โชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
แฟนตาซี,ผจญภัย,ลึกลับ,ชาย-ชาย,สงคราม,สงคราม,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Alexazia: War of Fate's Conquerors สงครามผู้พิชิตโชคชะตาโชคชะตาพรากหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไปจากเขา น้ำตาที่ไหลรินผลักดันให้เขาต้องเติบโต ออกค้นหาอดีตที่ไม่เคยนึกถึง อดีตที่เคยทิ้งไว้ข้างหลัง สู่บทสรุปการต่อสู้เพื่อกุมโชคชะตานี้ไว้เอง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ชาย x ชาย
บทที่ 63
“ฟีลเร่…” เสียงเล็ก ๆ ที่ไม่มั่นคงกล่าวขึ้นท่ามกลางค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง
” เราไม่ควรทำแบบนี้” สายตาเล็ก ๆ ที่มองไปยังเจ้าของชื่อที่ตนเรียก
“ข้ารู้...” ท่าทางของเด็กขี้กลัว มือเล็กป้อม ๆ ที่กำลังกระตุกปลายเสื้อที่มอมแมมไม่แพ้กัน ความสกปรกและเสื้อผ้าที่หลวมโครกอาจบอกได้ว่าพวกเขาไม่ได้มีฐานะที่ดีนัก ไม่มีเงินมากพอที่จะได้สวมใส่อาภรณ์ที่ให้ความอบอุ่นและปกปิดมิดชิดกว่านี้
สายตาที่เด็กน้อยมองไปยังพี่ชายตัวสูงกว่า มันทั้งเต็มไปด้วยความรู้สึกอะไรหลาย ๆ อย่าง ความรู้สึกหวั่นไหวและธารสายตาที่ได้รับทำให้พี่ชายเจ้าของชื่อฟีลเร่ต้องตกอยุ่ห้วงภวังค์ความคิดท่ามกลางการกระทำที่อุกอาจ...
ทว่าไม่มีสิ่งใดที่จะสำคัญไปกว่าปากท้องและใบหน้ามอมแมมข้างหน้าอีกแล้ว... ‘ข้าขอโทษ...ท่านแม่’ สายตาที่จรดจดมองน้องชายของตนเอง เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นหรือรอยฝุ่นที่เปรอะเปื้อนใบหน้าน้อย ๆ
‘น้องของข้ายังอายุเท่านี้เอง...’
‘เขาสมควรได้กินอาหารและได้รับความอบอุ่นมากกว่านี้สิ’
‘ข้า...’ พี่ชายเจ้าของชื่อฟีลเร่โอบกอดน้องชายที่กำลังสั่นกลัวอย่างแผ่วเบา
‘ให้โอบกอดของพี่ตอบทุกคำถามของแกนะ’ มือที่มอมแมมสัมผัสไปยังใบหน้าของน้อง นิ้วโป้งที่ปาดไปยังรอยฝุ่นเล็ก ๆ ที่เปื้อนมุมหนึ่งของใบหน้า
ยามวิกาลที่ทุกคนต่างสนุกสนานและอิ่มหนำกับความเอิกเกริกอย่างหาเหตุผลไม่ ความร่ำรวยที่ถูกใช้อย่างไร้คุณค่า ท่ามกลางสงครามกลางเมืองหรือการขาดแคลนอาหาร
“แต่ข้าจำเป็นต้องทำ” ร่องรอยการสัมผัสเบาบางบนหัวน้อย ๆ พลางคลี่ยิ้มท่ามกลางรอยเปื้อนของเศษฝุ่นเศษดินที่ไม่ต่างกัน
ท่ามกลางความเงียบเชียบในตอนนี้ สิ่งที่ปรากฏออกมาจากกระเป๋าใบใหญ่ของชายที่ชื่อฟีลเร่คือ กลไกปืนอะไรบางอย่าง ด้วยรูปลักษณ์ที่ก็ไม่ซับซ้อนหรือไม่เรียบง่ายเกินไป ทั้งหมดถูกละไว้ด้วยการใช้งานไร้การตกแต่งและจัดแจงให้สวยงามเฉกเช่นอุปกรณ์ที่ถูกคิดค้นของนักประดิษฐ์ที่มีทุนทรัพย์
ทว่าเขาไม่ใช่...ปืนที่บรรจุเอาอุปกรณ์ศรธนูบางอย่างร้อยเรียงด้วยเชือกมอมแมม
สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่นับว่าสละสลวยด้วยความประณีตหรือการใส่ใจอย่างยิ่งยวด ทว่าความเรียบง่ายนี้กลับส่งพลังมากกว่า พื้นที่ทุกสัดส่วน กลไกตลอดจนฟันเฟืองมีที่มาและหน้าที่ชัดเจนไร้การตกแต่งใด ๆ อย่างหรูหรา เขาแนบสายตาเข้ากับแนวลูกศร สายตาที่จดจ้องไปยังข้างหน้า ลมหายใจที่แผ่วเบาและมั่นคง ‘อึก’ หัวใจเต้นเป็นจังหวะที่สอดคล้องไปกับแรงที่ส่งผ่านจากแขนไปยังสายธนู
ปลายนิ้วค่อย ๆ จรดแรงลงเหนี่ยวไกธนูออกไป แรงดีดมหาศาลจากการยิงลูกศรออกไป สายธนูที่ดีดตัวด้วยความรวดเร็ว เสียงแผ่วเบาที่ตัดผ่านอากาศส่งเสียงดังขึ้นก่อนที่ลูกธนูจะพุ่งไปข้างหน้า ฟรืบ! เชือกที่ถูกรัดไว้กับปากลูกศรถูกระโยงระยางพุ่งตรงไปกับลูกศรอันหนักแน่น
ประกายลูกศรที่ถูกทำงานตามการตั้งค่าเวลา ปลายลูกศรจากแหลมคมระเบิดออก เปิดปากด้านในที่มีลักษณะยืดหยุ่นกว่า เป๊าะ! ลูกศรที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมายด้วยความแม่นยำและความมั่นคง ด้วยกลไกอันฉะฉานทำให้กลไกที่ถูกออกแบบไว้ทำงานได้เป็นอย่างดี
ความเย็นฉับพลันทำให้อากาศภายในลูกศรถูกแช่แข็ง อุณหภูมิที่ต่ำมาก ๆ ทำให้เกิดพื้นที่ปิดกั้นระหว่างปากตัวดูดสัมผัสไปกับโลหะหนาที่ถูกทำให้เย็นลงทันที ด้วยกลไกอันฉะฉานการวางแผนรวมถึงความรู้ชั้นสูงทำให้เกิดสภาวะสุญญากาศภายในปากยืดหยุ่น ดูดยึดเกาะหนาแน่นไปกับกรอบด้านนอกเรือเหาะได้
สายเชือกที่หนาพิเศษถูกถักทอให้แข็งแรง มือแกร่งที่กำลังจับเชือกที่ทิ้งตัวลงมาจากเรือเหาะลำหนึ่ง ความยืดหยุ่นที่เหมาะสมสำหรับคนตัวเล็ก กลไกเล็ก ๆ ที่ถูกติดตั้งเข้ากับสายเชือก ฟันเฟืองล้อหมุนที่ถูกออกแบบดึงรั้งเชือกได้เท่านั้น ไม่สามารถปล่อยแรงเชือกออกได้ ซึ่งป้องกันการหลุดร่วงกลางอากาศ
ความเงียบเชียบท่ามกลางสายตาที่มองขึ้นไปยังเป้าหมายในค่ำคืนนี้สลับกับมองไปยังจุดหนึ่งในมุมมืด แสงสลัวของงานรื่นเริงทำให้เห็นใบหน้าของน้องชายวับแวม
ปากขมุบขมิบเบา ๆ ‘หลบไว้นะ อย่าออกมา’ เส้นผมที่ปรกหน้าเล็กน้อยพลางจับเชือกไว้แน่น กล้ามเนื้อที่แขนและไหล่ที่เกร็งเอาไว้ ลมหายใจที่ถูกควบคุมให้สม่ำเสมอ การทรงตัวที่สมบูรณ์แบบ
สายลมสายหนึ่งที่พัดผ่านใบหน้าบ่งบอกถึงความสูงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดปลายนิ้วก็สามารถเกาะขอบดาดฟ้างาม กลไกข้างเอวถูกใช้แรงดึงครั้งสุดท้ายเพื่อยกตัวเองขึ้นสู่ขอบเรือเหาะ เสียงเชือดเสียดสีดังขึ้นเบา ๆ
เท้าที่แตะพื้นปลดระวางเอาตัวดูดก่อนหน้านี้ออกอย่างเงียบเชียบ ร่องรอยเกล็ดสีขาวจาง ๆ ที่ปรากฏบนแผ่นโลหะหนา หรือความเย็นที่แผ่ดซ่านออกมาจากบริเวณนั้น
หนุ่มน้อยที่พลางค้นหาอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ สายตาที่กำลังจ้องมองแผนที่ที่ถูกเขียนไว้อย่างรีบร้อนและลวก ๆ เท้าก็พยายามย่างก้าวอย่างไม่เป็นระเบียบแต่กลับเบาหวิวดุจแมวเดินอย่างน่าแปลกประหลาด
“หึย~ น่ารำคาญจริง ๆ” กระเป๋าใบโทรมที่อยู่ข้างเอวถูกมือค้นหาเอาบางอย่าง “อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้...ทำไมมันหาอย่างงี้!”
เสียงกระทบของโลหะและทองเหลืองดังเบา ๆ ในอากาศเปิดเผยสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ถูกหยิบขึ้นมา “ในที่สุดก็เจอสักที”
ใบมีดคมเสี้ยวเล็ก ๆ ที่ถูกจัดเรียงเป็นวงกลมได้อย่างเป็นระเบียบ ใบครอบทองเหลืองที่บางเบาแต่กลับแข็งแรงอย่างน่าประหลาด ด้ามจับที่เต็มไปด้วยกลไกและฟันเฟืองชิ้นเล็ก ๆ ช่องเปิดในด้านหนึ่งถูกทิ้งให้ว่างไว้ รอการเติมเต็มบางอย่าง
“ขอให้วันนี้มันคุ้มด้วยเถอะ” นิ้วโป้งเล็ก ๆ ที่ดีดเอาหินคอลประกบเติมเต็มช่องวางที่ถูกเปิดทิ้งไว้ บานพับเล็ก ๆ ก็ปิดตามกันไป สิ่งประดิษฐ์ที่มีรายละเอียดอย่างน่าแปลกใจ กำลังส่งเสียงครืดคราดเบา ๆ ในชั้นบรรยากาศ ฟรืด! ตัวครอบทองเหลืองที่กำลังดูดกับกระจกบานสวย เกิดเป็นร่องรอยการตัดผ่านอย่างคมกริบของใบมีดคม กลีบใบมีดที่มีลักษณะบางและกรีดผ่านอย่างรวดเร็วทำให้เกิดช่องว่างทิ้งไว้น้อยมาก
บานกระจกที่สูงจรดพื้นถูกใบมีดคมของสิ่งประดิษฐ์นี้ถูกกรีดช่องอย่างพอดีสำหรับคนหนึ่งคน สิ้นสุดการทำงานถ่านหินคอลที่ถูกหยิบออกจากช่องโหว่เดิม ลักษณะที่หดหายไปเล็กน้อยทำให้เจ้าของรู้สึกเบาใจไปเล็กน้อย
“ต้องขอบคุณพวกนั้นละนะ ได้หินคอลมาฟรีตอนแจกจ่ายการทำงานด้วย คุ้มว่ะ”
สิ่งประดิษฐ์ถูกเก็บเข้ากระเป๋าอีกครั้ง
ถุงมือที่เต็มไปด้วยปุ่มดูดแปลก ๆ ปรากฏขึ้นและถูกสวมใส่โดยชายคนนี้ ฝ่ามือที่กลางออกสัมผัสผิวกระจกบริเวณที่ถูกตัดออก นิ้วมอมแมมอีกข้างที่เอื้อมมาแตะกลไกเบา ๆ ปุ่มเล็ก ๆ ข้างสนับมือ ทำให้กลไกและฟันเฟืองข้างในทำงาน ความเย็นวาบที่ฉับพลันทำให้เกิดสุญญากาศดูดเอากระจกใบพอเหมาะหลุดออกมา
ฟีลเร่วางกระจกไว้มุมหนึ่ง ม้วนตีลังกาเข้าห้องพักของใครสักคน ความวิจิตรศิลป์และความโออ่าประกาศไว้ซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์ท่ามกลางความขัดแย้งของพวกชนชั้นน่ารังเกียจ ‘พวกคนรวยบ้า’
สายตาและปากที่บ่นขมุบขมิบเบา ๆ มือที่ทำนิ้วจุบจิบเสมือนการเลียนแบบริมฝีปากและล้อเลียนคำบ่นของผู้ปกครองในความทรงจำ
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะมีอะไรกินไหมละ” นิ้วที่คลี่กระดาษออกเล็กน้อย มุมกระดาษที่บิดไปมาเพื่อพยายามหาตำแหน่งตนเอง ‘ตอนนี้เราอยู่ตรงไหนขอเรือเหาะนะ’ สายตาเล็ก ๆ ที่ กลอกไปมาพยายามเปรียบเทียบกับห้องหรูหราและตำแหน่งที่ตนอยู่
“โครตจ๊าบบ อยู่ห้องที่จะไปพอดี” อุปกรณ์ที่ถูกเก็บไว้ข้างกายอีกครั้ง กระดาษมอมแมมถูกขย้ำเก็บไว้เบื้องลึกที่สุดของกระเป๋าข้างเอว
‘อืม~ ดูนี้สิ เครื่องเพชรที่วางไว้โครตน่าจุ๊บจริง ๆ ’
“เครื่องเพชรนี้ ข้าขอไปละนะ” สายตาเจ้าเล่ห์พลางพูดคุยกับตนเอง เอาไปอันเดียวก่อนเดียวเรื่องใหญ่ การคิดวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งทำให้หนุ่มน้อยคนนี้รอดพ้นมาหลายต่อหน้าครั้งละ
“ดูท่าเราจะมีเงินพอไปซื้อเจ้านั้นคืนแล้วสินะ”
มือเล็กหยิบอุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่ถูกนำออกจากกระเป๋ามอมแมม สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกหลอมจากทองเหลือง ท่อทองแดงที่พันรอบโครงสร้างกลไกเต็มไปด้วยฟันเฟืองและแผ่นโลหะบางเฉียบทรงกรวยขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งไว้ คันโยกและช่องว่างเล็ก ๆ ถูกเติมเต็มด้วยถ่านหินคอลชิ้นเดียว เชื้อเพลิงที่ถูกเผาไหม้เกิดเป็นกระแสความร้อนที่จะถูกสะสมไว้
ส่งความร้อนฉับพลันไปที่เสี้ยวบานกระจก ความร้อนที่แผ่ดซ่านไปทั่วบานกระจกทำให้ร่องรอยกรีดเล็ก ๆ กำลังผสานรอยร้าว รายละเอียดแม้ไม่เหมือน 100% ทว่าภายใต้ความดูไม่ได้ของอุปกรณ์ ประสิทธิภาพที่มันทำได้กลับน่าทึ้งมากกว่า งานที่ถูกจัดการตัดจบ หากไม่ได้จ้องสังเกตก็อาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่า
คนร้ายบุกเข้ามาในห้องสวยหรูนี้ยังไง
“ฮึบ” แรงสะบัดและรอยย่ำเท้าแรง ๆ จากการกระโดดส่งผลให้มีฝุ่นคละคลุ้งปลิวไหวเล็กน้อย ย่างก้าวเล็ก ๆ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังที่ซ่อนจุดซ่อนเล็ก พลางพูดเบาให้ใครสักคนได้ยินเท่านั้น... “ไปกันเถอะน้อง พี่ได้อาหารให้เราทานไปอีกหลายเดือนเลยนะ”
คนตัวเล็กกว่าที่หลุดออกจากที่ซ่อนพลางวิ่งเข้าโผกอดพี่ชายของตน มือมอมแมมที่เกาะเสื้อโทรมนี้ไว้แน่น ทั้งคู่กำลังย่างก้าวที่เดินผ่านไปจากภารกิจที่สำเร็จลุล่วงแล้ว ใบหน้ามอมแมมของชายตัวโตที่มองกลับมายังเรือเหาะสุดหรู ธารสายตาน่าฉงนมันแสดงออกทั้งความน่ารังเกียจและความน่าชิงชัง
ภายใต้ร่างกายที่ผอมแห้งจนแทบจะเห็นกระดูก โครงร่างบอบบางเหมือนแทบจะพังทลายได้ทุกเมื่อ ใบหน้าแม้อาจจะดูไม่ชัดเจนแต่กลับทิ้งไว้ซึ่งความแข็งแกร่งใต้ธารดวงตาเข้มข้นถึงแรงปรารถนาบางอย่าง มือหยาบกร้านและผิวหนังที่ปรากฏร่องรอยการเคลื่อนไหวของร่างกาย ความเหน็ดเหนื่อยจากเสียงหอบเป็นจังหวะเหตุเกิดจากการไม่ได้ทานอาหารได้เพียงพอ
เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นและรอยเย็บการซ่อมแซมลวก ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วทุกส่วนของเสื้อผ้า ผ้าสีซีดปกคลุมด้วยคราบสกปรกและคราบดินแห้งจนแทบมองไม่เห็นสีผิวที่แท้จริง
ดวงตาสีเทาที่กำลังส่องประกายความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอดต่อไป ภายใต้เส้นผมสีม่วงหม่นที่สะบัดพลิ้วตามแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า
“ถ้ารวยกันมากนัก ก็หัดเอาไปทำประโยชน์มั้งสิ” ...
----------------------------------------------------------------------------------
อย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ เป็นกำลังใจ
คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ได้เลยน๊า~
ช่องทางติดต่อ / ติดตาม
Twitter > https://twitter.com/DSeyouinz
สามารถพูดคุยได้ผ่าน #ชะตาของน้องมีฟฟ์ #สงครามผู้พิชิตโชคชะตา