โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 62
แพขนตางามที่กำลังกะพริบปกป้องดวงตาสีทมิฬและชุดฟูฟ่องเต็มไปด้วยริบบิ้นสีงาขาวและไข่มุกที่ราคาแพง ลวดลายที่ปักดิ้นด้วยทองขับกล่อมไปด้วยความละเมียดละไมของผืนผ้า ทว่ากลับความน้อยนิดแต่กลับยังดูโอ้อวดอยู่
พลางกล่าวคำขานและชนดื่มกับเหล่าผู้มียศบรรดาศักดิ์ในห้องฉลอง สายตาที่เฉยชาภายใต้ความคิดมากมายและความเบื่อหน่ายที่แสดงออกบนใบหน้า “ค่ะ ยินดีด้วยค่ะ”
ทั้งแชมเปญสีงามหรือขนมเค้กชิ้นเล็ก ๆ ที่ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารหรูของเรือเหาะลำโตทั้งหมดมันดูน่าเกลียดและน่าอดสูสำหรับเธอ
“ค่ะ ลูกน่ารักมากเลยค่ะ” ...” ยังเลยค่ะ”
ปลายรองเท้าส้นสูงที่มักถูกแต่งแต้มด้วยลูกไม้สีดำกำลังเหยียบย่ำบนพื้นพรมขนสัตว์สีขาวผืนงามและราคาแพง ทว่าการก้าวเดินที่กำลังมุ่งหน้าออกจากงานเริงรมย์ที่น่าอดทน เสียงหนึ่งที่ดังออกมาจนเชอรีได้ยินเบา ๆ
‘นั้นคือลูกขุนนางตระกูลเดอโรซ์ใช่ไหม’ เสียงคำขานที่เสมือนมีดเล่มคม กรีดลงบนแผลที่กำลังสดใหม่
‘สงสารตระกูลนั้นเลยนะ มีลูกหลานที่ส่งเข้าเป็นขุนนางไม่ได้’ ภายใต้เสียงนินทาที่เชอรีกำลังหลบหนี
“เธอกำลังไปไหน” ความสงสัยมากเท่า ๆ กับย่างก้าวที่ฉับไวของเชอรี รองเท้าส้นงามที่สูงและเย่อหยิ่งมากพอที่จะกดจมพวกปากพล่อย ผมที่สยายไปตามแรงหันของใบหน้างามพลางมองคู่สนทนา
“ไม่มีไร” ความไม่พึงใจของเชอรี ทำให้บทสนทนามันดูเงียบฉงนและกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องพักของตนเอง
“องค์เหนือหัวเรียกเราเข้าพบ” ...หลังจากที่ชอว์สงบสติอารมณ์ กลับมาเข้ามาในงานเพื่อทำหน้าสร้างหน้าสร้างตาในงานสังคม ก็เจอเข้ากับเชอรีที่อารมณ์เสียแทนเขา
“เธอบอกว่าให้พาพวกเขามาด้วย ความแปรปรวนที่มีนัยในศึกไซเรนที่ผ่านมา”
ใบหน้าที่หันกลับมาอีกครั้ง พลางจ้องสำรวจหาข้อมูลและการล้อเล่น
“? พวกเจ้าเด็กน้อยนั้นนะเหรอ” ... “ถ้าพวกเขาอยากไปนะ” ชายกระโปรงที่สะบัดเหวี่ยงไปตามแรงหันของหญิงสาว ไข่มุกและลูกปัดงามที่สะบัดพลิ้วไปบนอากาศ หรือริบบิ้นสีงามที่ระโยงระยางทำให้ชุดที่เธอสวมใส่งดงามมากกว่าใคร ๆ เสียงรองเท้าคู่งามสีแดงสดที่จะส่งเสียงสั่นกลัวในยามค่ำคืน
ภายใต้งานรื่นเริงที่เงียบเหงา
“ฉันไม่สนใจหรอก แล้วแต่จะทำ” ความเฉยชาที่เอ่ยคำกล่าวออกมาโดยไม่ได้มองคู่สนทนา ทั้งหมดทำให้ดูทระนงมากขึ้น
เสียงคลี่ตัวออกของพัดสีดำลวดลายวิจิตรศิลป์ทำให้เกิดเสียงเบาบาง ตอกย้ำถึงความไม่พอใจที่ใหญ่หลวง
“ทำอะไร...ก็ทำเถอะ”
.
.
อีกทางด้านหนึ่ง
“เป็นอะไรไหมคะ” เดอเลียกล่าวปลอบพลางเอามือลูบบนหัวของเด็กน้อยที่ถูกแกล้ง
“ไอเจ้านั้น หยาบคายจริง ๆ” ชารอนกล่าวเสริมถึงความไม่พอใจของตนเอง “น้องมีฟฟ์ออกจะน่ารักขนาดนี้ กล้าทำน้องได้ยังไง” ความขุ่นเคืองที่แสดงออกผ่านใบหน้าถูกลบหายไปทันที และวิ่งเข้ามาอุ้มน้องมีฟฟ์ขึ้นไปกอดปลอบ
“ฮะ ฮะ~ ผมไม่เป็นอะไรครับ” ... “ขอบคุณพวกพี่นะครับ” ท่าทางที่น่ารักเรียกคะแนนความน่าเอ็นดูได้อย่างมาก
ใบหน้าของเด็กน้อยที่ถึงแม้จะโดนปลอบโดยพี่สาวของตน แต่ทว่าสายตาที่มองผ่านออกไป จรดจดจ้องไปยังแผ่นหลังที่เดินออกไปแล้ว
มีฟฟ์ปัดความสนใจและกลับมาสนทนากับชารอน “ว่าแต่พี่ชารอนสนใจสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของผมไหมครับ”
ชารอนที่ได้ยินก็เกิดความสนใจเป็นอย่างมาก “พูดต่อสิ” ปากสีสวยก็กำลังรินน้ำที่เต็มไปด้วยฟองอากาศล่องลอยประดับแก้วทรงสูงที่มีรสชาติซู่ซ่าเล็กน้อย
“อะไรเหรอคะ” ในขณะเดียวกันก็เรียกความสนใจของเดอเลียได้ด้วยเช่นกัน
“ผมแอบสนใจเส้นใยของสาหร่ายของที่นี่” ...ใบหน้าเล็กที่กำลังอธิบายอย่างออกรสชาติ
“ผมสังเกตว่าเวลาที่พี่ต่อสู้หรือใช้สัญญาณจิต พี่ชารอนมักจะใช้ฝ่ามือสัมผัสกับพื้นใช่ไหมครับ” ข้อเท็จจริงและความช่างสังเกตทำให้ชารอนที่กำลังสาละวันกับรสชาติอาหารและน้ำดื่มประตัวของตนเอง ต้องหยุดชะงัก
และต้องหยุดฟังเป็นพิเศษ “? น้องมีฟฟ์เห็นพี่ต่อสู้ตอนไหนเหรอ”
“อะ...เอ่อ~” ...” พี่ถูกพี่โซลเจอร์สัญญาณจิตแห่งดินมาท้าแข่งใช่ไหมครับ”
“แม้อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มือพี่ก็ต้องเปื้อนดินตลอด” การอธิบายสลายความน่าสงสัยออกเป็นปลิดทิ้งไป
“อืม~ ก็จริงนะ ตอนแรกพี่คิดว่า...น้องจะทำที่ล้างมือให้พกพาให้พี่ซะอีก” ปลายซ้อมที่ถูกกดจมไปยังเนื้อชิ้นสวย ร่องรอยไหม้เบาบางที่เป็นรอยเส้นยาว ทำให้รู้ว่าชารอนกำลังดื่มน้ำสีสวยและเนื้อสัตว์ที่ถูกตัดแต่งและจัดแจงอย่างพิถีพิถัน
ในขณะเดียวกันที่มีผู้มาใหม่อย่างวินตัน หย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับชารอนด้วยแก้วแชมเปญหรูที่ใส่นมอีกเช่นเคย
“แล้วนายจะกินแต่นมหรือไง” ...” นี้ดู! น้ำซูซ่าอร่อยที่สุด”
“มากกว่าน้ำทุกชนิดบนโลก อื้ม~” ท่าทีที่สบายใจในการรับประทานเนื้อสเต๊กทำให้บรรยากาศในงานรื่นเริงมากขึ้น
“ไม่นะคะ น้ำชาดีที่สุด ดีต่อสุขภาพด้วยนะ” เดอเลียไม่ยอมแพ้ แก้ไขความเข้าใจผิดและเสนอถึงน้ำชาร้อน ๆ ที่เป็นเครื่องดื่มที่โปรดปรานที่สุดของตน
“แต่ผมว่าน้ำส้มนะ ฮะ ฮะ~” บทสนทนาแสดงความกลมเกลียวและน่าอภิรมย์อย่างน่าชื่นมื่นดำเนินไปตลอดคืน
“ใช่จ้ะ ของน้องมีฟฟ์ดีที่สุดเลย~” ท่าทีที่เอิกเกริกทำให้เกิดเสียงหัวเราะลาไปทั่วงานเฉลิมฉลองนี้
‘ดูนั่นสิ เธอหัวเราะจนเกินงามเลยนะ’... ‘ชู่วว์ เธอคือวาร์เชอร์ที่เป็นตัวแปรสำคัญในศึกเมืองโอเดลล์เลยนะ สัญญาณจิตของเธอนายโซลเจอร์เขาว่ากันว่า โจมตีมอนสเตอร์ที่โจมตีเมืองได้ด้วย’
ท่าทีป้องปากพลางกระซิบกระซาบนินทาชารอนของพวกปลาสิวปลาสร้อยที่อยู่ในสายตาของเดอเลีย
‘ส่วนไอหนุ่มตรงนั้น ตอนโดนท้าสู้นะ โคตรเก่งโคตรเวอร์เลย...นายลองไปท้าสู้ดิ’
เดอเลียที่รู้สึกไม่พอใจกับบทสนทนาที่ค่อนข้างก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวและล่วงเกินเหล่าเพื่อนของตนเอง พัดลวดลายเรียบง่ายสีฟ้าที่เธอพึ่งได้รับมาจากชาวบ้าน
พรึบ...
เมื่อพัดในมือของเธอถูกคลี่ตัวออก ส่งเสียงดังอย่างน่าฉงน เสียงนั้นแผ่ซ่านและดังก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้เหล่าชายหนุ่มและหญิงสาวที่กล่าววาจาน่าเกลียด และสายตาทุกคนในห้องต่างกำลังมองมาในทิศทางนี้
พัดที่ทำจากผ้าไหมเนื้อดีประกอบด้วยซี่โลหะทองเหลืองที่ประณีตแม้ไม่มีความแหลมคม แต่ทว่าเมื่อคลี่ออกกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายความสูงศักดิ์
ดวงตาที่ถูกกดลงทำให้แต่เดิมใบหน้าของเดอเลียที่มีความสง่างามอยู่แล้ว กลับประดับไปด้วยความน่ากลัว สายตาที่เหมือนจะเชือดเฉือนได้ทุกสรรพสิ่ง กวาดไล่ไปตามร่างกายของนายโซลเจอร์ที่ปากมาก
ทำให้เสียงกระซิบกระซาบทั้งหมดเงียบลง เปิดโอกาสให้เสียงเพลงที่กำลังบรรเลงได้ดังขึ้นสดับเอาความน่าอึดอัดในชั้นบรรยากาศหอบออกไปตามควันสีขาวที่กำลังล่องลอยออกไปไกล
“พี่เดอเลียเป็นอะไรไหมครับ” มือเล็ก ๆ ที่กำลังแตะแขนเรียวของหญิงสาว ทำให้เดอเลียสงบอารมณ์ได้เล็กน้อย
พลางตอบกลับเด็กน้อย “ไม่เป็นอะไรนะจ๊ะ พวกนั้นกำลังว่าร้ายพี่ชารอนของหนูอยู่”
ท่ามกลางสายตาที่เหม่อมองออกไปไกล...ถูกเก็บไว้จนทุก ๆ คนไม่ทันสังเกต
ภายใต้ความไร้เดียงสาของเจ้าเด็ก ความลับที่จะเกิดขึ้นอาจเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นที่ไม่มีอยู่จริง ทว่าตอนนี้ที่ทุกคนยังไม่รู้ก็คือ ‘ศึกไซเรนทำให้เด็กน้อยเปลี่ยนไปแล้ว’
เสี้ยวตัวตนที่ถูกผสมเข้ากับหยดบทบันทึกจะเปลี่ยนแปลงอนาคตและเด็กน้อยไปตลอดกาล
สายตาคมที่หรี่ลงเล็กน้อยพยายามเก็บเกี่ยวเรื่องราวของปัจจุบัน ปัดป่ายความคิดมากมายออกไปและร่วมยินดีของวินตัน
แก้วแชมเปญใส่นมหรือถ้วยชาสีสวย ไม่วายมีแก้วเล็ก ๆ ที่บรรจุน้ำส้มหรือน้ำฟองอากาศมากมาย เสียง แกร๊ง เบา ๆ คือการชนกันของเครื่องแก้วในงาน
“เราชนะสงครามแล้ว!!” …” ยินดีด้วยนะ~เมืองโอเดลล์” ชารอนที่เริ่มมีความมึนเมาในบรรยากาศกล่าวเปิดตะโกนอย่างเสียงดัง ท่ามกลางขุนนางชั้นสูงหรือชาวบ้านธรรมดาที่กำลังจัดเสิร์ฟอาหารอย่างหรูหรา
“เฮ้!!!~” “ยินดีด้วยน้า~ เมืองโอเดลล์”
“เมืองโอเดลล์กำลังจะเกิดขึ้นใหม่” แกร๊ง~
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา