"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น
ตอนที่ 25
ความจริง
เนมพยายามตั้งสติเพื่อคิดหาทางหนีออกจากที่นี่ เขาเริ่มหันซ้ายหันขวามองหาอาวุธที่จะใช้ป้องกันตัวจากผม เมื่อเขาเห็นมีดเล่มเล็กที่กายเอามา วางไว้อยู่บนชั้น เนมจึงรีบวิ่งไปหยิบมาถือไว้ด้วยมือที่สั่นไหว เขายืนประชันหน้าคั่นกลางระหว่างผมกับกาย เด็กน้อยที่คอยแต่กลัวผมดูเหมือนจะเริ่มหัดสู้เป็นขึ้นมาบ้างแล้ว
"ถ้าไคเข้ามาใกล้ ฉันจะแทงนายจริงๆ ด้วย" เนมยกมีดขู่
"พอเถอะเนม วางมีดลง เดี๋ยวก็เลือดตกยางออกหรอก"
"ไค ไม่ได้ฆ่าพ่อแม่ฉันหรอกใช่ไหม ไคไม่ได้ทำหรอก ฮึก ฉันรู้ว่านายแค่ล้อฉันเล่น พูดสิ" เสียงสั่นเครือของเนมบ่งบอกว่าเขาปวดร้าวแค่ไหน
"ฉันรักนายนะ" ผมค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เนม
"ถอยออกไป อย่าเข้ามานะ" เนมเหวี่ยงมีดไปมา
"รักนายที่สุดเลย" ผมยิ้มอยู่ด้านหน้าเนมให้ใกล้พอที่เขาจะแทงผมได้ง่ายๆโดยไม่พลาด ผมกุมมือเขาขึ้นมาแล้วชี้มีดเข้าที่หัวใจตัวเอง เหลือเพียงแค่ให้เนมดันมีดเข้ามาก็เท่านั้น
"ทำอะไรน่ะ!!" เนมเก็บสีหน้าตื่นตระหนกไว้ไม่อยู่
"แทงมันเลย เนม นายต้องฆ่ามันนายถึงจะรอดออกไปได้" กายที่เห็นเหตุการณ์ไม่สู้ดี รีบพูดบอก
"เงียบปากน่า คนเขาจะคุยกัน อย่าสอด!" ผมตวาดใส่กาย
"....นายฆ่าพ่อแม่ฉันจริงๆ เหรอ"
"อืม ฉันอยากให้เนมรู้มาตลอด วันนี้ก็เลยเปิดประตูห้องใต้ดินทิ้งไว้ให้นายได้แอบฟังและเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำ" ผมค่อยๆ เล่าถึงทุกสิ่งที่ทำมาจนถึงตอนนี้ให้เขาฟัง
"เจ้าเหมียวที่เราเลี้ยงมาด้วยกัน ฉันเป็นคนวางยามันเอง ที่เนมเกือบถูกรถชน ฉันก็เป็นคนผลัก บ้านนั่น รวมถึงพ่อแม่นาย ฉันก็เป็นคนเผา มีอะไรอีกไหมนะ มันเยอะมากจนเรื่องบางเรื่องฉันก็จำไม่ได้"
ใจของเนมตอนนี้คงหล่นไปอยู่กับพื้นเมื่อผมสารภาพถึงความผิดที่ผมทำมาตลอดด้วยอาการไม่รู้สึกรู้สาและไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
"ทำไมถึงทำแบบนั้น เราเป็นเพื่อนกันนี่!!" เนมกำมีดในมือแน่นขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความโกรธพร้อมเอ่อล้นด้วยน้ำตาเมื่อรู้ว่าต้นเหตุเรื่องซวยๆ ในชีวิตเขาทั้งหมดมาจากผม
"....เพราะรักเนมไง แต่เนมไม่เคยรักฉันสักครั้ง ฉันเลยอยากทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่นายรักบ้าง ทุกครั้งที่เนมเจ็บปวดจากการเสียอะไรบางอย่างไป ฉันมีความสุขมากขึ้นทุกครั้ง ยิ่งเห็นนายร้องไห้ เจ็บปวด ทำหน้าบิดเบี้ยวเพราะฉัน เหมือนตอนนี้......"
ผมดันมีดในมือเนมเข้าอกตัวเอง ปลายมีดกรีดทะลุผ่านเสื้อโดนเนื้อเล็กน้อยทำให้มีเลือดไหลเปื้อนเสื้อออกมา
" มันยิ่งรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยล่ะ ....."
"ปล่อยมือฉัน ไค!!" เนมพยายามรั้งมือกลับพอเห็นเลือดที่ปลายมีดแต่ผมส่ายหน้า
"เนม นายต้องเลือกจริงๆ แล้วคราวนี้ ฆ่าฉันซะ ไม่งั้นก็อยู่กับฉันเป็น 'สัตว์เลี้ยงในกรง' ของฉันตลอดไป " ผมยิ้มบางๆ ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนให้เนม แต่ผมกลับดึงมีดในมือเนมเข้าหาตัวเองลึกขึ้นเรื่อยๆ
"หยุด!! ไค หยุดสิไม่เอาแบบนี้!"
"เนมแทงมันไปเลย!!"
สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าเนมจะแทงผมเสียอีกเมื่อรู้ว่าผมทำอะไรเอาไว้บ้าง ตอนแรกผมเห็นแววตาความโกรธจากเนมได้จริงๆ แต่พอมีดเริ่มเฉือนเข้าเนื้อผมลึกขึ้นเรื่อยๆ ในแววตาและใบหน้าของเนมกลับเต็มไปด้วยความกลัว
ผมไม่เข้าใจเลยว่าเนมกลัวอะไร ผมจึงปล่อยมือเนมในเมื่อเขาไม่ยอมแทงผม เนมและมีดร่วงลงไปกับพื้นเกือบจะพร้อมๆ กัน เนมนั่งมองมือที่เปื้อนเลือดผมพร้อมกับร้องไห้อย่างหนัก กายและผมได้แต่มองเนมร้องอย่างกับคนเสียสติไปแล้ว
"เป็นอะไรเนม มันเลือกยากขนาดนั้นเลยเหรอ" ผมคุกเข่าลงตรงหน้าเนม
"ฉันเกลียดนาย ไค เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตาย...ฮืออออ" เนมยังคงร้องไห้อยู่และหนักขึ้นอีก
"ฉันรู้ งั้นให้ฉันแทงตัวเองดีไหม? ถ้านายทำไม่ได้" ผมหยิบมีดที่อยู่ข้างตัวขึ้นมา แกว่งตรงหน้าเนม ทำท่าจะจิ้มอกตัวเองอีกรอบ
"ไม่!!!" เนมรีบคว้ามีดไปจากมือผม
"ทำไมล่ะ ไม่เข้าใจเลย?" ผมเริ่มรู้สึกไม่สนุกแล้วที่เนมไม่ยอมเลือกสักทาง ผมต้องการให้เนมรู้สึกเจ็บปวดและทรมานโดยทั้งหมดนั่นผมเป็นคนมอบให้
"เนม นายปล่อยไอ้บ้านั่นแทงตัวเองไปเลย ไปห้ามมันทำไม" กายยังคงพูดยุเนมอยู่เรื่อยๆ แต่เนมเหมือนไม่ได้สนใจคำพูดกายเลย เนมได้แต่หันไปมองหน้ากายส่งสายตาว่าให้หยุดพูดได้แล้ว
"จะเอายังไงละเนม ร้องไห้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกนะ" ผมเชิดคางเนมขึ้นมาให้มองผม
"........จะอยู่กับไค" เสียงแผ่วเบาออกจากปากของเนม พูดคำพูดที่ผมแทบไม่อยากจะเชื่อออกมาให้ได้ยินกับหู
"บ้าไปแล้วเหรอเนม? ดันเลือกทางที่แย่ที่สุดเนี่ยนะ?" ตอนนี้ผมได้แต่งงและทำอะไรไม่ถูกเมื่อเนมดันตอบสิ่งที่ผมไม่ได้คิดไว้ว่าเขาจะตอบ
" อืม บ้าไปแล้ว บ้าแน่ๆ ฮ่าๆ" เนมหัวเราะทั้งน้ำตาและเอื้อมมือมาโอบกอดคอผม
"จะอยู่ด้วยกันจริงเหรอ.....แน่ใจแล้วใช่ไหม ไม่มีโอกาสให้เลือกใหม่แล้วนะ หนีไม่ได้ด้วย" ผมกอดตอบและลูบหลังเขาเบาๆ เป็นการปลอบและเตือนให้คิดดีๆ
"ฉันจะอยู่กับนายเองแต่ขออะไรเป็นอย่างสุดท้ายได้ไหม หลังจากนี้ฉันจะไม่ขออะไรอีก แล้วเราจะอยู่ด้วยกันตลอดหรือจะทรมานกันยังไงก็ทำตามที่ไคต้องการเลย" เนมทำเสียงจริงจังที่สุดในชีวิตร้องขอสิ่งที่เขาต้องการกับผม
"พูดก่อนสิ แต่ไม่รับปากหรอกนะว่าจะให้ได้" ผมเช็ดน้ำตาบนหน้าเนม
"ปล่อยกาย ไปเถอะ เขาแค่ต้องการจะช่วยฉันเท่านั้นเอง" เนมบอกผมและหันหน้าไปพูดกับกายอีกว่า
"นายก็กลับบ้านไปแล้วไม่ต้องสนใจฉันอีกก็พอ ไม่ต้องห่วงหรอกถึงไคจะทำอะไรอีก ฉันก็ไม่มีทางทรมานได้ไปมากกว่านี้แล้วล่ะ ไปใช้ชีวิตตัวเอง ฉันไม่อยากเห็นใครตายอีกแล้ว"
"ไม่ได้นะเนม!!!" กายดึงตัวเองกับเก้าอี้จนกระดูกแทบจะหักออกมาอยู่แล้วเมื่อฟังสิ่งที่เนมตัดสินใจ
ผมลูบหน้าเนมเบาๆ ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้จริงๆ
"ได้สิ แค่นั้นเอง" เนมคงไม่อยากเห็นใครต้องมาตายเพราะเขาอีกเหมือนพ่อแม่เขา ผมว่าเนมคงคิดว่าให้ตัวเองเจ็บดีกว่าทำคนอื่นเจ็บ ถึงได้เลือกแบบนี้
"แต่ขาแบบนี้ จะเดินออกไปไหวไหมเนี่ยสิ" ผมพินิจพิเคราะห์ดูขากาย
"เรียกแท็กซี่ให้พาไปโรงพยาบาลละกัน โชคดีจังนะ กาย" ผมเดินหยิบผ้าไปมัดปิดปากกายไว้ไม่ให้แย้งอะไรขึ้นมาได้อีก แล้วหยิบมือถือกดส่งข้อความหาคนบางคน
"เนม เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ" ผมโบกมือถือไปมาให้เนมรู้ว่าเรียกแท็กซี่แล้ว
"อืม" เนมพยักหน้า ไม่มีสีหน้าลังเลใจเลยสักนิดเดียวให้ผมเห็น
"รักนายที่สุดเลย" ผมดึงเนมเข้ามากอดอีกรอบด้วยความดีใจที่ปิดไม่มิดจนลืมความเจ็บแปลบๆที่หน้าอกจากการโดนมีดเสียบถึงจะไม่ลึกเท่าไหร่ก็ตาม
"....หายใจไม่ออก" เนมบ่นงืมงำแต่ก็ไม่ขัดขืน
ผมหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่มาใส่ให้กายแล้วแก้มัดเขากับเก้าอี้โดยมีเนมคอยช่วยประคองและช่วยกันลากเจ้าบ้าตัวสูงใหญ่นี่ไปขึ้นรถที่มาจอดรออยู่แล้ว ผมดันตัวกายเข้าไปที่เบาะหลัง แต่มันดิ้นไม่ยอมท่าเดียวมาตลอดทาง เมื่อเนมเห็นว่ากายขึ้นรถโดยสวัสดิภาพแล้วถึงจะโดนปิดปากกับมัดมือไว้ก็ตามที เนมถึงได้เดินกลับเข้าบ้านกับผมได้อย่างสบายใจ
ส่วนทางด้านกายนั้น......
เสียงเครื่องยนต์ที่แล่นด้วยความเร็วสม่ำเสมอไม่ช้าไปไม่เร็วไปวิ่งออกจากหน้าบ้านของคนที่เลวที่สุดที่เขาไม่เคยพบเจอ กายคิดแค่อยากจะช่วยเหลือลูกของผู้มีบุญคุณกับเขา แต่กลับกลายเป็นว่าไม่แค่เขาช่วยเนมไว้ไม่ได้ เนมยังต้องเป็นฝ่ายร้องขอชีวิตเขากับปีศาจที่กระหายเลือดนั่น กายได้แต่มองไปทางด้านหลัง มองคนที่เขาไม่สามารถช่วยไว้ได้ และคิดในใจว่ายังไงเขาก็จะกลับไปช่วยเนมออกมาอีกครั้งให้ได้
จนไม่ได้สังเกตเห็นคนขับรถที่ใส่สูทดำทั้งชุดและกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนจนแสบจมูกของบางคนที่นั่งเบาะด้านหน้าข้างคนขับ เมื่อเสียงแหลมเล็กดังขึ้นมาในรถ กายถึงพึ่งจะรู้สึกตัวว่านี่ไม่ใช่รถแท็กซี่ที่จะพาเขาไปส่งยังที่ปลอดภัย
" ว่าไงจ๊ะ เจอกันอีกแล้วนะ พ่อรูปหล่อ"
สิ้นเสียงพูด นิ้วมือเรียวยาวของแซนด์ที่ถือผ้าโปะยาสลบไว้ก็ประกบเข้าจมูกกาย เพียงไม่นานนักชายหนุ่มร่างกำยำก็สลบไปโดยไม่ทันได้ขัดขืน
3 ปี ต่อมา
ผมเดินกลับเข้าบ้านเหมือนทุกวันดั่งเช่นเคย แต่วันนี้ผมเอาของขวัญมาให้เนมด้วยเนื่องในวันครบรอบ ในสามปีมานี้ มันเป็นทุกวันที่มีความสุขที่สุด
เนมไม่เคยหนีหรือขัดใจผมอีกเลย เชื่อฟังที่ผมบอกทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหารการกิน การใช้ชีวิตไปจนถึงเซ็กส์ ตอนนี้เนมแทบจะเป็นปรมาจารย์ด้านการใช้ก้นไปแล้วด้วยซ้ำ ถึงผมไม่รู้ว่าเนมมีความสุขไหมกับการใช้ชีวิตแบบนี้เพราะตอนนี้ดูเหมือนเขาจะแสร้งทำเก่งขึ้นเยอะ และไม่ร้องไห้บ่อยเท่าเมื่อก่อน พอเนมเริ่มชินชากับความเจ็บปวดมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็ยิ่งไม่สนุกขึ้นเท่านั้น
"กลับมาแล้วเหรอ" เนมเดินเข้ามาหอมแก้มต้อนรับผมอย่างทุกวันเหมือนทุกครั้งที่ผมต้องออกไปทำธุระข้างนอก
ในสามปีมานี้ ผมไม่ได้ขังเนมไว้แต่ในบ้านอย่างสิ้นเชิง เรายังออกไปเที่ยวไปกินข้าวข้างนอกกันปกติเหมือนคนทั่วไป ผมเคยหลอกล่อและเปิดทางให้เนมหนีหลายครั้งแต่เขาก็ยังยอมอยู่กับผมซึ่งผมไม่เข้าใจความคิดเขาเลยว่าทำไมถึงได้ยอมทนขนาดนี้
"ในกล่องนั่นอะไรหรอ" เนมชี้นิ้วมาที่ของขวัญที่ผมตั้งใจจะให้
"ของขวัญ วันนี้ครบรอบที่เนมอยู่กับฉันมาสามปีแล้ว"
ผมยื่นกล่องของขวัญให้เนม เขาบรรจงแกะของขวัญกับพื้นเหมือนจะตื่นเต้นเล็กน้อย
" เหมี๊ยว~~" เสียงของสัตว์น้อยตัวจ้อยร้องเรียกอย่างถูกเวลาเมื่อเปิดกล่องออก
"ลูกแมวนี่ ไคให้เลี้ยงได้จริงเหรอ"
เนมอุ้มลูกแมวที่สีขนเหมือนเจ้าแมวตัวเก่าที่เคยเลี้ยงเมื่อก่อนไม่มีผิดเพี้ยนไว้ในอ้อมอก ไม่ต้องดูก็รู้ว่าเนมดีใจขนาดไหน เพราะการอยู่บ้านคนเดียวออกไปไหนเองไม่ได้ถ้าไม่ได้ไปกับผมมันก็คงทำให้เขาเหงาพอดู
"ใช่ 'คราวนี้' ดูแลมันดีๆ ล่ะ"
เพราะนี่เป็นของเล่นใหม่เพื่อให้เนมได้ระลึกถึงความเจ็บปวด ถ้า 'คราวนี้' เนมเป็นคนฆ่ามันตายด้วยมือตัวเองอีกครั้ง ผมจะได้เห็นใบหน้าที่ร้องไห้เสียใจแทบเป็นแทบตายของเนมไหมนะ
ผมประกบปากจูบเนม หลังคิดถึงความเจ็บปวดที่เนมจะได้รับในอนาคต ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ ระหว่างที่จูบกันอยู่ผมใช้มือข้างหนึ่งโอบรอบเอวเขาไว้ให้ตัวเราแนบชิดกัน ส่วนมืออีกข้างก็วางไว้หลังคอที่มีรอยนิ้วมือแดงจางๆ ประทับไว้อยู่จากการโดนบีบครั้งก่อน เมื่อผมพอใจจากการที่เนมตวัดลิ้นจูบตอบผมแล้ว ผมถึงผละริมฝีปากออก ก่อนที่จะอุ้มเนมเข้าห้องนอนและพูดสามคำเดิมๆ เหมือนทุกครั้งไป ว่า
"...ฉันรักนาย..."
THE END