โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 50
ภายใต้ร่างกายที่นอนแนบดินสกปรก ผมตื่นขึ้นมาบนพื้นดินในโคลนตม ความเย็นและความหนักหน่วงของมันฝังความเย็นเอาไว้ที่ผิวสัมผัสของผม ท่ามกลางความมืดที่เบาบางที่ปกคลุมความคิดของผม เหมือนความพร่ามัวที่ปกคลุมความทรงจำ สายตาที่ผมสังเกตร่างกายของตนเอง...มันว่างเปล่า ว่างเปล่ามาก ๆ เหมือนผมก็ยังไม่รู้ว่าผมนั้นคือใคร...
สถานที่ที่ผมไม่รู้จัก ทั้งหมดมันมีเพียงความว่างเปล่าอันกว้างไกล ความเงียบสงัดดังเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบเบา ๆ ที่เหมือนเสียงที่ผมจะไม่มีวันได้ยิน แต่ผมกลับรู้สึกโหยหาและพยายามจะสดับรับฟังมันช้า ๆ
ลมหายใจที่เบาบางลดลงราวกับความไม่เป็นระเบียบที่ทับซ้อนกันมากมาย ความเหนื่อยล้าที่ถูกสะท้อนออกจากจิตใจของผมเอง... ทุกอย่างถูกเติมเต็มไปด้วยความเงียบ ราวกับที่แห่งนี้ถูกแบ่งแยกออกไป เสมือนเวลาและโชคชะตาจะไม่มีวันเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้
แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมกำลังตกอยู่ในห้วงการตัดสินใจบางอย่าง...
บางอย่างที่สำคัญมาก ๆ ...
กระแสความบริสุทธิ์หนึ่งที่แผjดเข้ามาทางความรู้สึกที่ขุ่นมัวของผม มันทั้งเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดราวกับกำลังเพิ่มขึ้น ผมพยายามจะซึมซับและทำความเข้าใจกับธารความรู้สึกนี้ ทว่ามันกลับทำให้ผมต้องดิ้นรนเหมือนกับการพยายามควบคุมความรู้สึกและความคิดที่ซ้อนทับกันมากมาย
แต่ยิ่งผมพยายามมากเท่าไหร่ ก็เหมือนความสับสนและความสงสัยจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า...
ภาพหลอนและความพร่ามัวราวกับเสียงกระซิบที่ไม่สามารถจับต้องได้ ความทรงจำที่ว่างเปล่าหรือเหตุผลที่ผมมาที่นี่ ทั้งหมดคืออะไร แรงสัมผัสอ่อน ๆ ที่ส่งมา มันเหมือนกับการพยายามที่จะฉุดรั้งผมเอาไว้...
ความอ้างว้างที่เฉยชา ริมฝีปากของผมกลับมีเลือดที่ไหลเล็ก ๆ ออกจากมุมปาก ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ทราบที่มา ความทรงจำที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในใจของผม
มันเหมือนกับผมเคยรู้จักกับใครสักคน... สักคนที่สำคัญต่อผมมาก ๆ ทว่าผมกลับจำเขาไม่ได้
ฝ่ามือที่กุมเอาไว้ที่หัวใจของผม จับจ้องไปยังแรงเต้นที่กลับน้อยลงเรื่อย ๆ ความพร่ามัวที่เกิดขึ้นภายในดวงตาของผม มันทำให้เสี้ยววินาทีหนึ่ง…ที่ความว่างเปล่าด้านข้าง
แปรเปลี่ยนเป็นสถานที่...สถานที่ห่างไกลออกไปมาก ๆ
หุบเขาอันกว้างใหญ่จรดทางเดินเรียงรายเต็มไปด้วยโพรงหญ้าและดอกไม้สีขาวสด ความน่าเกลียดหนึ่งเดียวของสถานที่แห่งนี้คือโคลนตมที่ผมกำลังดีดดิ้นตัวเองออกมา ต้นไม้ที่งอกเงยจากพื้นดิน และดอกไม้ที่พลิ้วไหวไปตามสายลม ทั้งหมดเหมือนกำลังเย้ยหยันผม โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามแต่กลับอ้างว้าง ความเงียบสงบที่โดดเดี่ยว ทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ไร้ก้นเหวมันทำให้รู้สึกถึงความสูงส่งแต่ลึก ๆ กลับรู้สึกถึงความขาดแคลน เหมือนก้นเหวที่ไม่มีวันเติมเต็ม
ความโยกเยกบนพื้นโลหะเปล่า ๆ ...ทำให้ผมรู้ว่ากำลังยืนอยู่บนยานพาหนะบางอย่าง
ยานพาหนะ ภายใต้แผ่นพื้นโลหะที่เงางาม การก้าวเดินแต่ละครั้งที่ทะลึ่งน้ำหนักกดลงดิน...บ้างก็ทำลายดอกไม้หรือต้นอ่อน ทว่ามันก็เติบโตขึ้นอีกครั้งงอกเงยจากต้นที่ตายจากไป... โครงสร้างที่ขัดเงาจนวาววับ เครื่องจักรที่กำลังทำงานส่งเสียงอันคุ้นเคย ทว่ากลับยังจำไม่ได้ ฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่ขบกันไปมาหรือกลไกอันซับซ้อนที่ผมยากจะเข้าใจได้ในตอนนี้ ทั้งหมดมันน่าดูคุ้นเคย
ควันไอน้ำที่พ่นออกมาจากท่อที่สูงลิ่วขึ้นไปจนผมไม่เห็นปลายทางของมัน ภายใต้ขอบหน้าต่างที่ผมยื่นตัวออกมาผมกำลังถูกไต่ขึ้นไปยังหน้าผา ข้อต่อแต่ละส่วนที่ยืดและหดหมุนได้อย่างอิสระกำลังเดินทางขึ้นไปได้อย่างสง่างาม
ทว่าท่ามกลางความชื้นชมที่ผมกำลังขึ้นไปยังจุดสูงสุด การกะพริบตาที่เคยชินกับทำให้ความเสื่อมทรามกัดกลืนเอาความเงางามและรูปลักษณ์ทั้งหมดไป เหลือเพียงผม...
อีกเพียงก้าวเดียวที่ตัวผมจะร่วงหล่น...ดิ่งลงเหวที่ไร้การเติมเต็ม จนกระทั่งเสียงหนึ่งปลุกผมขึ้นจากการจ้องมองหลุมลึกตรงหน้า
สดับฟัง “เจ้า...” เสียงที่หย่อนยานเนินนานเสมือนกับคำพูดที่ออกมาด้วยความไม่เข้าใจบางอย่างของเจ้าของ
“เจ้า...มันเร็วขนาดนั้นเลยหรือ เจ้าหนุ่ม?” เสียงพลิกกระดาษยามเมื่อผมจ้องมองไปที่เขา ตัวตนที่ผมไม่รู้จักและไม่คุ้นชิน ทว่าภายใต้ความสวยงามที่กลวงโบ๋ ดวงตาที่ผมมองไม่เห็น
แต่กลับส่งความรู้สึก...รู้สึกที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเอง
กังวลเหรอ ...ยังไม่ใช่
เข้าใจงั้นเหรอ ...ยังไม่ใช่
หรืออาจจะเป็นความกลัว
ทั้งหมดมัน...ยังไม่ใช่ ราวกับมวลความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาพร้อมกัน
.
.
ในช่วงเวลาเดียวกันอีกฟากฝั่งหนึ่ง...ท่ามกลางเศษซากความรุ่งเรือง
เสียงเร่งฝีเท้าที่กลับไวยิ่งขึ้นไปอีกระดับ...เพิ่มความตึงเครียดในชั้นบรรยากาศ อุปสรรคที่ขวางกั้นกับกำลังซ่อนเอาความลับบางอย่างเอาไว้ ทว่ามันก็ยังไม่สามารถสู้กับแรงภาวนาของมนุษย์ได้
ปลายเท้าที่สะกดกลั้นเอาความกระอักกระอ่วนภายในใจ ส่งแรงกระแทกกับพื้นดิน ร่างกายที่กรีดกรายไปมาบนอากาศ ปลายเท้าที่ย่อและกระโดดหลบหลีกบรรดาเศษซากที่กระเด็นกระดอนไปมา มือเรียวที่มีแผลเป็นสัมผัสเอาเศษซากที่พังทลาย ส่งเอาสัญญาณจิตอ่อน ๆ ของตัวเองกระแทกเอาเศษซากของอาคารที่บังเส้นทางขยับออกไป ขณะเดียวกัน
ก้อนอาคารชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่พลิ้วลอยราวกับเรื่องขัดแย้งของโลก ถูกสะบัดออกให้พ้นทางด้วยแรงระเบิด สิ่งประดิษฐ์ภูมิปัญญาของชาว์โรล กรอบสี่เหลี่ยมบรรจุเอาดินปืนและประกายไฟเล็ก ๆ ถูกโยนออกไปเพื่อสร้างแรงกระเพื่อมทางอากาศ ผลักเอาเศษก้อนน้ำหนักมหาศาลออกจากทาง
ปลายนิ้วและริมฝีปากสีแดงที่เลอะเล็กน้อย ควบคุมสัญญาณจิตแห่งความแหบแห้ง สลายก้อนเศษซาก อีกทั้งมือด้านหนึ่งกำลังถือปืนพกคู่ใจ สำหรับการปัดป้องเศษดินเศษหินที่พุ่งมาหาเธอ
ความร่วมมือที่ไม่ได้นัดหมายภายใต้สถานการณ์ที่น่าอึดอัด ขณะเดียวกันที่ทั้งสามกำลังมุ่งสนใจกับการผสานการร่วมมือ กระแทกเท้าลงพื้นสุดแรง ส่งเอาสัญญาณจิตกระแทกอาหารให้ร่วงหล่นออกไป ปืนที่ถูกบรรจุกระสุนระเบิดทำงานภายใต้หัวหน้าโซลเจอร์ หรือปลายเท้าที่เขย่ง ยืดและส่งแรงผ่านปลายเท้าเพื่อมุ่งต่อไป
เสียงเศษแก้วร้าวเล็ก ๆ ที่น่าเกลียดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ภายใต้ความงดงามของแสงอาทิตย์สีทองในเช้าวันใหม่ ช่วงเวลาที่ยาวนานที่ถูกสอดแสงผ่านช่องปริแตกเล็ก ๆ ของโดมน้ำที่เป็นดั่งกรงทอง
ทั้งหมดล้วนเป็นนิมิตที่ดีในอนาคตข้างหน้า
ร่องรอยการต่อสู้ที่มีให้เห็นอยู่ประปราย และมากขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายสถานที่แห่งการต่อสู้อยู่ไม่ไกล ความรู้สึกมหึมาที่กระแทกลงดินภายในความรู้สึกของชารอนก็หายไปแล้ว
เส้นแสงเล็ก ๆ และลมที่พัดผ่านไปเบา ๆ ทำให้ชารอนต้องยกเรียวแขนบังสายตาเล็กน้อย หรือเส้นผมที่ถูกปัดป่ายและจัดการให้เรียบร้อยของเชอรี
ทว่าพอพวกเข้ายิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ แต่กลับพบกับความสั่นไหวที่แปลกประหลาดเข้ามา
...ความแผ่วเบาและจังหวะที่สม่ำเสมอ มันทั้งเสมือนการดิ้นรนครั้งสุดท้าย
เสมือนความคุ้นชินของชารอนที่พึ่งผ่านมา
‘จะมีคนตายอีกแล้วงั้นเหรอ?’
“รีบหน่อย มีคนต้องการความช่วยเหลือ เขากำลังจะตาย...” เรื่องราวที่ชารอนแบ่งปันให้ทั้งสองฟังมันสร้างความตะลึงงันเป็นอย่างมาก ภายใต้ใบหน้าที่ราบเรียบแต่สายตาที่เบิกกว้างกลับทำให้รู้ว่าเชอรีก็รับรู้เรื่องนี้เหมือนกัน
รอยเชือดเฉือนและหยดเลือดรวมถึงแอ่งน้ำมากมายที่เอ่อล้นออกมา
ปลายเท้าที่ถูกเร่งสูงสุด สิ่งประดิษฐ์มากมายที่ถูกหยิบออกจากกระเป๋า เศษดินปืนและแรงระเบิดที่ส่งเสียงกัมปนาทไม่เว้นช่วง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงไปของสถานที่...
พวกเขาทั้งหมดพอจะเดาได้ เดาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในที่แห่งนี้..
รวมถึงทราบว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง...
แต่พวกเขาทั้งหมดอาจมาไม่ทันแล้ว...
ลมหายใจที่โรยรินมันแผ่วเบาจนเกือบจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสมันได้ ความตายที่เดินทางมา มันเฉียดใกล้และเร็วมากเกินไป เร็วซะจนพวกเขาอาจจะตั้งตัวไม่ทัน
และ...ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะไปถึง...
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา