โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 60
ในเช้าวันถัดมา...
แก๊งตัวดีของค่ายเมืองโอเดลล์เรื่องลือชาความแสบซน ชารอนและมีฟฟ์ รวมถึงวินตันออกมากินข้าวที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเก่า แสงรำไรที่ทำให้บรรยากาศมันดูสงบและผ่อนคลายมากมายจนน่าสงสัยว่าสถานที่เดียวกันกลุ่มคนเดียวกันแต่ทว่าทำไมวันนี้ถึงมีความสุขมากกว่า
“อื้ม~” ฟุด ๆ เสียงน้ำนมเดือดที่กำลังส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
“นายนี้เก่งนะ ไปหาแก้วโลหะที่มันทนไม้ทนมือแบบนั้นจากไหน?” ท่าทีและสายตาของชารอน ทำให้วินตันยังคงไม่รู้สึกไม่รู้สาอะไร
“ทายมาสิ” ท่าทีสบายใจและความยี่ยวดทำให้ชารอนหมดคำจะพูด
“ผมทำสิ่งประดิษฐ์นี้ให้พี่เขาเองครับ พี่ชารอนสนใจไหมครับ” ท่าทางน่ารักยามเมื่อเอียงคอเล็กน้อย ส่งสายตาสดใสใส่ชารอน มันทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังเต้นโลดวิ่งไปมาเลย
“ขอบคุณนะน้องมีฟฟ์ น่ารักที่สุดเลย~” ...เรียวนิ้วยามที่ขยับบีบแก้มน้อย ๆ ตุย ๆ ทำให้ขึ้นสีเล็กน้อย “น้องมีฟฟ์เก่งเรื่องสิ่งประดิษฐ์ตั้งแต่เมื่อไหร่...หื้ม?”
“ฮะ ฮะ~... พี่ชารอนสังเกตรอบตัวผมดูสิครับ” ท่าทีที่กำลังโน้มตัวลุกขึ้นจากใต้ต้นไม้เก่า การหมุนตัวอย่างสดใสร่าเริงทำให้บรรยากาศมันดูรื่นรมย์มากกว่าเก่า เสียงของอุปกรณ์และกลไกภายในกระเป๋าส่งเสียงกระทบไปมา กอปรกับกลิ่นน้ำนมหอม ๆ ที่กำลังเดือดฟุด ๆ ส่งเสียงน่ารักออกมา
ทั้งรอยยิ้มและการกระทำ ทั้งหมดมันน่ารักราวกับฟันเฟืองที่เข้าคู่กันได้อย่างดี...
ในขณะนั้นบทสนทนาที่กำลังดำเนินไป “นายว่าเธอคนนั้นน่าท้าต่อสู้ด้วยไหม?” บทสนทนาที่ดังไกล ๆ แต่ก็ใกล้มากพอที่จะทำให้ทั้งกลุ่มได้ยินได้ พลางหันไปมองยังต้นบทสนทนา
“ผมว่าอย่าเลย” ...” เธอเหมือนจะพึ่งฟื้นนะ ยังดูงง ๆ อยู่” คู่โซลเจอร์ที่พูดคุยอย่างออกรสชาติ ทั้งคู่กำลังเดินผ่านไปโดยบทสนทนากล่าวถึงหญิงสาวผมขาว...ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้
“คงงั้นมั้ง” ท่าทีหยักไหล่ไม่เอาความและเปลี่ยนบทสนทนาไป ทว่ามันก็มากพอที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของทั้งสามได้แล้ว ทำให้ทั้งหมดมองหน้ากันและรีบลุกทิ้งทุกสิ่งเอาไว้ ย่างก้าวที่เร็วไว...เพื่อที่จะวิ่งไปดู
เดอเลียตื่นแล้วและกำลังงุนงงกับสถานการณ์ข้างหน้า หญิงสาวที่แต่งตัวเรียบง่ายด้วยท่าทีที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ประกอบกับท่าทีมึนงงที่แปลกไม่เหมือนคนอื่น สายตาที่ตกตะลึงกำลังประดับไว้บนใบหน้างาม
“คุณเดอเลียคะ” ...” พี่เดอเลียครับ” ...” ไง” เสียงเรียกอันคุ้นเคยทำให้เกิดภาพที่เหมือนจะหยุดโลกใบนี้ไว้ได้ กระโปรงสีขาวสยายพลิ้วไหวไปมา หรือลูกแก้วเล็ก ๆ ที่บรรจุน้ำสีใสเล่นแสงสะท้อนสู่หลาย ๆ สายตา โซ่เส้นเล็กเส้นน้อยที่ระโยงระยางกับอุปกรณ์ส่วนตัว หรือเส้นผมที่สะบัดตามแรงขับเคลื่อน ท่ามกลางแสงไฟที่สะท้อนกับกระดิ่งหรือความนุ่มลึกในท่าทีสูงศักดิ์ ทั้งหมดเป็นอะไรที่จะตรึงใจไปอีกนาน
การโผเข้ากอดของกันและกัน เป็นอะไรที่น่าประทับใจ หลาย ๆ สายตาที่กำลังจดจ้องไปกับการพบกันอีกครั้งของแก๊งที่พึ่งเกิดขึ้นทำให้หลายคนสนใจ “ฮะ ฮะ... ฉันกลับมาแล้วค่ะทุกคน” รอยยิ้มสวยและอารมณ์ในธารสายตา...ชารอนรู้สึกได้ว่าหญิงสาวคนนี้กำลังรู้สึกดีใจจริง ๆ
“คิดถึงพี่จังเลยครับ พี่เดอเลียรู้ไหมพี่วินตันก็มาร่วมแก๊งเราแล้วนะ” ใบหน้างามและเส้นผมที่ปรกลงกดองศาลงจ้องเด็กน้อยที่เธอไม่ได้เจอมาหลายวันด้วยลักษณะที่มีส่วนสูงน้อยกว่าเธอเล็กน้อย “ฮือ?” ท่าทีฉงนใจของเธอทำให้วินตันต้องกระทำอะไรบางอย่าง
“ไง ข้าวินตัน” ...” เธอคงรู้จักฉันดีเลยแหละ” ชารอนที่เห็นท่าทีและคำพูดที่ไม่น่าคบหา ก็ใช้ศอกกระทุ้งไปที่เอวหนาเล็กน้อย “เออน่า...” วินตันตอบกลับด้วยท่าทีที่รำคาญใจ พลางเอามือเกาหัวคล้ายไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนายังไง
“หลายวันหรือหลายสัปดาห์ที่พวกเราตามหาพี่ พี่วินตันก็มีบทบาทสำคัญเลยนะครับ” เจ้าเด็กที่กำลังกอดไม่ยอมปล่อยพลางกล่าวเสริมเริ่มต้นบทสนทนาที่น่าเป็นใจ “ค่ะ...นายคนนี้ช่วยเราตามหาคุณเจอ” ...” อีกทั้งยังช่วยฝึกน้องเราและฉันในการใช้สัญญาณจิตด้วย” ท่าทีเคอะเขินของชารอนแต่ก็อยากจะช่วยเหลือไอเจ้าตัวดีที่เธอพึ่งรู้จักไม่นาน
“อย่าหรี่ตาแบบนั้นสิ” ... “ข้าขอโทษ…อืม~ อะไรที่แล้วไปก็แล้ว ๆ กันโนะ~” ท่าทีที่ปัดป่ายเอาความสบายใจเข้าหาตัวเองแต่ก็ไม่ได้ทำให้เดอเลียรู้สึกโกรธเคืองอะไรเป็นพิเศษ ในทางกลับกัน...
“ฮะ ฮะ ฉันล้อเล่น มาสิ...ว่าแต่พาฉันไปหาอะไรรับประทานก่อนได้ไหม” ...” ฉันหิวมาก” เสียงโครกครากที่ดังออกมาจากท้องน้อย ๆ ของเดอเลียทำให้บรรยากาศทั้งหมดมันดีขึ้น ประกอบกับเสียงหัวเราะร่าที่เกิดขึ้น
หนึ่งด้านซ้ายมีชารอน หนึ่งด้านขวามีน้องมีฟฟ์ ด้านหลังมีวินตัน ทั้งหมดกำลังเคลื่อนไปตัวไปบริเวณแจกจ่ายอาหาร การนั่งรับประทานอาหารพร้อมกันครั้งแรก แม้เดอเลียจะโดนดุโดยชารอนเรื่องที่กินของหนักในครั้งแรกเลย แต่ก็เธอก็ไม่เอะใจอีกทั้งยังดีใจที่ชารอนเป็นห่วงเธอ
บทสนทนาที่แลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานภายใต้ความงุนงงของเดอเลีย มีบ้างที่นายตัวดีแทรกบทสนทนาเล็กน้อยที่วินตันไม่รู้จังหวะเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศอึดอัดเกินไป
บทสนทนาที่พูดไปถึงการต่อสู้ที่ผ่านมาของเมืองโอเดลล์ แต่ก็เป็นเดอเลียที่เงียบไป การกล่าวแซวของชารอนที่บอกว่าวินตันเกือบตายเพราะขาดอากาศหายใจ หมอกหนา ๆ ทำให้เขาเหมือนจมน้ำเป็นเวลานานเลย
อีกทั้งความภาคภูมิใจของสิ่งประดิษฐ์ของมีฟฟ์ที่ถูกกล่าวชม ทำให้วินตันรอด
“ขอบใจอีกครั้งนะ เด็กน้อย”
ชารอนพลางพูดถึงหากมีสิ่งประดิษฐ์อะไรที่อยากให้ทดลอง สามารถเอามาให้ใช้ให้ติดตัวไว้ได้นะ
“น้องมีฟฟ์ ถ้ามีอะไรใหม่ ๆ สนใจเอามาให้พี่ใช้คนแรกได้เลยนะ” รอยยิ้มที่คลี่ไว้บนใบหน้างาม ใต้เปลือกตาที่มีสายธารสีเขียวอ่อนเป็นประกาย
เดอเลียก็นึกถึงกรณีเหตุฉุกเฉินของเธอ “พี่ก็อยากได้สิ่งประดิษฐ์เหมือนกันนะ โดยเฉพาะจากของหนู” ปลายมือที่ขยับบีบเคล้นใบหน้าเล็ก ทำให้แก้มขึ้นสีแดงเล็กน้อยจากแรงมันเขี้ยว” พี่อยากได้อุปกรณ์ที่เก็บน้ำได้เยอะแต่ไม่หนัก หรืออาจจะเป็นการทำให้ตัวเองชุ่มชื้นตลอดเวลานะ”
ในขณะที่เดอเลียพูดจบ ทั้งหมดกำลังคาดหวังถึงความปรารถนาที่กล่าวทิ้งไว้ จรดจดมองไปยังชายหนุ่มหนึ่งเดียวในโต๊ะทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศนี้
แต่ความเงอะงะของวินตันทำให้ทุกคนอารมณ์เสีย พลางมองหน้าไปที่วินตันด้วยความไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย โดยเฉพาะท่าทีที่กุมขมับของชารอน หรือการหรี่ตาลงเล็กน้อยของเดอเลียที่ส่งไปให้เขา
วินตันส่งสายตาว่อกแว่กออกไป สมองที่กำลังทำงานอย่างหนักกำลังอ่านบรรยากาศของโต๊ะอาหาร และ...ทำให้เขารู้ว่า “อ่อ ๆ” “ฉันอยากไอเจ้าเครื่องกรองอากาศ เผื่อฉันเจอสถานการณ์แบบนั้นอีก” สายตาเลิ่กลั่กที่ถูกเก็บไปและไหวพริบที่ฉับไว ทำให้บทสนทนามันราบเรียบกลมกลืนได้อย่างน่าสนใจ
“เครื่องกรองอากาศ?” ...” เครื่องอะไรเหรอ” เดอเลียพูดกล่าวถึงความสงสัยที่เกิดขึ้น
“พี่เดอเลียจำกระดาษกรองที่ผมเคยให้พี่ได้ไหมครับ อันนั้นคือรุ่นที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้” ...” ผมตั้งจุดประสงค์เอาไว้ว่า สิ่งประดิษฐ์นี้จะกรองเอาเศษสกปรกออกจากน้ำ”
“แต่ดูเหมือนมันจะทำงานได้ตรงกันข้ามนะครับ ฮะ ฮะ~” เสียงหัวเราะและท่าทางเกาหัวไม่อายสายตา เพิ่มความน่าเอ็นดูวให้กับเด็กน้อยเป็นอย่างมาก
“อ่อ~พี่จำได้ละ” เดอเลียตอบกลับน้องมีฟฟ์
“เสียดายที่ตอนนั้นมันเปียกอยู่แล้ว เลยไม่ได้ทดลองให้” …” แต่ก็เพราะน้องอยู่ดีที่พูดถึงเนื้อเยื่ออะไรที่ฉันก็จำไม่ได้หรอก”
“แต่จำอันที่บอกสาหร่ายเมืองโอเดลล์อร่อยแล้วก็กรองอะไรสักอย่างเนี้ยแหละ” คำพูดที่ชารอนเปิดเผยออกมาทำให้วินตันที่กำลังกินนมสดรู้สึกนั่งไม่ติดกับเก้าอี้เลย
“ห๊า~! แกจะบอกว่า...แกช่วยฉันทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เนี้ยนะ” ...ท่าทีใสซื่อของชารอน ทำให้วินตันกำลังจะเป็นบ้า
“โอ้...ว้าว เดียวข้าต้องไปตรวจข้างในเพิ่มแล้วละ...” การแสดงออกด้วยท่าทีที่เล่นใหญ่ของวินตันทำให้ภายในกลุ่มร่มรื่นด้วยอารมณ์ที่เป็นบวกมากขึ้น
แต่หารู้ไม่ว่า...
เขาก็ไปตรวจเพิ่มอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ฮะฮะ~
------------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา