"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น
ตอนที่ 11
หลบหนี
ไคและเนม ปัจจุบัน
หนังที่ฉายอยู่ในจอทีวีมาถึงฉากไคลแม็กซ์แต่เนมก็ยังคงหลับอยู่อย่างเหนื่อยล้าบนตักผม พระอาทิตย์ที่เคยฉายแสงส่องสว่างตอนนี้เริ่มใกล้จะตกดินแล้ว ขนมที่วางอยู่ตรงโต๊ะก็หมดไปเกือบครึ่ง
ผมนั่งจิ้มโทรศัพท์เลือกเมนูอาหารเย็นนี้ว่าจะกินอะไรดีโดยไม่ได้สนใจหนังที่เปิดอยู่เลยสักนิด ได้แต่คิดว่าจะสั่งอะไรมาให้เนมกินดีก่อนเขาจะตื่น
ผ่านไปสักพักเนมก็ขยับตัว ดวงตาน้อยๆ สีน้ำตาลเข้มก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น กะพริบตาปริบๆ สองสามที เนมลุกขึ้นยืนพรวดพราดหันหน้าไปทางซ้ายทีขวาที แต่พอเห็นผมนั่งอยู่บนโซฟาที่เดิมก็ดูมีสีหน้าเศร้าขึ้นมาทันตา
"เป็นอะไรไปเนม?"
"ไม่มีไร ก็แค่ฝัน"
เนมสะบัดหัวส่ายหน้าแรงๆ เหมือนจะสะบัดความมึนงงออก ผมดึงแขนเนมลงมานั่งที่โซฟาตามเดิม
"เย็นนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม ป่านนี้น่าจะหิวแล้วนะ"
"ยังไม่หิว"
"อย่าโกหก เดี๋ยวก็ปล่อยให้อดจริงๆ หรอก"
"........"
เนมเงียบไม่ตอบผมแต่นั่งมองผมจิ้มโทรศัพท์เลื่อนดูเมนูทีละร้านอย่างเงียบๆ ก่อนชี้นิ้วลงบนโทรศัพท์ผม
"เอาอันนี้" เนมชี้ลงที่ร้านไก่ทอดเจ้าดัง ผมคิดอยู่แล้วว่าเนมจะต้องอยากกินเลยแกล้งเลื่อนไปมาต่อหน้าเขา
"โอเค ชุดใหญ่เลยนะกินด้วยกัน"
ผมกดสั่งอาหารที่เนมอยากกินเสร็จ ก็วางมือถือลงบนโต๊ะ
"อยากกินแอปเปิลอีกไหม" ผมชี้ไปทางจานแอปเปิลที่เหลืออยู่ชิ้นสองชิ้น
"อยากกินเพิ่ม...เยอะๆ เลย" เนมมองจานแอปเปิล แล้วหันมาบอกผม
"โอเคเดี๋ยวไปปอกให้ ดูหนังไปก่อนนะ"
ผมเดินเข้าห้องครัวหยิบแอปเปิลลูกที่เหลือขึ้นมาปอกสองสามลูก เสร็จแล้วก็เดินกลับไปหาเนมที่กอดหมอนดูทีวีอยู่ ผมกวาดสายตาไปบนโต๊ะก็เห็นว่าโทรศัพท์มันเคลื่อนไปจากที่เดิมเล็กน้อย
"เปิดได้ไหมล่ะ" เนมสะดุ้งทำแอปเปิลที่กำลังจะเข้าปากหลุดมือ หลังได้ยินผมพูด
"ปะ ปะ เปิดอะไร" เนมเริ่มพูดตะกุกตะกัก
"โทรศัพท์ไง เปิดได้ไหม"
"ไม่ได้จะเปิด ไม่ได้แตะเลย"
"ให้ย้อนกล้องไหม?" เนมหน้าเจื่อนลงทันที
"แค่.. แค่อยากรู้ว่าไก่ถึงไหนแล้ว"
"ไม่ได้จะโทรหาตำรวจเหรอ" ผมหยิบแอปเปิลเข้าปากอีกชิ้น
"......." เนมเงียบอีกรอบคงรู้ดีว่าโกหกอะไรออกมาให้ผมฟังผมก็คงรู้อยู่ดี
"กินให้หมดล่ะที่ปอกให้ ถ้าไม่หมดเดี๋ยวจะช่วยยัดเข้าให้อีกทาง" ผมยิ้มแล้วหยิบแอปเปิลอีกชิ้นป้อนให้เนมถึงปาก
"จะ จะกินให้หมดเดี๋ยวนี้แหละ" เนมหยิบแอปเปิลทีละชิ้นสองชิ้นเข้าปากเคี้ยวอย่างเร็ว
"กินช้าๆ ก็ได้ เดี๋ยวติดคอ"
"แค่กๆๆๆๆ"
"นั่น พูดยังไม่ทันขาดคำเลย" ผมยื่นน้ำให้และลูบหลังเบาๆ
เนมเหลือกตาใส่ผม มองแบบผมนั่นแหละที่ผิด
ครืดๆ ครืดๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการไอของเนมแบบพอดิบพอดี
"ฮัลโหล สวัสดีครับ ครับ ได้ครับ เดี๋ยวผมออกไปเอา"
"คนส่งของหรอ?"
"ใช่ ฉันออกไปเอาข้าวแป๊บหนึ่งนะ"
เนมพยักหน้า ผมจึงเดินออกจากบ้านไปเอาอาหารที่สั่งไว้ จ่ายเงินเรียบร้อยรับของเสร็จ ผมก็เดินกลับบ้าน ในระหว่างที่เดินเข้าบ้านพร้อมกับไก่ในมือ เนมได้แอบอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก่อนที่ผมจะสังเกตเห็นในมือของเนมถือเก้าอี้ของห้องครัวอยู่
เนมได้ฟาดเก้าอี้นั่นเข้ามาที่หลังหัวผมอย่างแรงจนผมถึงกับเสียหลักเพราะความมึนและความเจ็บ เนมรีบวิ่งทันทีที่เห็นผมทรุดลงไปกับพื้น ผมจับหัวตัวเองที่โดนเนมฟาดก็เห็นเลือดสดๆ ไหลออกมาจากท้ายทอย ถึงจะไหลไม่เยอะมากแต่ก็เจ็บอยู่ดี
ผมค่อยๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนแต่ก็ยังเซเล็กน้อย ผมใช้มือข้างหนึ่งเกาะกำแพงแล้วค่อยๆ เดินไปหาเนมที่ประตูบ้านอย่างช้าๆ ผมเห็นเนมพยายามบิดลูกบิดประตูแต่กลอนใหญ่ถูกใส่ไว้เนมเลยเปิดออกไปไม่ได้ พอเนมเห็นผมเดินมาก็รีบเคาะประตูอย่างรุนแรงพร้อมตะโกน
ปัง ปัง ปังๆ
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยด้วย ช่วยที ฮือออ"
เนมร้องไห้ไปทุบประตูไป
"เนม พอเถอะ ไม่มีใครได้ยินหรอก เจ็บมือเปล่าๆ"
"ไม่ๆๆ อย่าเข้ามาใกล้นะ" เนมดันตัวเองติดประตู ปัดมือไปมาใส่ผมเหมือนเห็นผีร้าย เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้
"เนม อย่าทำให้โมโห ความอดทนฉันใกล้จะหมดแล้ว" ผมพูดเสียงแข็งใส่เนม จริงๆผมไม่ได้โมโหเนมหรอกแต่ความอดทนของผมที่จะไม่ทำให้เนมเจ็บตัวมันใกล้หมดแล้วต่างหาก
"เนม มานี่มา" ผมเรียกเนมอีกรอบแต่เขาก็ยังคงเอาแต่ทุบประตูแล้วปัดมือผมออก
"อ่า ชักจะรำคาญแล้วสิ" ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมเดินไปหาเนม ใช้มือข้างหนึ่งจับไหล่เนมไว้ดันติดกับประตู แล้วใช้แขนอีกข้างกำหมัดหลวมๆ ต่อยไปตรงท้องเนมอย่างแรง
"อักก " เสียงร้องด้วยความจุกดังขึ้น เนมเอามือกุมท้องแล้วร่วงลงไปอยู่กับพื้น
ผมนั่งยองๆ ลงไปตาม มองเนมที่จุกอยู่
"ขนาดออมแรงแล้วนะเนี่ย เฮ้ออออ"
ผมบีบคอเนมที่นั่งอยู่กับพื้นให้ติดประตูแล้วใช้แรงบีบดึงขึ้นให้เนมลุกขึ้นยืน ตอนแรกเนมใช้มือกุมท้องอยู่แต่ตอนนี้มันมาหยุดอยู่ที่มือผมข้างที่โดนผมบีบคอเนมแล้ว เขาพยายามออกแรงสุดฤทธิ์เอามือผมออก
"เป็นรอยแน่เลย ไม่อยากให้เป็นรอยเลย แต่ถ้าเป็นรอยก็สวยดี เอาไงดีนะ?"
ผมจับหลังคอตัวเองเอียงไปซ้ายทีขวาทีระหว่างคิดทั้งที่ยังบีบคอเนมอยู่
"เป็นรอยก็ช่างมันละกัน ยังไงก็สวยอยู่ดี"
ผมผ่อนแรงบีบให้เนมหายใจได้แต่ยังแรงพอที่เนมจะไม่หลุดออกจากมือผม
"หายใจเข้าลึกๆ ละ นั่นล่ะ สูดอากาศเข้าไป"
ผมยิ้มบอกเนม เนมมองผมด้วยความกลัวและงงแต่ก็ทำตามที่ผมบอกเพราะตะกี้นี้เขาไม่สามารถหายใจได้ด้วยซ้ำ เวลาแบบนี้ก็ต้องรีบสูดอากาศเข้าปอดไปเฮือกใหญ่สิ จริงไหม?
พอผมเห็นเนมหายใจคล่องขึ้น ผมจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบให้หนักกว่าเดิมลงบนคอเนียนขาวของเนม ผมใช้แรงบีบดันขึ้นไปสุดแรงจนตัวเนมลอยขึ้นจากพื้น ในตอนนี้ปลายเท้าเนมไม่แตะพื้นแล้ว
เนมตะเกียกตะกายสุดฤทธิ์ข่วนมือผมจนเลือดไหลซิบๆ หน้าของเนมที่เคยขาวผ่องได้เปลี่ยนเป็นสีแดง
"คนเราขาดอากาศหายใจได้กี่วินะ เหมือนเคยเห็นอยู่แวบๆ 20 วิ? 30 วิ? อ่า จำไม่ได้แล้ว" ผมส่ายหน้าไปมาไล่ความขี้ลืมของตัวเอง
"สงสัยเพราะแรงตีจากเก้าอี้ถึงได้ลืมมั้ง เริ่มมึนๆ ละ อ่าใช่ๆ ต้องระวังไม่ให้คอหักด้วย ใช่ไหมนะ? ใช่แหละ"
"เนมต้องระวังคอหักด้วยใช่ไหมอ่ะ?" ผมถามเนมแต่เนมก็ไม่ตอบผมอีกแล้วใจร้ายจริงๆ เลย
หน้าของเนมเริ่มเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวแล้ว สงสัยผมคงต้องปล่อยมือละ น่าเสียดายจริงๆ อยากบีบนานกว่านี้จัง ไม่สิต้องรีบๆ ปล่อย เดี๋ยวเนมตายเอา ความมึนมันทำให้คิดอะไรไม่ค่อยออกเลย
ในที่สุดผมก็ปล่อยมือจากคอเนม เนมร่วงตุบลงไปอยู่กับพื้นอีกครั้ง
"ค่อกๆๆ อุ๊ แหวะ"
เนมไอจนอ้วกเอาแอปเปิลที่กินไปเมื่อกี้ออกมาเต็มพื้น
"สกปรกนะ เนม ฉันต้องเช็ดอีกเนี่ย" ผมก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
"ขอโทษ ฮือ ขอโทษนะ จะไม่ทำอีกแล้ว ฮึก" เดี๋ยวฉันเช็ดเองนะ แค่กๆ"
เนมเอาเสื้อตัวยาวที่ตัวเองใส่อยู่พยายามถูพื้นไปมาเหมือนกลัวว่าผมจะทำร้ายเขาอีกเพราะเขาทำพื้นเลอะ พร้อมทั้งร้องไห้ไปไอไปดูน่าสงสารสุดๆ
"ผมนั่งยองๆ มองเขาเช็ดไปทั้งๆ ที่มันคงไม่สะอาดขึ้นหรอก เดี๋ยวผมคงต้องมาเช็ดอีกรอบอยู่ดี แต่ภาพตรงหน้ามันดูเพลินดี ผมเลยนั่งมองเนมที่กลัวจนสติแตกเช็ดพื้นวนไปวนมาสักพักแล้วกัน