เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๒๔
รุ่งเช้า ทุกคนเตรียมตัวเดินทางไปต่างหมู่บ้าน เพื่อตามหานางลัดดา เพราะคิดว่านางลัดดาคงจะต้องรู้เรื่องของดาหลาเป็นอย่างดี ยิ่งกว่าเหมยและคนอื่นแน่ ๆ
เมื่อทุกคนมายืนรอที่หน้าบ้านแล้ว น้ำเหนือก็ขับรถกระบะคู่ใจของลุงสมคิดออกมารับเพื่อน ๆ ที่หน้าบ้าน และได้ไล่ส่งเพื่อน ๆ ตามหมู่บ้านอีกเช่นเคย เมื่อส่งเพื่อน ๆ ครบแล้ว น้ำเหนือและอันดาได้ขับรถตรงไปที่อำเภอทันที เพื่อสอบถามเกี่ยวกับครอบครัวของตรัย ว่าได้ย้ายไปอยู่ที่ไหนหรือไม่ และก็ได้รู้ว่าแม่ของตรัยหรือนางลัดดายังไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่ไหน เพียงย้ายไปอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งใกล้ ๆ กับหมู่บ้านที่น้ำเหนือพักอยู่นั่นเอง
เมื่อทั้งสองคนรู้ที่อยู่ของนางลัดดาแล้ว ก็ได้ขับรถวนกลับไปที่หมู่บ้านนั้นทันที ในเวลาเดียวกันปิ่นก็ส่งข้อความมา ว่าเจอหญิงชราคนหนึ่งหน้าคล้ายกับคนในรูปที่น้ำเหนือให้ดู อันดาจึงบอกให้ปิ่นและสกายรออยู่ที่หน้าบ้านหลังนั้นจนกว่าเธอจะไปถึง
ไม่นานทั้งสองก็ขับรถมาจอดอยู่ที่บ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่ง ก็เจอปิ่นและสกายนั้นยืนแอบอยู่ที่ข้างรั้วบ้าน ทั้งสองเลยเปิดประตูเดินลงไปหา ก่อนจะมองเข้าไปบ้านก็พบว่าเป็นนางลัดดาจริง ๆ ซึ่งเธอนั้นดูแก่กว่าในรูปมาก ๆ
“ไป เข้าไปหาเขากัน” น้ำเหนือกำลังจะก้าวขาเดิน แต่ทว่าถูกสกายดึงแขนเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว...มึงจะเข้าไปเลยเหรอ”
“ก็เออดิพี่ ไหน ๆ ก็มาแล้ว หรืออยากให้เขาหนีไปอีกคน”
“เออ ๆ ไปก็ไปวะ” ทั้งสี่คนเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน โดยที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากเรียกนางลัดดาสักคน อันดาจึงตัดสินใจตะโกนเรียกเองเสียเลย
“คุณยายคะ” นางลัดดาหันมอง ก่อนจะค่อย ๆ เดินออกมา และเอ่ยถามทั้งสี่ผ่านช่องประตู
“มาหาใครเหรอหนู”
“พวกหนูมาหาคุณลัดดาค่ะ ไม่ทราบใช่คุณยายหรือเปล่าคะ” นางลัดดานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักตอบรับ จากนั้นนางลัดดาก็ชักชวนทั้งสี่คนเข้ามาคุยในบ้าน นางลัดดาไม่มีท่าทีตกใจอะไรแม้แต่น้อย แต่กลับเหมือนรู้การมาของทั้งสี่คนอยู่แล้ว เมื่อเดินมานั่งที่เก้าอี้ นางลัดดาก็ถามคำถามที่ทำให้ทั้งสี่ต้องอึ้งไปชั่วขณะ
“มาเพราะเรื่องของดาหลาใช่มั้ย”
“ชะ...ใช่ค่ะ คุณลัดดารู้...”
“ดาหลาเขามาบอกน่ะ” ทั้งสี่คนจากที่อึ้งอยู่แล้ว เมื่อได้ยินประโยคของนางลัดดา ก็ต้องอึ้งไปอีก แต่แล้วนางลัดดาก็ได้บอกว่าดาหลาแค่มาเข้าฝันบอกว่าจะมีคนมาหา แต่จู่ ๆ นางลัดดาก็พูด
“อยากรู้เรื่องของดาหลาใช่มั้ย” ทั้งสี่คนพยักหน้าตอบรับโดยพร้อมเพรียงกัน
นางลัดดาได้เล่าย้อนกลับไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ก่อนที่คณะนางรำจะปิดตัวไป ในตอนนั้นนางลัดดาได้รู้ความลับของดาหลามาหนึ่งเรื่องคือ ดาหลาแอบคบกับลูกชายของเธอหรือตรัยนั่นเอง แต่นางลัดดาเองก็ไม่ได้จะต่อว่าด่าทออะไรทั้งคู่ กลับดีใจด้วยซ้ำที่ตรัยเลือกดาหลา เพราะส่วนตัวของนางลัดดาเองก็ชื่นชอบและเอ็นดูดาหลาอยู่แล้ว นางลัดดาจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคน แต่แล้วหนึ่งเดือนก่อนที่คณะนางรำจะปิดตัว ดาหลาได้หายไปโดยที่ไม่ติดต่อกลับมา และไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้ แต่หลังจากที่ดาหลาหายไปหนึ่งอาทิตย์ ตรัยก็ได้พาเหมยมาแนะนำกับนางลัดดา ตอนนั้นในหัวของนางลัดดาเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ว่าดาหลาหายไปไหน แล้วทำไมถึงเป็นเหมยมาแทนที่ดาหลาได้ แต่นางลัดดาก็ไม่ได้ถามอะไรลูกชายออกไปในตอนนั้น เพราะกลัวว่าตรัยและเหมยจะมีปัญหากัน ต่อมาอีกสองอาทิตย์เริ่มมีคนพูดว่าโดนดาหลาที่เป็นผีหลอก นานวันเข้าดาหลาเริ่มหลอกหลอนคนในคณะหนักขึ้น จนต้องปิดคณะนางรำไป และหลังจากคณะนางรำปิดตัวไป นางลัดดาและลูกสาวบุญธรรมของเธอหรือรินดานั่นเอง ได้ช่วยกันตามหาร่างของดาหลา เพราะนางลัดดาคิดว่าดาหลาคงจะต้องเสียชีวิตไปแล้วแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ออกมาหลอกหลอนคนในคณะเช่นนี้ แต่แล้วไม่ว่านนางลัดดากับรินดาจะตามหาอย่างไร ก็ไม่พบร่างของดาหลาจนถึงทุกวันนี้
“แล้วคุณตรัยล่ะคะ”
“ตรัยน่ะเหรอ...”
หลังจากที่ดาหลาที่เริ่มออกมาหลอกหลอนคนในคณะ ตัวของตรัยเองก็โดนไม่ต่างจากคนอื่น อาจจะหนักกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ เพราะตรัยโดนดาหลาตามหลอกทุกวันทุกคืน จนทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหว นางลัดดาเลยส่งตรัยไปอยู่กับน้าสาวที่ต่างประเทศ นางลัดดาเล่ามาถึงตรงก็ได้หยุดนิ่งไป แต่น้ำเหนือกลับมองสำรวจไปทั่วบ้าน และเห็นว่านางลัดดาอยู่คนเดียว จึงได้เอ่ยถามถึงลูกสาวบุญธรรมของเธอ
“แล้วลูกสาวบุญธรรมล่ะครับ ไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับ”
“อ๋อ...รินดา ก็โดนเหมือนตรัยนั่นแหละ ฉันเลยส่งไปพร้อมกันเลย”
“ขออนุญาตนะครับ...แล้วเขาสองคนจะกลับมาเมื่อไรครับ”
“เดี๋ยว...ฉันโทรถามให้แล้วกัน” นางลัดดาเดินออกไปโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้ไกลจากทั้งสี่เสียเท่าไร จึงพอที่จะได้ยินคำพูดของนางลัดดาอยู่
“ฮาโหล จะกลับมาเมื่อไรล่ะลูก”
“...”
“พอดีมีคนมาหาที่บ้านน่ะ”
“...”
“เขามาถามเกี่ยวกับดาหลา รีบกลับมาแล้วกัน”
“...”
หลังจากปลายสายวางไป นางลัดดาก็เดินกลับมาหาทั้งสี่คน พร้อมกับสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ซึ่งคาดว่าน่าจะโดนในสายพูดจาไม่ดีใส่ และได้พูดกับทั้งสี่คนด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้า
“เดี๋ยวพวกเขาจะกลับมาเร็ว ๆ นี้น่ะจ้ะ” น้ำเหนือเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่ค่อยจะดี จึงกล่าวคำขอบคุณและได้ขอตัวกลับก่อน
จากนั้นทั้งสี่ก็เดินออกมาขึ้นรถ และยังไม่ได้ขับออกไปในทันที แต่คอยสังเกตการณ์อยู่ภายในรถ ว่านางลัดดาอยู่คนเดียวจริงหรือไม่ เพราะจากที่ได้ฟังเรื่องราวของนางลัดดาแล้ว ทุกคนคิดเห็นตรงกันที่ว่าสงสัยตรัยว่าอาจจะเป็นคนทำร้ายและฆ่าดาหลา ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็แน่ใจแล้วว่านางลัดดาอยู่คนเดียวจริง ๆ ทั้งสี่คนจึงออกรถและไปรับเพื่อน ๆ คนอื่น และตรงกลับบ้านเลยทันที