โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 55
แสงสลัวเบาบางที่เคลื่อนไหวไปมาเล็ดลอดผ่านกรอบกระจก ส่องประกายเลือนรางรอบ ๆ ห้อง สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบทว่ากลับแฝงไปด้วยความไม่แน่นอนที่ยากจะอธิบาย แรงสั่นสะเทือนเบา ๆ ที่ทำเอาร่างกายเล็กขุ่นเคืองด้วยความไม่สบายตัว ซึ่งอาจเกิดจากการเคลื่อนตัวของเรือเหาะที่กำลังเดินทางไปไหนสักแห่ง บรรยากาศอันเย็นชื้นจากไอน้ำและโลหะที่เย็นเฉียบมันส่งผ่านความหนาวจากผิวสัมผัสซึ่งทำให้เด็กน้อยรู้สึกหนาวเล็กน้อย ความรู้สึกสับสนผ่านร่างกายและความเจ็บปวดเหนื่อยล้า ลามไปทั่วร่างกายน้อย
เสียงเปิดประตู คลิก! ชืบ! กลไกบาง ๆ ที่เผยประตูออก ร่างกายที่ยังอ่อนแอและสะบักสะบอมเล็กน้อยแม้ร่องรอยสกปรกจะหายไปแล้ว แต่อาการบาดเจ็บและบาดแผลที่ถูกเย็บด้วยโลหะ บางส่วนก็ยังมีสายท่อที่เชื่อมต่อกัน ส่งเสียงกึกก้องในหูเป็นจังหวะ
ร่างกายที่ไถลไปกับกำแพงเย็นชืด ผ้าห่มบาง ๆ ที่ห่อหุ้มร่างกาย พยุงตัวเองออกไปดูสถานการณ์ในตอนนี้
ความทรงจำเลือนรางที่พยายามจะนึกถึง ทว่ามันเหมือนกับการทุบบานประตูที่ไม่มีวันเปิดออก ราวกับม่านหมอกบาง ๆ ปกคลุมหนาแน่นปิดบังมันเอาไว้ ความเบาบางและความเจ็บปวดที่เจ็บแปล่บ ๆ ภายในหัว ทำให้มีฟฟ์เลิกคิดถึงมันไปก่อน
พลางสังเกตและหาสถานที่ที่ตนอยู่ สายตาเล็กที่มองลอดออกไปจากบานกระจกภายในเรือที่กำลังขยับเขยื้อน
ท่ามกลางเรือเหาะที่กำลังใช้ปลายขาโลหะขนาดยักษ์ด้วยล้อหมุนและฟันเฟืองขนาดใหญ่ เลียนแบบมาจากขาแมงมุม เสียงคลิก คลัก ที่มาจากการส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบสัมผัสกันไปมา หรือจะเป็นควันสีขาวจาง ๆ ที่กำลังร่องรอยออกไป ภายใต้ร่องรอยทางด้านที่เรือเหาะกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า ทำให้มีฟฟ์เห็นอะไรมากมายมากขึ้น
ข้างล่างคือเศษซากความสวยงาม เหลือเพียงเศษซากจริง ๆ ...
ภายในความคิดของเด็กน้อยที่หลับใหลไปนาน สายตาที่สอดส่องออกไปทำให้เกิดความคิดมากมาย...
ครั้งสุดท้ายที่เราจำได้คือ...เรากำลังอยู่กับคุณเชอรีบนหอคอยห้องเมืองโอเดลล์ อาคารเรือนกระจกสีเขียวซีด...
‘อืม...ตอนนี้มันอยู่ไหนแล้วนะ ไม่ใช่ว่าพังแล้วใช่ไหม’ ในขณะที่เจ้าเด็กพลางคิดหาคำตอบปลายนิ้วเล็ก ๆ ก็มักจะขบเกาบริเวณหัวหรือคางเล็กสำหรับอาการมึนงงที่เขาเจอ
ถ้าตัวเมืองยังขนาดนี้แล้วหอคอยจะขนาดไหน
ความเจ็บแปลบสายหนึ่งที่ถาโถมเข้ามาใส่เจ้าเด็กน้อยทำให้เขาต้องกุมขมับ โอดโอยกับความเจ็บปวดนี้
‘โอ๊ย...’
สายตาที่กำลังเพ็งเล็งออกไปเบี่ยงเบนความเจ็บปวดฉับพลัน พยายามจดจ้องคาดเดาสถานการณ์ในปัจจุบัน
‘อืม เจ็บ...’
ภายในสายตาของเด็กน้อยทำให้เห็นถึงคนมากมาย โดยพวกเขากำลังแบ่งจัดการหน้าที่ต่าง ๆ ภายใต้ความช่วยเหลือของหัวหน้าทีมโซลเจอร์และนายโซลเจอร์ทั้งหลาย เหล่าวาร์เชอน์น้อยใหญ่ที่กำลังขะมักเขม้น,เขม้นขะมักใช้สัญญาณจิตของตนในการทำงานซ่อมแซมอาคารในเมืองโอเดลล์อย่างเรียบง่าย
ทั้งหมดมันสร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเขา ...มากขึ้น
ท่ามกลางความวุ่นวายและครึกครื้นมากมายรอบข้าง ทว่ากับมีสิ่งขัดแย้งอย่างใหญ่หลวง...กลับมีหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใบหน้าเหม่อลอย เส้นผมสีบลอนซ์ที่สยายไปตามสายลมไม่ได้ถูกจัดแจงอย่างเช่นที่เคยเป็น ภายใต้เรียวฝ่ามือที่ไม่ได้ใส่ถุงมืออย่างที่เคยชิน รอยแผลเป็นเบาบางที่ยากจะสังเกตถูกเผยออกมาเล็กน้อย ในสายตาของหญิงสาวคนนั้น กระโปรงยาวที่มักจะถูกพาดไว้มากกว่าใส่กลับพลิ้วไหวสะบัดไปมา
บ่งบอกถึงความโดดเดี่ยวในใจมากแค่ไหน...
“พี่ครับ~” เสียงเรียกตะโกนดังขึ้น มันยังไม่สามารถปลุกหญิงสาวจากภวังค์ความคิดได้
เสียงเรียกเล็ก ๆ ของเด็กน้อย ส่งเสียงที่จะส่งไปถึงหญิงสาว
“พี่ชารอนครับ...” ปลายนิ้วเล็กและใบหน้าคุ้นชิน ความน่าเอ็นดูที่ส่งผ่านสายตาและรอยยิ้มน้อย ๆ ทั้งหมดอยู่เพียงด้านหลังของหญิงสาวแล้ว
ภายใต้ดวงตาสีเขียวซีดเศร้าหมองที่ยังคงเหม่อลอย หันหน้ามาช้า ๆ
ความเชื่องช้าของดวงตาสีเขียวที่กำลังขยายกว้าง เสมือนดวงดาวที่พบเจอกับประกายความหวังมากกว่าครั้งไหน ๆ
ความเชื่องช้าที่ร่างกายอันหุนหันพลันแล่น การกระทำใด ๆ ที่เคยทำไว้กลับสะบัดทิ้งลงอย่างไม่สนใจไยดี
ทรงผมสยายสีบลอนซ์ที่เสมือนจะซีดเซียว ราวกับพบสีสันเป็นของตนเองอีกครั้ง
พบเจอกับ...พระอาทิตย์ของเธอเอง
โอบกอดอบอุ่นที่ดึงเอาเด็กน้อยที่เธอรอคอยเข้ามากอดให้จมในวงแขนเรียว ทั้งหมดเกือบอาทิตย์ที่เธอกระวนกระวายกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ทั้งหมดมันคุ้มค่า!
เมื่อความขุ่นมัวในความคิดหายไป สิ่งที่ถูกแทนที่คือสติและโอบกอดที่ตามหา...ก็ถูกเติมเต็มราวกับคำวิงวอนได้รับการตอบรับ
โลกที่เสียงคนที่วิ่งวุ่นรอบตัวกลับชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดวงตาคู่เดิมที่เคยคับแคบกับเบิกกว้าง พบกับความสดใสที่เคยสูญหายไป เสียงพูดคุยตะโกนหรือความร้อนจากร่างกายของผู้มาใหม่อย่างวินตัน
“ไงตัวดี” รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่ประดับไว้บนใบหน้าคมเข้ม
ในตอนแรกหลังจากที่เขาฟื้นตัว พลางทำการบำบัดและการช่วยเหลือโดยโซลเจอร์เล็กน้อย ไม่นานก็ปลีกตัวไปตามหาใครคนหนึ่ง ทว่าเขาก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า มีเพียงข่าวสารที่บอกไว้ว่ายังไม่พบคนดังกล่าวเลย...ความเศร้าสร้อยที่ไม่ได้ตะโกนออกมาจากตัวเขาเพียงคนเดียว ไม่กี่วันก่อนที่เขาสังเกตชารอนหญิงสาวจิตแห่งดิน เขาก็จำได้ในทันทีว่าเธอคือคนที่ช่วยเขาตอนที่กำลังจะตาย
ความดีที่หลงเหลือ หรืออาจจะเป็นมนุษยสัมพันธ์ที่ดีถูกขุดขึ้นมาทำงาน พยายามทำความรู้จักกับเธอ
เพราะเธอเอง...ก็กำลังตามหาหญิงสาวคนนั้นเหมือนกัน
ในตอนนี้มันถึงเวลาที่ต้องทานอาหารเที่ยงและนมอุ่น ๆ สักแก้ว เขาจึงอาสาไปหยิบมันมาให้และทิ้งให้เธอนั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ของเมืองโอเดลล์ ทว่าขากลับเขาถือถาดอาหารมาให้ชารอน สายตาของเขาก็สบเข้ากับเด็กน้อยที่เขาจำได้ดี
‘เจ้าเด็กแสบ’ ...แต่หมายถึงเขาทำเจ้าเด็กไว้แสบเลย สอดส่องไปยังผู้มาใหม่ที่มาก่อนตน
วินตันยกถาดอาหารของตนให้เด็กน้อย ทว่าความเจ็บปวดของเจ้าตัวเด็กน้อยเองยังคงพอทานได้แค่ข้าวต้มอ่อน ๆ และสาหร่ายที่ปะปนไปทั่วเท่านั้น อาหารในถาดเล็กถูกจัดตกแต่งราวกับความใส่ใจในอาหารส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ประการตาที่ยินดีที่เกิดขึ้น...
ทำให้ความอยากอาหารของชารอนกลับมาเล็กน้อย ท่าทีที่ดื่มด่ำกับอาหารราวกับไม่มีปัญหาและเรื่องทุกข์ร้อนอะไร ทำให้เธอแอบรู้สึกผิดเล็กน้อย...
ท่ามกลางการขะมักเขม้นกับการกิน สายตาที่มองไปยังเด็กน้อย...ยังคงมีความหมายมากมาย
“น้องมีฟฟ์คะ” เสียงเล็ก ๆ ที่อ่อนแอของชารอนเรียกความรู้สึกและใบหน้าเด็กน้อยขึ้นมาสบตา
“นี้ก็ผ่านมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว” ธารกระแสความรู้สึกมากมายที่รู้สึกผิด จุกขึ้นมาที่อก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยออกไป
“บอกไปเถอะ” ...” ตัวดี พี่สาวแกเรายังหาไม่พบ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง” เสียงงั่มของขนมปังและการดื่มนมสด ทำให้โลกเหมือนจะสงบลง
...ทว่าท้องฟ้าที่สดใส เสียงเครื่องจักรที่ดังก้องหรือคลื่นลมเบา ๆ ที่พัดเอากลิ่นหญ้ากลิ่นดินและดอกไม้ปลิวไสว ทั้งหมดมันเหมือนกำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ
ช้าลงจนสติที่เริ่มคืนกลับมาของเด็กน้อย...
ทั้งหมดมันกลับชัดเจนมากขึ้น ความรู้สึกที่กระจัดกระจายราวกับถูกกลืนไปกับวังวนฉุดรั้งให้จมดิ่งลง
“พี่เดอเลีย? ...ครับ อะไรนะ? ...” สายตาที่เบิกตากว้าง ความเป็นจริงที่รุนแรงทำให้มีฟฟ์อาจจะยังรับความจริงไม่ทัน
ชารอนเห็นน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาจากตาของเด็กน้อยของเธอ “มานี่มา...กอดพี่มา”
น้ำตาที่ไหลรินของทั้งคู่ทำให้ ขนมปังและนมสดที่อร่อยกลับจืดชืดลงไปเลยภายในความคิดของวินตัน เจ้าหนุ่มตัวดีในสถานการณ์แห่งนี้
“เหมือนฉันจะทำอะไรผิดไปนะ ขอโทษที...”
“แต่ฉันต้องขอบคุณนายเลยนะ” นิ้วหยาบ ๆ จิ้มลงที่อกของมีฟฟ์ “สิ่งที่นายพูดเจาะแจะกับพี่สาวนาย”
“มันทำให้ฉันรอด”
... “เก่งนะ ตัวแค่นี้มีความรู้เยอะจริง สาหร่ายที่แกพูดมันทำให้ชารอนใช้มันเพื่อ...ช่วยฉัน” สายตาและปากที่ยังขมุบขมิบอย่างเสียมารยาท
“ฉันรอดได้เพราะนายเลย และก็ขอโทษด้วยนะสำหรับเรื่องเมื่อเดือนก่อน ๆ ฉันไม่ได้คิดจะฆ่านายจริงๆ” ท่าทีที่ไม่แยแส แต่การขอบคุณก็มาจากใจ สายตาที่มองไปที่มีฟฟ์ดีขึ้นมาอีกระดับ
“ฉันไม่รู้ว่าควรจะบอกสิ่งนี้กับพวกเธอในเวลานี้ไหม” แก้วนมสดที่ถูกยกดื่ม ปริมาณที่พร่องลงเล็กน้อยบ่งบอกถึงความชอบส่วนตัว
ภายใต้โอบกอดที่เนิ่นนาน สองพี่น้องยังคงรู้สึกเศร้าสร้อยกับเรื่องของพี่เดอเลีย...
“แต่กริชของฉัน...สัญญาณเหมือนขาดหายไป มันเหมือนกับการจมน้ำอะไรสักอย่าง” ... สิ่งนี้ทำให้ชารอนอึ้งชั่วขณะ
‘อะไรนะ? แล้วเรื่องแบบนี้พึ่งมาบอก’ ท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างทันที มือคู่หนึ่งที่เขย่าวินตันอย่างรุนแรง “แล้วยังไงต่อ!” สายตาที่เบิกโพลง
“เอ่อ... เอามือลงหน่อยนะ เธอกำลังถือซ่อมขึ้นมาด้วย” ปลายนิ้วที่กดเอาทิศทางของซ่อมออกไปจากตน
“กริชของฉันเชื่อมกับฉัน ครึ่งหนึ่งของมันคือสัญญาณจิตของฉัน”
“ถ้าจำไม่ผิด...เจ้าตัวดียืมกริชฉันไปให้เดอเลียใช่ไหม” สายตาและความเงียบของมีฟฟ์บ่งบอกอะไรหลาย ๆ อย่าง ความหวังในดวงตาของชารอนทำให้เกิดประกายขึ้นอีกครั้ง
“ทั้งหมดมันหายไป”
”ฉันคิดว่า มันอาจจะจมน้ำ...”
“จมน้ำ สักแห่งในเมืองโอเดลล์”
----------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา