โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 57
ตึก กึก ... โถงทางเดินยาวเหยียดของเหรือเหาะอันหรูหรา พื้นไม้เงางามแวววาวสะท้อนแสงสีจากโคมไฟระย้าที่ประดับอยู่ตลอดทางเดิน ปลายส้นสูงคู่สวยดังขึ้นสดับเอาความเงียบงันของโถงนี้ออกไป เสียงคลิกที่มั่นคงและเชื่องช้าย่างกายราวกับกรีดกรายร่างกายล้อเลียนความงามที่เป็นไปได้
เสียงของรองเท้าคู่สวยดึงดูดและเย้ายวนมากกว่าใคร ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมสูงศักดิ์สีแดงเจิดจ้าคลี่เป็นรอยยิ้มเบาบาง แฝงด้วยเสน่ห์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ปลายเท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงลายลูกไม้สีดำเดินอย่างมั่นใจ ส้นแหลมที่จะส่งเสียงกึกก้องทุกครั้งที่สัมผัสกับพื้นไม้สลัก ท่วงท่าที่ทิ้งไว้หรือลมหายใจที่นุ่มนวลผสมผสานกับใบหน้าอันซับซ้อน ทำให้บรรยากาศรอบตัวเธอยิ่งทวีความเหลือร้ายและน่าหลงใหล
ภายใต้ปรายตาคมที่สั่นไหวไปกับแสงเล็ดลอดจากบานหน้าต่างหรูของเรือเหาะ ร่างกายที่เคลื่อนไหวอย่างพลิ้วไหวเหมือนการเต้นรำกับเสียงดนตรีในจินตนาการ ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ประดับไว้บนอากาศที่พัดผ่าน
ธารดวงตาที่งดงามและส่องสว่างราวกับการถูกฝึกมาเพื่อเป็นที่หนึ่ง ทุกสิ่งล้วนสะท้อนถึงความเย้ายวนและอำนาจเหลือล้นที่เธอถือครองไว้บนบ่าระหง
ความไม่ประสีประสาที่ถูกเพ็งเล็งโดยสายตาคม ใบหน้าที่เชิดขึ้นจนเสมือนการกดหัวลงต่ำของผู้ที่อยู่ต่อหน้าเธอ ใฝ่ทรงเสน่ห์ใต้ตาสีสวย สะท้อนภาพออกไปจากเรือเหาะลำนี้
สะท้อนถึงพวกกลุ่มเจ้าเด็กที่น่ารำคาญ ที่เกาะกลุ่มกันวิ่งไปที่ไหนสักที่
‘...’
สายตาที่กำกวมมากล้นไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะพินิจพิจารณาถึงความลับที่ปกคลุมไปทั่วหัวใจ
ความไม่เข้าใจและคลื่นน้ำเบาบางในหัวใจที่แห้งแล้งมันทำให้เธอไม่เข้าใจตัวเอง หากย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา ...การถล่มของหอโอเดลล์ มันเป็นอะไรที่เธอยากจะอธิบายกับตัวเองถึงความรู้สึกโง่งมที่เกิดขึ้น
‘สิ่งที่ฉันรู้สึก มันเหมือนกับเรื่องที่ยังไม่ใช่...ในเวลานี้’ สายตาที่สั่นเครือของเชอรีหรือธารแห่งวงวันที่สะท้อนความวับแววของบานกระจกหรู
‘อะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเธอรู้สึกอย่างกับ...ไม่เคยรู้จักตัวเองเลย’ ... ทั้งหมดมันเหมือนกับอะไรสักอย่างที่เธออยากจะดึงมันออกมา ทั้งไม่เข้าใจและยังสร้างความโง่งมให้กับเธอเป็นอย่างมาก
ปลายส้นสูงสีเข้มที่กำลังย่างก้าวอย่างมั่นคงส่งผลให้หน้าอกหน้าใจสะเทือนอย่างเกินพอดี ทว่าก็มีพัดสีดำรูปลักษณ์สวยงามที่กำลังโบกสะบัดไปมาเบี่ยงเบนความเสน่ห์หาที่ไม่ได้โปรยทิ้งไว้อย่างเรี่ยราด เส้นผมถูกลมเบา ๆ ที่ถูกจัดแต่งอย่างดีพลิ้วไหวไปตามแรงก้าวเดินหรือลมที่พัดผ่านเบา ๆ
ห้วงความคิดมากมายภายในหัวเล็ก ๆ เกิดความไม่พึงใจที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเธอ สิ่งที่เธอไม่ชอบคือความไม่มั่นคงและความอ่อนแอที่แสดงผ่านอารมณ์ การก้าวเดินที่โดดเดี่ยวและอ้างว้างไล่หลังเธออยู่ร่ำไร...
คลิก...เธอใช้ปลายพัดงามกดลงที่ปุ่มด้านหนึ่งของประตู บานประตูบานเก่าที่น่าคุ้นเคยเปิดออกทำให้พบกับห้องพักผ่อนสถานที่สงบจิตใจ? หรือสถานที่ปลีกวิเวก
เธอล้วนไม่สนใจทั้งนั้น
ผนังห้องที่ถูกบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีเลือดหมูราวความหนักแน่นและเน้นย้ำถึงตัวตน ผ้าม่านเบาบางที่ปิดแน่นบดบังแสงอาทิตย์ที่สอดแสงเข้ามา ความมืดสลัวทำให้เห็นพื้นหินอ่อนลวดลายสีเทาหรือเส้นสายของกริชทองที่ถูกแต่งเติมเอาไว้ ลวดลายอ่อนช้อยที่เคยสะท้อนความงามการสลักและความประณีต แต่บัดนี้กลับรู้สึกเย็นเฉียบไปถึงกระดูกยามเมื่อผิวเท้าน้อย ๆ สัมผัส ทั้งหมดมันปราศจากความอบอุ่นของการใช้ชีวิต...
เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกประดับและแกะสลักด้วยไม้ลวดลายซับซ้อน เก้าอี้บุนวมสีเข้มที่ไปด้วยกันกับผนังสีเลือดหมู โต๊ะเขียนหนังสือที่ไม่เคยเขียนจดหมายส่งถึงใคร เอกสารและปากกาหมึกซึมที่มักจะขีดฆ่าชีวิตผ่านตัวอักษรราวกับเป็นเรื่องเคยชิน
ความสวยงามและน่ารังเกียจของโคมไฟระย้าที่แขวนไว้ราวการล้อเลียนของสิ่งเอกเทศในห้องแห่งนี้ แสงไฟที่ออกมากลับไม่ได้ทดแทนแสงอันแรงกล้าของพระอาทิตย์ แต่กลับอ่อนแรงและด้อยค่าราวกับแสงสว่างที่กำลังจะดับดิ้นลง ความมืดที่ถูกคืบคลานไปทุก ๆ ส่วนทำให้ใบหน้างามที่ไร้จุดด่างพร้อยต้องมืดครึ้มลงไปด้วยเฉกเช่นเดียวกัน
เสื้อผ้าโออ่าที่ถูกพาดไว้บนโซฟาหรูหรา ความงดงามและรายละเอียดที่เกินพอดี ทั้งหมดมันไร้ไออุ่นราวกับความจืดชืดของสิ่งที่ทำเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
แจกันที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมุมหนึ่งราวกับคำวิงวอนต่อเจ้าของห้องให้มีที่พักพิงอันน้อยนิดให้กับนิด ดอกไม้ที่เคยสดใสที่มักจะมีแม่บ้านหรือสาวรับใช้ผลัดเปลี่ยน บัดนี้แห้งเหี่ยวและปราศจากความรัก ความสามารถเพียงอย่างเดียวที่หลงเหลือไว้คือความเลวทรามของความแห้งแล้งที่จะกดย้ำถึงตัวตนของหญิงสาวเจ้าของห้อง
ภาพวาดที่ประดับไว้ มันทั้งงดงามแต่ก็หม่นหมอง ภาพลักษณ์ดังคำสาปที่ร่ายเอาไว้ให้ภาพที่วาดภายใต้ความต้องการที่จะส่งต่อความรัก ทว่าสิ่งที่ออกมามีเพียงความทุกข์และความทรมาน
มุมห้องและถ้วยน้ำชาแก้วโปรดที่มักวางไว้ กลับกลายเป็นเพียงกรงทองคำที่สง่างงาม ทว่าทั้งหมดมันเย็นชา...
เสียงปิดประตูเบา ๆ ที่ดังขึ้น ราวกับโลกของเชอรี เดอโรซ์...ถูกกั้นไว้ด้วยประตูโลหะที่ถูกบุทับด้วยผ้ากำมะหยี่หนาแน่นและแข็งแรงดุจเหล็กกล้า
ปลายเท้าที่เขย่งขึ้นเล็กน้อยและรองเท้าคู่สวยส้นสูงที่ถูกถอดทิ้งไว้ เรียวแขนและมือที่ปัดป่ายไปมาบนอากาศราวกับการเต้น ท่าการเตรียมการที่ถูกทำจนเกลียดชังมันเข้าไส้ ทว่าก็มีเพียงเสียงนี้ที่ทำให้เธอยังคงมีชีวิตต่อไปได้...
ท่าทีแข็งกระด้างที่ถูกแสดงออกไป ทว่าการต่อสู้ประชิดตัวก็มีเพียงมันและความยืดหยุ่นของร่างกายทำให้เธอรอดมาได้ในทุกครั้ง
สายตาที่จรดจ้องมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่... มันทั้งเฉยชาและอ้างว้าง
เรียวนิ้วงามเลื่อนสายคล้องริบบิ้นสีเขียวที่รัดแน่นไว้บนบ่า เลื่อนมันลงอย่างเชื่องช้า เนื้อผ้าที่เคยโอบกอดผิวเนียนถูกละทิ้งไว้อย่างนุ่มนวล สายคล้ายเสื้อด้านในที่เปล่าเปลี่ยวถูกปลายเล็บปัดออกเล็กน้อย สายเสื้อที่เบาบางคลี่ตัวลูบไล้ไปตามเรียววงแขนเล็ก เกลียวผมที่ถูกจัดแต่งและประดับไว้ด้วยเครื่องประดับผมถูกปลดระวางไร้การปรุงแต่งใด ๆ อีก
เธอหยิ่งนิ่งเล็กน้อย พลางจ้องมองสัดส่วนและความเว้านู้นอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งหมดมันดูเหมือนจะส่งเสริมความงามและความภาคภูมิ
ทว่า...รอยแผลเป็นเบาบางที่ไม่เคยถูกลบไปตามกาลเวลา
มันยังคงตอกย้ำถึงความไม่สมบูรณ์แบบของเธอ
ตุ้มหูที่เคยห้อยอยู่บนนั้นถูกถอดออกอย่างเบามือ เสียงโลหะกระทบกันเบา ๆ แทรกซ้อนในความเงียบเชียบ วางทั้งหมดไว้อย่างไม่ไยดีบนโต๊ะเครื่องแป้งและเครื่องประทินโฉม ราวกับการปลดระวางซึ่งอำนาจใด ๆ
ปลดระวางจากความแข็งแกร่งที่ว่างเปล่า
“ฉันมันอ่อนแอจริง ๆ อ่อนแอมาตลอด...”
สายเสื้อในลายกุหลาบที่รัดกุมส่วนที่อันตรายถูกปลดออกอย่างช้า ๆ โดยมือเรียวสวยของหญิงสาว ผ้าลูกไม้ที่เคยโอบอุ้มความงามค่อย ๆ ละทิ้งหน้าที่ที่เคยทำ ปล่อยให้ความงามที่เคยปกปิดมานานเผยโฉมถึงความงอนสวยและเว้าวอนถึงความงามที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีได้ รูปทรงโค้งเว้าที่ซ่อนเร้นภายใต้ผ้าชิ้นบางเบามีจุดไฝเสน่ห์ที่เสริมสร้างความเย้ายวนอย่างหาที่สุดไม่ได้
ปลายกระโปรงที่ถูกดึงรั้งเอาริบบิ้นที่เคยรัดแน่น คลายตัวเบาบางลูบไล้ไปตามกรีบผ้ากำมะหยี่ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ นิ้วงามที่เกรี้ยวไล้ไปกับการคลี่ริบบิ้นสีงานช้าง กระโปรงยาวที่ถูกปลดออกจากตะขอด้านหลัง ถูกชโลมร่วงโรยสัมผัสผิวพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบด้านล่าง
แม้จะดูงดงามและเย้ายวนทว่าในอิริยาบถ เธอชั่งดูเฉยชา...
สายรัดหนังสีงามที่ถูกซุกซ่อนไว้ใต้กระโปรงทรงงาม มันถูกซ่อนเร้นราวกับปราการสุดท้าย เสียงคลิกของการปลดระวางสายเข็มขัดที่รัดแน่น ความอวบของเรียวขาทำให้เกิดร่องรอยที่เด่นชัดขึ้นของสิ่งที่พึ่งจากไป กระบอกปืนมอร์เดร็ดที่ถูกวางไว้บนโซฟา หรือกระบอกปืนพกที่วางไว้ที่เครื่องแป้ง
ทั้งหมดมันอันตราย...อันตรายราวกับเธอป้องกันตัวจากบางอย่าง...
อาวุธมากมายที่ซ่อนเอาไว้ ทั้งหมดถูกปลดระวางทิ้งไว้อย่างเฉยชา
ทิ้งไว้เพียงเชอรี เดอโรซ์
กายงามที่เป็นเพียงแค่หญิงสาวน้อยคนหนึ่งที่ไร้การปรุงแต่ง ความงามภายใต้ความเฉยชาและเย็นชืด
ทั้งหมดโหยหาหรือการสลัดออกซึ่งความอ้างว้างและโดดเดี่ยว
ปรารถนาเป็นเพียงแค่ เชอรี...
-----------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา