โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 61
ท่ามกลางการประชันกันระหว่างวาร์เชอน์ของกลุ่มโซลเจอร์ หรือเสียงละเล่นของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่กลางลานประลอง เสียงเฮสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ บอกกล่าวไว้ว่าพวกเขากำลังรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้อย่างไร
ทว่ากลับกันอีกด้านหนึ่ง...ภายในห้องพักสักห้องหนึ่งในเรือเหาะลำสวย
ลมหายใจเบาบางที่ถูกบรรจงบรรเลงอย่างสม่ำเสมอ หรือร่องรอยการเชือดเฉือนไปตามผนังงาม รอยฉีกขาดของอากาศและผ้าม่านที่หลุดลุ่ยทิ้งไว้ซึ่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ทิ้งไว้เกลื่อนกลาดของพื้นห้องสวย เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ล้วนถูกบาด ฟาด พังทลายเป็นบางส่วน...
เสียงฮึดฮัดที่ดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้ทราบว่าเขากำลังฝึกฝนสัญญาณจิตของตัว ทว่ากลับไม่สามารถรีดเค้นเอาประสิทธิภาพสูงสุดที่เคยทำได้ กลับมาได้แล้ว...
อาจเป็นเพราะการบาดเจ็บในส่วนที่เป็นหัวใจ และอาวุธหลักของร่างกายเขาเอง
สายตาและความโง่งมที่แสดงออกภายในธารสายตาคม ประกายสีทองที่หม่นแสงลงถูกกลบไว้ซึ่งใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังส่องแสง ความราบเรียบและเฉยเชยกวาดเอาทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไปอย่างไม่สนใจไยดี ท่าทีความโกรธเกรี้ยวที่แสดงออกมาของเขาเอง
ทำให้รู้ว่าเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง...สิ้นหวังเอามาก ๆ
คำสบถและคำหยาบที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่เก็บเอาไว้ อาจเป็นขีดจำกัดสูงสุดที่เขาจะทนได้แล้ว เครื่องประดับที่ถูกกระชากออกจากปกคอ หรืออุปกรณ์สายรัดหนังต่าง ๆ ถูกปลดระวางและโยนมันทิ้งไว้อย่างไม่สนใจราคาที่ต้องจ่ายไปของมันเลย
“แม่งเอ๊ย” ทั้งหมดมันสร้างความสิ้นหวังให้กับเขาเป็นอย่างมาก ร่างกายที่กำลังทิ้งดิ่งลงนวมหน้านุ่มบนเตียงหรูหรา รอยขีดข่วนและเชือดเฉือนเป็นเรื่องราวที่บอกได้ดีถึงการปะทะอารมณ์หรือการฝึกซ้อมที่ไม่ถูกต้อง
ใบหน้างามที่มีบาดแผลเลวลึก พลางจรดจดจ้องออกไปไกล เพดานที่ว่างเปล่าหรือโคมไฟระย้าที่กำลังกะพริบสั่นไหว จากการถูกทำร้ายด้วยสัญญาณจิตแห่งลม
ทว่าการกระทำมากมายกลับทำให้ภายในหัวนึกถึงเรื่องราวการต่อสู้ที่พึ่งผ่านมา การก่นโทษหรือการก่นด่าต่อโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ภาพเลือนรางที่เขาจำได้ ทั้งหมดมันเป็นของจริง
‘เจ้าเด็กนั้นมันถูกขังโดยราชินีไซเรน ไม่ผิดแน่’...แต่ปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของราชินีคืออะไร ทั้งหมดมันดูไม่ไว้ใจไปหมด เจ้าเด็กนั้นก็ดูจะเป็นเงื่อนงำบางอย่าง
‘เราจะต้องสืบหาข้อมูล...ทีหลังซะแล้ว’ สายตาและเปลือกตาหนาที่กำลังปิดลง สร้างความโง่งมและความขลาดเขลาที่กำลังดำเนินต่อไปอย่างเอือยเฉื่อย
กลับถูกขัดด้วยเสียงเล็ก ๆ อันสั่นไหวบางอย่างออกจากอกแกร่ง
ครืด~ ติ๊ง~
คริสตัลชิ้นเล็กลักษณะกลมคลึงไปด้วยเหลี่ยมมนอันงดงาม ความประณีตที่สะท้อนไปถึงความมันวาวและกรอบทองเหลืองที่ล้อมรอบกรอบเรือน ฟันเฟืองและกลไกที่ซับซ้อนประดับและตกแต่งเสมือนเข็มกลัดที่เป็นมากกว่านั้น รูปลักษณ์ที่สวยงามสูงส่ง ภายใต้สินค้าที่มีราคาแพงเกินกว่าคนธรรมดาจะครอบครองได้ ถูกมือหนาหยิบออกจากสาบเสื้อที่อกหรู
จังหวะและลักษณะที่คริสตัลแสดงออกทำให้ชอว์นึกถึงใครบางคน... ‘ถูกส่งโดยตรงมาจากองค์เหนือหัวงั้นเหรอ...’
ความเงียบที่สดับดังในห้องหม่นหมอง ใบหน้างามและลมหายใจที่ไม่สม่ำเสมอความสับสนที่บิดเบี้ยวดำเนินอย่างไม่ช้าไม่เร็ว
“เธอถามหาความเป็นไปของเมืองโอเดลล์เหรอ” ... ปลายมือที่สะบัดทิ้งเอาคริสตัลราคาแพงไปบนพรมสวย เรียวแขนที่ถูกยกมาปิดใบหน้า
ทั้งหมดเหมือนเขาพยายามจะพักผ่อนตนเอง พักผ่อนจากทุก ๆ อย่าง...
.
.
ไม่นานในที่สุดวันนี้ก็มาถึง...
หัวหน้าโซลเจอร์กำลังย่างก้าวอย่างมั่นใจขึ้นไปบนเวทีเรียบง่าย กล่าวอะไรบางอย่างที่ทรงพลัง “นี้ก็เกือบจะหนึ่งเดือนที่เมืองโอเดลล์ถูกโจมตีแล้ว” ... “แม้จะมีคนตายและบาดเจ็บไปบ้างแต่ภาพรวมเราก็ยังได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้อยู่ดี”
“ทั้งหมดต้องขอขอบคุณวาร์เชอร์ ทั้ง 7 ท่านเป็นพิเศษ และขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ร่วมกันต่อสู้นะครับ”
การประกาศถึงชัยชนะของเมืองโอเดลล์ ภายใต้เวทีที่ถูกจัดเตรียมอย่างเรียบง่าย และบรรดาผู้เกี่ยวข้องของสงครามครั้งนี้
เค้าโครงของเมืองที่สวยงาม เมืองที่นับว่าจะมีทะเลสาบอันงดงามที่สุด ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ที่มีเหล่าสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ตั้งตระหง่านต้อนรับผู้มาเยือน เมืองแห่งสาหร่ายที่ถึงแม้จะพังทลายและแปดเปื้อนไปบ้าง
ทว่าทั้งหมดเป็นเพียงการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเท่านั้น...
“อีกทั้งขอขอบคุณทุก ๆ คน และนายโซลเจอร์ทุกท่านที่ช่วยเหลือชาวเมืองในการปรับปรุงในส่วนที่เสียหาย” ความเปลี่ยนแปลงในเมืองที่อยู่ในสายตาหัวหน้าโซลเจอร์
สีสันที่เน้นไปสีขาวและสีฟ้า เสมือนท้าทายท้องฟ้าและประกาศกร้าวถึงความเป็นได้ในมือที่เปื้อนดิน และมนุษย์นี้เองก็มีสิ่งที่สดใสมากพอ ๆ กับท้องฟ้าได้ด้วยตนเอง
เมืองโอเดลล์ไม่ใช่ที่สิ่งก่อสร้างหรือสถาปัตยกรรมที่มีมายาวนาน อาจจะเป็นทะเลสาบหรือแม่น้ำสายใหม่
“ทำให้...ถึงแม้ไม่เหมือนเดิม แต่เมืองโอเดลล์กำลังเดินไปในทิศทางที่ดี” พลางตบมือและยินดีกับทุก ๆ คน
ทั้งหมดไม่ใช่เลย ที่เป็นเมืองโอเดลล์ได้...เป็นเพราะ
“นายโซลเจอร์ทุกท่านจะได้รับสิทธิลาหยุดพิเศษ รวมถึงวาร์เชอร์ทั้ง 6 ท่านจะได้สิทธิเข้าพบองค์เหนือหัวเป็นพิเศษและพูดถึงความปรารถนาส่วนตัวได้” เรื่องน่ายินดีและน่าเคารพของการกระทำต่าง ๆ ของวาร์เชอร์ที่แข็งแกร่ง
ใบหน้ายิ้มแย้มและการคลี่ยิ้มเบาบางที่ประดับเอาไว้ในกลุ่มคนมากมายที่ยืนรายล้อมรอบเวที หลังสงครามที่กินเวลาหลายนับเดือนได้สิ้นสุดลง บ้านเล็กบ้านน้อยที่เคยเงียบเหงากลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอีกครั้ง ลานกว้างถูกตระเตรียมไว้เป็นเวทีสำหรับการประกาศข่าวสารอันสำคัญยิ่ง
เด็กและผู้ใหญ่ที่กำลังโอบอุ้มเอาไว้ ปากเล็ก ๆ ที่กำลังกัดงั่มกับลูกอมแสนหวาน ทั้งหมดแทบจะลบความเหนื่อยล้าและความทุกข์ใจของโซลเจอร์ที่ผ่านมาไปทั้งหมด
การผจญภัยและการต่อสู้ที่ทั้งลำบากยากเย็นกำลังผ่านไปแล้ว แม้บางคนจะตกเหวลึกหรือกำลังดิ้นรนบนเส้นใยที่เบาบาง ระโยงระยางสลับซับซ้อนทรมานกับความรู้สึกมากมายของตนเองก็ตาม
เสียงเฉลิมฉลองที่ดังอยู่ร่ำไร ภายใต้ฉากหลังงานเลี้ยงชาวบ้านชาวเมืองโอเดลล์ที่เริ่มกลับมาอาศัยและจัดการกับที่อยู่อาศัยที่เสียหายของตนเอง
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง ทุกคนต่างกอดกันด้วยความยินดี น้ำตาแห่งความสุขไหลรินบนใบหน้าของผู้คนที่มาร่วมยินดี เด็กเล็กที่วิ่งเล่นรอบลานของเล่นใหม่ หรือกลไกฟันเฟืองที่กำลังถูกติดตั้ง หัวข้อสนทนาที่ถูกเปิดเอาไว้...มักจะเป็นเรื่องราวของอนาคตในเมือง การค้าขายใหม่หรือร้านค้าใหม่ในจุดใหม่ ๆ
ทั้งหมดทิ้งหัวข้อสงครามและการสูญเสียไว้ข้างหลัง ช่วงเวลาอันยากลำบากได้ผ่านพ้นไปควบคู่ไปกับดวงอาทิตย์สีทองที่จะเป็นพยานสักขีพยานสอดแสงอร่ามไปทั่วเมือง ขณะที่เสียงหัวเราะและเสียงเพียงยังคงก้องอยู่ในอากาศ
บ้านและอาคาร สถาปัตยกรรมที่เคยถูกทำลายนั้นกำลังถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ด้วยความรัก ความสามัคคี และความหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ที่มือน้อย ๆ เปื้อนดินและร่างกายเปียกโชกไปด้วยหยาดฝนนี้เอง
ในขณะที่อีกหลายคนอาจจะยังไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้...
“เจ้าเด็ก” เสียงที่คาดว่าจะโกรธเกรี้ยวจากชอว์ทำให้บุคคลที่ถูกเรียกต้องสะดุ้งทันควัน “วันนั้นแกทำอะไร?” สายตาคาดคั้นที่ชอว์ส่งไปยังมีฟฟ์ มือหนาที่บีบรัดแขนเล็กส่งผลให้เด็กรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย
สายตาของเจ้าเด็กที่ชอว์หมายถึง กำลังมีท่าทีที่มึนงงซึ่งมันทำให้เขาเองรู้สึกสับสนเสียเอง
“ผมทำอะไรเหรอครับ?” สายตาและรอยคิ้วที่ขมวดทำให้ชอว์เกิดความรู้สึกหงุดหงิดในใจ
“วันนั้นแกทำอะไร ทำไมราชินีไซเรนมันถึงทำกับแกแบบนั้น” ท่าทีที่เปลี่ยนจากการคาดคั้นเพียงมือเดียว ทั้งสองมือบีบอัดทั้งสองแขนมากขึ้น สายตาที่จรดจ้องไปที่เจ้าเด็กน้อยพยายามคาดคั้นเอาบางสิ่งบางอย่างด้วยความสัตย์จริง
“เฮ้ย ๆ ทำไร” เสียงยียวน ในมือที่ถือแก้วทรงสวย ทว่าสิ่งที่ควรเป็นน้ำสีสวยประกายแสง ภายในกลับเป็นน้ำนมสีขาวที่มีรสชาติสตอเบอร์รี่นิดหน่อย
“แบบนั้นคงไม่ดีม้าง~” ท่าทีและเสียงที่ตอบกลับของวินตัน ทำให้ชอว์ต้องหันมาเพ่งเล็ง
เสียงที่ดังขึ้นสะดุดอารมณ์เพลง ทำให้ชารอนและเดอเลียที่กำลังพูดคุยอยู่ในอีกจุดหนึ่ง ก็พลางหยุดชะงักและสังเกตทั้ง 3 คนไปด้วยความสงสัยที่เกิดขึ้นบนใบหน้า
ชอว์หันกลับมาสนใจมีฟฟ์ด้วยสายตาที่คาดเค้น ทว่าในธารสายตาของเด็กน้อยมันกลับไม่มีอะไรเลย
“เอ่อ....” ปลายนิ้วชี้น้อย ๆ ที่ยกขึ้นมาเกาใบหน้า แม้จะน่าเอ็นดูว์ในสายตาของเดอเลียและชารอน ทว่ามันกลับเสมือนการท้าทายของชอว์
แรงแขนที่สะบัดออกของชอว์ ทำให้เดอเลียและชารอนต้องตรงดิ่งเข้ามาหาด้วยความไม่พอใจ ซึ่งสวนกับชอว์ที่เดินตัดผ่านทุกคนไป ภายใต้ความไม่พอใจที่พรั้งพรูจากการกระทำที่ไม่มีเหตุผลของตัวเอง และคำถามที่ยังไร้คำตอบในตอนนี้...
----------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา