โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 59
เสียงตะโกนและรอยเหยียบย่ำที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้คนที่กำลังสลบอยู่ต้องปรือตาเล็กน้อยพบใบหน้าที่เคยชิน หัวใจที่กำลังสั่นระห่ำระส่ายก็พอจะทุเลาลงได้ เปลือกตาหนักที่ยังคงทำหน้าที่ได้ดี ปิดลงอย่างเชื่องช้าท่ามกลางความสบายใจใด ๆ ที่รู้สึกได้
ความเงียบงันที่ค่อย ๆ ตะโกนภายใต้ความทรงจำที่กำลังเล่นบรรเลงผ่านความฝันที่เคยลืมเลือนไป
“เจอเดอเลียแล้ว! ชารอนเจ้าเด็กมาทางนี้” วินตันตะโกนเรียกเมื่อเขาเจออะไรบางอย่างคล้ายคน
เส้นผมที่อยู่ในความทรงจำหรือใบหน้าที่เขาจำได้ นี้คือเดอเลีย...
ชารอนที่คลุกเข่าลงข้าง ๆ ร่างที่ไร้สติของเดอเลีย ร่างกายที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ผมเปียกโชกที่พันกันบนใบหน้า
“ใช่...” เสียงที่สั่นเครือยังคงกล่าวต่อไป “คุณเดอเลียจริง ๆ ” น้ำตาที่เริ่มคลอเอ่อล้นออกมา
เสียงตบแก้มเบา ๆ ของวินตันที่พยายามจะปลุกหญิงสาว... หรือนิ้วเล็กที่พยายามค้ำบริเวณคอและทาบไว้ที่จมูกสวย
“พี่เดอเลียยังไม่ตายครับ” การกระทำที่เปลี่ยนไปทำให้วินตันหันมามองแผ่นหลังของเจ้าเด็กที่กำลังพูดปลอบใจกับชารอน ‘ภายในไม่กี่เดือน จากเจ้าเด็กที่หลบข้างหลัง...ตอนนี้กล้าที่จะออกมาทำอะไรแบบนี้แล้วเหรอ?’ ท่าทีที่สะบัดเอาความคิดออกไป
เรื่องกังวลและเรื่องน่าฉงนที่น่าสงสัยไม่ได้อยู่ในสายตาและการสังเกตการณ์ของชารอนเลย เธอกำลังฟุ้งซ่านเกินกว่าจะรับทราบจุดนี้ได้
“น้องกำลังทำอะไร?” ชารอนและวินตันที่กำลังสังเกตการณ์กระทำของคนที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าที่เขาพกมาด้วย ด้วยท่าทีที่มึนงงและไม่เข้าใจ
“ดูนี่นะครับ...พี่”
กระบอกทรงลูกบาศก์ถูกหยิบขึ้นจากกระเป๋า พร้อมทั้งหลอดแก้วอะไรบางอย่าง...
“พี่ครับ ผมขอยืมสัญญาณจิตพี่หน่อย” ท่าทีความสงบนิ่ง กับมือที่กวัดไกวกับการค้นหาอุปกรณ์ด้วยท่าทีทะมัดทะแมง อีกทั้งเจ้าเด็กนี้ยังมองมา บอกสัญญาณให้ข้าจุดไฟดวงเล็ก ๆ ให้เขา
เจ้าเด็กน้อยที่สาละวันกับการเอาพืชพันธุ์ที่ข้าไม่เข้าใจ บดขยี้ไปกับอุปกรณ์โลหะที่เจ้าเด็กนี้พกมาตลอดเวลามั้ง?
หยดน้ำที่ถูกหยอดใส่หลอดแก้ว วนมันไปมาบนเปลวไฟจากนิ้วของข้า มันดูน่าประหลาดว่าไหม?
พอได้ที่ในความคิดของมัน เจ้าเด็กนั้นก็หยอดใส่พืชลักษณะใบเขียวที่แกะออกจากลูกบาศก์ สะบัดไปมาบริเวณจมูกของเดอเลีย ท่าทีที่เหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย รอยยุบขึ้นลงสม่ำเสมอบริเวณหน้าอก ทำให้ข้ารู้ว่า...เจ้าเด็กนั้นช่วยให้เดอเลียหายใจถนัดขึ้น
“ผม...ผมทำให้พี่เขาหายใจโล่งขึ้น” มีฟฟ์กล่าวด้วยความอ่อนน้อม
“ดี” คำตอบห้วน ๆ ของวินตันทำให้บรรยากาศในบริเวณนั้นดีขึ้นทันตา “เรากลับกันเถอะ...ได้ตัวเธอมาแล้ว”
ร่างกายที่ถูกแบกด้วยแก๊งร่วมทุกข์ร่วมสุข ความยากลำบากของวินตันที่อุ้มเดอเลียห่ามไว้บนบ่า
ภายใต้ความคิดของชารอน คิดว่าไอเจ้าวินตันนี้ไม่มีความโรแมนติกใด ๆ เลย มันไม่เคยอยู่ในสมองกล้ามเนื้อของเขาเลยเส้นผมที่ปัดป่ายไปมาและสายตาที่ไร้คำอธิบายมากมายของชารอน มันเป็นทั้งความสบายใจและความไม่สบายใจในเวลาเดียวกัน
อารมณ์ที่ปลดปลงลงได้ ทว่าก็เหมือนไม่ ท่าทีที่ไม่ปกติของเดอเลียทำให้เธอยังคงปล่อยวางไม่ได้ภายใต้มือเล็กที่บีบส่งแรงกอบกุมกับมือของน้องชายในกลุ่ม
เดอเลียถูกหามกลับมาที่ค่าย พร้อมการปฐมพยายาลโดยโซลเจอร์ที่มากประสบการณ์ การทำงานที่ฉับไวและรวดเร็ว ทว่าสิ่งที่น่าแปลกใจในเหตุการณ์นี้คือ...เดอเลียไม่ได้มีความผิดปกติอะไรเลย มันเหมือนกับเธอไม่ได้ต่อสู้หรือบาดเจ็บอะไรเลย
ความวุ่นวายและความดีใจทำให้ทุกคนไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งแปลกประหลาดของปราการนี้
ภายใต้ความนิ่งเงียบของเด็กที่อายุน้อยที่สุดในค่าย สายตาที่สงบเงียบราวกับเขามีความลับอะไรบางอย่าง...
ภายในวันนั้นเองที่เรื่องราวมากมายกำลังขับเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ ท่ามกลางการเตรียมตัวเฉลิมฉลองที่ผ่านพ้นสงครามใหญ่ของเมืองโอเดลล์ รูปลักษณ์ที่เริ่มมีเค้าโครงขึ้นมาใหม่ และการทำงานที่รวดเร็วภายใต้ความเต็มใจของเหล่าโซลเจอร์น้อยใหญ่ที่ประหนึ่งเป็นประชาชนของเมืองแห่งนี้เอง
หรือเหล่าวาร์เชอน์ที่กำลังประลองจับจองคู่ต่อสู้ที่หาได้ยาก โอกาสที่จะได้พบปะการท้าชิงที่น้อยครั้งมักจะได้ถูกบีบบังคับมากกว่า ทว่าครั้งนี้กลับเป็นการเต็มใจเพื่อการฝึกปรนฝีมือให้ชำนาญและเตรียมพร้อม
เตรียมพร้อม...สำหรับศึกที่อาจจะมาถึง
มาถึงอีกครั้ง...
ชารอนและมีฟฟ์ส่งเดอเลียเข้านอนหลังอาการภาพรวมของเธอดีขึ้นแต่ยังคงอยู่ภายในสายตาของเหล่าผู้รักษา โดยในตอนนี้...เดอเลียก็ยังไม่ได้สติเลย
มือเล็กที่เอื้อมไปแตะส่งสัญญาณบางอย่าง “พี่เดอเลียจะดีขึ้นครับ พวกเรารู้” รอยยิ้มคลี่ตัวเบาบางประดับไว้บนใบหน้าของเด็กน้อยที่เติบโตขึ้นอีกระดับ ความอ่อนแอที่ถูกกระตุ้นด้วยอะไรบางอย่าง มันทำให้ชารอนรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย
“แน่นอน คุณเดอเลียจะตื่นขึ้นมา...พี่เชื่อว่าอย่างงั้น” ...” น้องก็ไปพักผ่อนกันเถอะ พึ่งฟื้นมาไม่นานก็ต้องรีบวิ่งไปกับพี่แล้ว ไม่เป็นอะไรนะ”
“ผมไม่เป็นอะไรเลยครับพี่ ดีเหมือนกันครับ ผมได้ออกกำลังกายด้วย” ท่าทีที่สดใสและการเบ่งกล้ามน้อย ๆ อวดหญิงสาว นั่นเป็นการกระทำที่ทำให้เธอดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ภายในใจของหญิงสาวคงมีอะไรที่อยากจะพูดมากมาย แต่ปล่อยให้รอยยิ้มที่ปรากฏไว้ได้กล่าวออกไปมากกว่า...
‘ดีใจที่ทุกคนปลอดภัย...ดีใจที่ทุกคนได้กลับมา’
มีเพียงบทสนทนาที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนกันในค่ำคืนนี้และแยกย้ายกันไปนอนพักผ่อนของตน
ทว่ามีอีกหนึ่งคนที่ไม่ได้เข้าร่วมในบทสนทนาดังกล่าว...ภายใต้มีดที่กำลังหมุนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เสียงคมที่เฉือนผ่านอากาศสร้างเงาวาววับจากคมสะท้อนแสงอาทิตย์ตกดินเป็นประกายดาว
สายตาที่เหม่อลอยออกไปทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้กำลังสนใจมีดที่กำลังถูกควงผ่านนิ้วมือด้วยความคล่องแคล่วเลย...
‘ไอเจ้าสร้อยเจ้าปัญหา ข้าเจอแกแล้วนะ’ พลางนึกถึงขณะที่กำลังหามร่างกายของเดอเลียกลับมา เครื่องประดับที่เข้าทำหายที่เขาตามหาอยู่นาน เส้นโซ่เล็ก ๆ ที่ประดับด้วยคริสตัสสีฟ้า
‘อยู่ที่เธอนี้เอง’ เขาพลางหยิบมันออกมาอย่างเชื่องช้า พลางพิจารณาอย่างถี่ถ้วน...
“ซนจังเลยนะ...” สายตาที่มากความรู้สึกกับสร้อยเส้นนี้
“ทว่า...ตอนนี้แกไม่ใช่ของฉัน” ขาแกร่งของเขาขยับเบา ๆ ขณะลุกขึ้นจากมุมหนึ่งที่นั่ง กางเกงสีเข้มและเสื้อเชิ้ตขาวพลิ้วเล็กน้อยตามแรงขยับเขยื้อน เข็มขัดหนังที่รัดแน่นไว้กับเอวเผยให้เห็นอุปกรณ์ที่เขามักพกติดตัวอยู่เสมอ ในกระเป๋าเล็ก ๆ ข้างขา กระทบกันเบา ๆ ตามจังหวะก้าวเดินที่หนักแน่นและเด็ดเดี่ยว ทว่าก็มีความสับสนผ่านธารสายตาคม
ความเหม่อลอยที่ดลใจให้ร่างกายสีแทนอวดโฉมกล้ามเนื้อของชายฉกรรจ์ยืนอืออึ้งอยู่นาน หน้าประตูบ้านสวยของห้องห้องหนึ่ง ปลายนิ้วหยาบกร้านที่กำลังจะเคาะเข้าไป...
มือที่หยุดชะงักเล็กน้อย เร็วเท่าความคิดสายหนึ่งของเขาเอง
‘ถ้าข้าเปิดเข้าไปเลย...’ วินตันทำหน้าฉงนพลางเกาคางเล็กน้อย ‘มันไม่ใช่การเข้าพบเป็นทางการ ไม่เป็นอะไรหรอก’ ...นิ้วเรียวที่จุดไฟน้อย ๆ บีบอัดมันและแผ่ดมันเข้าไปยังกลไกของบานประตูนี้ การบีบคั้นของอากาศความหนาแน่นกว่าทำให้เกิดอากาศมวลน้อย ๆ ผลักกลอนประตูที่สลักไว้
เสียงคลิกเบา ๆ ของกลไกบานประตูนี้บ่งบอกถึงปราการที่ถูกปลดออก
‘อื้ม’... “ที่นี่มันคุมกันหนาแน่นจริง ๆ” เสียงเปิดออกของประตูส่งเสียงแผ่วเบา ไม่อาจปลุกบุคคลที่กำลังหลับพริมอยู่
เงามืดที่สาดส่อง เผยให้เห็นดวงตาคมสีทองที่กำลังจรดลงไปยัง ใบหน้าสะสวยหรือเส้นผมสีขาว มันทั้งมากมายด้วยความรู้สึก หรือคำพูดที่ไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง
มือแข็งแกร่งที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบสร้อยที่สำคัญกับเขามากที่สุด... พลางวางมันบนโต๊ะข้างที่นอนอย่างแผ่วเบา
ก่อนที่เขาจะเดินออกไปด้วยความเงียบเชียบ มันทั้งเร่งรีบและรีบร้อน ไม่วายที่จะหันกลับมามองทั้งใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังหลับหรือสร้อยที่หายไปของเขา ก่อนจะจากไปในที่สุด...
ไม่นานความสงบก็กลับมาเยือนภายในห้องพักผ่อนของเดอเลีย เสียงกลไกที่ถูกปลดปราการก่อนหน้าถูกนิ้วหนา กดฟันเฟืองเพื่อให้มันกลับมาทำงานอีกครั้ง
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องไปยังหญิงสาว ที่ยังคงไม่ฟื้นสติขึ้นมา...
----------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา