ผมใช้ความไร้ยางอายเพื่อเอาชีวิตรอด แต่พระเอกเขาบอกว่าผมเป็นคนดีเกินไป
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,สยองขวัญ,ทะลุมิติ,CosmicHorror,BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พระเอกเขาบอกว่าผมเป็นคนดีเกินไป
“ฉันชื่อราเอล”
วินาทีนั้น...ความปั่นป่วนของบรรยากาศโดยรอบพลันหยุดนิ่งลง แสงสีแดงจากท้องฟ้าส่องลงมาปกคลุม จากนั้นผมก็รู้สึกว่าวินาทีถูกทำให้ยืดยาวออกไป
ทุกอย่างดูเชื่องช้าลงอย่างมาก วินาทีต่อวินาที แม้กระทั่งเลอัสยังให้ความรู้สึกราวกับกำลังยืนอยู่กับที่
มีเพียงศพตรงหน้าเท่านั้นที่ยังคงขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ
ความหวาดกลัวจากสุดขั้วหัวใจทำให้ผมตัวกระตุก ทั้งที่ร่างกายเป็นอัมพาตแล้วก็ยังให้ความรู้สึกแข็งทื่อขึ้นมา
ใบหน้าหญิงชราเด่นชัดท่ามกลางทุกอย่างที่เริ่มพร่ามัว
เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
รอยยิ้มนั้นกว้างมาก มุมขอบปากลากจากใบหูข้างหนึ่งไปถึงอีกข้างหนึ่ง แต่เพราะริมฝีปากร่างกายมนุษย์ไม่สามารถแผ่ขยายได้ถึงขนาดนั้น บางส่วนของมันจึงปริขาดออกจนกลายเป็นฉากน่าสยดสยอง
มันวิ่งเข้ามาใกล้พวกเรามากโดยไม่ทันรู้ตัว ระยะห่างเหลือเพียงเอื้อมมือเท่านั้น
ผมอ้าปาก อยากจะกรีดร้อง แต่ไม่มีเสียงใดหลุดออกจากกล่องคอ
ผมรู้ตัวว่าไม่รอดแน่แล้ว หรือต่อให้ตะโกนเร่งเลอัสได้ไปก็คงไม่มีประโยชน์ เด็กผู้ชายโง่คนนี้ฝืนขีดจำกัดร่างกายตัวเองมานานมากแล้ว การยังเคลื่อนที่ต่อไปได้ตอนนี้นับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ไม่มีทางวิ่งได้ไวกว่านี้อีก
ความคิดถูกแช่แข็ง มันอื้ออึง
คอมันยืดยาวออก ใบหน้าชรายื่นมาหาผม ใกล้จนผมมองเห็นรอยแตกบนผิวหนังราวลูกโป่งพองจนใกล้ระเบิด
มันก็อ้าปากออก
คลื่นเบาบางแผ่ออกมา ไอเย็นเยียบไหลเข้าสู่ปอดผม ทำให้ร่างกายหนาวสั่น--ทันใดนั้นแสงสีแดงพลันสั่นกระเพื่อม แล้วทุกอย่างพลันขยับไหว คล้ายบรรยากาศรอบด้านพลันกลับมาชีวิตในตอนนั้น
ผมได้ยินเสียงเลอัสทวนชื่อผม และมันกล่าวในเวลาเดียวกัน
““ราเอล””
แล้วหญิงชราตรงหน้าก็หายไป
ไม่...ไม่ใช่หาย มัน...เพียงแค่หยุดลง
เพราะเลอัสยังคงวิ่งอยู่ ดังนั้นเงาร่างนั่นจึงเล็กลงเรื่อยๆ
ภาพที่ผมเห็นคือฝูงร่างศพยืนนิ่ง มองมาโดยไร้ซึ่งเสียงใด เหมือนทุกสิ่งที่ผมเห็นเมื่อครู่เป็นภาพลวงตา
ศพหญิงชราอยู่ด้านหน้าสุดจากทั้งหมดนั่น ขยับปากอย่างเชื่องช้า
“--”
ก่อนที่จะได้ยิน ผมพลันรู้สึกเหมือนตกลงไปในน้ำ แล้วทัศนียภาพรอบด้านก็เปลี่ยนไป
มันยังคงเป็นป่า แต่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
เลอัสวางผมลงกับพื้นแล้วล้มลงอย่างทนไม่ไหว หอบหายใจราวปลาขาดน้ำ
ผมนอนนิ่งอยู่ในผ้าห่ม เงยหน้ามองท้องฟ้าสีดำประดับด้วยดวงดาว
พวกเราผ่านออกมาได้แล้ว
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอิทธิพลจากจิตใจหรือไม่ แต่อากาศรอบด้านให้ความรู้สึกสะอาด และร่างกายผมก็เริ่มเจ็บปวด ไม่ได้ชาราวเนื้อตายเช่นก่อนหน้านี้
ความโล่งอกไหลเอิบ ผมถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย แล้วความเหนื่อยล้าทางจิตใจที่พยายามจะกดไว้ก็ถูกปลดปล่อยออกมา
เลอัสคงเหมือนผม เขาไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่หายใจ ซึมซับบรรยากาศเงียบสงบไร้ซึ่งความเสื่อมทรามรอบตัว
ไม่น่าเชื่อเลย แต่ผมสามารถรอดชีวิตมาได้จริงๆ
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเลอัส
“เลอัส ฉัน--”
“ว่าไงสหาย อีกแค่สี่นาทีก็จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว พวกนายนี่ค่อนข้างอ่อนหัดนะเมื่อเทียบกับคนอื่น”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาในตอนนั้น ทำให้ผมตัวแข็งทื่อ
เลอัสผวาเด้งตัวขึ้นมา เขารีบเข้ามาอยู่ข้างๆ ผม
กลุ่มคนเข้ามาล้อมรอบตัวเราไว้ ทุกคนใส่ชุดเกราะในรูปแบบที่แตกต่างกัน
อะไร? นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกม
เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง?
“ไม่ต้องกลัว ตอนนี้พวกนายปลอดภัยแล้ว” ว่าแล้วพวกเขาก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทำให้เลอัสเกร็งตัวทันที ทำท่าเหมือนพร้อมจะสู้กับใครก็ตามที่เข้ามา
“ใจเย็นน่า” ผู้ชายคนนั้นยกมือขึ้นสองข้าง ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทักทายพวกเราอย่างร่าเริง “เพื่อนคนนั้นถูกโรคระบาดใช่ไหม เรามีทีมแพทย์ นักบวชก็มี เราช่วยได้นะ”
ผมไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลยรีบกวาดตามองทุกอย่าง พยายามเก็บข้อมูลทั้งหมดเท่าที่ทำได้เพื่อคาดการณ์
คนของโบสถ์หรือ ไม่ใช่แน่ อัศวิน? นายพราน? หรือโจรป่า?
เดี๋ยว
ผมเคยเห็นชุดแบบนี้...ไม่สิ
ไอเทมแบบนี้
“…” ผมนิ่งอึ้ง ส่วนเลอัสเมื่อเห็นว่าผมไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจึงยังไม่กล้าเสี่ยงทำอะไร
“อย่าจ้องเขม็งขนาดนั้นสิ พวกเรามาเพื่อต้อนรับน้องใหม่อย่างพวกนายเชียวนะ” ว่าแล้วอีกฝ่ายยิ่งก้าวเข้ามาอีก
เลอัสขวางหน้าผมไว้ แสดงท่าทีระวังภัยเต็มที่ แต่ชายที่น่าจะเป็นผู้นำกลุ่มคนนี้ก็ยังพูดไม่หยุดราวกับไม่เห็นมัน...หรือไม่ก็คิดว่าเลอัสไม่มีวันทำอะไรเขาได้
“พวกนายนี่ซวยชะมัด เนื้อเรื่องฉากแรกก็เจออิทธิพลความมืดเลย ปีนี้คนที่รอดมาได้เลยน้อยสุดๆ ไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ”
ตาผมเบิกกว้าง สมองทั้งหมดทำงานอย่างหนัก
หมายความว่าไง? ...คนอื่น?
ยังมีผู้รอดชีวิตคนอื่นอีกหรอ แบบเดียวกับเสียงกรีดร้องที่เราได้ยินในป่า?
ทำไมคนพวกนี้ถึงมีไอเทมแบบเดียวกับในเกม? ทำไมถึงพูดเรื่องความมืดมาเหมือนรู้จักอยู่แล้ว
เนื้อเรื่อง?
หรือว่า—
ในวินาทีเดียวกันกับที่ผมเริ่มคาดเดาบางอย่างได้ ชายคนนั้นก็พูดออกมาอีกครั้ง
“พวกเราก็เป็นผู้ทะลุมิติมาเหมือนกัน เพื่อนกันทั้งนั้น เป็นมิตรกันไว้เถอะน่า”
น้ำเสียงเจือหัวเราะนั่นพลิกคว่ำความเข้าใจที่ผมมีมาตลอดหลายวันในทันที