เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

พวกมึงลบหลู่กู - ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก,ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พวกมึงลบหลู่กู

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ตลก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เพราะความปากพล่อยของคนคนหนึ่ง ใครหลายคนจึงต้องประสบปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการตามหาความจริงเพื่อเอาชีวิตรอด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

"น้องกูก็ตายแล้วนี่ไง พวกมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ หรือต้องให้กู้ตายอีกคน พวกมึงถึงจะพอใจ"


"ใช่ ถ้ามึงตาย แล้วได้สี่คนนั้นกลับมา มึงจะยอมตายมั้ย"


"..."


"เห็นมั้ย ตัวมึงเองยังไม่อยากตายเลย และสี่คนนั้นมันอยากตายเหรอ มึงคิดบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความคิดตัวเอง แบบนี้เขาเรียกเห็นแก่ตัวว่ะ"



เพียงเพราะความปากพล่อยและความโผงผางของคนคนหนึ่ง ทำให้ใครหลายคนเดือดร้อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทุกคนต้องตามสืบเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะได้รอดจากน้ำมือของผีตนนี้

สารบัญ

พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๑๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๐ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๑ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๒ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๓ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๔ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๕ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๖ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๗ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๘ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๒๙ พวกมึงลบหลู่กู,พวกมึงลบหลู่กู-ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

เนื้อหา

ตอนที่ ๓๐ พวกมึงลบหลู่กู

ตอนที่ ๓๐
ส่วนรินดาที่โดนจับมัดไว้กับเสาบ้าน ก็โดนตำรวจจับกุมในที่สุด แถมยังโดนหลายข้อหา คาดว่าคงจะติดคุกยาวเลย เพราะทั้งฆาตกรรมอำพรางดาหลาและน้องสาวของตรัย ฆ่าแม่บุญธรรม และยังพยายามฆ่าน้ำเหนืออีก
ผ่านไปเกือบจะสามวันแล้ว แต่น้ำเหนือยังคงไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นเลย อันดาก็ยังคงคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่างไปไหน และอันดามักจะกุมมือของน้ำเหนือเอาไว้ตลอด คอยพูดคุยกับน้ำเหนือทุกวัน ถึงแม้ว่าน้ำเหนือจะไม่ตอบกลับอะไรเลยก็ตาม
แต่แล้วในวันที่สี่ น้ำเหนือก็ตื่นขึ้นมา และได้เห็นอันดาฟุบหลับอยู่ข้าง ๆ เตียง น้ำเหนือได้แต่ยิ้มเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดเส้นผมที่บังหน้าของอันดาอยู่ เพื่อจะได้มองเห็นใบหน้าของแฟนสาวชัด ๆ อันดาที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนที่หน้า ก็ค่อย ๆ ลืมตามอง และเห็นว่าน้ำเหนือฟื้นแล้ว ก็รีบพุ่งตัวเข้าไปกอดน้ำเหนือทันที
“โอ๊ย เจ็บ ๆ”
“ขอโทษ ๆ ลืมตัว ก็เหนือหลับไปตั้งหลายวัน”
“ขอโทษนะ ทั้งที่สัญญาเอาไว้ว่าจะไม่เจ็บตัว แต่ก็เจ็บตัวจนได้ ไม่โกรธกันนะ”
“อื้อ...ไม่โกรธเลย ขอแค่ให้เหนือตื่นขึ้นมาหาเรา เราขอแค่นั้นเลย”
“มากอดหน่อย คิดถึงจัง” น้ำเหนืออ้าแขนรอ พร้อมกับทำหน้าตาออดอ้อนใส่อันดา อันดาที่ทนสายตาของน้ำเหนือไม่ไหว ก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปให้น้ำเหนือ โดยที่เธอนั้นไม่ได้กอดตอบ เพราะกลัวจะไปโดนแผลของน้ำเหนืออีก
หลังจากนั้น อันดาก็ได้โทรศัพท์บอกคนอื่นว่าน้ำเหนือนั้นฟื้นแล้ว ไม่นานทุกคนก็เปิดประตูเข้ามา พร้อมกับของเยี่ยมคนป่วยเต็มมือทั้งสองข้าง โดยเฉพาะตรัยที่ดูเหมือนจะรู้สึกผิดเอามาก ๆ เพราะตลอดเวลาที่น้ำเหนือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตรัยเอาแต่โทษตัวเอง ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้ำเหนือต้องเป็นแบบนี้ โนอาที่เดินเข้ามาสุดท้ายก็รีบพูดแซวตรัยทันทัน
“ฟื้นสักทีนะมึง คุณตรัยเขาโทษตัวเองทุกวันเลย กูขี้เกียจจะฟังเขาแล้ว” ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะทันทีโนอาพูดจบ ตรัยก็ทำท่าเบะปากจะร้องไห้ราวกับเด็กน้อยทั้งที่ตัวเองก็อายุสามสิบกว่าจะสี่สิบแล้ว
“ไม่เป็นไรเลยครับคุณตรัย ยังไงเราก็จับตัวเขาได้ แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ”
เพียะ!
“โอ๊ย ตีเหนือทำไมอะอันดา”
“คุ้มอะไรเล่า ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาจะทำยังไง”
“ขอโทษครับผม” ทุกคนหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็คุยสัพเพเหระกันทั่วไป
เวลาล่วงเลยไปอีกสองวัน น้ำเหนือก็อาการดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงให้น้ำเหนือมาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน จนเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ น้ำเหนือก็หายดีเป็นปกติ
หลังจากที่หายดีแล้ว น้ำเหนือได้ชวนเพื่อน ๆ รวมถึงลุงสมคิด ป้าสายใจ ป้าส้ม และตรัยกับเหมยไปทำบุญให้ดาหลาและคนอื่นที่เสียชีวิตไปเพราะรินดาอีกครั้ง ก่อนที่น้ำเหนือและเพื่อนจะกลับกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงวัดใกล้ ๆ หมู่บ้าน ก็เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อที่เป็นเจ้าอาวาส ทว่าหลวงพ่อกลับเอ่ยทักน้ำเหนือว่า
“เขามาขอบคุณเอ็งและเพื่อน ๆ ด้วยนะ”
“ใครเหรอครับ”
“ก็คนที่เอ็งช่วยเขาไง” น้ำเหนือและเพื่อนรู้ได้ทันทีว่าคงจะเป็นดาหลาและน้องสาวของตรัยแน่นอน จากนั้นหลวงพ่อก็กวักมือเรียกให้ทุกคนเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ก่อนจะสวดคาถาอวยพรให้ทุกคนพบเจอแต่ความสุข และพบเจอแต่คนดี ๆ เข้ามาในชีวิต เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันกลับไปในที่ของตัวเอง
 กลุ่มนักศึกษาทั้งสิบคนเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจากที่ทำบุญหาดาหลาเสร็จทันที ส่วนทางด้านของตรัยและเหมยก็ได้เตรียมตัวย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศอย่างถาวร โดยจะเดินในคืนนี้ช่วงเที่ยงคืนเช่นกัน
ส่วนโนอา ก็คิดไว้แล้วว่ากลับไปกรุงเทพฯ ครั้งนี้ กะว่าจะไปบวชพระสักหนึ่งเดือน เพื่อจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับน้องชายตัวเองและคนอื่นที่เสียชีวิตไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
ส่วนคู่สกายและปิ่นก็ได้ตกลงคบหาดูใจกันอย่างจริงจัง ที่สกายยอมขอปิ่นเป็นแฟนก่อน ก็เพราะถ้าเกิดวันหนึ่งจากโลกนี้ไป โดยที่ยังไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองให้ปิ่นได้รับรู้ ตัวเองก็คงจะเสียใจเป็นอย่างมาก ที่จากไปทั้งแบบนั้น เนื่องจากสกายเห็นตอนที่น้ำเหนือถูกแทง จนเกือบจะหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา ในตอนนั้นเองที่สกายคิดได้...
หลังจากที่เจอเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ จนต้องสูญเสียเพื่อนไปถึงสองคน และรุ่นน้องอีกสองคน แต่หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านั้นจบลง ทุกคนได้รับรู้ว่าแล้ว่าชีวิตมีค่ามากแค่ไหน และรู้ว่าควรใช้ชีวิตแบบใดถึงจะคุ้มค่ากับการที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปถึงสี่คน
{ คำพูด เมื่อพูดออกไปแล้ว ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้ ดังนั้น คิดก่อนพูดเสม }
จบบริบูรณ์
อมายา