ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,ดาร์ค,เรื่องสั้น,ลึกลับ,คลั่งรัก,ตำนาน,ปีศาจ,ญี่ปุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โทนเสียงของชายหนุ่มผมขาวนั้นไม่ได้มีความมุ่งร้ายแม้ว่าเขาจะอยู่ในท่าทางที่ชวนให้ประสาทเสีย แต่คำพูดของเขาก็ช่วยให้ฉันคลายความกลัวลงได้เป็นอย่างดีและแทนที่ด้วยความรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจ
“ท่านจะบอกว่าตัวฉันไม่ดีพอหรือคะ!?” ฉันโพล่งเถียงไปทันทีด้วยความโกรธก่อนจะกลับมารู้สึกกลัวในภายหลัง
ชายประหลาดที่ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเทพหรือไม่นั้นพลันหมุนคอและลำตัวพร้อมกับค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ทั้งภาพอันน่าสยองที่เห็นตรงหน้าและเสียงข้อกระดูกที่ถูกบิดออกแล้วต่อเข้าหากันใหม่ทำให้ฉันตกใจจนต้องรีบยกมือขึ้นปิดตาด้วยความหวาดกลัว
“ลองทบทวนสิ่งที่เจ้าขอแล้วตรองดูสิว่าจะหาผัวแบบนั้นท่ามกลางมนุษย์ผู้ชายที่มีความไม่รู้จักพออยู่ในธรรมชาตินั้นได้อย่างไร” ถ้อยคำที่ชวนให้ฉุกคิดกับน้ำเสียงอันอ่อนโยนของท่านผู้นี้ทำฉันหายกลัวอีกครั้ง และเมื่อมองดูเขาอีกหนอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังยืนตัวตรงอย่างปรกติข้างกับลำตัวของฉัน
คำพูดของเขาทำให้ฉันย้อนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองได้ขอไป ‘ผู้ชายที่ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากฉัน’ แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวก็ขัดแย้งกับธรรมชาติของผู้ชายที่มีความเจ้าชู้อยู่ในยีนที่ทำให้มีความต้องการสืบพันธุ์กับผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนซึ่งก็เพื่อขยายพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ แม้ว่าฉันจะเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีแต่กลับไม่สามารถพยายามทำใจยอมรับได้ ฉันมีความกลัวที่จะเอาเวลาในชีวิตไปเสี่ยงกับความสัมพันธ์ที่อาจจะสั่นคลอนได้ทุกเมื่อหากความต้องการของอีกฝ่ายถูกยีนกำหนดเอาไว้ นั่นคือสาเหตุที่ฉันกลัวการแต่งงานมาโดยตลอดแต่ก็ยังคงคาดหวังว่าจะได้พบใครสักคนที่มีความผิดปรกติในเรื่องนี้
“งั้นไม่เอาแล้วก็ได้ค่ะ…” ฉันกล่าวเสียงแผ่วด้วยความรู้สึกปลงตกพร้อมกับยันกายลุกนั่งแล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่ค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลงเช่นกัน ในยามนี้ฉันแทบไม่รู้สึกถึงความกลัวในหัวใจอีกต่อไปแล้ว ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อย ๆ เอียงคอมองหน้าฉันด้วยสายตาเย็นชา
“ไม่เอาแล้วงั้นเหรอ?” เสียงที่เคยอ่อนโยนฟังดูแข็งกระด้างขึ้นจนรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของเขา
“คะ… ค่ะ” ไม่อาจควบคุมเสียงไม่ให้ตะกุดตะกักได้ในขณะที่หัวใจกำลังสั่นระรัว สังหรณ์ใจถึงหายนะบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกเสี้ยววินาที
“เจ้าน่ะ…” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวด้วยเสียงที่เย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิม ลำตัวของเขายืดสูงขึ้นจนถึงเพดานก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็นส่วนล่างของเขาที่ได้ยาวออกโดยไม่ใช่ขา แต่เป็นหางงูที่มีเกล็ดสีขาวล้วน แล้วเพียงอึดใจฉันก็ถูกหางนั้นพุ่งเข้ามาพันเอาไว้แล้วถูกยกจนตัวลอยขึ้น
“กรี๊ดดด! อย่าทำร้ายฉันเลยนะคะ! ปล่อยฉันไปเถอะ!” ฉันพยายามดิ้นรนให้หลุดจากหางที่รัดแน่นอย่างเสียขวัญ
“อายุมากพอที่จะต้องหัดรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองแล้วนะ เห็นข้าเป็นเพื่อนเล่นของเจ้าหรือไง?” เสียงเรียบเฉยที่อัดแน่นไปด้วยความเย็นยะเยือกกล่าวขึ้นขณะที่ตัวฉันถูกยกให้ไปอยู่ต่อหน้าเขาในระยะประชิด “แต่มันก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้หรอกนะ ถ้าให้ข้า… ได้กินเจ้า”
“ท่านเป็นถึงเทพ อย่าทำร้ายมนุษย์ผู้โง่เขลาแบบฉันเลยนะคะ… ฉันก็แค่ไม่เข้าใจว่า… ในเมื่อท่านเป็นคนพูดเองว่าสิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้ แล้วทำไมถึงยังรับคำขอเอาไว้แทนที่จะปัดตกหรือยกเลิกไปล่ะคะ ไม่ใช่ว่าท่านไม่สามารถให้สิ่งนั้นกับฉันได้หรอกเหรอคะ?” น้ำตาของฉันไหลลงแก้มด้วยความกลัว แต่พยายามตั้งสติและควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
หางที่เคยรัดฉันแน่นจนแทบทำหายใจไม่ออกพลันคลายลงเล็กน้อยซึ่งยังไม่ปล่อยให้ฉันหลุดออกไป เมื่อเหลือบมองหน้าอีกฝ่ายก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไป ไร้ความเย็นชาในดวงตาสีแดงคู่นั้นและดูเหมือนว่าเขากำลังพิจารณาจิตใจจากใบหน้าและแววตาของฉันด้วยความคิดบางอย่างที่มนุษย์เช่นฉันไม่อาจหยั่งถึง
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” ท่านผู้นี้หัวเราะอย่างแผ่วเบาคล้ายกำลังรู้สึกขบขันกับบางสิ่งเกี่ยวกับฉัน “ใครบอกเจ้างั้นหรือว่าข้าเป็นเทพ และข้าบอกเจ้าไปตอนไหนงั้นเหรอว่าข้าไม่สามารถให้ในสิ่งที่เจ้าปรารถนาได้?”
“ก็ท่านบอกกับฉันเองว่าฉันไม่สามารถที่จะมีสามีแบบนั้นได้…”
“นั่นก็เพื่อให้เจ้าเข้าใจว่าตัวเจ้าได้ขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างไรล่ะ ไม่มีมนุษย์ผู้ชายคนไหนจะมีอารมณ์ความต้องการกับผู้หญิงเพียงคนเดียวหรอกนะ” เขาอธิบายด้วยความใจเย็นและไร้ซึ่งรังสีที่เคยข่มขวัญ “เพราะได้ขอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันเลยมีราคาที่ต้องจ่าย ข้าก็แค่จะมาบอกเรื่องนี้กับเจ้า”
“ราคาที่ต้องจ่าย…” ฉันทวนคำด้วยความสงสัยและกังวลใจ เป็นคำที่ชวนให้เครียดเสียเหลือเกิน
“สิ่งที่ต้องแลกเพื่อให้สมน้ำสมเนื้อกันน่ะ ยิ่งสิ่งที่เจ้าขอมีความเป็นไปได้ยากมากเท่าไร สิ่งที่ต้องแบกรับก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”
“แล้วไม่สามารถยกเลิกได้จริง ๆ เหรอคะ นอกจาก… เป็นอาหารของท่าน”
“ฮ่า ๆ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ” ถ้อยคำอันอ่อนโยนนั้นทำให้ฉันมีความหวังขึ้นมาในทันที “เจ้ายังมีสิ่งหนึ่งที่สามารถมอบให้ข้าได้เช่นกัน”
“อะไรงั้นเหรอคะ?”
หางของเขาที่กำลังรัดฉันอยู่นั้นยกตัวฉันให้ขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้นจนแทบจะแนบชิดติดกัน ทำให้ได้มองเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่มีความละเมียดละไมชัดเจนกว่าเดิม หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง…
ใบหน้าฟ้าประทานโน้มเข้ามาใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหู “ยกพรหมจรรย์ของเจ้าให้ข้าได้หรือไม่?”
ฉันเบิกตาโพลงพร้อมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินข้อเสนอของเขา หัวใจที่เคยสั่นด้วยความกลัวกลับกลายเป็นเต้นระรัวด้วยความรู้สึกอื่น ได้แต่นิ่งเงียบและไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อไปดี ฉันไม่รู้ว่าระหว่างสิ่งที่ต้องแบกรับกับข้อเสนอของเขานั้น อะไรจะเลวร้ายกว่ากัน คนผู้นี้ไม่ใช่ทั้งคนทั้งเทพ และฉันเองก็ยังไม่เคยเสียความบริสุทธิ์แม้ว่าจะอยูในวัยเลขสาม ซึ่งฉันไม่รู้ว่าการสมสู่ของเขานั้นจะปรกติเหมือนกับมนุษย์หรือผิดแผกไปแบบไหน แต่คงจะทรมานน่าดูหากโดนเปิดบริสุทธิ์จนตาย
เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าฉันไม่พูดอะไรสักทีจึงวางฉันลงกับพื้นห้องแล้วค่อย ๆ คลายหางงูออกไป
“แปลว่าเจ้าเลือกแล้วสินะ งั้นก็หมดธุระของข้า” ชายหนุ่มที่มีท่อนบนเป็นมนุษย์และมีท่อนล่างเป็นงูเคลื่อนตัวด้วยการเลื้อยไปทางประตู
“ไม่ยุติธรรมเลย…” ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อทำให้เขาหยุดชะงักอยู่ที่หน้าประตูห้องแล้วหันมาฟัง “มาบอกฉันแค่ว่าต้องแบกรับกับสิ่งที่ขอไป แต่สิ่งที่ว่านั้นคืออะไรก็ไม่ยอมบอก เรื่องแค่นี้เอง… ทำไมถึงยกเลิกคำขอให้ไม่ได้ล่ะคะ ได้กินขนมฟรีมันไม่ดีหรอกหรือไงคะ”
“เอาแต่ใจจัง เพราะแบบนี้ถึงไม่มีผัว” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบก่อนจะกลายเป็นงูสีขาวแล้วเลื้อยทะลุประตูหายไป
เพราะกำลังกระวนกระวายใจกับสิ่งที่จะเกิดจึงทำให้ไม่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นมากนัก และได้แต่ขอให้ใครสักคนทุบหัวเขา...