ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนที่ 4
ช่วยอยู่ข้างฉันจะได้ไหม
ไคและเนม อายุ 16 ปี
หลังจากนั้นไม่นาน เนมก็เลิกกับแฟนตามที่คาด เนมพยายามขอโทษผมแต่ผมก็แค่เพียงมองเขาแล้วเดินหนีจนถึงวันเปิดเรียน เพื่อนๆ ในห้องเริ่มผิดสังเกตที่ผมไม่สนใจเนมเพราะทั้งห้องรู้ดีว่าเราเป็นเพื่อนรักกัน
"ไค ทำไมนายไม่คุยกับเนมละ ทะเลาะกันไง?"
แซนด์เด็กสาวคนหนึ่งที่ผมจำชื่อได้เพราะเธอช่างขยันก่อกวนและเข้าใกล้ผมตลอดเวลา เข้ามานั่งข้างผมแล้วชวนคุย
"นายไม่คุยกะเนมงี้ ก็เป็นไอ้โดดเดี่ยวถาวรแล้วสิ" ผมมองหน้าเธอแล้วใช้สีหน้าถามว่าเธอต้องการอะไรกันแน่ ด้วยความรำคาญ
"คืองี้ ต่อมเผือกมันอยากรู้อะนะ ปกตินายสองคนสิงกันจนจะเป็นแฝดสยามอยู่แล้ว ทำไมถึงทะเลาะกันได้?"
"ไม่มีไรหรอก ทะเลาะกันตามภาษาผู้ชายนั่นแหละ เฮ้อ" ผมทำทีท่าถอนหายใจราวกับเบื่อโลก
"เล่ามาเซ่~ เผื่อช่วยให้คืนดีกันได้ไง เนมก็ดูไม่มีความสุขด้วย ไอดอลของห้องอย่างเนมเป็นงั้นโทนห้องมันเลยหม่นลงรู้เปล่า"
"ไม่ได้ทะเลาะกันแค่ไม่อยากยุ่งด้วย"
"โห ดูท่าจะเรื่องใหญ่นะนิ ขนาดไม่อยากยุ่งด้วย เล่ามาเถอะฉันไม่บอกใครหรอก" แววตาสงสัยและดูตื่นเต้นของเธอทำให้ผมคิดอะไรดีๆ ออก
ใครๆ ก็รู้ว่าแซนด์เองก็เป็นคนดังในห้องรองจากเนมแต่ไม่ใช่ในด้านที่ทำตัวดีและมีคนชื่นชมแบบเนมแต่คุณหนูที่รวยและไม่มีคนที่กล้าขัดใจเธอ เพราะถ้าใครทำให้เธอโมโหก็เตรียมตัวลาออกได้เลย
"แมวตายน่ะ"
"หา? แค่แมวตายแล้วทำไมทะเลาะกัน?"
"วันนั้นฉันเอาแมวไปฝากให้เนมดูแลสักสองสามชั่วโมงแล้วมันดันตายตอนนั้นพอดี มันก็ป่วยอยู่แล้วด้วย"
"อะไร? งงละ มันก็ตายกันได้ตลอดนั่นแหละถ้าแมวป่วย"
"เขาลืมมันน่ะ ฉันไม่ได้โกรธที่มันตายแต่โกรธที่เนมลืมมัน ถ้าเขาสนใจมันสักนิดหรือบอกฉันว่าไม่สะดวกดูแลฉันจะได้ไปฝากโรงแรมแมว มันอาจจะรอด"
"เนมได้แก้ตัวบ้างไหม? มาขอโทษหรือยัง"
"อืม เขาบอกตอนนั้นแฟนโทรมาพอดี ทั้งๆ ที่แมวตัวนั้นเนมเป็นคนอยากเลี้ยงเองแท้ๆ แต่บ้านเขาเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ฉันเลยเอามาเลี้ยงแทน ตอนแรกฉันก็ไม่อยากเลี้ยงหรอกแต่ใจอ่อนเพราะเนมพูดกล่อมแล้วบอกว่าจะช่วยกันดูแล"
"ฟังนายเล่าแล้วเนมดูไร้ความรับผิดชอบมากเลย อยากเล่นกับแมวแต่ไม่อยากดูแล แถมตอนนี้ยังตีหน้าเศร้าให้คนสงสารคอยปลอบอีก ฉันว่าตัวเองปลอมแล้วเนมปลอมกว่าอีก ตอนแรกฉันก็ว่าจะกล่อมให้ดีกันเพราะสงสารเนมที่เศร้าอยู่ เห็นเนมเงียบๆ แต่แผนสูงนะเนี่ย แล้วนายจะทำไงต่ออ่ะ?"
"ก็ไม่ยังไง ดูๆ ไปก่อน วุ่นวายเปล่าๆ" ผมบอกเธอแต่คนอย่างแซนด์เธอต้องเอาไปเมาส์กับเพื่อนๆ เธอแน่นอนอยู่แล้ว
ด้วยการกระจายข่าวจากปากแซนด์ ไม่นานเนมก็เริ่มโดนบอยคอด จากเรื่องเล็กๆ ที่ผมเล่า ข่าวลือก็เริ่มไปไกลขึ้น และโดนแต่งแต้มจนมั่วไปหมด ตั้งแต่ ขี้ประจบ ชอบเอาหน้า คบไม่เลือก ไร้ความรับผิดชอบ
ถึงแม้วิธีใช้ข่าวลือนี้จะได้ผลแต่ส่วนใหญ่จะได้ผลกับพวกผู้หญิงเสียมากกว่าผมจึงต้องอุดช่องว่างด้วยการที่ถ้าผมเห็นเพื่อนผู้ชายคนไหนไปคุยกับเนมหรืออยากเล่นกับเนม คนนั้นจะไม่มีทางได้ลอกสมุดการบ้านผม หรือมีชื่ออยู่ในรายงานผมเด็ดขาด พอเป็นแบบนั้นบ่อยๆ เข้าสุดท้ายก็ไม่มีใครที่อยากเป็นเพื่อนกับเนมเพราะอยู่ฝั่งผมแล้วจะได้ประโยชน์มากกว่า
ไคและเนม ปัจจุบัน
หลังเสร็จกิจ ผมก็ล้างหน้าให้เนมอีกรอบ แล้วพาเขาออกจากห้องน้ำไปแต่งตัว ตอนนี้เหมือนจิตใจเนมไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่ ผมแก้มัดให้เขา ยื่นเสื้อยืดตัวใหญ่ที่คลุมได้ถึงต้นขาให้
"แล้วกางเกงล่ะไปไหน" เนมถามผม
"ใส่แค่นั้นแหละ แล้วก็นี่! แท่นแถ๊น ปลอกคอของเด็กดี น่ารักใช่ไหม"
ผมยื่นปลอกคอขนาดพอดีให้เขาดู มันเป็นสีดำสนิทและห้อยด้วยกระดิ่งเล็กๆ มันเหมาะกับคอที่ขาวเป็นสำลีของเขามาก
"มันเป็นปลอกคอของเด็กดีเพราะฉะนั้นใส่แล้วอย่าดื้อล่ะ" ผมพูดหลังจากใส่ปลอกคอให้เขาเสร็จ
"สนุกไหม จับผู้ชายมาแต่งตัวเป็นบาร์บี้เนี่ย"
"ก็พอดูนะ เพราะเนมใส่อะไรก็สวยไง ป่ะไปกินข้าวกัน ตอนนายหลับฉันทำอาหารแบบง่ายๆ ไว้ให้"
"ไม่อยากกิน ตอนนี้ในปากมีแต่รสน้ำกาม จะแปรงฟันอีกรอบก็ไม่ให้แปรง"
"ฮืมมม งั้นกินน้ำกามอีกรอบดีไหมแทนข้าว"
"ป่ะ กินข้าวกัน อยู่ในครัวชะ?" เนมได้ยินผมพูดปุ๊ปก็ทำท่าจะรีบเดินออกจากห้องแต่งตัว
"เดี๋ยวก่อน นายเป็นสัตว์เลี้ยงนะอย่าลืมหางสิ" ผมหยิบหางแมวที่ติดกับดิลโด้แบบเมื่อคืนแต่คราวนี้มันฝังมุกปัดลงไปด้วย ผมยื่นมันให้เนม
"คราวนี้ลองใส่เข้าไปเองไหม" ผมถามแต่พอเนมเห็นรูปร่างของมันแล้วหน้าถอดสีทันที เนมถอยหลังแล้วหันหลังให้ผมวิ่งไปทางประตูทางออกห้องเสื้อผ้า แต่ผมจับเขาได้ก่อนที่เขาจะวิ่งออกจากห้องไป ผมกดเขาลงกับพื้นเข่าของผมดันหลังเนมไว้อยู่
"จะหนีทำไมยังไงนายก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี"
"อันตั้งขนาดนั้น มันเข้าไม่ได้หรอก" เนมส่ายหัวไปมา
"เข้าได้ เชื่อฉันสิ เมื่อเช้าฉันก็ขยายมันไว้อยู่ งั้นถ้ายังไม่กล้าใส่เองเดี๋ยวฉันใส่ให้ก่อนแต่คราวหลังเนมต้องใส่เองแล้วนะ"
"ทำไมฉันต้องใส่มันด้วย ถ้านายเงี่ยนนักถึงไม่เรียกอีตัวเอา นายโกรธอะไรฉันนักหนา หะ"
"เฮ้อ ไม่ได้โกรธ ชอบต่างหาก รักนายจนแทบจะกลืนเข้าไปทั้งตัวอยู่แล้ว มองไม่ออกหรือไง"
"ไอ้ ไอ้ ไอ้บ้า โกหกสินะ คนรักกันใครเขาทำกันแบบนี้บ้าง"
"ก็เพราะรักไงถึงอยากให้นายทรมานเยอะๆ"
ผมจับก้นเขาแหวกออกแล้วดันดุ้นปลอมตะปุ่มตะป่ำเข้าไปนึดนึง
"อือส์ เจ็บๆๆๆ มันเข้าไม่ได้หรอก"
"ได้ไม่ได้ก็เข้าไปแล้ว ลองขมิบดูสิ รู้สึกใช่ไหมว่ามันต่างจากอันเมื่อคืน" ตอนนี้ผมค่อยๆ ดันมันจนสุดแท่ง
"บอกได้ไหมว่าต่างกันยังไงกับอันเมื่อคืน"
"ใครจะไปรู้ ไม่รู้หรอก" เนมที่หน้าแดงไปทั้งแถบตอบด้วยเสียงอู้อี้ ในลำคอ
"ไม่รู้งั้นเหรอ ไม่เป็นไรยังไงวันนี้นายก็ต้องอยู่กับมันทั้งวันอยู่แล้ว" ผมลุกขึ้นแล้วดึงเนมขึ้นมาด้วย แต่ขาเนมสั่นกึกๆ แล้วยืนไม่ตรงสักที ตัวก็โค้งงอ
"เหมือนลูกเป็ดพึ่งเกิดเลย ฮ่าๆๆ"
"อย่าหัวเราะนะ" เนมเริ่มโมโห
ผมพาเขาเดินทีละก้าวแบบแม่เป็ดสอนเดินไปจนถึงห้องครัว ผมหยิบขนมปังปิ้ง ไข่ดาวและไส้กรอกทอดวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว แต่เนมก็ไม่ยอมนั่งสักที
"นั่งเองได้ไหม?" ผมถามเขาแต่เนมก็เงียบ ผมจึงเดินไปหาเขาที่เก้าอี้และดันเขาลงไปสุดตัวจนกระแทกกับเก้าอี้ดังอัก เนมเอามือกุมท้องน้ำตาเล็ดออกมา
"สักวันฉันจะฆ่านาย คอยดูเถอะ" เนมกัดฟัน มือข้างหนึ่งกำส้อมไว้แน่นส่วนอีกข้างกุมท้องไว้แล้วพยายามพูด
"ครับๆ ถ้าทำได้ก็เอาเลย ตอนนี้กินข้าวเถอะ" เนมหน้าบูดเบี้ยว มองจานอาหารตรงหน้าหิวก็หิว แต่กลัวว่าถ้ากินเข้าไปจะทำให้เจ็บท้องกว่าเดิมหรือเปล่า
"ไม่เป็นไรกินเถอะถ้านายกินหมด หลังจากนี้ฉันให้ดูหนัง เล่นเกมตามสบายเลย"
ผมดูเนมกินข้าวทีละน้อยแต่ทุกครั้งที่กลืนเนมจะเผลอเกร็งท้องทำให้รู้สึกแน่นและเจ็บท้องตลอดการกินข้าว กว่าเขาจะกินข้าวหมดก็ล่อไปเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว