เมื่อแร่ไซคีไพล์ถึงโลก แร่ชนิดนี้เริ่มปล่อยรังสีที่รุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ผู้คนล้มป่วย เสียชีวิต โลกตกอยู่ในความโกลาหล ทีมนักวิทยาศาสตร์พยายามหาวิธีหยุดยั้งภัยพิบัติ แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว และการกลายพันธุ์ในมนุษย์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ไซไฟ,แอคชั่น,สะท้อนปัญหาสังคม,เลือดสาด,ไทย,โลกล้มสลาย,โลกอนาคต,พลังพิเศษ,ไซไฟ,ต่อสู้,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Tier Zero ฝ่าวิกฤตรังสีอันตราย [จบ]เมื่อแร่ไซคีไพล์ถึงโลก แร่ชนิดนี้เริ่มปล่อยรังสีที่รุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ผู้คนล้มป่วย เสียชีวิต โลกตกอยู่ในความโกลาหล ทีมนักวิทยาศาสตร์พยายามหาวิธีหยุดยั้งภัยพิบัติ แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว และการกลายพันธุ์ในมนุษย์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ปี 2044 20 ปีหลังความสำเร็จของ องค์การอวกาศนานาชาติ (OAA) ในการเดินทางด้วยความเร็วแสง มนุษยชาติได้ส่งยานอวกาศ "ไซคี" บรรทุกทีมนักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ มุ่งหน้าสู่ดาวไซคี ดาวเคราะห์น้อยที่ร่ำรวยไปด้วยแร่ธาตุอันล้ำค่า
ห้องทดลอง A34 ในยามวิกาล แสงไฟสีฟ้าอ่อนส่องสว่างไปทั่วห้อง เครื่องมือวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ทำงานเสียงดังเจี๊ยบ ๆ ผลึกสีม่วงเข้มของไซคีไพล์ลอยล่องอยู่ในแท่นทดลอง
"ดูสิ! มันกำลังเกิดอะไรขึ้น" โซเฟียร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ผลึกไซคีไพล์ค่อย ๆ รวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเปล่งแสงสีม่วงเข้มออกมาจ้าจ้า แสงสีม่วงค่อย ๆ แผ่กระจายไปทั่วห้องทดลอง ทำให้ทุกคนต้องหลับตาลง
"มัน...มันกำลังเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?" ดร. มาร์คัสถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"พลังงานของมัน...มันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ " ดร. ลี คิมกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เราอาจจะสร้างสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ขึ้นมาแล้ว"
"แต่...มันสวยงามมาก" ดร. ลินดาพูดเบา ๆ ขณะมองดูแสงสีม่วงที่สวยงาม
ทันใดนั้นเอง แสงสีม่วงก็สว่างวาบขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะมืดลงไปในพริบตา ห้องทดลองตกอยู่ในความมืดสนิท เสียงเครื่องมือวิทยาศาสตร์เงียบลง และทุกคนต่างเงียบกริบ
"เกิดอะไรขึ้น?" โซเฟียถามด้วยเสียงสั่น
ดร. มาร์คัสพยายามจะเปิดไฟ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไฟฉุกเฉินก็ไม่ทำงาน พวกเขาทั้งหมดติดอยู่ในความมืดมิด
"เราอาจจะสร้างความผิดพลาดครั้งใหญ่เข้าแล้ว" ดร. ลี คิมกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
"นี่ อาเดรียน เป็นไงบ้างนอนไม่หลับงั้นเหรอ ทำไมถึงออกมาเดินเล่นแถวนี้" กัปตันอเล็กซ์ถามพลางมองไปยังดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยิบบนท้องฟ้า
"ก็อย่างที่คุณว่าแหละครับ ผมนอนไม่หลับ" อาเดรียนตอบเสียงเบา ๆ ขณะมองไปยังโรงเก็บกระสวยอวกาศที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
ทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวสะเทือนไปทั่วโรงเก็บกระสวยอวกาศ แสงไฟวาบสว่างจ้าตามมาติด ๆ และควันดำทะลักออกมาจากห้องทดลอง A34
"เกิดอะไรขึ้น!" กัปตันอเล็กซ์ร้องถามด้วยความตกใจ ทั้งสองรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงห้องทดลอง A34 ภาพตรงหน้าทำให้อาเดรียนและกัปตันอเล็กซ์ถึงกับผงะ เครื่องมือวิทยาศาสตร์และอุปกรณ์ต่างๆ พังเสียหายกระจัดกระจายไปทั่วห้อง เศษซากเหล็กและแก้วกระจายเกลื่อนกลาด พื้นห้องเต็มไปด้วยรอยไหม้เกรียม
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!" กัปตันอเล็กซ์ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น "ใครเป็นคนทำแบบนี้!"
อาเดรียนพยายามควบคุมสติตัวเอง "ผมไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ดูเหมือนว่าระเบิดลูกนี้จะมีพลังงานสูงมาก"
"ใช่... และดูเหมือนว่าเป้าหมายของมันคือห้องทดลองแห่งนี้โดยเฉพาะ" กัปตันอเล็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด "เราต้องแจ้งให้หน่วยรักษาความปลอดภัยทราบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด"
โรงพยาบาลสนามหลังเหตุการณ์
ดร. อเล็กซ์เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยวิกฤต พยาบาลแอนกำลังยืนมองผู้ป่วยชายคนหนึ่งอย่างตกใจ
ดร. อเล็กซ์: เกิดอะไรขึ้นกับเขา?
พยาบาลแอน: หมอคะ... ดูเขาดิค่ะ คริสตัลสีม่วงมันกำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ เลย
ดร. อเล็กซ์เข้าไปตรวจสอบผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด คริสตัลสีม่วงขนาดใหญ่กำลังเจริญเติบโตออกมาจากร่างกายของผู้ป่วย คล้ายกับรากไม้ที่แผ่ขยาย
ดร. อเล็กซ์: นี่มัน... ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นเหมือนเชื้อราชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ แล้วมันคืออะไรกันแน่?
ดร. อเล็กซ์หยิบเครื่องมือทางการแพทย์มาตรวจสอบคริสตัลอย่างละเอียด
ดร. อเล็กซ์: (กระซิบ) มันกำลังดูดซับพลังงานชีวิตของเขา...
ทันใดนั้น คริสตัลก็ส่องแสงสีม่วงจ้าขึ้นมา และเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ห้องพยาบาลสั่นสะเทือนเศษซากกระจายไปทั่ว
พยาบาลแอน: หมอ!
ดร. อเล็กซ์ล้มลงไปกองกับพื้น รู้สึกถึงความเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาและเห็นว่าคริสตัลสีม่วงเล็กๆ กำลังเติบโตออกมาจากแขนของเขา
ดร. อเล็กซ์: (กระซิบ) ไม่... ไม่ใช่จริง
ตอนพิเศษที่ 45 จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ต่างๆ
"ฟ้าสีม่วงครอบคลุมทุกสิ่งราวกับผ้าห่มที่เต็มไปด้วยพิษ" อาเธอร์กระซิบเบา ๆ ขณะมองออกไปนอกช่องลมของหลุมหลบภัย "ฉันจำเมืองนี้ไม่ได้แล้ว... มันเปลี่ยนไปมาก"
เขาหันไปมองเพื่อนร่วมหลุมหลบภัยคนอื่น ๆ ที่กำลังนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ รอยย่นบนใบหน้าของพวกเขาบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าและความหวาดกลัว พวกเขาเคยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน แต่ตอนนี้ทุกคนต่างต้องระวังภัยจากทั้งภายนอกและภายใน
"ฉันคิดถึงอาหารสดจัง" เด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อเบนพูดขึ้นเสียงเบา ๆ "เบื่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้ว"
"เดี๋ยวนะเบน" อาเธอร์ลูบหัวเบา ๆ "เราจะหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ แล้วเราจะได้กินอาหารอร่อย ๆ อีกครั้ง"
แต่แล้วเสียงระเบิดดังสนั่นก็ดังขึ้นจากด้านนอก ทำให้ทุกคนในหลุมหลบภัยตกใจกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากไหน และหมายความว่าอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจก็คือ โลกภายนอกยังคงอันตรายและไม่น่าไว้วางใจ และโลกนั้นถูกปกคลุมไปด้วย กัมมันตรังสี
ห้องแถลงข่าวระดับโลก
"ประชาชนชาวโลกทุกท่านครับ" ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โลกของเราเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มลพิษทางอากาศทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ และสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"
"เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตนี้ รัฐบาลโลกได้ร่วมกันพัฒนาระบบฟื้นฟูสภาพอากาศโลก หรือที่เรียกว่า 'โครงการไอออน' ซึ่งเป็นระบบกรองอากาศขนาดใหญ่ที่ทำงานโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง"
"โครงการไอออนจะทำหน้าที่ดักจับและกำจัดมลพิษในอากาศ พร้อมทั้งปล่อยอากาศบริสุทธิ์กลับคืนสู่ชั้นบรรยากาศ เราเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูโลกของเรา"
"อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ย่อมมีความเสี่ยงและความท้าทายอยู่บ้าง เราจำเป็นต้องทำการศึกษาและวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการไอออนจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว"
"ผมขอให้ทุกท่านร่วมกันสนับสนุนโครงการนี้ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของโลกของเรา"
เสียงไซเรนดังก้องไปทั่วซอยร้าง บรรยากาศหลังอาทิตย์ตกดินดูน่ากลัวเป็นพิเศษ เด็กหนุ่มตัวเล็ก ๆ วิ่งหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ไล่ล่ามาติด ๆ
"หยุดนะ! เดี๋ยวฉันจะจับแกได้!" เสียงตะโกนดังลั่น
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!" เด็กหนุ่มร้องขอความช่วยเหลือเสียงหลงลับ ๆ
เด็กหนุ่มวิ่งมาจนถึงซอยตัน เขาหันกลับไปมอง เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาพยายามหาที่หลบซ่อน แต่ก็ไม่มีที่ไหนให้หลบ
"เจอมันแล้ว!" หนึ่งในชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้น
ทันใดนั้นเอง ผลึกสีม่วงลึกลับที่เด็กหนุ่มพกติดตัวอยู่ก็เปล่งแสงวาบออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่กลุ่มชายฉกรรจ์อย่างรวดเร็ว พวกเขาต่างร้องด้วยความเจ็บปวดและล้มลงไปกองกับพื้น
เด็กหนุ่มนั่งลงข้างกำแพง หายใจหอบ ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม "ทำไมพวกเขาถึงต้องทำกับผมแบบนี้" เขาพูดกับตัวเองเบา ๆ "แค่เพราะผมต่างจากคนอื่น"
ในความมืดมิด ดวงตาคู่หนึ่งมองเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร
"อย่ากลัวไปเลยนะ" เสียงทุ้มลึกลับดังขึ้นจากด้านหลัง
เด็กหนุ่มหันไปมอง เห็นชายสูงใหญ่สวมเสื้อคลุมดำยืนอยู่ตรงหน้า
"คุณเป็นใคร?" เด็กหนุ่มถามด้วยความหวาดกลัว
"ฉันเป็นคนที่จะช่วยเหลือเธอ" ชายคนนั้นยื่นมือออกไป "มาที่นี่"
เด็กหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจจับมือชายคนนั้น
"ขอบคุณครับ" เด็กหนุ่มพูดเบา ๆ
ชายคนนั้นพยักหน้า แล้วพาเด็กหนุ่มเดินออกไปจากซอยร้างนั้น
"จะว่าไปแล้ว หนุ่มน้อยนายชื่ออะไรเหรอ ทำไมถึงโดนไล่ล่าอย่างนั้นได้ แล้วพอแม่ของเธออยู๋ที่ไหน" ชายปริศนาถามเสียงเรียบ ชายผู้นี้มีดวงตาสีเหล็กกล้าที่ส่องประกายเย็นยะเยียบราวกับน้ำแข็ง
"พ่อแม่เหรอครับ... ผมไม่มีหรอกครับ" อิกนิสตอบเสียงแผ่วเบา เขาเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้า ดวงตาสีม่วงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและความกลัว "พวกเขา... ทิ้งผมไปแล้ว"
"แล้วนายชื่ออะไรล่ะ?" ชายปริศนาถามซ้ำ
"ผมชื่อ อิกนิสครับ" อิกนิสตอบเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง ร่างกายของเขาสั่นเทาเล็กน้อย
"อิกนิส... ชื่อที่แปลกดี" ชายปริศนายิ้มอย่างขมขื่น "ฉันชื่ออเล็กซ์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก" เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ "มนุษย์มันโหดร้ายเสมอ ฉันเข้าใจนายดี" ดวงตาของอเล็กซ์ฉายแววเศร้า เขาเล่าเรื่องราวในอดีตให้เด็กหนุ่มฟังถึงวันที่เขาถูกขับไล่ออกจากงานที่เขารักและบ้านของเขาเพียงเพราะเขานั้นมีลักษณะที่แตกต่างออกไป
"ไม่ว่าเราจะพยายามทำดีแค่ไหน พวกเขาก็จะมองเราเป็นสัตว์ประหลาดเสมอ" อเล็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น "แต่ไม่ต้องห่วงนะ อิกนิส ต่อไปนี้ฉันจะดูแลนายเอง"
"บ้านเหรอครับ?" อิกนิสถามเสียงเบา เขามองไปยังชายตรงหน้าด้วยความหวังและความไม่แน่ใจ
"ใช่แล้ว บ้าน" อเล็กซ์ยิ้มให้เล็กน้อย "มา... ไปดูบ้านใหม่ของนายกัน"
ปี 2044
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชียร์โนบีล
"อิกนิส" เสียงทุ้มต่ำของกัปตันอเล็กซ์ดังขึ้นขณะมองไปยังหุ่นยนต์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ "ถึงเวลาที่เจ้าต้องรับหน้าที่นี้แล้ว"
อิกนิสไม่ตอบ แต่ดวงตาสีแดงของมันก็ส่องประกายวาววับ "ผมเข้าใจครับท่าน"
"มนุษย์...พวกมันเป็นเพียงเชื้อโรคที่คอยทำลายโลกใบนี้" กัปตันอเล็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เจ้าต้องจำไว้ว่า เป้าหมายของเราคือการกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก"
"ผมจะทำตามคำสั่งของท่านครับ" อิกนิสตอบรับอย่างนิ่งเฉย
"แต่ก่อนที่ฉันจะไป ฉันอยากให้เจ้ารู้ว่า... ฉันไม่ได้เกลียดมนุษย์ทุกคน" กัปตันอเล็กซ์กล่าวพลางถอนหายใจ "แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เชียร์โนบีล ฉันก็ไม่ไว้ใจพวกเขาอีกต่อไปแล้ว"
"ท่านหมายถึง..." อิกนิสถาม
"ใช่แล้ว" กัปตันอเล็กซ์พยักหน้า "ความโลภและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์เป็นต้นเหตุของทุกสิ่งทุกอย่าง"
"ผมเข้าใจแล้วครับ" อิกนิสกล่าว "มนุษย์มันเป็นเพียงแค่เชื้อโรคที่ต้องกำจัด!"
ตอนที่ 1 ความหวัง