โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
ผู้แต่ง
D.seyouinz
เรื่องย่อ
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
แนว : Fantasy, Adventrue, Action, Survival, Romance, Steam-punk, Sci-fi
การหลับตาลงและตื่นขึ้นจากภวังค์ความฝันอันยาวนาน ไม่สามารถลบล้างความจริงยามตื่นที่ว่าคุณตาของเด็กหนุ่มคนนี้จากเขาไปแล้ว การยอมรับชะตากรรมของเขาไม่ได้หมายถึงการตกลงยินดีรับบทชีวิตที่ถูกกำหนดไว้ตรงหน้า
'แต่เป็นเขาที่จะกุมอำนาจฟันเฟืองแห่งโชคชะตานี้ไว้เอง'
การจากไปของคนสำคัญจะนำพาเขาไปสู่เรื่องราวที่เขาค้นหา อดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง เหตุใดเขาจึงถูกรับเลี้ยงโดยคุณตา
ท่ามกลางโลกของผู้มีสัญญาณจิตนามว่าวาร์เชอน์ และผู้มีสติปัญญานามว่าชาว์โรล โลกของเขาถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งประดิษฐ์ของพวกชาว์โรล เทคโนโลยีเครื่องจักรไอน้ำเครื่องยนต์กลไกอันซับซ้อนที่หยิบยืมจากพลังอำนาจของอัญมณีสีดำ
เขาเดินทางอย่างโดดเดี่ยว ระหว่างทางพบกับพวกพ้องที่จริงใจร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเขา เผชิญหน้ากับบทพิสูจน์อันท้าทาย สงครามอันยาวนาน ความปรารถนาในตัวตนของตนเอง บทบันทึกที่ขาดหาย
จะนำพาเขาและพวกพ้องไปสู่บทสรุปสุดท้าย
ที่ว่าจริง ๆ แล้วเขาคือใคร
นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
*คำเตือน* *โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*
Trigger warning, Abuse, Anxiety, Blood, BDSM, Brainwashing, Classism, Coercion, Corpse, Domestic violence, Decapitation, Gaslighting, Hostages, Murder, Mutilation, PTSD, Paranormal, Submission, Starvation, Terrorism, Torture, Violence, War
เนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อน, การทำร้ายใช้ความรุนแรง, ความวิตกกังวล, เลือด, รสนิยมตกลงปลงใจทั้งสองฝ่าย, ล้างสมอง, การเหยียดชนชั้น ,การใช้อำนาจที่เหนือกว่าบังคับ*, ศพ, ความรุนแรงในครอบครัว, การตัดหัวประหารชีวิต, การบิดเบือนสร้างความคิดทับ, การจับเป็นตัวประกัน, ฆาตกรรม, ทำให้พิการ, ความหวาดกลัวจากเหตุสะเทือนขวัญ, ตำนาน, อำนาจเป็นฝ่ายรอง, ความหิวโหย,การก่อการร้าย, การทารุณ, การใช้ความรุนแรง, สงคราม
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
(ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ.2558
บทที่ 16
“พี่สามารถสมัครให้หนูเป็นนักผจญภัยได้...แต่” เธอนิ่งไปชั่วขณะ
“พี่สาวคนสวยครับ?” มีฟฟ์รู้สึกตื่นเต้นกับประโยคของพี่สาวผู้ดูแล แต่อยู่ ๆ เธอก็นิ่งเงียบไป เขาจึงคิดว่าควรจะถามไถ่เธอว่าเป็นอะไรรึเปล่า
“ฟรีจ๊ะขนาดนี้แล้ว ปากหวานจริง ๆ เลยตัวแค่นี้ แต่พี่ต้องมีบททดสอบเล็กน้อยนะ” เธอคิดว่าควรจะเก็บค่าสมัครเบื้องต้นดีไหม แต่พอเด็กหนุ่มตรงหน้าพูดว่าพี่สาวคนสวย ก็ไม่ลังเลที่จะสมัครให้ฟรีเลยจ้ะ
‘น้องคนนี้น่ารักน่ากอดจริง ๆ’
“ตามพี่มานะ ห้องโถงแบบนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่” พี่สาวเดินออกจากเคาน์เตอร์บาร์ มันเป็นจุดรับส่งและการแจกภารกิจแก่นักผจญภัย เพื่อพาผมไปยังห้องสำหรับการทดสอบเบื้องต้นมั้ง
ในตอนนี้ทั้งผมและพี่เขากำลังเดินไปยังห้องสำหรับการทดสอบ ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะกำลังจะได้เป็นนักผจญภัยแล้ว ซึ่งเป็น 1 ก้าวที่เริ่มต้นได้ดีของมีฟฟ์
มีฟฟ์กำลังชื่นชมตนเองในใจ
พี่สาวที่รอบสังเกตมีฟฟ์ปรายตามองไปด้านหลังตนเอง พบกับเด็กหนุ่มที่ทำท่าชื่นชมตนเอง เธอเองก็รู้สึกถูกชะตาและรู้สึกเอ็นดูเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่น้อย
“ไหนหนูรู้อะไรเกี่ยวกับโลกของนักผจญภัยบ้าง การไม่รู้อะไรเลยอาจจะเป็นปัญหาทีหลังของหนูได้นะ” ตอนนี้พวกผมอยู่ในห้องที่มีชุดโซฟาหรูหราสีนิล บานหน้าต่างฉายแสงสว่างยามเช้าเข้ามากระทบใบหน้าต้องแสงเล็กน้อยของพี่สาวและ ผม เป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างดีเลยสำหรับมีฟฟ์
“มีพี่ชายสัญญาณจิตแห่งไฟ พี่สาวสัญญาณจิตแห่งน้ำ อุปกรณ์ต่อสู้ ใช้พลังต่อสู้กัน ตู้ม ๆ ครับ” ผมทำท่าโบกไม้โบกมือไปมาแสดงท่าทางที่เขาเห็นในช่วงเมื่อหลายวันก่อนอย่างกระตือรือร้น ผมแสดงทุกอย่างที่ผมรู้ผมเข้าใจให้พี่ผู้ดูแลเห็นแต่เธออาจจะมองผมคล้ายเป็นเจ้าเด็กจอมซน น่าตี ซึ่งอาจจะจริง
พี่ผู้ดูแลถึงกับเอามือแปะหัว กุมขมับ ‘เด็กน้อยนะเด็กน้อย’
“งั้นเราเริ่มจากอะไรที่ง่าย ๆ ก่อน หนูอายุเท่าไหร่ ชื่ออะไร เกิดที่ไหน มาจากไหน พี่จะได้ทำข้อมูลบัตรให้หนูก่อน” พี่สาวโบกมือเรียวไม่เอาความกับเด็กน้อยถึงความใสซื่อของมีฟฟ์
“ผมชื่อมีฟฟ์ไม่มีนามสกุลครับ คุณตาเก็บผมมาเลี้ยงที่หมู่บ้านฟุลตัน ปัจจุบันผมอายุ 17 ปีครับ เมื่อวันก่อนนี้เอง” มีฟฟ์กล่าวออกไปเสียงดังฟังชัด แสดงถึงความสดใสให้พี่ผู้ดูแลเห็น
“โอ้ สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะ” พี่ผู้ดูแลแปลกใจเล็กน้อยกับความฝันยิ่งใหญ่ของเด็กอายุ 17 ปีตรงหน้า แต่เธอก็แปลกใจได้ไม่นาน ทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง เธอเห็นมานักต่อนักแล้ว
“ขอบคุณครับพี่สาว” ผมยิ้มสดใสให้พี่ผู้ดูแลสาวสำหรับคำอวยพรของตน
“งั้นเดี๋ยวพี่จะให้ดูหนังสือนี้นะ เดี๋ยวพี่อธิบายให้ฟัง” ทันทีเมื่อพี่ผู้ดูแลพูดจบ เธอหันหลังเปลี่ยนท่าทีเดินไปมุมหนึ่งบนชั้นหนังสือ หยิบหนังสือที่อธิบายเกี่ยวกับโลกใบนี้ให้ผมฟัง เธอค่อย ๆ อธิบายราวกับเล่านิทานเรื่องยาวเรื่องหนึ่ง
ใจความว่า
โลกใบนี้แต่เดิมเมื่อหลายพันปีก่อนไม่เคยมีผู้มีสัญญาณจิตใด ๆ ปรากฏขึ้น มันเป็นโลกธรรมดาเพียงใบหนึ่ง แต่เรื่องราวคล้ายแปรผกผันขึ้นทันที เมื่อผู้หนึ่งพบกับบทบันทึกแรกเริ่มกล่าวถึงวิธีเข้าถึงสัญญาณจิตและเส้นทางเชื่อมต่อจิตธรรมชาติ เขาพบมันและใช้มันเพื่อการเป็น ‘วาร์เชอน์’ คนแรกของโลก
บนโลกนี้แบ่งคนอยู่ 2 จำพวก คือ 1 วาร์เชอน์ เป็นกลุ่มคนที่มีสัญญาณจิตติดต่อกับธรรมชาติได้ และ 2 คือกลุ่มคนที่เป็นชาว์โรล เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับการติดต่อจากสัญญาณจิตธรรมชาติทำให้ไม่สามารถใช้สัญญาณจิตได้
บทบันทึกนั้นส่งต่อรุ่นสู่รุ่นและแพร่กระจายเป็นวงกว้าง เกิดเป็นการวิวัฒนาการแบบข้ามขั้นพัฒนาจนถึงยุคปัจจุบัน แต่ราวกับโชคร้ายของคนมากมาย ที่ไม่สามารถรับสัญญาณจิตของตนเองได้ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับจิตธรรมชาติ คล้ายไร้บทบาทในโลกใหม่ โลกที่ผู้มีสัญญาณจิตราวกับเป็นพระราชาและพระราชินี ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นคือโลกเมื่อนานมาแล้ว โลกที่สัญญาณจิตเป็นอันตรายกับมวลมนุษยชาติ
ผู้คนที่โชคร้ายคล้ายมีประกายความหวังอีกครั้ง เมื่อมนุษย์ไม่ยอมแพ้ต่อบทบาทบนโลกใหม่ ประชากรมากกว่า 3 ใน 4 เป็นผู้ที่ไม่มีสัญญาณจิต เป็นกลุ่ม ‘ชาว์โรล’ โดยมีผู้เริ่มแรกกล่าวไว้ว่า เมื่อไม่มีพลังก็ต้องมีความรู้ ผู้คนมากมายยอมจำนนต่อบทบาทบนโลกใหม่ของคนธรรมดา แต่โลกในตอนนั้นคล้ายพลิกโฉมขึ้นอีกครั้ง เมื่อเทคโนโลยีจากการรวบรวมสติปัญญาของกลุ่มชาว์โรล เสริมแต่งและสร้างสรรค์ร่วมกับเผ่าสัญญาณจิตแห่งน้ำ
ในสมัยนั้นในหน้าประวัติศาสตร์จะใช้คำว่า ‘เผ่า’ เพื่อบ่งบอกว่าต้นกำเนิดเบื้องต้นมาจากไหน แต่เมื่อกาลเวลาพันผ่านไปอย่างยาวนาน ความหลากหลายผสมผสานกับเมืองและแหล่งชุมชนต่าง ๆ คล้ายกับความร้าวฉาน ของผู้มีสัญญาณจิตและผู้เป็นคนธรรมดา
‘ไม่เคยเกิดขึ้น’
นับว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง แหล่งกำเนิดนักประวัติศาสตร์นักวิจัยและนักพัฒนามากมายทั้งชาว์โรลและวาร์เชอน์ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เมื่อตลาดของผู้เป็นคนธรรมดามีอำนาจกว่าผู้มีสัญญาณจิต จึงก่อเกิดเป็นสิ่งประดิษฐ์ภูมิปัญญาอย่างเครื่องยนต์ไอน้ำ ส่งพลังงานแก่เครื่องจักรให้เคลื่อนที่หรือทำงานแทนตนเองได้
หน้าประวัติศาสตร์ต่างบันทึกถึงเรื่องราวและสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงคุณค่ามากมายให้แก่โลก ผู้สร้างที่รวบรวมความรู้ในการวิวัฒนาการเทคโนโลยีของโลกใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างมีต้นกำเนิดเพื่อใช้สร้างเครื่องมือและอุปกรณ์พัฒนาชีวิตของมนุษย์ โดยไม่สนถึงพลัง แสดงถึงประโยชน์ของการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้งในโลกใหม่แห่งนี้
เป็นเวทมนตร์อีกแขนงหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ช่วงนั้น เวทมนตร์แห่งคนธรรมดาหรือเวทมนตร์ของชาว์โรล
แต่แล้วความก้าวหน้าที่เดินเร็วเกินไป ไม่สามารถหยุดยั้งความโลภและความมัวเมาของเรื่องราวเทคโนโลยีในปัจจุบันได้ กลุ่มวาร์เชอน์และชาว์โรล ร่วมมือกันคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงใช้ในปัจจุบัน คือแท่งมูนไนท์
มันทำงานร่วมกับเครื่องจักรของเทคโนโลยีในปัจจุบัน สั่นสะท้อนหินมูนไนท์เกิดเป็นคลื่นสัญญาณ บดบังและทำลายสติชั่วครู่หนึ่งของผู้มีสัญญาณจิต เพราะว่าหนึ่งคือชาว์โรลไม่สามารถต่อกรความสามารถของวาร์เชอน์ที่ไม่ยอมจำนนได้ จึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้เพื่อเข้าควบคุมผู้มีสัญญาณจิต
และลงนามเกิดเป็นกฎหมายเพื่อเข้าครอบคลุม คุ้มครองทั้งวาร์เชอน์และ ’ชาว์โรล’
ในปัจจุบันเป็นโลกของเครื่องจักรไอน้ำและสัญญาณจิตทำงานร่วมกันอย่างสงบสุข แบ่งสายพลังจากสัญญาณจิตที่พบเจอได้ง่าย เช่น สัญญาณจิตแห่งน้ำ ที่อยู่ทางตอนเหนือ
สัญญาณจิตแห่งไฟ ที่อยู่ทางตอนกลาง ทิศตะวันออก
สัญญาณจิตแห่งดิน ที่อยู่ทางตอนกลาง ทิศตะวันตก
สัญญาณจิตแห่งลม ที่อยู่ทางตอนใต้
หรือสัญญาณจิตแห่งแสง ที่อยู่ทางตอนกลางทิศใต้ แต่สัญญาณจิตแห่งแสงค่อนข้างเก็บตัวและหาได้ยากในปัจจุบันแล้ว เนื่องจากบทบันทึกกฎแห่งโลกที่บอกไว้ว่า
‘แสงส่องเพื่อความเท่าเทียมก่อเกิดเงาที่เท่ากัน’
จึงนับว่าวาร์เชอน์สัญญาณจิตแห่งแสงปรากฏน้อยมากในหน้าประวัติศาสตร์โลก
แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เพราะคนสุดท้ายที่ปรากฏบนหน้าประวัติศาสตร์และสั่นคลอนแทบทุกสิ่งที่โลกอเล็คซาเซียจะเป็นได้ก็คือ...
ผมนึกภาพตามที่พี่สาวพูดเล่าเรื่องราวในอดีตประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ด้วยความสนใจ มีภาพประกอบบ้างเป็นประปราย นี่อาจเป็นเรื่องราวไม่อาจจะเข้าใจได้ในครั้งเดียว แต่พี่สาวเล่ามันอย่างกับนิทานก่อนนอน เรื่องราวที่พี่สาวเล่าให้ผมฟัง ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งมันจบลง
“หนูเข้าใจแล้วใช่ไหม โลกใบนี้มันไม่ง่ายหรอกนะ” พี่สาวพลางหยุดมือและหันมาสบตากับผม
“ในตอนนี้ เรื่องราวทั้งหมดก็คงเพียงพอที่จะรู้เหมือนคนอื่นแล้วนะหนูมีฟฟ์” เธอเล่าและอธิบายเป็นขั้นเป็นตอนให้ผมตรงหน้าฟังอย่างไม่รีบร้อน
“ครับพี่ ผมตั้งใจฟังและเรียนรู้ทุกอย่าง เก็บทุกรายละเอียดเลยครับ” สายตาน้อยที่ส่งไปถึงพี่ผู้ดูแลทำเอาพี่เขาถึงกับโซเซ
“ดีมากเด็กน้อย” ผมมองพี่สาวตรงหน้า พลางปิดหน้าหนังสือเล่มใหญ่ที่ใช้อธิบายโลกนี้ให้ผมฟัง อุ้มมันไปเก็บไว้ที่ชั้นวางเหมือนเดิม
“เมืองที่หนูจะไปคือเมืองโอเดลล์ใช่ไหม ที่นั่นเป็นเมืองเล็ก ๆ เหมาะกับการเริ่มต้นของหนูเลยแหละ” พี่สาวคนเดิมกล่าวเสียงเรียบและถามถึงสิ่งที่ผมต้องการจะไป
“ขอบคุณครับพี่สาว ตอนนี้ผมกำลังมึนจากข้อมูลเยอะแยะที่พี่สาวใจดีเล่าให้ฟังเลยครับ” ผมหัวเราะเล็กน้อย อย่างปิดไม่มิด ทำให้พี่ผู้ดูแลเอ็นดูผมเป็นอย่างมาก
“เดี๋ยวพี่ไปทำบัตรประจำตัวนักผจญภัยให้หนูก่อน หนูก็ออกไปที่ห้องโถงเดิมล่ะ เดี๋ยวพี่ตามไปทีหลัง”
“ได้เลยครับ” มีฟฟ์ทำท่าเคารพแบบขี้เล่น ทำให้พี่ดูแลขำเล็กน้อย ไม่นานก็ขอตัวและเดินจากไป
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์
#สงครามผู้พิชิตโชคชะตา