เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๒๐
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่โมงครึ่ง ทุกคนได้กลับมาเจอกันที่บ้านลุงกับป้า เมื่อจับเข่าคุยกันก็ได้ความว่าชาวบ้านหลายคนเหมือนจะรู้เรื่องราวของดาหลาดี แต่ก็ไม่มีใครอยากพูดถึงเสียเท่าไร เนื่องจากว่าเคยมีคนพูดถึงดาหลาแล้ว ก็ต้องถูกดาหลาตามหลอกหลอนอยู่หลายวันหลายคืน และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องราวของดาหลาอีกเลย น้ำเหนือกลัวว่าเพื่อน ๆ จะเครียดและกังวลที่วันนี้ไม่อะไรเพิ่มเติมเลย จึงได้พูดปลอบใจเพื่อน ๆ
“ไม่เป็นไรนะ พรุ่งนี้เราค่อยเริ่มกันใหม่ ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ” ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำที่น้ำเหนือบอก เหลือก็เพียงแค่อันดาและตัวของน้ำเหนือเองที่ยังไม่ได้ไปอาบน้ำ เพราะยังคงนั่งคุยกันถึงเรื่องราวของดาหลาอยู่ ว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ในทางไหนบ้าง ดาหลายังมีชีวิตอยู่ และถ้าดาหลาเสียชีวิตไปแล้ว ใครกันเป็นฆ่าดาหลา แต่แล้วขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ ป้าก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยความรู้สึกผิด
“ป้าขอโทษนะลูก ที่หลอกให้พวกหนูเข้าไปในบ้านหลังนั้น ทั้งที่รู้ดีว่าพวกหนูต้องเจอกับอะไร”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะป้า หนูเข้าใจค่ะ ป้าไม่ต้องคิดมากเลยนะคะ” ขณะที่อันดากำลังคุยกับป้าอยู่ จู่ ๆ น้ำเหนือที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เหมือนเพิ่งจะฉุกคิดขึ้นได้ว่ายังไม่รู้ชื่อของลุงกับป้าเลย จึงได้ถามแทรกออกไป
“เอ่อขอโทษนะครับ...ลุงกับป้าชื่ออะไรเหรอครับ ผมลืมถามเลย”
“ป้าชื่อสายใจจ้ะ ส่วนลุงชื่อสมคิด”
ทั้งสองคนนั่งคุยกับป้าสายและลุงคิดอยู่สักพักใหญ่ เมื่อมองดูเวลาก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ทั้งสองคนจึงได้ขอตัวไปอาบน้ำเสียก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้ เมื่อเดินมาถึงห้องน้ำแล้ว น้ำเหนือได้ให้อันดาเข้าไปอาบก่อน ส่วนตัวเองนั้นจะยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำ ทว่าขณะที่น้ำเหนือกำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์รออันดาอาบน้ำ ก็เกิดได้ยินเสียงของหญิงสาวแว่วมาตามลมว่า “พ่อจ๋า แม่จ๋า” ตามมาด้วยเสียงร้องไห้โหยหวนดังไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมา ต่างก็ต้องรีบวิ่งกลับบ้านอย่างตื่นกลัวขนลุกขนพอง
น้ำเหนือเองก็เช่นกัน ถึงกับต้องเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง และเดินไปเคาะประตูห้องน้ำอันดาทันที พร้อมกับเปล่งเสียงเรียกออกไปเบา ๆ อย่างสั่นเครือ ราวกับเจออะไรบางอย่างเข้า อันดาที่ได้ยินเสียงเรียกของน้ำเหนือก็ต้องรีบแต่งตัวและเปิดประตูออกมาทันที ซึ่งหน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่โล่งสามารถมองออกไปเห็นประตูรั้วหน้าบ้านได้ และทันทีที่อันดาเปิดประตูออกมาก็ตกใจอย่างสุดขีด ตาเบิกกว้างจ้องมองไปยังประตูรั้วหน้าบ้าน ก่อนจะขยับปากถามน้ำเหนือด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว แต่สายตายังคงจดจ้องไปที่รั้วหน้าบ้านอยู่
“ใช่...ใช่มั้ยเหนือ”
“ระ...เราว่า...ใช่นะอัน..ดา”
“วิ่งมั้ย”
จากนั้นทั้งสองคนก็วิ่งเข้าบ้านและล็อกประตูบ้านทันที เมื่อเข้ามาในบ้าน ทั้งสองคนได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าทั้งสองคนไม่ทันได้สังเกตว่า เพื่อนทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่หน้าทีวี รวมถึงลุงสมคิดด้วย ทั้งสองคนหันมองเพื่อน ๆ และพบว่าทุกคนก็กำลังมองมาที่ตัวเองอยู่ จึงได้หันมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ป้าสายใจที่เพิ่งยกขนมออกมาจากครัว และเห็นสีหน้าของทั้งสองคนดูแปลก จึงได้เอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ ไม่สบายเหรอ”
“ปะ...เปล่าครับป้าสาย พวกเราไม่ได้เป็นอะไรครับ” จู่ ๆ ลุงสมคิมก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พร้อมกับหยิบขนมเข้าปาก และสายตายังคงจดจ่อไปที่ทีวี
“เจอดาหลาล่ะสิ” ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนจะกลืนน้ำลายด้วยความกลัว ป้าสายใจหันไปมองหน้าผู้เป็นสามีครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน และกวาดสายตามองสำรวจไปทั่วบริเวณหน้าบ้าน แต่ก็ไม่พบอะไร จึงได้ปิดประตูบ้าน และเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ลุงสมคิดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง น้ำเหนือและอันดาก็เดินไปนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนคนอื่น เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะอ้าปากบอกกับทุกคนว่าเจอสิ่งใดมา
“ใช่ครับ ผมเจอพี่ดาหลา” ป้าสายใจรีบเงยหน้าขึ้นมองน้ำเหนือทันที
“ดาหลามาที่นี่เหรอ แล้วตอนนี้เขาไปหรือยังจ๊ะ”
“ไปแล้วครับ แต่ผมได้ยินพี่ดาหลาเขาพูด...”
“พูดว่าอะไรเหรอจ๊ะ” ป้าสายใจถามด้วยสีหน้าแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“พ่อจ๋า แม่จ๋า และพี่ดาหลาก็ร้องไห้ออกมาครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรต่อมั้ย เพราะผมกับอันดาวิ่งเข้าบ้านมาก่อนครับ” หยาดน้ำใสค่อย ๆ รินไหลออกมาจากดวงตาของผู้เป็นแม่ที่เฝ้ารอลูกสาวอยู่ตลอดหลายปี แต่ก็ไม่เคยเจอหรือเห็นลูกสาวเหมือนกับคนอื่น ๆ จากนั้นก็เดินเหม่อลอยขึ้นชั้นสองของบ้านไป ไม่นานผู้เป็นสามีก็เดินตามขึ้นไป สกายก็พูดขึ้นทันทีที่ทั้งสองคนเดินขึ้นบ้านไป
“มึงเห็นจริงเหรอไอเหนือ”
“จริงดิพี่ จะหลอกทำไม ไม่งั้นผมกับอันดาไม่วิ่งเข้ามาหรอก อันดาก็เห็น” สกายละสายตาน้ำเหนือ และหันไปถามอันดาเพื่อความแน่ใจ
“น้องอันดาเห็นจริง ๆ เหรอครับ” สกายเท้าคางมองหน้าอันดาพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับ น้ำเหนือที่เห็นแววตาของสกายก็ต้องรีบลุกขึ้นและเดินเข้ามาบังอันดาไว้ทันที
“น้อย ๆ หน่อยแฟนผมครับ”
“ค้าบ ไอคุณเหนือ กูแกล้งเล่นไปเล่นแหละ กูมีคนที่ชอบแล้ว” สกายพูดพร้อมสายตาที่เหลือบมองไปทางปิ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ปิ่นได้แต่นั่งหน้าแดงเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูดเสียงแข็งเพื่อกลบความเขินอายของตัวเอง
“อะไร มองอะไรกัน” ทุกคนหลุดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูปิ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง สกายละสายตาจากปิ่น และหันไปหาน้ำเหนือและอันดา
“กูอยากช่วยลุงกับป้า กูว่านะจริง ๆ แล้วพี่ดาหลาเขาไม่ได้โหดร้ายอะไรเลยนะเว้ย เขาคงแค่อยากกลับมาหาพ่อแม่เขา...พวกมึงคิดว่าไง” โนอาที่นั่งหลบมุมสังเกตการณ์อยู่ ก็ได้พูดแทรกขึ้นมา
“เอาสิ กูอยากจะไถ่โทษที่ตัวเองเคยทำกับเขาไว้ด้วย” ทุกคนหันไปมองโนอาเป็นตาเดียวกัน ต่อมาน้ำเหนือก็ได้อ้าปากถามเพื่อความมั่นใจ
“แน่ใจเหรอ ว่าจะช่วยเขาด้วยใจจริง ไม่ใช่แค่อยากจะเอาตัวรอดเฉย ๆ น่ะ”
“เออดิ กูได้ยินที่มึงกับอันดาคุยกับท่านทั้งสองคนเมื่อเย็น แล้วกูสงสารลุงกับป้า กูอยากช่วยจริง ๆ นะ”
“อือ โอเค ทุกคนว่าไง” ทุกคนพยักหน้าตอบรับโดยพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นทุกคนก็นั่งคุยสัพเพเหระกันไปจนถึงเวลาเข้านอน ทุกคนก็แยกย้ายไปกันนอน เนื่องจากมีห้องนอนสองห้องเลยแยกชายหญิงคนละห้อง เวลาล่วงเลยไปราว ๆ ตีสาม อันดาได้ฝันเห็นดาหลา แต่ในฝันดาหลามาแบบคนปกติ และได้ร้องไห้ ขอร้องให้อันดาช่วยเธอ อันดาจึงได้ถามไปว่าอยากให้ช่วยอย่างไร หลังคำถามของอันดาถูกส่งออกไป ดาหลาก็หายไปเหลือเพียงแค่ความมืดและความว่างเปล่า อันดาจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเช้าแล้ว และเพื่อน ๆ คนอื่นก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว อันจึงลุกขึ้นและเดินออกไปนอกห้อง ก็เจอเพื่อน ๆ กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ อันดาเลยกลับเข้าไปห้องเตรียมชุดเพื่อไปอาบน้ำ
ไม่นานอันดาก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ และได้เดินมานั่งข้าง ๆ น้ำเหนือที่โต๊ะอาหาร ขณะที่อันดากำลังจะตักข้าวเข้าปาก สกายก็หันไปมองหน้าน้ำเหนือ ก่อนจะพูดโพล่งขึ้นมากลางวงข้าว
“จะเริ่มยังไง”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะพี่”
“งั้นเอางี้มั้ย เราไปถามชาวบ้านคนอื่น เกี่ยวกับบ้านหลังนั้นกันก่อน แล้วค่อยมาว่ากันต่ออีกที”
“เอองั้นเอาตามที่พี่ว่าเลยก็ได้”
กว่าทุกคนจะทานข้าวและเตรียมตัวเสร็จก็เกือบจะเก้าโมงเสียแล้ว จึงได้ตกลงกันว่าจะแยกกันไปเช่นเดิม ส่วนคู่ไหนที่ได้เรื่องแล้วก็กลับมารอที่บ้านได้เลย เมื่อนัดแนะเวลากันเรียบร้อย ก็แยกกันไปตามเดิม
หลังจากที่แยกย้ายกันไป เวลาก็ล่วงไปจนฟ้าเกือบจะมืด ทุกคนก็ได้กลับมาเจอกันที่บ้านอย่างพร้อมเพรียงราวกับว่านัดกันไว้ว่าจะกลับเวลาไหน สกายตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าทุกคนนั้นกลับมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย จึงเลือกที่จะไปเปิดประตูรั้ว และเดินนำคนอื่น ๆ เข้าไปก่อน จากนั้นก็เดินไปนั่งพักที่โซฟาหน้าทีวี ทุกคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ก็ตรงเข้าไปนั่งกับสกายทันทีด้วยความเหนื่อยล้า ขณะที่ทุกคนกำลังหย่อนก้นลง สกายก็พูดบ่นลอย ๆ ออกมาคนเดียว
“เฮ้อ...เหนื่อยจังโว้ยยยย” ทว่าลุงสมคิดกับป้าสายตาก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี ทำให้ได้ยินเสียงของสกายตะโกนพร่ำบ่น
“ถ้าเหนื่อยก็หยุดทำแบบนี้เถอะหนุ่มเอ๊ย ลุงไม่ทำใจได้นานแล้ว” สกายรีบนั่งตัวตรงทันที ก่อนจะตอบกลับลุงสมคิด
“ลุงรู้ด้วยเหรอครับ...ว่าพวกผมกำลังทำอะไรกันอยู่”
“รู้สิ ข้าได้ยินหมดแล้ว วันที่พวกเอ็งคุยกันน่ะ” ขณะที่สกายกำลังคุยกับลุงสมคิดอยู่ โนอาก็ได้พูดโพล่งขึ้นมา ทำเอาทุกอย่างนั้นเงียบสงัด และทุกคนหันมองหน้าโนอาเป็นตาเดียวกัน
“หยุดไม่ได้หรอกครับ พวกผมอยากช่วยจริง ๆ อย่างน้อยขอให้พวกผมตามหาร่างของพี่ดาหลาก็ได้ครับ” ป้าสายเดินตริงดิ่งไปโนอาทันทีที่โนอาพูดจบ พร้อมกับจับมือของโนอาขึ้นมา ก่อนจะกล่าวคำขอบคุณ
“ขอบคุณพวกเราทุกคนมาก ๆ เลยนะจ๊ะที่คิดจะช่วยลุงกับป้าตามหาดาหลาอีกแรง” ทุกคนส่งยิ้มตอบกลับป้าสายใจด้วยความจริงใจ ลุงสมคิดผู้เป็นสามีก็ได้พูดขึ้นอีกครั้ง
“แล้วได้เรื่องว่ายังไงกันบ้างล่ะ” น้ำเหนือละสายตาป้าสายใจกับโนอา และหันไปตอบคำถามของลุงสมคิด
“ไม่ค่อยได้อะเท่าไรเลยครับ ส่วนมากชาวบ้านเขาดูจะกลัว ๆ กันอยู่น่ะครับ”
“ไม่แปลกหรอก ช่วงแรกที่คณะนางรำปิดตัวไป ดาหลาออกมาหลอกหลอนชาวบ้านทุกคนอยู่ตลอด แต่ลุงกับป้าน่ะ ไม่เคยเจอหรอกนะ ป้าแกถึงไม่เชื่อไงว่าดาหลาจะตายไปแล้ว”
“เอ่อ...ลุงครับ ผมได้ยินชาวบ้านเขาพูดกันว่า บ้านหลังนั้นเปลี่ยนเจ้าของมาหลายคนแล้วเหรอครับ” ลุงสมคิดเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ แต่จู่ ๆ ป้าสายใจก็เอ่ยตอบคำถามของน้ำเหนือ
“ไม่มีใครทำอะไรกับบ้านหลังนั้นได้เลยน่ะจ้ะ ไม่ว่าจะปรับปรุงซ่อมแซมหรืออะไรก็ทำไม่ได้ เพราะใครที่เข้าไปยุ่งกับบ้านหลังนั้น ต้องมีอันเป็นไปทุกคน”
“ขนาดนั้นเลยครับ” ป้าสายใจพยักหน้า ก่อนจะอ้าปากพูดต่อ
“เขาประกาศขายหลายครั้งแล้ว ลุงกับป้าเลยไปซื้อเอาไว้ จะได้ไม่มีใครเข้าไม่ยุ่งที่บ้านหลังนั้นอีก จนมาเจอพวกหนูเนี่ยแหละ ป้าขอโทษจริง ๆ นะจ๊ะ
“ไม่เป็นไรเลยครับ ส่วนหนึ่งมันก็มาจากพวกผมเองที่ไปพูดลบหลู่พี่ดาหลาก่อนด้วยครับ”
หลังจากที่คุยกับป้าสายใจและลุงสมคิดจบ ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำและพักผ่อนร่างกาย เนื่องจากวันนี้ทั้งวันทุกคนมัวแต่วิ่งเข้าบ้านนั่นออกบ้านนี้จนเกือบจะลากร่างกายกลับบ้านไม่ไหว