ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,ดาร์ค,เรื่องสั้น,ลึกลับ,คลั่งรัก,ตำนาน,ปีศาจ,ญี่ปุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“อะไรนะ!? ศาลเจ้าในป่าหลังโรงเรียนนั่นน่ะเหรอ ฉันไม่เอาด้วยหรอก” เสียงของคุโนะ เด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายร้องออกมาด้วยความตื่นกลัวเพียงเล็กน้อย ทำลายความเงียบภายในห้องสมุดขณะที่ทุกคนในที่แห่งนี้กำลังอ่านหนังสือกันอย่างใจจดใจจ่อเพื่อเตรียมสอบปลายภาค
คุโนะกำลังนั่งจับกลุ่มติวหนังสือกับเพื่อนสาวอีกสองคนซึ่งได้แก่ ชิโอริ สาวแว่นประจำห้องที่มักไว้ผมแกละสองข้าง เธอคนนี้เป็นคนที่มีผลการเรียนดีเป็นอันดับต้น ๆ ของระดับชั้น และ โคโคะนะ สาวสวยประจำกลุ่มที่เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นประจำโรงเรียนด้วยรูปร่างและหน้าตาที่ดูสวยโดดเด่นราวกับไอดอลระดับประเทศ ผมสีดำสนิทยาวถึงกลางหลังดูสลวยและมีสุขภาพดี ประกอบกับหน้าม้าซีทรูที่ช่วยประดับใบหน้าอันอ่อนหวานให้ยิ่งดูมีเสน่ห์ ทำให้มีเด็กหนุ่มในโรงเรียนมากมายเข้ามาสารภาพรักกับโคโคะนะอย่างไม่ขาดสาย ผิดกับคุโนะที่เป็นเพียงเด็กสาวหน้าตาธรรมดา และมีผลการเรียนระดับปานกลางทำให้ไม่เป็นที่สนใจของเด็กหนุ่มในโรงเรียนเลยสักคน
คุโนะที่รู้สึกตัวว่าเผลอส่งเสียงดังออกไปก็พลันหน้าแดงด้วยความอับอายก่อนจะก้มหน้าคำนับให้เหล่าคนที่มองมาแล้วกล่าวว่า “ขออภัยค่ะ”
เมื่อทุกคนในห้องสมุดเลิกสนใจเธอ เด็กสาวก็กลับไปพูดกับเพื่อนด้วยเสียงที่เบาลง “ฉันเคยได้ยินมานะ ว่าที่อยู่ในศาลเจ้านั่นน่ะ ไม่ใช่เทพเจ้าที่ควรกราบไหว้หรอกนะ ทำไมพวกเราถึงไม่ไปขอพรกับศาลเจ้าที่ยังคงปรกติอยู่ล่ะ”
“คุโนะไม่เชื่อข่าวลือหรอกเหรอ?” โคโคะนะเอียงคอถามด้วยสีหน้าสงสัย แววตาอันไร้เดียงสาคู่นั้นทำให้คุโนะรู้สึกอิจฉาและเอ็นดูเพื่อนสาวในคราวเดียวกัน
“ไม่ใช่ไม่เชื่อหรอกนะ แต่… มันน่ากลัวน่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าสิ่งที่ช่วยให้เราสมหวังนั้นคือเทพเจ้าจริง ๆ ไม่ใช่ปีศาจหรืออะไรสักอย่าง”
“ก็ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหนเลยนี่นา” ชิโอริกล่าวเสียงเรียบพร้อมกับวางปากกาในมือก่อนหันมองเพื่อนสาวทั้งสองคน “เท่าที่รู้มา ไม่เห็นมีใครเจอกับเรื่องเลวร้ายเลยสักคน สึดะห้องห้าก็ผ่านการคัดตัวไปเป็นตัวแทนแข่งว่ายน้ำ รุ่นพี่ทานากะก็ได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการ ส่วนเคียวโกะก็ได้ไปเป็นไอดอลชื่อดังอยู่ที่โตเกียว ยังมีอายากะที่ได้สมหวังกับเรียวโนะสุเกะด้วยนะ และอย่างที่เราเห็น คนพวกนี้ก็ยังมีความสุขดี”
“นั่นสินะ” คุโนะเกาศีรษะด้วยสีหน้าที่ดูเห็นด้วย “แล้วชิโอริอยากจะไปขอพรเรื่องอะไรเหรอ?”
“เรื่องเข้ามหาวิทยาลัยน่ะ”
“เรื่องนั้น ไม่ต้องขอก็ได้นี่นา ระดับหัวกะทิอย่างชิโอริแล้วไม่น่าจะต้องมากังวลเลยไม่ใช่เหรอ?”
“เพราะมันสำคัญกับฉันมากน่ะสิ” สาวแว่นหยิบปากกาขึ้นมาเตรียมจะทบทวนวิชาวิทยาศาสตร์อีกครั้ง “เพราะเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด ฉันจึงต้องการผลลัพธ์ที่เป็น 100% เท่านั้น”
“งั้นเองหรอกเหรอ” คุโนะตอบรับอย่างเข้าใจความหมายที่เพื่อนต้องการจะสื่อ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง “งั้นฉันไปด้วยละกัน”
“คุโนะอยากจะไปขอเรื่องอะไรเหรอ?” โคโคะนะถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นและนั่นทำให้คุโนะแสดงท่าทีเขินอายออกมา
“ก็… แฟนน่ะ”
คำตอบของคุโนะทำให้ทั้งโคโคะนะและชิโอริพลันมีสีหน้าซีดเผือดพร้อมกัน ทั้งสองมองตากันด้วยความกระอักกระอ่วนราวกับลำบากใจที่จะบอกอะไรบางอย่างกับคุโนะ
“มีอะไรเหรอ?” คุโนะที่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสองจึงถามออกไปด้วยความฉงน
“คือเรื่องนี้…” โคโคะนะแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาอย่างชัดเจน “คุโนะไม่เคยมีแฟนหรือมีหนุ่มคนไหนเข้ามาจีบเลยไม่ใช่เหรอ…”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันถึงอยากจะไปขอพรบ้างไง”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ คือว่า… เอ่อ จะพูดว่ายังไงดี” โคโคนะกลอกสายตามองบนเพื่อพยายามเค้นคำพูด
“สิ่งที่ขอมันต้องไม่ยากเกินกว่าความเป็นไปได้น่ะ” ชิโอริพูดออกมาทันทีด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องให้ข้อแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างที่สมน้ำสมเนื้อกัน สึดะมีพรสวรรค์ด้านการว่ายน้ำและขยันฝึกซ้อมอยู่แล้ว รุ่นพี่ทานากะก็พยายามอย่างหนักเพื่อผลการเรียน แต่คุโนะที่ไม่มีดวงเรื่องผู้ชายอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยกว่าคนที่มักจะมีตัวเลือก สิ่งนี้มันเคยเกิดขึ้นกับเอมิห้องสามที่ไม่เคยมาเรียนอีกเลย ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าข้อแลกเปลี่ยนที่เอมิต้องจ่ายนั้นคืออะไร แต่สภาพจิตใจของเธอคนนั้นเลวร้ายสุด ๆ เลยล่ะ”
“ยะ… อย่างงั้นเหรอ?” สีหน้าของคุโนะดูทั้งผิดหวังและหวาดกลัวก่อนที่แววตาคู่นั้นจะดูปลงตกเมื่อยอมรับต่อความเป็นจริง
“เอ๊ะ แต่คุโนะอยากเป็นนักร้องนี่นา!” โคโคะนะเบิกตาโพลงพร้อมกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “คุโนะมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงและวางแผนที่จะไปออดิชั่นในรายการ 'ไปร้องตรงโน้นไป' ด้วยนี่นา ฉันว่ามันน่าลองนะ”
“มันจะดีเหรอ...”
“ฉันเห็นด้วยกับโคโคะนะ” ชิโอริยังคงกล่าวเสียงเรียบ “หลังเลิกเรียนเราไปพร้อมกันเลยดีกว่า สิ่งที่ต้องเตรียมไปถวายก็มีแค่คางามิโมจิเท่านั้น”
“เดี๋ยวนะ ศาลเจ้าร้างแบบนั้น ถ้าเอาของกินไปถวายจะไม่ถูกทิ้งให้กลายเป็นขยะเหรอ?” คุโนะถามด้วยความสงสัย
“ไม่หรอก พวกเราต้องยืนคอยใครบางคนออกมากินน่ะ และต้องยืนรอจนกว่าเขาจะกินหมด และไม่ว่าจะรู้สึกกลัวแค่ไหน ห้ามวิ่งหนีเป็นอันขาด” ชิโอริแจกแจง
“นะ… น่ากลัวจัง” โคโคะนะหน้าถอดสีซึ่งไม่ต่างจากคุโนะ
“เขาไม่ทำอะไรหรอกน่า ก็แค่ออกมากินแล้วก็ไป” ชิโอริใช้เสียงที่นุ่มลงเพื่อให้เพื่อนทั้งสองคนเบาใจ “แต่ห้ามวิ่งหนีเป็นอันขาด”
บทสนทนาของเด็กสาวทั้งสามคนที่นั่งอยู่ไกลจากคนอื่นไม่มีใครได้ยินนอกจากฉันซึ่งเป็นบรรณารักษ์อยู่ในห้องสมุด และที่นั่งของพวกเขาอยู่ใกล้กับฉัน
ฉันชื่อทาคาฮาชิ มิโดริ อายุ 31 ปี แต่ไม่เคยแต่งงานเลยสักครั้ง แม้จะมีชายหนุ่มมากมายพยายามเข้ามาในชีวิตของฉัน แต่ปัญหาชีวิตคู่ของใครหลายคนที่อยู่รอบตัวกลับทำให้ฉันมองเรื่องของความรักและการแต่งงานในแง่ลบ ฉันกลัวความไม่มั่นคงของความสัมพันธ์ กลัวการถูกทรยศ กลัวการเสียเวลาชีวิตไปกับใครบางคนที่อาจจะเปลี่ยนไปในสักวันหนึ่ง
ฉันไม่ได้มีปัญหากับการอยู่คนเดียวเพราะฉันสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเองและชอบใช้เวลากับตัวเองเสมอมา แต่ในบางครั้งกลับรับรู้ได้ถึงบางสิ่งภายในใจที่ขาดหายไปราวกับต้องการใครสักคนเข้ามาเติมเต็ม ฉันอยากมีความรักแต่ก็กลัวเหลือเกิน และฉันตัดสินใจแล้วว่า หลังจากเลิกงานในเย็นวันนี้ จะต้องแวะซื้อขนมคางามิโมจิแล้วไปที่ศาลเจ้าร้างในป่าหลังโรงเรียน...