"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ชาย-ชาย,รัก,ซาดิส & มาโซฯ,ผู้ใหญ่,ไทย,ซาดิสม์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิธีฝึกนายให้เป็นสัตว์เลี้ยง"ไค ตกหลุมรักเนมมาตั้งแต่สมัยเด็กและเขาก็อยากครอบครองเนมไว้คนเดียว"
ไค ตกหลุมรักเนมตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาอยู่ข้างกันตลอดเวลา แต่ไคมีนิสัยที่โรคจิต ชอบใช้ความรุนแรง เขาชอบที่จะเห็นเนมเจ็บปวดและร้องไห้เพราะเขา ไค พยายามที่จะควบคุมนิสัยด้านนี้มาโดยตลอดแต่จนถึงวันหนึ่งเขาก็เลิกอดทนแล้วเปิดเผยนิสัยทั้งหมดให้เนมได้เห็น
ตอนที่ 26 ตอนพิเศษ
หลังจากนั้น
Name's point of view
ผมตื่นขึ้นมาในห้องเดิมเตียงเดิมในอ้อมกอดอุ่น วงแขนกว้างกอดผมไว้แน่นราวกับกลัวว่าผมจะเลือนหายไป ผมนอนมองใบหน้าคนใจร้ายที่ทำลายชีวิตผมมาตลอด ความแค้นกับความรักปนกันให้มั่วอยู่ภายในอก จะดีแค่ไหนถ้าเราไม่เคยเจอกันเลย ถ้าผมไม่เคยรักเขาเลย
ขอโทษนะครับคุณพ่อ คุณแม่ที่ผมมันเป็นลูกที่เลวแสนเลวที่ไม่กล้าแม้แต่จะทิ้งความรักของตัวเอง ผมขยับตัวเข้าหาแผงอกหนากระชับร่างกายเราสองคนให้ใกล้ชิดกันกว่าเดิม ซุกใบหน้าตัวเองลงกับไคโหยหาความรักที่มากล้นของเขา
ตั้งแต่วันที่ไคได้พาตัวผมมาถึงมันจะน่ากลัวมาก แต่อีกใจผมมันก็ชอบเหลือเกินที่เขาแตะต้องตัว ชอบที่เขาสัมผัสผม ชอบที่เขามีอารมณ์ได้เพียงเพราะผม ชอบความใจดีของเขา ชอบอาหารที่เขาทำให้กิน ชอบเขาที่คอยอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ชอบเขาที่รักผมจนบิดเบี้ยว ชอบคำบอกรักของเขาที่คอยพูดข้างหูให้ผมฟัง แม้ผมจะไม่เคยตอบรับมันเลยก็ตาม
ถ้าจะให้ย้อนไปในวันนั้นวันที่ผมรู้ใจตัวเองว่ารักเขาแล้ว ถ้าผมไม่แกล้งทำเป็นลองใจเขาด้วยการมีแฟนแล้วบอกเขาไปตามตรงว่าผมชอบเขา เราสองคนจะได้คบกันมีความรักเหมือนกับคนปกติไหมนะ
แสงแดดคอยแยงตาผ่านผ้าม่านสีมืด ทุกสิ่งในห้องเงียบสงัดได้ยินแต่เพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของเราสองคน บางครั้งผมก็คิดอยากจะบีบคอหนาๆ นั่นแก้แค้นคืนเหมือนที่เขาชอบทำ ให้เขาได้รับรู้ความเจ็บปวดนี้บ้าง
"คิดอะไรอยู่ คิ้วขมวดเชียว" เสียงทุ้มลืมตาปรือรอยยิ้มหวานประดับอยู่บนใบหน้ามองผมที่อยู่ในอ้อมกอดอุ่น
ผมส่ายหน้า ยิ้มหวานให้กลับไปเหมือนเช่นทุกวัน เราสองคนกำลังเล่นเกมเสแสร้งที่ยื้อกันไปเรื่อยๆ ให้สถานการณ์นี้คงอยู่ต่อไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทนไม่ไหวจนใครสักคนต้องเป็นฝ่ายหยุดก่อนในสักวันหนึ่ง
เขาหอมหน้าผากผมเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปแต่งตัวเตรียมอาหารเช้าให้ผมเพราะถ้าให้ผมทำอาหารเองคงไม่ได้กินแน่ ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารห้องครัวนั่งมองแผ่นหลังใหญ่อยู่ตรงครัว
ทำไมเวลาที่ผมวิ่งหนีเขาหัวใจมันถึงกระวนกระวายจนอยู่ไม่สุข แต่พอได้เห็นเขาอยู่ตรงหน้าหัวใจมันถึงได้สงบเสียขนาดนี้ ผมกลัวเหลือเกินเวลาเขาเริ่มตบตีผม แต่ผมก็ชอบเวลาที่เขาเป็นห่วงแล้วคอยทำแผลให้เหมือนกัน ทั้งใบหน้าที่เศร้าหมองและแววตาที่เป็นห่วงจนถ้าเกิดเขาเจ็บแทนผมได้ก็คงทำ
ไคยกอาหารเช้าง่ายๆ มาให้ผมแล้วเราสองคนก็นั่งกินข้าวด้วยกันเหมือนคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานาน สายตาเอ็นดูเวลาที่ผมกินส่งมาให้ผมเห็นบ่อยๆ ในทุกวัน บางทีเขาก็ชอบจ้องผมด้วยสายตาของสัตว์ป่าที่พยายามจะกินเหยื่อแล้วสุดท้ายก็ไปจบลงที่เราสองคนมีอะไรกัน
เขามักจะชอบทำอะไรรุนแรง และชอบทำอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บอยู่เสมอ คอของผมไม่เคยหายจากรอยจ้ำแดงเลยสักวัน ยิ่งผมเจ็บเท่าไหร่เขาก็เหมือนจะยิ่งมีความสุข ยิ่งผมขัดขืนเขาก็ยิ่งมีอารมณ์ ยิ่งผมร้องไห้เขาก็ยิ่งทำแรงขึ้นไปอีก
หลังๆ ผมเริ่มเรียนรู้ที่จะไม่ร้องและปล่อยให้ไคทำตามใจที่อยากทำไป มันรู้สึกดีขึ้นเยอะและไม่รู้สึกถึงความเจ็บเจียนตายแบบตอนแรกอีกแล้ว
"วันนี้ฉันต้องออกไปข้างนอก อยู่เฝ้าบ้านด้วยล่ะ เด็กดี" ไคโน้มตัวลงมาจูบผมที่ยังอยู่ในชุดนอนเปิดทีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยเปื่อยหลังกินข้าวเสร็จ
"อืม รีบกลับมานะ" ผมจูบตอบเขาแล้วยิ้มหวานเดินไปส่งที่หน้าประตูบ้าน
เหมี๊ยวว~~
"อ๊า! เจ้าฟิว ฉันลืมแกไปเลย" ผมอุ้มแมวตัวยักษ์ที่อ้วนเป็นหมูขึ้นมาหอมพุงฟอดใหญ่ ผมเทอาหารเม็ดที่ไคซื้อมาให้ลงในชามข้าวมันปล่อยให้มันกินอย่างเอร็ดอร่อย
"ตั้งแต่เปลี่ยนอาหารแกอ้วนขึ้นทุกวันเลยนะเจ้าหมูน้อย"
ผมลูบขนสวยบนตัวมัน ผมก็ไม่รู้ว่าไคกลัวผมเหงาหรือยังไงถึงได้เอาแมวมาให้ผมเลี้ยง แล้วยิ่งสีเหมือนตัวเก่าที่ตายไป บางครั้งแมวตัวนี้มันก็ทำให้ผมนึกถึงความทรงจำที่ไม่ดี คราวนี้ผมจะดูแลมันให้ดีกว่าเดิม
กิจวัตรประจำวันของผมที่โดนขังอยู่แบบนี้แทบไม่มีอะไรให้ทำสักเท่าไหร่ ก็ได้แต่นั่งๆ นอนๆ เล่นเกมดูหนังไปเรื่อยแต่มันก็ดีที่ไม่ต้องทำงานและงานบ้านก็ไม่ต้องทำเพราะไคจ้างแม่บ้านหรือไม่ตัวเขาก็ทำเอง อยากได้อะไรเขาก็จะซื้อให้ ทุกอย่างดูเหมือนจะดีไปหมดเพียงแค่ไม่มีอิสรภาพและต้องทำตามคำสั่งไคในบางเรื่อง
ผมคงจะอาการแย่แล้วจริงๆ เพราะยิ่งนานวันความคิดที่จะหนีไปยิ่งเลือนหายไป ผมชอบกรงขังเล็กๆ ใบนี้ ที่เราสองคนจะอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นมันไม่เป็นไรเลยที่จะแลกความเจ็บปวดกับวันเวลาของเรา ผมวิงวอนให้เขาไม่ยอมปล่อยมือจากผมไปอยู่ในใจ เพราะถ้าเขาหมดรักผมแล้วความสัมพันธ์นี้คงสิ้นสุดลงและผมคงต้องอยู่คนเดียวในโลกที่โดดเดี่ยวอีกครั้ง
แสงตะวันเริ่มเลือนหาย บ่งบอกเวลาใกล้มืด ผมได้แต่นั่งกอดเข่าตัวเองจ้องนาฬิกา รอคอยไคให้กลับมาเร็วขึ้นอีกเพียงนิด จนในที่สุดผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูบ้าน
"เนม ฉันกลับมาแล้ว" เสียงตะโกนจากหน้าบ้านที่คุ้นเคย ผมเดินไปหอมแก้มต้อนรับเขาอย่างเคยชิน มองดูของหลายอย่างที่เขาซื้อมาฝากทั้งของกินและเสื้อผ้า
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย" ผมรื้อของดูทีละถุง
"ของที่เนมน่าจะชอบไง" เขาเดินมาสวมกอดผมจากด้านหลังเอาหัวซุกไซร้ซอกคอผมถูไปมาเหมือนหมาตัวโตๆ
"ซื้อมาเยอะเกินไปแล้ว" ผมบ่น
"เพราะเนมน่ารักเกินไปใส่ชุดอะไรก็เข้า ฉันเลยเผลอซื้อมาหมดเลย" เขาหยิบชั้นในลูกไม้สีดำเซ็กซี่ออกมาแล้วยิ้มทะเล้น
ผมได้แต่ถอนหายใจอยู่ภายในอกเพราะแรงตึงเป้าแข็งที่คอยกระทุ้งก้นผมอยู่ด้านหลัง คนตัวโตเริ่มจะหื่นขึ้นมาอีกแล้ว ลมหายใจร้อนรินรดอยู่ข้างหูผมอย่างหื่นกระหาย
"ใส่สิ ใส่ให้ดูหน่อย"
เมื่อเขาสั่งผมก็ต้องทำตามเพราะถ้าขัดขืนเขาก็จะเริ่มอารมณ์เสียอีก ยิ่งนับวันผมก็ทำตามคำสั่งเขาจนไม่รู้สึกขัดเขินอะไรอีกแล้ว ผมดึงถอดกางเกงออกแล้วบรรจงใส่กางเกงชั้นในลูกไม้แล้วรัดสายสีดำเข้าชุดตรงต้นขาที่มากับดีไซน์ของชุด
"สวยที่สุดเลย"
เขาเอ่ยชื่นชมผมราวกับไม่เคยเห็นเรือนร่างผมมาก่อน มือใหญ่อุ้มผมขึ้นจากพื้นแล้วพาเดินมาที่เตียง แหวกขาสองข้างผมออกเผยรูแดงที่โดนเขากระทำชำเราไม่เคยได้พักเลยสักวันไม่ว่าจะด้วยของเล่นหรือท่อนลำยาวของเขาเอง
ถึงจะเป็นชั้นในแต่ตรงส่วนที่ควรจะปิดจุดสำคัญกลับเป็นแค่สายเชือกบางๆ ไม่ต่างอะไรกับไม่ได้ใส่ ชุดนี้มันเผยเนื้อหนังจนหมด
"อ้าขากว้างๆ ให้ฉันดูหน่อยเร็ว ที่รัก" มืออุ่นลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบา สองมือของผมจึงช้อนขาตัวเองขึ้นเผยให้เห็นรูลามกแดงที่กำลังสั่นระริกอยู่ภายในเพราะรู้ว่ากำลังจะได้มีเซ็กส์
"ไม่ไหวเลย มันหลวมจนแทบใช้ไม่ได้แล้ว" มือหนาสอดนิ้วเขามาในรูด้านหลังผมทีเดียวถึงสามนิ้ว เขาคว้านลึกถึงข้างในสัมผัสผนังทุกซอกทุกมุมที่นิ้วไคจะเข้าไปถึงได้
ความอายเล่นงานผมจนมือสั่นแต่ก็ต้องจับขาตัวเองไว้ตามที่เขาสั่ง
"ไม่เป็นไรถึงมันจะหลวมแต่ก็ยังใช้การได้ดีอยู่ใช่ไหมเนม?"
"อือ...มันยังใช้ได้ดีอยู่ ฉันจะพยายามไม่ให้นายผิดหวังนะ" ผมฝืนยิ้มให้พูดสิ่งที่เขาน่าจะอยากให้ผมตอบ
"นายดีที่สุดอยู่แล้ว"
เขาก้มลงมาจูบผม จูบนุ่มนวลแต่ก็หนักหน่วง ท่อนลำแข็งดันเข้าพรวดเดียวจนสุดแทนนิ้วมือเรียวยาว ขยับเข้าออกรุนแรงจนผมเกร็งจิกเนื้อต้นขาตัวเองแน่น
ไคคร่อมตัวบนตัวผมสองแขนแกร่งวางอยู่ข้างหัวผม ให้ผมเห็นใบหน้าหล่อเหลายิ้มพอใจเมื่อเห็นสีหน้าของผมชัดๆ
เอวหนาขยับสะโพกแรงขึ้นเรื่อยๆ ใกล้จะเสร็จเต็มที ผมจึงปล่อยขาตัวเองแล้วยกทั้งสองมือขึ้นมาจับที่คอตัวเองอยู่แล้วบีบสุดแรง หลังๆ มานี้ไคเริ่มบีบคอผมหนักขึ้นเรื่อยๆ
เขาอยากจะบีบมันอีกทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ถ้าปล่อยเขาบีบผมต่อไปเรื่อยๆ ก็กลัวว่าเขาเองจะไม่อยากปล่อยมือออกจากคอผมในสักวัน เขาเลยให้ผมบีบคอตัวเองแทนและทนจนกว่าจะไม่ไหวถึงค่อยปล่อย
ผมมองตาเขาที่จ้องมองหน้าผมที่เจ็บและอึดอัดจนรู้สึกเหมือนจะตาย แขนสั่นไปหมดแต่ก็ไม่กล้าผ่อนแรงลงคิดว่าตัวเองคงทนไปได้อีกหน่อย
ตอนนี้มีเพียงเสียงหายใจหอบของคนที่อยู่บนตัวผมเท่านั้นที่ดังอยู่ในห้อง จนในที่สุดเขาก็ปล่อยน้ำกามร้อนเข้าไปด้านใน ผมถึงได้คลายมือตนเองออกจากคอ รีบสูดลมหายใจเข้า ชดเชยอากาศที่เสียไป
สุดท้ายแล้ววันนี้ก็จบลงเหมือนทุกๆ วัน ผมยังคงนอนอยู่ใต้อ้อมกอดของวงแขนกว้าง และคอยเชื่อฟังคำสั่งเขาเหมือนที่ผ่านมา ผมไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกนี้จะเรียกว่าความรักได้ไหม แต่ถ้ามันไม่ใช่ความรัก มันจะทำให้ผมอดทนมาได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?