"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"

วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 16 นายเป็นคนดีใช่ไหม? โดย MorningKiss @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง โดย MorningKiss @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"

ผู้แต่ง

MorningKiss

เรื่องย่อ

    ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น 


    หากความสัมพันธ์ของพวกเขามีแต่ความเจ็บปวดรอคอยอยู่ ในท้ายที่สุดแล้วทั้งสองคนจะรักกันได้ไหมนะ? 




สารบัญ

วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 1 น้องแมวที่น่ารักของผม,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 2 ก็แค่อยากให้นายสนใจฉัน,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 3 ทั้งหมดมันเป็นความผิดของผมเอง ,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 4 ช่วยอยู่ข้างฉันจะได้ไหม ,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 5 เวลาแห่งความสุขของผม,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 6 ฉันมีแค่นาย,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 7 ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 8 ความทรมานที่ไม่คุ้นเคย,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 9 ทางเลือกที่ไม่มีจริง,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 10 เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 11 หลบหนี,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 12 ฉันกลัว,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 13 ค่ำคืนของเรา,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 14 อึดอัด,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 15 ตัวร้าย,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 16 นายเป็นคนดีใช่ไหม?,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 17 กลับบ้านกัน,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 18 โกหก,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 19 หลอกล่อ,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 20 โดนขัง,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 21 กำจัดหลักฐาน,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 22 เสียงแปลกๆ,วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง-ตอนที่ 23 ความสนุก

เนื้อหา

ตอนที่ 16 นายเป็นคนดีใช่ไหม?

ตอนที่ 16 

นายเป็นคนดีใช่ไหม?


ไคและเนม ปัจจุบัน 


"อย่าว่าไคนะ ไคเป็นคนดีต่างหากคอยช่วยเหลือผมตั้งหลายอย่าง เวลาที่ผมไม่มีใคร เขาก็คอยอยู่ข้างๆ ตลอด"


เนมเถียงแทนผมได้น่าปลื้มสุดๆ ติดแค่มันเป็นความจริงไม่ทั้งหมดนะสิ ตอนนี้สีหน้าแซนด์ดูแบบไม่อยากจะเชื่อ เธอเอานิ้วบีบตรงระหว่างคิ้วแถมปากยังกระตุกหน่อยๆ อีกด้วย 


"แล้วตอนนี้ล่ะ ยังนิสัยดีอยู่ไหม" แซนด์ยิ้มแล้วยื่นหน้ามาชิดหน้าเนมใกล้จนเกือบจะจูบกันอยู่แล้วแต่ผมเอามือผลักหน้าเธอออก 


"โอ๊ย เบาหน่อยสิยะ หน้านี้ใช้หาเงินได้หลายสิบล้านนะ" เสียงแหลมตะโกนโวยวาย 


"ตอนนี้เหรอ...ตอนนี้..ไคก็นิสัย..." เนมตอบอ่อมๆ แอ่มๆ พูดไม่จบประโยค


"พูดมาก ว่าแต่หมอนั่นดูอันตรายพอดูเลยนะ เซ้นส์ก็ดีด้วย เธอจะไม่แย่เอาหรือไง" ผมพูดเปลี่ยนเรื่องแล้วหยิบจานขนมอีกอันให้เนมกิน


"ใช่ไหม! นายก็รู้สึกใช่ไหม หมอนั่นน่ะแปลกมากเลยแหละ พอฉันพยายามจะสืบประวัติก็ไม่เจออะไรสักนิดดูเป็นคนธรรมดาสุดๆ ให้ลูกน้องลองตามก็ไม่เจอ แต่บทจะโผล่หัวมาก็มาเสียเฉยๆ แบบวันนี้" 


"แค้นอะไรเธออยู่หรือเปล่า ไม่ก็คอยสืบอะไรบางอย่างจากเธอละมั้ง" 


"นั่นสิ ให้ป๊าสั่งเก็บเลยดีไหมนะ" แซนด์คิดด้วยสีหน้าขมุกขมัว 


"เธอ...ฆ่าคนได้ด้วยหรอ" เนมขยับตัวเข้าหาแล้วกอดแขนถามผม 


"เปล่าหรอก แต่ลูกน้องกับพ่อเธอทำได้ ตอนเรียนถึงไม่มีใครกล้าขัดใจเธอไง" ผมขยี้หัวเล็กๆ นั้นด้วยความเอ็นดู 


"ใช่~ ตอนนั้นฉันอยากเอานายมาเล่นด้วยแทบแย่เลยล่ะ ถ้าได้มองนายโดนลูกน้องฉันชำเราทีละคนสองคนก็คงสนุกดีไม่น้อยเลยล่ะ ใช่ไหมไค" แซนด์ทำท่าปรบมือแปะๆ ด้วยตาลุกวาวเป็นประกาย 


"ก็น่าสนุกอยู่ คงได้เห็นหน้าเนมร้องไห้อีกแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน" เนมปล่อยแขนผมมองหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อว่าผมพูดอะไรออกมา 


"ว๊าว แต่ก่อนยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม พอได้กันแล้วเลยเบื่อหรือไง งั้นเอาฉันแทนไหม ยีนส์นายเหมาะจะเป็นพ่อของลูกฉันมากเลย ลูกเราคงหน้าตาดีแน่ๆ" แซนด์ยิ้มชอบใจ


"นั่นสิ ถ้าเบื่อแล้วจะปล่อยเนมให้ละกัน เนมก็เหมือนกันอย่าทำให้ฉันเบื่อละถ้าโดนทิ้งขึ้นมาคงได้โดนรุมโทรมจนตายแน่ๆ ทางนั้นเขารอเสียบอยู่หลายปีแล้ว" 


"อืม อยู่ด้วยกันนะ" เนมเข้ามากอดแขนผมอีกรอบแต่คราวนี้แน่นกว่าเดิม 


"หวานกันเข้าไป ทิ้งฉันเป็นหมาหัวเน่าเลย น่าหมั่นไส้" 


"เลิกแซะสักทีเถอะ จะทำอะไรกับไอ้หน้ายิ้มนั่นก็ระวังๆ หน่อยละกัน ดูน่าจะเคี้ยวยากพอตัว ฉันจะไปเดตต่อละ เธอก็จะทำไรก็ไปทำไป" ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงเนมให้ลุกขึ้นด้วย


"ไปเดตด้วยคนไม่ได้หรอฉันก็เหงาน้า~" แซนด์ทำสีหน้าออดอ้อนที่ดูไม่ได้น่ารักสักนิดเดียวในสายตาผม 


"ไปกันเถอะ" ผมทำทีไม่สนใจจูงมือเนมออกมาจากร้านอาหารทิ้งแซนด์ให้นั่งคนเดียวไป สักพักเธอก็คงกลับเองแหละ 


"ไปเดตไหนกันต่อดีล่ะ" ผมจับมือเนมเล่นแกว่งไปมา มือเนมนุ่มนิ่มแบบคนที่ไม่เคยทำงานหนักมาตลอดชีวิต 


"ฉันไม่รู้จะไปไหน ตามใจไคเลย" 


"งั้นไปดูหนังกัน" 


"โอเค ไปสิ" 


ผมเลือกหนังผีเลือดสาดที่เข้าโรงอยู่ช่วงนี้พอดี เพราะมันน่าจะสนุกกว่าทุกเรื่องที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ ผมจัดการจองตั๋วหนังซื้อเครื่องดื่มและป๊อปคอร์นให้เนม พอถึงเวลาหนังฉายเราก็เดินเข้าโรงหนังกัน 


หนังฉายไปได้สักพัก ถึงหนังจะไม่ได้น่ากลัวมากแต่ก็มีฉากที่ทำให้เนมสะดุ้งเพราะตกใจผีที่โผล่มาแบบไม่บอกไม่กล่าวเป็นบางครั้ง ดูได้เกินครึ่งเรื่องไปนิดเดียว เนมก็ขอลุกออกไปเข้าห้องน้ำ 


"ให้ไปด้วยกันไหม" 


"ไปเองได้ แค่นี้เอง" 


ผมดึงหลังมือเนมมาจูบเบาๆ 


"รีบกลับมานะ" ผมพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแล้วปล่อยเนมให้ไปห้องน้ำคนเดียว 


ผมรู้ดีว่าการปล่อยเนมไปคนเดียวมีโอกาสที่เขาจะไม่กลับมาแต่ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะกล้าหนีไหม นี่เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่ผมมอบให้เนม ถึงเขาหนีผมก็ตามตัวเขาไม่ยากนักหรอกแต่ผมคงไม่สามารถให้อิสระเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้อีก เขาจะโดนผมล่ามโซ่ให้อยู่ในบ้านไปจนกว่าผมจะพอใจ ซึ่งแบบนั้นก็น่าสนุกดีเหมือนกัน


เรื่องน่าสนุกแต่ละอย่างสองอย่างที่อยากทำค่อยๆ ผุดขึ้นในสมองผม ผมนั่งรอจนหนังฉายจบแต่เนมก็ยังไม่กลับมา เนมคงจะหนีไปแล้วจริงๆ นานๆ ทีได้เล่นเกมซ่อนหาแบบตอนเด็กๆ บ้างก็ดี 


กริ๊ง กริ๊ง~ 


เบอร์คนน่ารำคาญที่พึ่งแยกจากกันที่ร้านอาหารเมื่อกี้โทรมาหาผมด้วยจังหวะเหมาะเจาะราวกับจับวาง 


"ฮัลโหล" 


"หนีแล้วละสิ หนีแล้วใช่ม๊า" เสียงปลายสายหัวเราะคิกคักชอบใจ


"ถ้าโทรมาแค่นี้จะวางละนะ" 


"อย่าพึ่งวางสิ ให้ช่วยตามหาไหมลูกน้องฉันเยอะแป๊บเดียวก็เจอ แถมฉันมีข้อมูลดีๆ จะบอกด้วย" 


"ไม่ต้อง"


"เดี๋ยว..."


ผมตัดปลายสายที่น่ารำคาญทิ้ง พร้อมเปิดโทรศัพท์ดูตำแหน่งจีพีเอสเนมที่ติดไว้กับโชคเกอร์ ผมเห็นมันแสดงว่าตอนนี้เนมอยู่ในห้องน้ำข้างโรงหนัง


สงสัยเขาคงถอดมันออกแต่ก็นะผมก็คิดไว้แล้วแหละว่าคงไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เงินไม่มีติดตัวสักบาทไม่มีโทรศัพท์มือถืออีกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน ผมเดินตรงไปที่ห้องน้ำกะว่าจะไปเก็บโชคเกอร์คืนมาก่อนค่อยตามหาเนม ถ้าเจอตัวจะลงโทษให้หนักเลยคอยดูอะไรบอกไม่ให้ถอดนี่ถอดออกหมด 


ผมเปิดประตูห้องน้ำทีละห้องมองหาโชคเกอร์แต่ห้องสุดท้ายดันล็อกอยู่แถมน่าจะเป็นที่ๆเนมทิ้งเครื่องติดตามไว้อีก ผมจึงเคาะประตูเรียกคนข้างในเพราะเขาไม่ออกมาสักที


"ขอโทษนะครับ ถ้าเสร็จแล้วช่วยรีบออกหน่อยนะครับพอดีผมลืมของไว้" 


ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาผมจึงเคาะอีกรอบแต่ให้ดังขึ้น


"คุณครับ!!"


เงียบ ถ้าเป็นคนทำธุระหนักอยู่คงโมโหตอบกลับไม่ก็ทุบกลับมาบ้าง ผมจึงคิดได้ว่า


"เนม...เหรอ" ผมเคาะประตูอีกรอบแต่เบาลง 


"เนมใช่ไหมเปิดเถอะ อย่างถึงขั้นต้องให้ฉันปีนเลย" 


แกร็ก  เสียงปลดกลอนดังขึ้นประตูก็เปิดออกให้เห็นเนมที่นั่งอยู่เป็นชั่วโมง 


"ทำไมไม่หนีละเนม มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้" ผมไม่อยากจะเชื่อเขาไม่ได้ไปไหนเลยด้วยซ้ำ


"ฉันไม่รู้จะไปไหน จะหนีไปก็กลัวนายจับได้แล้วทำร้ายฉันอีกแต่จะเดินกลับไปหานายฉันก็ก้าวขาไม่ออกเหมือนกัน" 


"ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนก็กลับบ้านเรากันเถอะ ฉันอยากให้นายอยู่ด้วยกันนะ" ผมหอมแก้มเนมเบาๆ แล้วจับมือเนมไว้ ผมพาเนมเดินไปขึ้นรถบรรจงรัดเข็มขัดให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินไปฝั่งคนขับแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อนที่ผมจะขึ้นรถ 


เบอร์เดิมที่โดนตัดสายไปแต่ก็ยังตื๊อโทรต่อปกติถ้าแซนด์โทรกวนจะไม่ถี่ขนาดนี้หรือมีอะไรจะบอกจริงๆ กัน ผมจึงตัดสินใจรับสาย 


"ไอ้เวร พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนหรอว่าอย่ากดตัดสายคนอื่น ไอ้#฿&-฿+# " 


"วางละนะ" 


"เดี๋ยวสิ เจอเนมหรือยัง" 


"เจอแล้ว" 


"ฮ๊ะ เจอที่ไหน" 


"ห้องน้ำ" 


"เล่นเกมถามคำตอบคำกับฉันหรือไง?" 


"มีอะไรกันแน่ ไม่มีสาระจะวางจริงๆ แล้ว" 


"ฉันให้ลูกน้องตามจิตแพทย์ขี้ตื้อไป ปกติลูกน้องฉันตามได้ไม่นานนางก็สลัดลูกน้องฉันหลุดหมดเลย แต่วันนี้ลูกน้องฉันดันเห็นมันฉุดกระชากลากถูเนมให้ขึ้นรถแล้วคุยอะไรกันไม่รู้นานมากจนสุดท้ายเนมก็วิ่งหนีไป โอ๊ย เหนื่อย" แซนด์บ่นหลังจากร่ายยาวมาเป็นชุด 


"ขอบใจนะ เดี๋ยวว่างแล้วจะโทรกลับ" 


ผมกดตัดสายแล้วหันไปยิ้มให้คนบนรถที่นั่งรอผมคุยโทรศัพท์