เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๒๐
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่โมงครึ่ง ทุกคนได้กลับมาเจอกันที่บ้านลุงกับป้า เมื่อจับเข่าคุยกันก็ได้ความว่าชาวบ้านหลายคนเหมือนจะรู้เรื่องราวของดาหลาดี แต่ก็ไม่มีใครอยากพูดถึงเสียเท่าไร เนื่องจากว่าเคยมีคนพูดถึงดาหลาแล้ว ก็ต้องถูกดาหลาตามหลอกหลอนอยู่หลายวันหลายคืน และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องราวของดาหลาอีกเลย น้ำเหนือกลัวว่าเพื่อน ๆ จะเครียดและกังวลที่วันนี้ไม่อะไรเพิ่มเติมเลย จึงได้พูดปลอบใจเพื่อน ๆ
“ไม่เป็นไรนะ พรุ่งนี้เราค่อยเริ่มกันใหม่ ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ” ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำที่น้ำเหนือบอก เหลือก็เพียงแค่อันดาและตัวของน้ำเหนือเองที่ยังไม่ได้ไปอาบน้ำ เพราะยังคงนั่งคุยกันถึงเรื่องราวของดาหลาอยู่ ว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ในทางไหนบ้าง ดาหลายังมีชีวิตอยู่ และถ้าดาหลาเสียชีวิตไปแล้ว ใครกันเป็นฆ่าดาหลา แต่แล้วขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ ป้าก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยความรู้สึกผิด
“ป้าขอโทษนะลูก ที่หลอกให้พวกหนูเข้าไปในบ้านหลังนั้น ทั้งที่รู้ดีว่าพวกหนูต้องเจอกับอะไร”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะป้า หนูเข้าใจค่ะ ป้าไม่ต้องคิดมากเลยนะคะ” ขณะที่อันดากำลังคุยกับป้าอยู่ จู่ ๆ น้ำเหนือที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เหมือนเพิ่งจะฉุกคิดขึ้นได้ว่ายังไม่รู้ชื่อของลุงกับป้าเลย จึงได้ถามแทรกออกไป
“เอ่อขอโทษนะครับ...ลุงกับป้าชื่ออะไรเหรอครับ ผมลืมถามเลย”
“ป้าชื่อสายใจจ้ะ ส่วนลุงชื่อสมคิด”
ทั้งสองคนนั่งคุยกับป้าสายและลุงคิดอยู่สักพักใหญ่ เมื่อมองดูเวลาก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ทั้งสองคนจึงได้ขอตัวไปอาบน้ำเสียก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้ เมื่อเดินมาถึงห้องน้ำแล้ว น้ำเหนือได้ให้อันดาเข้าไปอาบก่อน ส่วนตัวเองนั้นจะยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำ ทว่าขณะที่น้ำเหนือกำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์รออันดาอาบน้ำ ก็เกิดได้ยินเสียงของหญิงสาวแว่วมาตามลมว่า “พ่อจ๋า แม่จ๋า” ตามมาด้วยเสียงร้องไห้โหยหวนดังไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมา ต่างก็ต้องรีบวิ่งกลับบ้านอย่างตื่นกลัวขนลุกขนพอง
น้ำเหนือเองก็เช่นกัน ถึงกับต้องเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง และเดินไปเคาะประตูห้องน้ำอันดาทันที พร้อมกับเปล่งเสียงเรียกออกไปเบา ๆ อย่างสั่นเครือ ราวกับเจออะไรบางอย่างเข้า อันดาที่ได้ยินเสียงเรียกของน้ำเหนือก็ต้องรีบแต่งตัวและเปิดประตูออกมาทันที ซึ่งหน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่โล่งสามารถมองออกไปเห็นประตูรั้วหน้าบ้านได้ และทันทีที่อันดาเปิดประตูออกมาก็ตกใจอย่างสุดขีด ตาเบิกกว้างจ้องมองไปยังประตูรั้วหน้าบ้าน ก่อนจะขยับปากถามน้ำเหนือด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว แต่สายตายังคงจดจ้องไปที่รั้วหน้าบ้านอยู่
“ใช่...ใช่มั้ยเหนือ”
“ระ...เราว่า...ใช่นะอัน..ดา”
“วิ่งมั้ย”
จากนั้นทั้งสองคนก็วิ่งเข้าบ้านและล็อกประตูบ้านทันที เมื่อเข้ามาในบ้าน ทั้งสองคนได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าทั้งสองคนไม่ทันได้สังเกตว่า เพื่อนทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่หน้าทีวี รวมถึงลุงสมคิดด้วย ทั้งสองคนหันมองเพื่อน ๆ และพบว่าทุกคนก็กำลังมองมาที่ตัวเองอยู่ จึงได้หันมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ป้าสายใจที่เพิ่งยกขนมออกมาจากครัว และเห็นสีหน้าของทั้งสองคนดูแปลก จึงได้เอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ ไม่สบายเหรอ”
“ปะ...เปล่าครับป้าสาย พวกเราไม่ได้เป็นอะไรครับ” จู่ ๆ ลุงสมคิมก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พร้อมกับหยิบขนมเข้าปาก และสายตายังคงจดจ่อไปที่ทีวี
“เจอดาหลาล่ะสิ” ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนจะกลืนน้ำลายด้วยความกลัว ป้าสายใจหันไปมองหน้าผู้เป็นสามีครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน และกวาดสายตามองสำรวจไปทั่วบริเวณหน้าบ้าน แต่ก็ไม่พบอะไร จึงได้ปิดประตูบ้าน และเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ลุงสมคิดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง น้ำเหนือและอันดาก็เดินไปนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนคนอื่น เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะอ้าปากบอกกับทุกคนว่าเจอสิ่งใดมา
“ใช่ครับ ผมเจอพี่ดาหลา” ป้าสายใจรีบเงยหน้าขึ้นมองน้ำเหนือทันที
“ดาหลามาที่นี่เหรอ แล้วตอนนี้เขาไปหรือยังจ๊ะ”
“ไปแล้วครับ แต่ผมได้ยินพี่ดาหลาเขาพูด...”
“พูดว่าอะไรเหรอจ๊ะ” ป้าสายใจถามด้วยสีหน้าแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“พ่อจ๋า แม่จ๋า และพี่ดาหลาก็ร้องไห้ออกมาครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรต่อมั้ย เพราะผมกับอันดาวิ่งเข้าบ้านมาก่อนครับ” หยาดน้ำใสค่อย ๆ รินไหลออกมาจากดวงตาของผู้เป็นแม่ที่เฝ้ารอลูกสาวอยู่ตลอดหลายปี แต่ก็ไม่เคยเจอหรือเห็นลูกสาวเหมือนกับคนอื่น ๆ จากนั้นก็เดินเหม่อลอยขึ้นชั้นสองของบ้านไป ไม่นานผู้เป็นสามีก็เดินตามขึ้นไป สกายก็พูดขึ้นทันทีที่ทั้งสองคนเดินขึ้นบ้านไป
“มึงเห็นจริงเหรอไอเหนือ”
“จริงดิพี่ จะหลอกทำไม ไม่งั้นผมกับอันดาไม่วิ่งเข้ามาหรอก อันดาก็เห็น” สกายละสายตาน้ำเหนือ และหันไปถามอันดาเพื่อความแน่ใจ
“น้องอันดาเห็นจริง ๆ เหรอครับ” สกายเท้าคางมองหน้าอันดาพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับ น้ำเหนือที่เห็นแววตาของสกายก็ต้องรีบลุกขึ้นและเดินเข้ามาบังอันดาไว้ทันที
“น้อย ๆ หน่อยแฟนผมครับ”
“ค้าบ ไอคุณเหนือ กูแกล้งเล่นไปเล่นแหละ กูมีคนที่ชอบแล้ว” สกายพูดพร้อมสายตาที่เหลือบมองไปทางปิ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ปิ่นได้แต่นั่งหน้าแดงเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูดเสียงแข็งเพื่อกลบความเขินอายของตัวเอง
“อะไร มองอะไรกัน” ทุกคนหลุดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูปิ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง สกายละสายตาจากปิ่น และหันไปหาน้ำเหนือและอันดา
“กูอยากช่วยลุงกับป้า กูว่านะจริง ๆ แล้วพี่ดาหลาเขาไม่ได้โหดร้ายอะไรเลยนะเว้ย เขาคงแค่อยากกลับมาหาพ่อแม่เขา...พวกมึงคิดว่าไง” โนอาที่นั่งหลบมุมสังเกตการณ์อยู่ ก็ได้พูดแทรกขึ้นมา
“เอาสิ กูอยากจะไถ่โทษที่ตัวเองเคยทำกับเขาไว้ด้วย” ทุกคนหันไปมองโนอาเป็นตาเดียวกัน ต่อมาน้ำเหนือก็ได้อ้าปากถามเพื่อความมั่นใจ
“แน่ใจเหรอ ว่าจะช่วยเขาด้วยใจจริง ไม่ใช่แค่อยากจะเอาตัวรอดเฉย ๆ น่ะ”
“เออดิ กูได้ยินที่มึงกับอันดาคุยกับท่านทั้งสองคนเมื่อเย็น แล้วกูสงสารลุงกับป้า กูอยากช่วยจริง ๆ นะ”
“อือ โอเค ทุกคนว่าไง” ทุกคนพยักหน้าตอบรับโดยพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นทุกคนก็นั่งคุยสัพเพเหระกันไปจนถึงเวลาเข้านอน ทุกคนก็แยกย้ายไปกันนอน เนื่องจากมีห้องนอนสองห้องเลยแยกชายหญิงคนละห้อง เวลาล่วงเลยไปราว ๆ ตีสาม อันดาได้ฝันเห็นดาหลา แต่ในฝันดาหลามาแบบคนปกติ และได้ร้องไห้ ขอร้องให้อันดาช่วยเธอ อันดาจึงได้ถามไปว่าอยากให้ช่วยอย่างไร หลังคำถามของอันดาถูกส่งออกไป ดาหลาก็หายไปเหลือเพียงแค่ความมืดและความว่างเปล่า อันดาจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเช้าแล้ว และเพื่อน ๆ คนอื่นก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว อันจึงลุกขึ้นและเดินออกไปนอกห้อง ก็เจอเพื่อน ๆ กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ อันดาเลยกลับเข้าไปห้องเตรียมชุดเพื่อไปอาบน้ำ
ไม่นานอันดาก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ และได้เดินมานั่งข้าง ๆ น้ำเหนือที่โต๊ะอาหาร ขณะที่อันดากำลังจะตักข้าวเข้าปาก สกายก็หันไปมองหน้าน้ำเหนือ ก่อนจะพูดโพล่งขึ้นมากลางวงข้าว
“จะเริ่มยังไง”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะพี่”
“งั้นเอางี้มั้ย เราไปถามชาวบ้านคนอื่น เกี่ยวกับบ้านหลังนั้นกันก่อน แล้วค่อยมาว่ากันต่ออีกที”
“เอองั้นเอาตามที่พี่ว่าเลยก็ได้”
กว่าทุกคนจะทานข้าวและเตรียมตัวเสร็จก็เกือบจะเก้าโมงเสียแล้ว จึงได้ตกลงกันว่าจะแยกกันไปเช่นเดิม ส่วนคู่ไหนที่ได้เรื่องแล้วก็กลับมารอที่บ้านได้เลย เมื่อนัดแนะเวลากันเรียบร้อย ก็แยกกันไปตามเดิม
หลังจากที่แยกย้ายกันไป เวลาก็ล่วงไปจนฟ้าเกือบจะมืด ทุกคนก็ได้กลับมาเจอกันที่บ้านอย่างพร้อมเพรียงราวกับว่านัดกันไว้ว่าจะกลับเวลาไหน สกายตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าทุกคนนั้นกลับมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย จึงเลือกที่จะไปเปิดประตูรั้ว และเดินนำคนอื่น ๆ เข้าไปก่อน จากนั้นก็เดินไปนั่งพักที่โซฟาหน้าทีวี ทุกคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ก็ตรงเข้าไปนั่งกับสกายทันทีด้วยความเหนื่อยล้า ขณะที่ทุกคนกำลังหย่อนก้นลง สกายก็พูดบ่นลอย ๆ ออกมาคนเดียว
“เฮ้อ...เหนื่อยจังโว้ยยยย” ทว่าลุงสมคิดกับป้าสายตาก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี ทำให้ได้ยินเสียงของสกายตะโกนพร่ำบ่น
“ถ้าเหนื่อยก็หยุดทำแบบนี้เถอะหนุ่มเอ๊ย ลุงไม่ทำใจได้นานแล้ว” สกายรีบนั่งตัวตรงทันที ก่อนจะตอบกลับลุงสมคิด
“ลุงรู้ด้วยเหรอครับ...ว่าพวกผมกำลังทำอะไรกันอยู่”
“รู้สิ ข้าได้ยินหมดแล้ว วันที่พวกเอ็งคุยกันน่ะ” ขณะที่สกายกำลังคุยกับลุงสมคิดอยู่ โนอาก็ได้พูดโพล่งขึ้นมา ทำเอาทุกอย่างนั้นเงียบสงัด และทุกคนหันมองหน้าโนอาเป็นตาเดียวกัน
“หยุดไม่ได้หรอกครับ พวกผมอยากช่วยจริง ๆ อย่างน้อยขอให้พวกผมตามหาร่างของพี่ดาหลาก็ได้ครับ” ป้าสายเดินตริงดิ่งไปโนอาทันทีที่โนอาพูดจบ พร้อมกับจับมือของโนอาขึ้นมา ก่อนจะกล่าวคำขอบคุณ
“ขอบคุณพวกเราทุกคนมาก ๆ เลยนะจ๊ะที่คิดจะช่วยลุงกับป้าตามหาดาหลาอีกแรง” ทุกคนส่งยิ้มตอบกลับป้าสายใจด้วยความจริงใจ ลุงสมคิดผู้เป็นสามีก็ได้พูดขึ้นอีกครั้ง
“แล้วได้เรื่องว่ายังไงกันบ้างล่ะ” น้ำเหนือละสายตาป้าสายใจกับโนอา และหันไปตอบคำถามของลุงสมคิด
“ไม่ค่อยได้อะเท่าไรเลยครับ ส่วนมากชาวบ้านเขาดูจะกลัว ๆ กันอยู่น่ะครับ”
“ไม่แปลกหรอก ช่วงแรกที่คณะนางรำปิดตัวไป ดาหลาออกมาหลอกหลอนชาวบ้านทุกคนอยู่ตลอด แต่ลุงกับป้าน่ะ ไม่เคยเจอหรอกนะ ป้าแกถึงไม่เชื่อไงว่าดาหลาจะตายไปแล้ว”
“เอ่อ...ลุงครับ ผมได้ยินชาวบ้านเขาพูดกันว่า บ้านหลังนั้นเปลี่ยนเจ้าของมาหลายคนแล้วเหรอครับ” ลุงสมคิดเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ แต่จู่ ๆ ป้าสายใจก็เอ่ยตอบคำถามของน้ำเหนือ
“ไม่มีใครทำอะไรกับบ้านหลังนั้นได้เลยน่ะจ้ะ ไม่ว่าจะปรับปรุงซ่อมแซมหรืออะไรก็ทำไม่ได้ เพราะใครที่เข้าไปยุ่งกับบ้านหลังนั้น ต้องมีอันเป็นไปทุกคน”
“ขนาดนั้นเลยครับ” ป้าสายใจพยักหน้า ก่อนจะอ้าปากพูดต่อ
“เขาประกาศขายหลายครั้งแล้ว ลุงกับป้าเลยไปซื้อเอาไว้ จะได้ไม่มีใครเข้าไม่ยุ่งที่บ้านหลังนั้นอีก จนมาเจอพวกหนูเนี่ยแหละ ป้าขอโทษจริง ๆ นะจ๊ะ
“ไม่เป็นไรเลยครับ ส่วนหนึ่งมันก็มาจากพวกผมเองที่ไปพูดลบหลู่พี่ดาหลาก่อนด้วยครับ”
หลังจากที่คุยกับป้าสายใจและลุงสมคิดจบ ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำและพักผ่อนร่างกาย เนื่องจากวันนี้ทั้งวันทุกคนมัวแต่วิ่งเข้าบ้านนั่นออกบ้านนี้จนเกือบจะลากร่างกายกลับบ้านไม่ไหว