เมื่อแร่ไซคีไพล์ถึงโลก แร่ชนิดนี้เริ่มปล่อยรังสีที่รุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ผู้คนล้มป่วย เสียชีวิต โลกตกอยู่ในความโกลาหล ทีมนักวิทยาศาสตร์พยายามหาวิธีหยุดยั้งภัยพิบัติ แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว และการกลายพันธุ์ในมนุษย์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ไซไฟ,แอคชั่น,สะท้อนปัญหาสังคม,เลือดสาด,ไทย,โลกล้มสลาย,โลกอนาคต,พลังพิเศษ,ไซไฟ,ต่อสู้,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อแร่ไซคีไพล์ถึงโลก แร่ชนิดนี้เริ่มปล่อยรังสีที่รุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ผู้คนล้มป่วย เสียชีวิต โลกตกอยู่ในความโกลาหล ทีมนักวิทยาศาสตร์พยายามหาวิธีหยุดยั้งภัยพิบัติ แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว และการกลายพันธุ์ในมนุษย์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้แต่ง
Pandora's Box
เรื่องย่อ
ปี 2044 20 ปีหลังความสำเร็จของ องค์การอวกาศนานาชาติ (OAA) ในการเดินทางด้วยความเร็วแสง มนุษยชาติได้ส่งยานอวกาศ "ไซคี" บรรทุกทีมนักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ มุ่งหน้าสู่ดาวไซคี ดาวเคราะห์น้อยที่ร่ำรวยไปด้วยแร่ธาตุอันล้ำค่า
บนดาวไซคี ทีมนักวิทยาศาสตร์ค้นพบแร่ชนิดใหม่ "ไซคีไพล์" แร่สีม่วงสดใส เปล่งแสงเรืองรอง และปล่อยรังสีอ่อน ๆ คล้ายกัมมันตภาพรังสี ด้วยความสงสัย พวกเขาเก็บตัวอย่างไซคีไพล์กลับมายังโลก
เมื่อแร่ไซคีไพล์ถึงโลก แร่ชนิดนี้เริ่มปล่อยรังสีที่รุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ผู้คนล้มป่วย เสียชีวิต โลกตกอยู่ในความโกลาหล ทีมนักวิทยาศาสตร์พยายามหาวิธีหยุดยั้งภัยพิบัติ แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว และการกลายพันธุ์ในมนุษย์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ตัวละครหลัก
1. อาเดรียน: ชายหนุ่มวัย 25 ปี นักบินอวกาศฝึกหัดบนยานไซคี เขาเป็นคนฉลาด ใจดี และกล้าหาญ อาเดรียนใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศมาตั้งแต่เด็ก เขารู้สึกตื่นเต้นกับภารกิจไปยังดาวไซคี แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญกับภัยร้ายแรง
2. โซเฟีย: หญิงสาววัย 25 ปี นักชีววิทยาบนยานไซคี เธอฉลาด สง่างาม และมุ่งมั่น โซเฟียหลงใหลในโลกธรรมชาติ เธอหวังว่าจะค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่บนดาวไซคี แต่เธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีไซคีไพล์
ตัวละครเสริม
1. ดร. ลี คิม: นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสี เขาเป็นผู้ค้นพบว่าไซคีไพล์ปล่อยรังสีที่รุนแรงขึ้น และเป็นคนแรกที่เตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครเชื่อเขา
2. พลเอก ซาราห์ จอห์นสัน: ผู้นำหน่วยพิเศษของกองทัพ เธอได้รับมอบหมายให้จัดการกับวิกฤตไซคีไพล์ พลเอกจอห์นสันเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ เธอ
“นี้อาเดรียนกลับ ฐานด่วน!” ดร. ลี คิม กล่าวด้วยแสดงสีหน้าตึงเครียด เมื้อ ดร. ลี คิม พูดจบ อาเดรียนนั้นทำการ เทเลพอร์ตกลับไปยังฐานหลัก
และในเวลาต่อมา โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชียร์โนบีล “การเล่นกับความกลัวของคนเรานี้มันสนุกอะไรอย่างนี้นา” กัปตันอเล็กซ์ กล่าวออกมาพร้อมกับแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม แต่แล้ว ดร.มาร์คัส ได้ทำการเดิมหายัง กัปตันอเล็กซ์ ที่ยืนอยู่ภายในห้องโถ่งสีขาวขนาดใหญ่ “นี้ อเล็กซ์ DNA ของผู้มีพลังเตรียมพร้อมที่จะเริ่มกระบวนการปลูกถ่ายพลังแล้วเรียนร้อย” “กระบวนการขั้นสุดท้ายสินะ”
ฐาน ZERO [ชั่วคราว] ห้องประชุม
“นี้มันเกินการควบคุมแล้ว ประเทศไทยนั้นเกิดการระเบิดไปแล้วทั้ง 3 จุดภายในวันเดียวเนี้ยนะ และไหนจะโดนขโมยหลอด DNA อีก ชังเป็นวันที่ดีจริงๆ” ดร. ลี คิม ได้พูดจบพวกเขาทั้งหมดในหน่อยก็ได้เริ่มประชุมกัน
โถ่งทางเดิน
“วันนี้แกดูหงุดหงิดและอารมเสียง่ายนะเนี้ย” อาเดรียนนั้นได้ถามไปยังโซเฟีย
“จะได้ว่าอย่างนั้นก็ได้ไม่ได้นะ” โซเฟียได้กล่าว
“ใช่นะสิทั้งโดนขโมยหลอด DNA ไปใครบ้างละจะไม่หงุดหงิดบ้างละ” อคิระได้ตอบ
“แต่อย่างว่าเครียดไปก็ไม่ได้อะไร ฉันได้ข่าวมาว่า แถวนี้มีร้านอาหารมาเปิดใหม่ไปกินกันมั้ย” จีนาได้พูดอย่างร่าเริง “อ่อและเจอกันเย็นนี้นะ”
"17.45 น. ในซอยเปลี่ยวแห่งนี้... ทุกอย่างมันช่างเงียบสงบเหลือเกิน เมื่อไม่กี่นาทีก่อน" อาเดรียนกระซิบเบาๆ สายตาของเขาจ้องไปที่รอยเลือดที่แผ่กระจายอยู่บนพื้น "อคิระ... จีนา... ราฟ... ไอริส..." เขาเรียกชื่อเพื่อนๆ ของเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "พวกเราเคยสัญญากันว่าจะแก่ไปด้วยกัน จะหัวเราะ ร้องไห้ และผ่านทุกเรื่องราวไปด้วยกัน..." น้ำตาไหลอาบแก้มของเขา "ทำไม... ทำไมต้องเป็นแบบนี้" โซเฟียที่ยืนอยู่ข้างๆ กอดอาเดรียนไว้แน่น เธอรู้ดีว่าคำพูดใดๆ ก็ไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดในใจของเขาได้
"17.45 น. ห้องสืบสวนสอบสวน" เสียงนาฬิกาเดินกึกกั๊กเป็นจังหวะเดียวกับเสียงหายใจหอบของอาเดรียนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้ต้องหาสามคน พวกมันนั่งเยาะเย้ยอยู่บนเก้าอี้เหล็ก "ก็เจ้านั้นมันมาเดินชนพวกฉันเองนิ" "เจ้านั้นนะมันขโมยกระเป๋าตังฉันเองนิ" เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังก้องไปทั่วห้อง
อาเดรียนก้าวเข้าไปใกล้พวกมันทีละก้าว สายตาของเขาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง "พวกแกคิดว่าจะรอดไปได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะชักอาวุธออกมาจากหลัง "ผิดแล้ว..."
"หึหึ แกคิดว่าจะฆ่าพวกเราได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?" หนึ่งในผู้ร้ายหัวเราะเยาะ "แกมันก็แค่มนุษย์ธรรมดา!"
อาเดรียนไม่ตอบโต้ใดๆ เขาแค่ยิ้มมุมปากอย่างเหยียดหยัน ก่อนจะขว้างอาวุธออกไปด้วยความเร็วแสง หอกคริสตัลพุ่งทะลุหัวของสองคนร้ายไปอย่างง่ายดาย เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง ผู้ร้ายคนสุดท้ายตาโตด้วยความตกใจ เขาพยายามจะวิ่งหนี แต่ก็สายเกินไป อาเดรียนเข้าไปประชิดตัวและกระซิบข้างหู "จำไว้... คนที่เล่นกับไฟ มักจะถูกไฟเผา แล้วฉันมีคำถามสุดท้าย ใครส่งพวกแกมา" ก่อนจะใช้มือเปล่าบิดคอของเขา “ถ้าแกยังไม่ตอบฉันจะบีบคอแกให้เละคามือฉันเลย”
"กัปตันอเล็กซ์... ขอร้อง... ปล่อยผมไปเถอะ" ผู้ร้ายร้องไห้พล่าน เขากอดขาอาเดรียนไว้แน่น "ผมแค่อยากมีชีวิตอยู่" ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความหวังสุดท้าย
อาเดรียนเงยหน้าขึ้นมองเพดานราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง "ฉันเข้าใจความรู้สึกของแกนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "แต่บางครั้ง การขอร้องก็ไม่ได้ช่วยอะไร" เขาค่อยๆ ก้มลงมองผู้ร้ายที่กำลังสั่นเทา "แกจำได้ไหมที่แกทำกับครอบครัวของฉัน?"
ผู้ร้ายเงียบไป เขาจำได้ถึงความเจ็บปวดที่เขาได้ก่อให้เกิดขึ้น อาเดรียนเห็นความกลัวในดวงตาของเขา และนั่นทำให้เขารู้สึกสะใจเล็กน้อย
"นี่คือสิ่งที่แกสมควรได้รับ" อาเดรียนพูดจบประโยค เขาส่งมือไปสัมผัสที่หน้าผากของผู้ร้าย ก้อนผลึกสีดำค่อยๆ ก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือของเขา ก่อนจะทะลุเข้าไปในกะโหลกศีรษะของผู้ร้ายอย่างรวดเร็ว เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วห้อง ก่อนจะเงียบลงไปในที่สุด ร่างของผู้ร้ายทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง
อาเดรียนหันไปมองเจ้าหน้าที่ที่ยืนอึ้งอยู่ตรงประตู "คุณเจ้าหน้าที่ครับ ที่เหลือผมจัดการเอง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้า สายตาของเขาสะท้อนให้เห็นความว่างเปล่าและความโหดร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใน
ตอนต่อไป ตอนที่ 32 แกบีบบังคับฉันเองนะ