"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น
ตอนที่ 20
โดนขัง
ไคและเนม ปัจจุบัน
ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง
เสียงกริ่งจากอินเตอร์โฟนดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าหมอนั่นมาถึงแล้ว ผมจึงกดตอบอินเตอร์โฟนคุยกับกาย
"สวัสดีครับ ถึงไวจังนะครับ"
"พอดีรถไม่ติดนะครับ ช่วยเปิดประตูหน่อยได้ไหมครับ ผมพกยาเผื่อมาให้เนมด้วยครับ" กายโชว์กระเป๋าที่มันสะพายไหล่ไว้ให้ผมดู
"ได้สิครับ สักครู่นะครับ"
ผมหยิบปืนช็อตกันที่เตรียมไว้เพื่อกายโดยเฉพาะออกมาและซ่อนไว้ด้านหลังแล้วเดินออกไปเปิดประตูบ้านพร้อมถอยออกมากดอินเตอร์โฟน
"ผมปลดกลอนประตูบ้านแล้วครับ เปิดเข้ามาได้เลย"
กายเปิดประตูเข้ามาอย่างไม่รอช้า ผมรอจังหวะที่มันเดินเข้ามาแล้วปิดประตูบ้านลงสนิทแล้ว จึงใช้ปืนช็อตกันตั้งท่าพร้อมยิง กายเห็นผมแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าไม่ดีแล้วถึงรีบวิ่งไปที่ประตูเพื่อจะหนีแต่ทันทีที่เขาพยายามจะเปิดประตู
ผมเหนี่ยวไกปืน กระสุนไฟฟ้าพุ่งออกไปถูกเป้าเข้ากลางหลังเขาพอดี กายลงไปชักดิ้นชักงอตะเกียกตะกายอยู่บนพื้น
"ถึงจะไม่เคยบอกก็เถอะแต่น่าจะรู้สิว่าไม่ควรมายุ่งกับเนม" ผมเดินตรงไปหากายที่นอนอยู่กับพื้นเตะกระเป๋าข้างตัวเขาออกแล้วกระทืบลงที่หน้าอกมันอย่างแรง
"อั๊กก ไอ้ ไอ้เวร" กายที่โดนกระสุนช็อตกันไม่สามารถพูดได้อย่างใจคิดเพราะความชาจากช็อตกัน
"จะให้เลือดมาเปื้อนตรงนี้ก็ไม่ได้ ขี้เกียจตามเช็ด" ผมเตะเสยเข้าปลายคางกายเต็มแรงจนมันน็อคสลบไปแต่ผมไม่แน่ใจว่ามันสลบจริงไหมเลยลองกระทืบอีกสองสามทีแต่มันก็ยังไม่รู้สึกตัว
"แมร่ง หนักชิบ" ผมบ่นพึมพำกับตัวเองพร้อมกับลากไอ้เวรนี่ที่สลบไปแล้วเข้าไปในห้องชั้นใต้ดินที่ผมปรับแต่งเอาไว้หลังจากพ่อกับแม่ผมเสียจนบ้านกลายเป็นมรดกตกทอดไปโดยปริยาย
ผมมัดตัวมันไว้ด้วยโซ่เข้ากับเก้าอี้ ด้านล่างนี้มีเครื่องทรมานเจ็บๆ อีกเยอะที่ผมไม่สามารถเอาไปเล่นกับเนมได้ เพราะของพวกนี้มันทำให้เนื้อหนังหลุดได้ง่ายๆ เลย คิดถึงเนมชะมัด เฮ้อ ทำไมผมต้องมาอยู่กับไอ้เวรนี่ด้วย อยากจะฆ่าแมร่งทิ้ง
ตอนผมลากมันลงมาผมหยิบกระเป๋าที่มันพกมาด้วย ระหว่างรอมันรู้สึกตัวผมจึงค้นข้างในกระเป๋าที่มันบอกว่าใส่ยามาให้เนม ด้านในมียาหลายกระปุกก็จริงแต่ก็มีเข็มฉีดยากับมีดแอบไว้ด้วยด้านในสุด ถ้าให้เดาผมคิดในเข็มฉีดยาคงจะเป็นยาสลบหรือไม่ก็เป็นยาอันตรายบางอย่าง
ผมค้นตามเสื้อผ้าและกางเกงมันต่อจากกระเป๋าก็ได้โทรศัพท์กับกุญแจรถมา จริงด้วยสิเดี๋ยวผมต้องจัดการรถมันด้วย มีเรื่องให้ต้องทำอีกเยอะเพราะมันคนเดียวเลย
"อึก ที่นี่ที่ไหน" กายลืมตาขึ้นมาจากการโดนเตะจนสลบก็พบว่าตัวเองโดนมัดติดอยู่กับเก้าอี้ขยับตัวไม่ได้ พร้อมกับเห็นผมค้นข้าวของของตัวเองอยู่
"กว่าจะฟื้นได้นะ" ผมลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งประจันหน้ากับกาย
"ไอ้บัดซบ!" เสียงตะโกนด่าและแรงอาฆาตรุนแรงจากการที่มันพยายามจะดึงตัวเองออกจากโซ่ตรวน เสียงโซ่เสียดสีกับเก้าอี้และผิวเนื้อจากแรงหนีดูน่าจะเจ็บพอดู
"ปวดหู อย่าตะโกน" ผมชี้มีดที่มันพกมาใส่หน้า
"จะฆ่าก็ทำเลย คิดว่ากลัวรึไง" กายกัดฟันกรอดสายตาเต็มไปด้วยความแค้น
"คิดว่าฆ่าคนมันง่ายนักหรือไง ไหนจะเลือดไหนจะศพ" ผมกรีดเสื้อและกางเกงกายออกแล้วค่อยๆ ดึงออกมาจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า
"ทำเหี้ยอะไรว่ะ!!" กายทำสีหน้าบูดเบี้ยว
"ถ้าทำเลือดเปื้อนเสื้อผ้าแล้วมันจะไม่เห็นแผลนะสิแถมเผาทิ้งลำบากด้วย ถอดไปเลยจะดีกว่า" ผมรวบรวมเศษผ้าออกมากองรวมกันค่อยเอาขึ้นไปเผาทิ้งข้างบนทีหลัง
ผมหยิบโทรศัพท์มันขึ้นมาแล้วใช้นิ้วมันปลดล็อกได้อย่างง่ายดาย ก็นะ สมัยนี้คนที่จะใช้รหัสผ่านอย่างเดียวแบบผมคงไม่ค่อยมีแล้ว ผมนั่งลงกับที่เดิมแล้วไถโทรศัพท์มันไปเรื่อยๆ
"คิดว่าจะรอดไปได้ตลอดหรือไง ไอ้ฆาตกร" กายตะโกนใส่ผมอีกครั้ง
"นี่แหละ ที่ไม่เข้าใจ ฉันไปเป็นฆาตกรตอนไหนกัน" ผมทำสีหน้างุนงงใส่กาย
กายมองผมด้วยสีหน้างุนงงกลับมาหนักกว่าเดิม
"อย่ามาโกหก แกนั่นแหละที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองแล้วก็พ่อแม่เนมด้วย"
"พูดเรื่องอะไร นั่นมัน 'อุบัติเหตุ' ทั้งนั้น" ผมยังคงทำสีหน้าตีมึนกลับใส่มัน
"ไอ้เลว ไอ้เวรตะไล อย่าให้หลุดไปได้นะ" กายกัดฟันหนักกว่าเดิม
"มีหลักฐานเหรอว่าฉันเป็นคนฆ่า พูดไปเรื่อยอย่างงี้ไม่ได้สิ ถ้ามั่นใจนักไม่ไปหาตำรวจเอาล่ะ เล่นเข้าบ้านคนที่คิดว่าเป็นฆาตกรแล้วจะหลุดออกไปง่ายๆ หรือไง" ผมลากมีดลงบนต้นขามันแต่ไม่ลึกมากให้พอมีเลือดซึมเล็กๆ แต่มันไม่ร้องสักแอะ
"ว่าแต่ถึงฉันจะเป็นฆาตกรหรือไม่เป็น แล้วมันเกี่ยวไรกับแกว่ะ!" ผมลากมีดลงบนขามันอีกข้างแต่คราวนี้ดูเหมือนผมจะกดปลายมีดลึกเกินไปหน่อยเลือดเลยไหลออกมาเยอะกว่าเดิม
"เปื้อนพื้นหมดเลย แม่ง" ผมสบถด้วยความหงุดหงิดกะว่าจะไม่ให้เลอะแท้ๆ เลย
"สืบประวัติมาก็เห็นมีแค่ว่าเป็นเด็กกำพร้านี่หว่า เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ตายไปแล้วหรือไง ถึงได้รนหาที่ตายขนาดนี้" ผมต่อยเข้าตรงใบหน้ามันจนเลือดกบปากหน้าหันไปอีกข้าง
"คุณลุงคุณป้าเขาเป็นคนดีขนาดนั้น ถ้าพวกเขาไม่ต้องตายเพราะแก เนมคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ถุย" กายถุยเอาเลือดที่เต็มไปด้วยกลิ่นสนิมเหล็กออกมาลงพื้น
"ปากหนักจริง" นี่ก็ใกล้เวลาตื่นเนมแล้วด้วยถ้าไม่เห็นผมเดี๋ยวเนมจะสงสัยเอา แต่จะทิ้งไอ้หมอนี่ไว้แบบนี้ก็ยังไงอยู่ ผมเอื้อมคว้าขวดแอลกอฮอล์ล้างแผลราดลงบนขาทั้งสองข้างของมัน
"อ้ากกกก ไอ้เหี้ย" มันร้องออกมาด้วยความแสบจากแอลกอฮอล์
"ตอนแรกเป็นหนุ่มสุภาพแสนดีไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มีแต่คำด่าหยาบคายพ่นออกมา"
ล้างแผลให้แล้วเลือดก็หยุดไหลแล้วด้วย ทิ้งไว้งี้ก่อนแล้วค่อยไปจัดการที่หลังละกัน ขึ้นไปหาเนมก่อน ผมมองดูนาฬิกาที่ข้อมือพร้อมหยิบกุญแจรถกับเศษผ้ามันขึ้นไปด้วย
"จะหนีไปไหนวะ"
"ไม่หนีไปไหนหรอก อยู่ในนี้ไปก่อนละกัน อย่าเสียงดังละ ถึงห้องจะกั้นเสียงก็เถอะ"
ผมหยิบผ้ามามัดปากมันไว้จะได้ไม่ส่งเสียงร้องเห่าหอนดังอีก ก่อนจะเดินขึ้นด้านบนไปหาเนม ผมล้างมือล้างไม้ให้สะอาดแล้วเดินเข้าไปหาเนมที่นอนอยู่บนเตียงเอามือแตะหน้าผาก ไข้เนมน้อยลงจนแทบหายแล้ว เนมสะลึมสะลือจับมือผมที่อยู่บนหน้าผาก
"เย็นดีจัง" เนมถูหน้าเข้ากับมือผม
"เนม ง่วงก็นอนต่อเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อของหน่อย อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม" ผมลูบหน้าเนมเบาๆ
"งืมมม อยู่ได้" เนมเหมือนจะหลับต่อ ผมจึงเดินออกจากห้องแล้วล็อกประตูดังเดิม