"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น
ตอนที่ 23
ความสนุก
เมื่อผมส่งเนมที่ห้องนอนและบอกลากันเรียบร้อย ผมจึงต้องจำใจเดินลงไปห้องใต้ดินเพื่อไปดูไอ้โง่ด้านล่างว่ามันพยายามทำบ้าอะไรให้เสียงดังมาถึงด้านบนได้พร้อมกับเอาอาหารที่ซื้อไว้ลงมาให้มันด้วย
เสียงแง้มเปิดประตูดังเอี๊ยดอ๊าดเหมือนกับในหนังสยองขวัญเกรดบี ด้านล่างเป็นบันไดทอดยาวลงไปและมืดจนแทบมองอะไรไม่เห็น ผมควานหาสวิตช์ไฟเปิดเพื่อจะได้มองเห็นคนที่ผมจับขังไว้
ตอนนี้เก้าอี้ที่เคยตั้งอยู่กลับล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับคนที่โดนมัดไว้คาดว่าเสียงที่ดังขึ้นมาคงจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ ห้องคงไม่ได้กั้นเสียงได้ดีอย่างที่ผมคิดไว้คงต้องปรับปรุงเพิ่มในคราวหลัง
กายมองผมด้วยความแค้นและสายตาหมาบ้าเช่นเดิม เลือดสีแดงไหลนองกับพื้นจากแผลที่ผมกรีด คิดว่าคงฉีกขาดจากแรงดิ้นและล้ม
"อยู่นิ่งไม่เป็นสินะ" ผมดึงเก้าอี้ที่หนักอึ้งขึ้นมาให้อยู่ลักษณะเดิม
"เลือดที่ขาไม่หยุดไหลเลย คงจะต้องเย็บแล้วมั้ง เคยเรียนหมอนี่ เย็บแผลเป็นหรือเปล่า?"
"ไอ้ชั่ว โดนมัดไว้แบบนี้ถึงจะเย็บเป็นไม่เป็นจะทำได้ยังไง ปล่อยสิวะ"
"ปวดหู พูดเป็นแต่คำด่าไม่กี่คำ"
"พวกนี้คงใช้ได้อยู่มั้ง" ผมหยิบเข็มกับด้ายเย็บผ้ามาซึ่งเดิมทีมันก็อยู่ในห้องอยู่แล้วแค่ไม่มีโอกาสเอาออกมาใช้ ผมร้อยด้ายเข้ารูเข็มแล้วยื่นเข้าหาหน้ามัน
"แก้มัดมือก่อน มันต้องฆ่าเชื้อด้วย ด้ายกับเข็มแบบนี้มันไม่ใช่ใครจะใช้ได้มันไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์"
"แช่แอลกอฮอล์ไว้ก็ได้แล้วมั้ง" ผมดึงเก้าอี้เข้าใกล้ประจันหน้ากับคนโป๊เปลือย อุจาดตาจนไม่อยากมอง
"เอาเข็มมา เดี๋ยวเย็บเอง แก้มัดสิ" กายทำท่ากระตือรือร้นพยายามจะเย็บแผลเองราวกับรู้ความคิดผม
ผมหยิบเข็มขึ้นมาส่องกับไฟ แสงเงินของเข็มสะท้อนกับไฟวิบวับบวกกับด้ายสีแดงสดดูงดงามที่สุด
"ฉันไม่เคยเย็บแผลคนมาก่อน โอกาสดีเลยไม่ใช่เหรอถ้าจะลองเย็บตอนนี้" ผมหันไปยิ้มให้กาย
กายหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองคิดและตงิดใจคือเรื่องจริง
"เคยเปิดวิดีโอสอนดูอยู่แต่เขาว่ากันว่าถ้าจะให้ดีต้องลองกับเนื้อคนจริงถึงจะเรียนรู้ไว้ขึ้น ไม่มียาชาด้วยสิ ทนเอาหน่อยละกัน"
ผมเอาผ้าสะอาดเช็ดปากแผลเพื่อให้เห็นรอยกรีดที่ต้องเย็บชัดเจนขึ้น เมื่อผมแทงเข็มลงไปเลือดก็ไหลออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย แล้วเย็บไขว้กันไปมาเหมือนในวิดีโอที่ผมเคยดู
"ใครแม่งเย็บแบบนั้นกันว่ะ ไอ้เวรนี่ แมร่ง! เหี้ยเอ้ย! เลือดไหลเยอะเกินไปแล้ว ไม่ตัดขาทิ้งไปเลยวะ" กายร้องโอดครวญจากการที่ผมลองเย็บสะเปะสะปะไปเรื่อย
"ไม่น่าเลือกด้ายสีแดงเลย พอเปื้อนเลือดแล้วแยกไม่ออกว่าด้ายอยู่ตรงไหน" แต่ผมหาได้สนใจเสียงร้องของมัน
ผมดึงด้ายขึ้นหลังจากผูกปมเสร็จ แต่ดูจากรอยเย็บคงไม่ช่วยให้เลือดหยุดไหลหรอกดูจะแย่กว่าเดิมอีก แต่ก็ช่างมันเถอะว่าแผลมันจะดีขึ้นไหมผมแค่อยากลองเย็บดูเท่านั้นเองว่ามันจะให้ความรู้สึกยังไง ซึ่งก็ไม่แย่สนุกดี
"แย่ละสิ ชักอยากเก็บไว้กรีด แล้วลองเย็บไปเรื่อยๆ แล้วสิ" ผมลูบรอยเย็บที่ต้นขามันหลังเอาน้ำล้างเลือดออก
"อยากเย็บนักไม่ไปเป็นหมอว่ะ เล่นแบบนี้สนุกมากไหม" กายที่เกือบสลบกลางทางเพราะความเจ็บแต่ก็ฝืนทนมาได้และฝีปากยังคงดีอยู่ถึงจะหน้าซีดจากการเสียเลือด
"เนม เนมล่ะ ทำแบบนี้กับเนมด้วยหรือเปล่า แมร่ง! ถ้าทำอะไรเนมละก็ แกตายแน่!!"
"โกรธอะไรขนาดนั้น" ผมล้างมือเปื้อนเลือดแล้วหยิบผ้ามาเช็ดมือให้สะอาด และสาดน้ำล้างเลือดที่พื้นไปด้วย
"จริงสิ เพราะแกคนเดียวเลย เนมถึงต้องโดนลงโทษแบบนั้น น่าสงสารสุดๆ ทั้งร้องไห้ อ้อนวอนขอให้ฉันไม่ตีเขา" กายมีสีหน้าเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนผมเย็บขาเสียอีกเมื่อผมพูดถึงเนม
"รู้ไหม ทั้งๆ ที่ฉันตีเขาจนทั้งเนื้อทั้งตัวแดงและมีแต่รอยช้ำ แต่เขาก็อุตส่าห์แข็งได้อีกแล้วยังส่ายก้นรับเหมือนหมาติดสัดพยายามจะทำให้ฉันรู้สึกดีสุดฤทธิ์" ผมพร่ำเพ้อพรรณนาถึงเนมด้วยความสนุกเมื่อเห็นกายเจ็บปวด
"ใช่ไหมเนม!!!!!" ผมตะโกนดังลั่นห้องใต้ดิน ให้คนที่แอบอยู่ข้างบันไดได้ยิน เพราะผมรู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้นก่อนที่ผมจะเริ่มเย็บแผลด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าผมไม่ปิดประตูห้องใต้ดินเอง
"จะลงมาดีๆ หรือให้ลากลงมา!!" ผมตะโกนอีกรอบ เนมจึงเดินลงจากบันไดเงียบๆ มาหาผมด้วยความกลัว
เพี๊ยะ! เสียงตบหน้าเนมดังลั่นห้อง เลือดซึมไหลออกมาจากมุมปาก เนมกุมหน้าตัวเองข้างที่โดนตบไว้ น้ำตาเริ่มไหล ตัวและไหล่เริ่มสั่นเทาความกลัวเริ่มครอบงำเขาไปทั้งร่าง ผมกุมหน้าเขาเอาไว้
"อยู่มาตั้งแต่แรกแล้วสิ" ผมถามเนมด้วยเสียงเย็นเหยียบ
"อะ...อืม" เนมเหลือบสายตามองทางกายแต่เมื่อเห็นเขาโดนมัดอยู่พร้อมกับร่างกายที่เปลือยเปล่า เนมจึงหลบสายตาหนีทันที
"ไอ้เวร!!!! ปล่อยสิว่ะ" กายดิ้นพล่าน
"ไปนั่งลงบนเก้าอี้ ป้อนข้าวมันให้ฉันหน่อย"
"ได้..ได้สิ" เนมรับข้าวไปจากผมซึ่งเป็นข้าวต้มที่เย็นลงนิดหน่อยบ้างแล้วแต่ก็ยังร้อนอยู่ดี เนมที่ถือข้าวต้มด้วยมือสั่นๆ พยายามประคองถ้วยไว้
"แล้วช้อนละไค"
"ไม่มี ให้มันยกซดไม่ก็เอาหน้าจุ่มเอา"
"แต่..แต่มันยังร้อนอยู่เลยนะ"
"เนม ผมไม่เป็นไร เอามาเถอะ" กายมีสีหน้าเป็นห่วงเนมกลัวว่าผมจะทำอะไรเนมอีกหากยังยึกยักอยู่แบบนี้ซึ่งมันก็คิดถูก
"ใช่เนม ถ้าเนมไม่รีบให้มันกินมือเนมจะแย่เอานะถ้วยมันร้อนด้วย ดูสิมือแดงหมดแล้ว" ผมจับมือเนมที่ถือถ้วยข้าวจ่อหน้ากาย
"แต่ปากกับลิ้นเขามันจะโดนลวก..." เนมยังพูดไม่ทันจบกายก็ก้มลงมากินข้าวต้มร้อนๆและเก็บสีหน้าเจ็บปวดไว้เพราะไม่อยากให้มือเนมเจ็บและเป็นกังวล แต่เมื่อเห็นแบบนั้นเนมกลับมีสีหน้าเจ็บปวดแทนกาย
"เนม ดูหมอนี่มันจะชอบเนมนะ" ผมกระซิบข้างหูเนมให้ขณะที่กายยังกินอยู่
"พูดเรื่องอะไร เราพึ่งจะรู้จักเอง"
"เนมพึ่งรู้จักมัน แต่ฉันว่ามันน่าจะรู้จักเนมนานแล้วล่ะ ใช่ไหม?"
กายไม่ตอบแต่ส่งสายตาอาฆาตแค้นใส่ผมอีกเช่นเคย