"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น
ตอนที่ 16
นายเป็นคนดีใช่ไหม?
ไคและเนม ปัจจุบัน
"อย่าว่าไคนะ ไคเป็นคนดีต่างหากคอยช่วยเหลือผมตั้งหลายอย่าง เวลาที่ผมไม่มีใคร เขาก็คอยอยู่ข้างๆ ตลอด"
เนมเถียงแทนผมได้น่าปลื้มสุดๆ ติดแค่มันเป็นความจริงไม่ทั้งหมดนะสิ ตอนนี้สีหน้าแซนด์ดูแบบไม่อยากจะเชื่อ เธอเอานิ้วบีบตรงระหว่างคิ้วแถมปากยังกระตุกหน่อยๆ อีกด้วย
"แล้วตอนนี้ล่ะ ยังนิสัยดีอยู่ไหม" แซนด์ยิ้มแล้วยื่นหน้ามาชิดหน้าเนมใกล้จนเกือบจะจูบกันอยู่แล้วแต่ผมเอามือผลักหน้าเธอออก
"โอ๊ย เบาหน่อยสิยะ หน้านี้ใช้หาเงินได้หลายสิบล้านนะ" เสียงแหลมตะโกนโวยวาย
"ตอนนี้เหรอ...ตอนนี้..ไคก็นิสัย..." เนมตอบอ่อมๆ แอ่มๆ พูดไม่จบประโยค
"พูดมาก ว่าแต่หมอนั่นดูอันตรายพอดูเลยนะ เซ้นส์ก็ดีด้วย เธอจะไม่แย่เอาหรือไง" ผมพูดเปลี่ยนเรื่องแล้วหยิบจานขนมอีกอันให้เนมกิน
"ใช่ไหม! นายก็รู้สึกใช่ไหม หมอนั่นน่ะแปลกมากเลยแหละ พอฉันพยายามจะสืบประวัติก็ไม่เจออะไรสักนิดดูเป็นคนธรรมดาสุดๆ ให้ลูกน้องลองตามก็ไม่เจอ แต่บทจะโผล่หัวมาก็มาเสียเฉยๆ แบบวันนี้"
"แค้นอะไรเธออยู่หรือเปล่า ไม่ก็คอยสืบอะไรบางอย่างจากเธอละมั้ง"
"นั่นสิ ให้ป๊าสั่งเก็บเลยดีไหมนะ" แซนด์คิดด้วยสีหน้าขมุกขมัว
"เธอ...ฆ่าคนได้ด้วยหรอ" เนมขยับตัวเข้าหาแล้วกอดแขนถามผม
"เปล่าหรอก แต่ลูกน้องกับพ่อเธอทำได้ ตอนเรียนถึงไม่มีใครกล้าขัดใจเธอไง" ผมขยี้หัวเล็กๆ นั้นด้วยความเอ็นดู
"ใช่~ ตอนนั้นฉันอยากเอานายมาเล่นด้วยแทบแย่เลยล่ะ ถ้าได้มองนายโดนลูกน้องฉันชำเราทีละคนสองคนก็คงสนุกดีไม่น้อยเลยล่ะ ใช่ไหมไค" แซนด์ทำท่าปรบมือแปะๆ ด้วยตาลุกวาวเป็นประกาย
"ก็น่าสนุกอยู่ คงได้เห็นหน้าเนมร้องไห้อีกแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน" เนมปล่อยแขนผมมองหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อว่าผมพูดอะไรออกมา
"ว๊าว แต่ก่อนยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม พอได้กันแล้วเลยเบื่อหรือไง งั้นเอาฉันแทนไหม ยีนส์นายเหมาะจะเป็นพ่อของลูกฉันมากเลย ลูกเราคงหน้าตาดีแน่ๆ" แซนด์ยิ้มชอบใจ
"นั่นสิ ถ้าเบื่อแล้วจะปล่อยเนมให้ละกัน เนมก็เหมือนกันอย่าทำให้ฉันเบื่อละถ้าโดนทิ้งขึ้นมาคงได้โดนรุมโทรมจนตายแน่ๆ ทางนั้นเขารอเสียบอยู่หลายปีแล้ว"
"อืม อยู่ด้วยกันนะ" เนมเข้ามากอดแขนผมอีกรอบแต่คราวนี้แน่นกว่าเดิม
"หวานกันเข้าไป ทิ้งฉันเป็นหมาหัวเน่าเลย น่าหมั่นไส้"
"เลิกแซะสักทีเถอะ จะทำอะไรกับไอ้หน้ายิ้มนั่นก็ระวังๆ หน่อยละกัน ดูน่าจะเคี้ยวยากพอตัว ฉันจะไปเดตต่อละ เธอก็จะทำไรก็ไปทำไป" ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงเนมให้ลุกขึ้นด้วย
"ไปเดตด้วยคนไม่ได้หรอฉันก็เหงาน้า~" แซนด์ทำสีหน้าออดอ้อนที่ดูไม่ได้น่ารักสักนิดเดียวในสายตาผม
"ไปกันเถอะ" ผมทำทีไม่สนใจจูงมือเนมออกมาจากร้านอาหารทิ้งแซนด์ให้นั่งคนเดียวไป สักพักเธอก็คงกลับเองแหละ
"ไปเดตไหนกันต่อดีล่ะ" ผมจับมือเนมเล่นแกว่งไปมา มือเนมนุ่มนิ่มแบบคนที่ไม่เคยทำงานหนักมาตลอดชีวิต
"ฉันไม่รู้จะไปไหน ตามใจไคเลย"
"งั้นไปดูหนังกัน"
"โอเค ไปสิ"
ผมเลือกหนังผีเลือดสาดที่เข้าโรงอยู่ช่วงนี้พอดี เพราะมันน่าจะสนุกกว่าทุกเรื่องที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ ผมจัดการจองตั๋วหนังซื้อเครื่องดื่มและป๊อปคอร์นให้เนม พอถึงเวลาหนังฉายเราก็เดินเข้าโรงหนังกัน
หนังฉายไปได้สักพัก ถึงหนังจะไม่ได้น่ากลัวมากแต่ก็มีฉากที่ทำให้เนมสะดุ้งเพราะตกใจผีที่โผล่มาแบบไม่บอกไม่กล่าวเป็นบางครั้ง ดูได้เกินครึ่งเรื่องไปนิดเดียว เนมก็ขอลุกออกไปเข้าห้องน้ำ
"ให้ไปด้วยกันไหม"
"ไปเองได้ แค่นี้เอง"
ผมดึงหลังมือเนมมาจูบเบาๆ
"รีบกลับมานะ" ผมพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแล้วปล่อยเนมให้ไปห้องน้ำคนเดียว
ผมรู้ดีว่าการปล่อยเนมไปคนเดียวมีโอกาสที่เขาจะไม่กลับมาแต่ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะกล้าหนีไหม นี่เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่ผมมอบให้เนม ถึงเขาหนีผมก็ตามตัวเขาไม่ยากนักหรอกแต่ผมคงไม่สามารถให้อิสระเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้อีก เขาจะโดนผมล่ามโซ่ให้อยู่ในบ้านไปจนกว่าผมจะพอใจ ซึ่งแบบนั้นก็น่าสนุกดีเหมือนกัน
เรื่องน่าสนุกแต่ละอย่างสองอย่างที่อยากทำค่อยๆ ผุดขึ้นในสมองผม ผมนั่งรอจนหนังฉายจบแต่เนมก็ยังไม่กลับมา เนมคงจะหนีไปแล้วจริงๆ นานๆ ทีได้เล่นเกมซ่อนหาแบบตอนเด็กๆ บ้างก็ดี
กริ๊ง กริ๊ง~
เบอร์คนน่ารำคาญที่พึ่งแยกจากกันที่ร้านอาหารเมื่อกี้โทรมาหาผมด้วยจังหวะเหมาะเจาะราวกับจับวาง
"ฮัลโหล"
"หนีแล้วละสิ หนีแล้วใช่ม๊า" เสียงปลายสายหัวเราะคิกคักชอบใจ
"ถ้าโทรมาแค่นี้จะวางละนะ"
"อย่าพึ่งวางสิ ให้ช่วยตามหาไหมลูกน้องฉันเยอะแป๊บเดียวก็เจอ แถมฉันมีข้อมูลดีๆ จะบอกด้วย"
"ไม่ต้อง"
"เดี๋ยว..."
ผมตัดปลายสายที่น่ารำคาญทิ้ง พร้อมเปิดโทรศัพท์ดูตำแหน่งจีพีเอสเนมที่ติดไว้กับโชคเกอร์ ผมเห็นมันแสดงว่าตอนนี้เนมอยู่ในห้องน้ำข้างโรงหนัง
สงสัยเขาคงถอดมันออกแต่ก็นะผมก็คิดไว้แล้วแหละว่าคงไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เงินไม่มีติดตัวสักบาทไม่มีโทรศัพท์มือถืออีกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน ผมเดินตรงไปที่ห้องน้ำกะว่าจะไปเก็บโชคเกอร์คืนมาก่อนค่อยตามหาเนม ถ้าเจอตัวจะลงโทษให้หนักเลยคอยดูอะไรบอกไม่ให้ถอดนี่ถอดออกหมด
ผมเปิดประตูห้องน้ำทีละห้องมองหาโชคเกอร์แต่ห้องสุดท้ายดันล็อกอยู่แถมน่าจะเป็นที่ๆเนมทิ้งเครื่องติดตามไว้อีก ผมจึงเคาะประตูเรียกคนข้างในเพราะเขาไม่ออกมาสักที
"ขอโทษนะครับ ถ้าเสร็จแล้วช่วยรีบออกหน่อยนะครับพอดีผมลืมของไว้"
ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาผมจึงเคาะอีกรอบแต่ให้ดังขึ้น
"คุณครับ!!"
เงียบ ถ้าเป็นคนทำธุระหนักอยู่คงโมโหตอบกลับไม่ก็ทุบกลับมาบ้าง ผมจึงคิดได้ว่า
"เนม...เหรอ" ผมเคาะประตูอีกรอบแต่เบาลง
"เนมใช่ไหมเปิดเถอะ อย่างถึงขั้นต้องให้ฉันปีนเลย"
แกร็ก เสียงปลดกลอนดังขึ้นประตูก็เปิดออกให้เห็นเนมที่นั่งอยู่เป็นชั่วโมง
"ทำไมไม่หนีละเนม มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้" ผมไม่อยากจะเชื่อเขาไม่ได้ไปไหนเลยด้วยซ้ำ
"ฉันไม่รู้จะไปไหน จะหนีไปก็กลัวนายจับได้แล้วทำร้ายฉันอีกแต่จะเดินกลับไปหานายฉันก็ก้าวขาไม่ออกเหมือนกัน"
"ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนก็กลับบ้านเรากันเถอะ ฉันอยากให้นายอยู่ด้วยกันนะ" ผมหอมแก้มเนมเบาๆ แล้วจับมือเนมไว้ ผมพาเนมเดินไปขึ้นรถบรรจงรัดเข็มขัดให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินไปฝั่งคนขับแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อนที่ผมจะขึ้นรถ
เบอร์เดิมที่โดนตัดสายไปแต่ก็ยังตื๊อโทรต่อปกติถ้าแซนด์โทรกวนจะไม่ถี่ขนาดนี้หรือมีอะไรจะบอกจริงๆ กัน ผมจึงตัดสินใจรับสาย
"ไอ้เวร พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนหรอว่าอย่ากดตัดสายคนอื่น ไอ้#฿&-฿+# "
"วางละนะ"
"เดี๋ยวสิ เจอเนมหรือยัง"
"เจอแล้ว"
"ฮ๊ะ เจอที่ไหน"
"ห้องน้ำ"
"เล่นเกมถามคำตอบคำกับฉันหรือไง?"
"มีอะไรกันแน่ ไม่มีสาระจะวางจริงๆ แล้ว"
"ฉันให้ลูกน้องตามจิตแพทย์ขี้ตื้อไป ปกติลูกน้องฉันตามได้ไม่นานนางก็สลัดลูกน้องฉันหลุดหมดเลย แต่วันนี้ลูกน้องฉันดันเห็นมันฉุดกระชากลากถูเนมให้ขึ้นรถแล้วคุยอะไรกันไม่รู้นานมากจนสุดท้ายเนมก็วิ่งหนีไป โอ๊ย เหนื่อย" แซนด์บ่นหลังจากร่ายยาวมาเป็นชุด
"ขอบใจนะ เดี๋ยวว่างแล้วจะโทรกลับ"
ผมกดตัดสายแล้วหันไปยิ้มให้คนบนรถที่นั่งรอผมคุยโทรศัพท์