดสกาย สกายจึงทำได้ลูบหลังปลอบโนอาเบา ๆ
จากนั้นเวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาราว ๆ ประมาณตีห้ากว่า ๆ ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน และได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวที่จะไปรอรถตู้หน้าโรงแรม ไม่นานทุกคนก็ยกกระเป๋าออกมารอที่หน้าห้องเพื่อจะเดินออกไปที่หน้าโรงแรมพร้อมกัน
ทุกคนเดินออกมารอสกายอยู่ที่หน้าโรงแรม เนื่องจากสกายต้องไปทำเรื่องเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเสียก่อน ไม่นานสกายก็เดินมาตรงจุดที่ทุกคนยืนรอรถตู้อยู่ ผ่านไปห้านาทีรถตู้ก็ขับเข้ามาจอดตรงหน้าทั้งสิบคน