โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 49
ในขณะที่ราชินีไซเรนกำลังเฝ้ามองหาคำตอบภายใต้ใบหน้าเล็กที่กำลังบีบรัดแขนเรียวของเธอ เฝ้าสังเกตและนึกถึงของแผนการของเธอที่ถูกตระเตรียมเอาไว้อย่างละเอียดรอบคอบ เสมือนเธอกำลังกลัวบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิด
และเธอก็คิดถูกต้อง...มันเกิดขึ้นราวกับโชคชะตาที่กำลังจับจ้องไปยังความเปลี่ยนแปลงที่ถูกชะตาไว้!
ขวดแก้วมรกตรูปลักษณ์ที่สวยงามในห้วงความทรงจำ ล่องลอยออกมาจากอกของนางไซเรนล่องลอยไปตามกระแสน้ำวนอันเชี่ยวกราก รอยสลักเล็ก ๆ ที่กำลังปริรอยกรีดเล็ก ๆ ไปตามรูปกระจกสีมรกต
แป๊ะ! ขวดแก้วแตกออก! ประกายสีเขียวมรกตที่ปนเปไปกับคลื่นน้ำที่เบาบางและหนึ่งหยดน้ำความทรงจำที่ถูกผสมผสานไปกับกระแสน้ำวังวันที่สั่นคลอนถึงความมั่นคงบางอย่างในจิตใจของราชินีไซเรน
ราวความหนักอึ้งที่กำลังประสบเป็นเรื่องที่เธอไม่ควรยุ่งเกี่ยว
เรียวมือเล็กที่ยังคงจบแขนนางไซเรนไว้มั่น บีบรัดราวจะทำลายให้สิ้นซากท่ามกลางความปรารถนาในเบื้องลึกของความทรงจำหนึ่งหยดที่ถูกหลอมรวมไปกับตัวตนของเด็กน้อย
ฉับพลันความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ทันตั้งตัว สั่นคลอนชะตากรรมบางอย่าง
ภายใต้ดวงตากลมเล็กที่เบิกโพลงขึ้นมาอย่างไร้สัญญาณเตือน พลังงานเอ่อล้นที่เคยเปล่งประกายอำนาจเหนือทุกการควบคุมใด ๆ ของเธอ สายลมที่เปลี่ยนทิศทาง กระแสน้ำวนที่กระตุกชะงักเป็นไปตามร่องรอยของวังน้ำวน
แรงบีบที่อัดแน่นไปด้วยแรงปรารถนาบางอย่าง ราชินีรู้สึกได้ถึงแรงสัมผัส กำลังลิดรอนและแย่งบางสิ่งบางอย่างจากเธอไป สัมผัสที่คุกคามราวกับพยายามจะต่อต้าน แรงกระทำราวกฎแห่งโลกที่ต้องเผชิญ ทั้งหมดเธอต่างรู้สึกได้ราวกับนิมิตที่เคยพบพานกำลังดำเนินต่อไปอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สร้างความรู้สึกหนักอึ้งและความวิตกกังวลถึงความโง่งมและความขลาดเขลาตัวเอง
แรงสัมผัสที่จะดึงเอาความสามารถและทุกการควบคุม พลังงานที่มากมายภายใต้สัญญาณจิตบริสุทธิ์ถูกสูบออกไปหมดสิ้น ราวกับการถูกปลดระวางอำนาจใด ๆ อย่างน่ารังเกียจ! เรียวมือเล็กที่สั่นไหวเสมือนกับความรู้สึกที่สับสนตีกันไปมาภายในจิตใจของเธอเอง
อำนาจแสงเรืองรองหรือพลังงานที่กำลังสั่นไหวในอากาศกำลังแปรเปลี่ยนไป ทิศทางที่กำลังดำเนินไปมันเสมือนกับการหายไปในหลุมลึกที่ไม่มีวันเติมเต็ม อันเป็นความปรารถนาเบื้องลึกที่ราวกับมีใครบางคนกำลังสร้างกฎใหม่ให้มัน
กฎที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ใดใดราวกับประกาศิตเด็ดขาดโทษทัณฑ์ของโลกใบนี้!
ความรู้สึกสายหนึ่งที่ถูกตัดสัมผัสไป ภายใต้ใบหน้างามที่สะบัดไหวอย่างรวดเร็ว สายตาที่ไม่อยู่นิ่งต่างมีน้ำตาที่เอ่อล้น ภายใต้สัมผัสที่ถูกตัดขาด...ภายใต้การจองจำของสัตว์ร้ายของอำนาจเหนือธรรมชาติ หนวดมากมายต่างดิ้นทุรนทุรายกับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเกินไป
สัญชาตญาณอันต่ำต้อยโหยหาซึ่งคำสั่งราวกับการดิ้นรนบนฝ่ามือของผู้มีอำนาจ หนวดระโยงระยางที่สะบัดไปมาถล่มทำลายทุกสรรพสิ่งราวสิ่งโง่งม ดวงตาที่เบิกโพลงสร้างความหวาดผวาให้บรรดาสรรพสัตว์ที่ไกลออกไป ความรู้สึกที่มาจากจิตใต้สำนึกของสัตว์ร้ายต่างเรียกร้องถึงอภิสิทธิ์เที่ยงธรรม...อิสรภาพ!
การหลบหลีกและหลบซ่อนปรากฏขึ้นภายใต้ก้อนความคิดเล็ก ๆ และซื่อตรงภายใต้ความคิดว่างเปล่าของมันเอง เสียงเหยียบย่ำราวกับการเคลื่อนไหวของน้ำหนักมหึมาดังออกไปทั่วบริเวณ สายตาที่ไม่สั่นคลอนความหวังราวกับจะกลับถิ่นที่อยู่ ถิ่นกำเนิดเริ่มแรกของมัน
เสียงพังทลายของอาคารที่ถูกตัดผ่านกับร่างกายอันใหญ่โตมหึมาดังก้องกังวาน ขัดแย้งกับคำภาวนาน้อย ๆ ภายใต้เสียงลมหายใจที่กำลังโรยรินร่วงหล่นดับลง ในขณะเดียวกันที่กำลังดำเนินไปในทิศทางแย่ลง ชอว์กำลังจะถึงขีดวิกฤต! ชะตากรรมของชีวิตมนุษย์ถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายเล็ก ๆ พลังอำนาจหรือใด ๆ ไม่อาจจะฉุดรั้งปลายเท้าที่กำลังย่างก้าวไปยังหน้าผาแห่งการตัดสิน ชะตากรรมที่ถูกผูกพันไว้กับการตัดสินใจของใครสักคน มันช่างยาวนานราวเสี้ยววินาทีที่ผ่านพ้นไป ราวกับพระอาทิตย์ไม่เคยส่องแสงมายังโลกใบนี้นานแล้ว...
ท่ามกลางชีวิตที่โรยริน มีอีกหลายชีวิตที่พยายามจะฉุดรั้งสิ่งที่ไม่จีรังนั้นไว้!
.
.
ในอีกด้านหนึ่งของเมืองโอเดลล์
จ่อม! ตุบ จ่อม! เสียงที่ถูกเหยียบย่ำลงแอ่งน้ำเล็ก ๆ
เสียงย่างก้าวที่กำลังเร่งฝีเท้าเร็วไวกำลังมุ่งหน้ามาไปทิศทางหนึ่ง ผ่านสายตาที่กำลังมุ่งมั่นมันคง ท่ามกลางเสียงวิ่งหนึ่งคู่ สองคู่และสามคู่วิ่งตามกันมาอย่างไม่ลดละความพยายาม เสียงกระดิ่งและเครื่องประดับสั่นไหวไปมาบนอากาศผสมผสานไปกับบรรยากาศที่มืดหม่นหรือเส้นผมสีเข้มที่พลิ้วไหวไปตามแรงเหวี่ยงและสะบัดออกอย่างสวยงามภายใต้ความขัดแย้งที่เธอนั้นมอมแมมและเปรอะเปื้อนขนาดไหน
ท่ามกลางซากปรักหักพังและม่านหมอกที่เบาบางลงแล้ว จนเห็นอะไรได้ชัดเจนขึ้น...
ย้อนกลับไปก่อนหน้าไม่นานนั้น... ก่อนที่ทั้งสามจะวิ่งมาถึงตรงนี้
กระแสโจมตีที่รุนแรงและแรงสั่นสะเทือนที่ถูกส่งออกมามันราวกับมวลพลังงานมหาศาลถูกแผ่ดกระจายไปตามแรงลมหรือความสั่นคลอนของอาคาร ทั้งหมดสร้างความตะลึงงันในจิตใจหญิงสาวสัญญาณจิตแห่งดินเป็นอย่างมาก
ดวงตากลมโตที่ยังคงเฉิดฉายแสงสีมรกตออกไป ความสับสนในห้วงความคิดของเธอเอง ในคราแรกหญิงสาวผมบลอนซ์ทำความเข้าใจถึงความเป็นไปได้ของแรงอำนาจที่ถูกแผ่ดออกมาว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของเศษซากของอาคารที่ถล่มลงมาหรืออะไรสักอย่างที่กำลังระเบิดภายในเมืองโอเดลล์ ท่ามกลางสายตาที่กำลังจรดจดจ้องไปยังเศษซากของสถาปัตยกรรมที่เธอคลับคล้ายคลับคลาจะจำได้ ไม่ได้ก็ดี
แรงกระเพื่อมที่ส่งมายังเรียวฝ่าเท้ามอมแมมที่ยังคงไม่ใส่รองเท้ากันก็ดี...
ทั้งหมดมันรู้สึกได้โดยไม่ต้องใช้สัญญาณจิตด้วยซ้ำ ภายใต้ความรวดเร็วเท่าความคิดของหญิงสาว...
ชารอนพลางหันไปมองหน้าเชอรีและหัวหน้าโซลเจอร์อย่างไม่รู้ตัว การทำความเข้าใจบนใบหน้าเรียบนิ่ง ทั้งหมดต่างส่งฝีเท้าและความเร็วที่ใกล้เคียงกันไปยังด้านที่กำลังส่งเสียงร่ำร้องและครวญครางของกระแสพลังงานมหาศาลมาทางนี้
โดยพวกเขาทั้งสามทิ้งวินตันไว้ในความดูแลของนายโซลเจอร์อื่น ๆ ภายใต้การพักผ่อนและเฉลิมฉลองอย่างดูแคลนการเฉียดตายครั้งนี้ บรรดาโซลเจอร์น้อยใหญ่ที่กำลังเก็บกวาดและรวบรวมข้อมูลบางอย่างที่เหมือนจะพึ่งกลับมาใช้งานได้ เครื่องจักรอันใหญ่ที่กำลังเข็นซากเมืองอาคารทั้งหมดไปกองไว้จุดหนึ่ง สร้างเขตแดนที่เป็นจุดพักและพื้นที่ราบเรียบสำหรับการตั้งแคมป์ช่วยเหลือด่วน
ความหวังที่ไม่รอคอย อุ้มมือเล็ก ๆ ที่บาดเจ็บ ทั้งหมดกำลังพยุงโอบอุ้มซึ่งกันและกัน ราวกับหิ่งห้อยน้อย ๆ ไม่ยอมสยบต่อพระอาทิตย์ที่ขึ้นฉายเฉิด ทว่าความหวังของพวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ในช่วงที่ดับแสงสีทองไปแล้ว และเผยโฉมถึงอำนาจเล็ก ๆ ที่ร่วมมือกันพยุงโลกใบนี้ไว้
ท่ามกลางความตกใจที่เกิดขึ้นและสัมผัสกับลางร้ายที่ไม่ดีภายในใจของเชอรี เธอยังคงแสดงออกท่าทางด้วยท่าทีที่เรียบนิ่งและสงบเสงี่ยมได้ดั้งเดิมแล้ว เสมือนเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเพียงบทเรียนที่หนักหนาบทหนึ่งของเธอเท่านั้น
นิ้วมือที่หดลงเข้าหากันของเชอรี สายตาที่เหม่อมองไปยังกำปั้นที่มอมแมมหรือเศษซากที่เรียงรายล้อมรอบพวกเธอทั้งหมด ในสถานการณ์ครั้งนี้เราเจอศัตรูที่ไม่สามารถสู้ได้
ความหนาวเย็นที่อัดแน่นขึ้นทำให้ชารอนรู้สึกถูกกดทับด้วยความอัดอั้นบางอย่างลงที่หัวใจดวงน้อย คลับคล้ายกับเรื่องราวของวินตัน...
“แรงสั่นสะเทือนขนาดนี้ ใช่การต่อสู้ของสัตว์ประหลาดหรือนางไซเรนนั้นรึเปล่า” หัวหน้าโซลเจอร์พลางสำรวจเก็บข้อมูลความเสียหายที่ได้รับในเมืองโอเดลล์แห่งนี้ แรงสะเทือนที่ส่งมาทำให้ทุกย่างก้าวของเขาต้องใช้สมาธิกับมันมากขึ้น
ชารอนส่ายหน้าตอบรับหัวหน้าโซลเจอร์ “ฉันไม่รู้...”
เสียงหย่อนยานที่ยาวนานสร้างปรากฏการณ์บางอย่างในห้วงภวังค์ของทั้งสาม
“และฉันก็ไม่อยากรู้ ไม่อยากเจอมันด้วย” ...
“ทั้งคุณและเชอรีอาจจะไม่รู้ แต่พลังงานที่แผ่ดออกมา...สัญญาณจิตแห่งดินของฉันยังสัมผัสได้ถึงแรงมหาศาลที่กำลังเคลื่อนไหวไกลออกไปเรื่อย ๆ ”
“มันเหมือนกับการขยับเล็กน้อยส่งผลให้มวลก้อนพลังงานหรือความมหึมาของมัน สะท้อนไปทุกหย่อมหญ้า” ทั้งหมดสร้างความตกตะลึงให้ทั้งเชอรีและหัวหน้าโซลเจอร์เป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันที่พวกชารอนกำลังมุ่งหน้าไปคือสถานที่ที่กำลังเกิดเรื่องราวให้น่ากังวลพอ ๆ กัน ...กับความเป็น
ความตายของชอว์ ดาวเนอร์
‘ไม่ มัน...มันเป็นไปไม่ได้!’ ความคิดตัดพ้อที่กำลังถาโถมโจมตีความทระนงและความเย่อหยิ่งราวกับอำนาจที่ได้รับยิ่งใหญ่เหนือความเป็นไปได้ใด ๆ !
เธอพยายามจะเรียกคืนพลังงานที่หลุดออกจากการควบคุมไปจากเธอ แต่ทุกอย่างกลับเสมือนการดิ้นรนอันเปล่าประโยชน์ สัตว์ร้ายที่เคยสดุดีเธอต่างเริ่มไม่เชื่อฟังและหลุดจากอำนาจการควบคุม
สัตว์สติปัญญาต่ำหันทิศทางหลีกหนีจากสิ่งที่น่ากลัวออกไปทั้งที่...ภายในหัวของมันเองก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
หลังจากการแตกของขวดแก้วมรกตและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเฉียบพลัน ราชินีไซเรนเริ่มประสบปัญหาใหม่กับความมั่นคงเริ่มสั่นคลอนโอนอ่อนราวกับอำนาจของเธอถูกท้าทายจากความจริงที่ยอมรับไม่ได้
กระแสสัญญาณจิตที่ถูกแย่งชิงไปราวกับธารพลังงานที่กำลังไหล่เอ่อผ่านร่างกายที่งดงาม ทั้งหมดกำลังหลุดการควบคุมแรงสั่นสะเทือนของคราเคนยักษ์กำลังบ่อนทำลายและกระแทกกำแพงโดมน้ำ
มันถูกส่งผ่านแรงกระแทกอย่างรุนแรงไปทั่วพื้นผิวเบาบางของคลื่นน้ำ!
ในห้วงเวลาที่ดูเหมือนทุกอย่างจะหยุดนิ่งและเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ เสียงกระแสน้ำที่เคยไหลเวียนอย่างสงบนิ่งภายในโดมน้ำกลับเริ่มส่งเสียงความเลวทรามที่ไม่คุ้นเคย เริ่มต้นเพียงการกระเพื่อมเล็ก ๆ ที่สะบัดคลื่นอ่อน ๆ ออกไป คล้ายกับการพัดพาของคลื่นทะเลเบาบาง แต่เพียงไม่นานแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง! เริ่มก่อตัวขึ้นจากใต้ผิวอันบอบบาง
ร่องรอยความเบาบางของผิวน้ำที่เคลือบเอาไว้ ราวกับมีแรงกระทำบางสิ่งมุ่งจะทำลายกำแพงที่ปกป้องและกักขังดั่งกรงทองคำนี้ เสียงร้าวของแก้ว... ดังก้องขึ้นภายในความเงียบ น้ำที่เคยใสบริสุทธิ์เริ่มกลายเป็นสีที่หม่นหมอง คลื่นที่เคยสงบนิ่งกลับหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ความเสถียรภาพของโดมที่เคยแข็งแรงตั้งตระหง่านครอบครองพื้นที่ของเมืองโอเดลล์ เริ่มถูกคุกคามด้วยพลังมหาศาลที่ไม่อาจต่อต้านได้!
ตึง! ตึง!
เสียงรอยปริแตกขัดแย้งกับความอ่อนนิ่มดั่งฟองน้ำนุ่ม ๆ ดังก้องกังวานไปทั่วอากาศ น้ำหยดเล็ก ๆ ไหลซึมออกจากรอยปริแตกที่เกิดขึ้น รอยร้าวเล็ก ๆ ที่กำลังขยับแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว ราวกับใยแมงมุมที่กอบกุมแย่งชิงความสง่างามของโดมน้ำนี้ไป!
ตึง! ตึง!
ความตึงเครียดและแรงกระเพื่อมที่รุนแรงขึ้นทุกวินาที หนวดมากมายที่ทุบส่งแรงอันหนักอึ้งกระแทกกระทั่นกับผิวโดม!
ตึง! เพล้ง! เสียงแตกหักที่รุนแรงและดังมากกว่าครั้งใด แรงกดดันมหาศาลที่สะสมอยู่ภายในโดมถูกปลดปล่อยราวกับความอิสระจากแรงปรารถนา ผิวน้ำที่เคยสงบนิ่งกลับกลายเป็นเส้นสายของกระแสน้ำที่พัดพาไปทั่วทุกทิศทาง
ละอองหยาดน้ำกลับกลายเป็นเพียงฝนเม็ดน้อย ๆ ที่กำลังชะล้างความสิ้นหวังและมอบแสงสว่างแห่งชัยชนะแก่เมืองโอเดลล์!
ร่องรอยการปริแตกของโดมน้ำที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจและปราการสุดท้ายขาดออก มันให้ราชินีไซเรนกำลังอึ้งตะลึงกับความเป็นจริงข้างหน้า ทิ้งไว้เพียงซากของสิ่งที่เคยเป็นและน้ำที่เต็มไปด้วยพลังที่ไม่อาจควบคุมได้…!
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา