เมื่อแฟนสาวถูกฆาตกรรมทำให้ 'พานิล' จมดิ่งสู่ห้วงความเศร้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเธอกลับบอกว่า 'การคืนชีพมีอยู่จริง' ให้เขาตามหาบันทึกปริศนานั้นให้เจอ

Sound แว่วเสียงรัก - Sound Special Chapter 1 โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,รัก,ระทึกขวัญ,ลึบลับ,ดราม่า,ข้ามภพ,แฟนตาซี,เกิดใหม่ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Sound แว่วเสียงรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,รัก,ระทึกขวัญ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึบลับ,ดราม่า,ข้ามภพ,แฟนตาซี,เกิดใหม่

รายละเอียด

Sound แว่วเสียงรัก โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อแฟนสาวถูกฆาตกรรมทำให้ 'พานิล' จมดิ่งสู่ห้วงความเศร้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเธอกลับบอกว่า 'การคืนชีพมีอยู่จริง' ให้เขาตามหาบันทึกปริศนานั้นให้เจอ

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไรเมื่อการข้ามภพข้ามชาติมาในรูปแบบไซไฟ 'พานิล มาลาฬ' ก็ไม่รู้เช่นกันว่าชีวิตตัวเองกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดการ ซึ่งเริ่มจาก 'กิลลรี สุริยศร' แฟนสาวเสียชีวิต และแม่ของเธอบอกว่า สุริยศรฟื้นคืนชีพคนตายได้ บันทึกลึกลับเก็บอยู่ที่วังเก่า อันเป็นสมบัติของตระกูล พานิลนึกหัวเราะกับคำเพ้อเจ้อเหล่านี้ แต่ความโศกเศร้าทำให้เขาอยากพิสูจน์เรื่องน่าเหลือเชื่อ และนั้นคือจุดเริ่มต้นของความลับระหว่างสองตระกูล ซึ่งมันได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล พานิลจะฟื้นคือชีพของกิลลรีได้ไหม พระเจ้าเองก็ตอบไม่ได้ อยากให้นักอ่านมาลุ้นเอาใจช่วยเขากันค่ะ

สารบัญ

Sound แว่วเสียงรัก-Sound Prologue ,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 1 หัวใจของพานิล,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 2 สาเหตุการตาย,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 3 ภาพฝันอันงุนงง,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 4 การคืนชีพมีอยู่จริง,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 5 ท่านชายสติเฟื่อง,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 6 เบาะแสเริ่มชัดเจน,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 7 จิราเมธผู้แตกสลาย ,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 8 วิธีทำซอมบี้หุ่นยนต์,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 9 อัศวินสมชื่อ,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 10 กลับมา,Sound แว่วเสียงรัก-Sound : Chapter 11 (END) รักนิรันดร์,Sound แว่วเสียงรัก-Sound Special Chapter 1,Sound แว่วเสียงรัก-Sound Special Chapter 2,Sound แว่วเสียงรัก-Sound Special Chapter 3,Sound แว่วเสียงรัก-Sound Special Chapter 4

เนื้อหา

Sound Special Chapter 1

 หลังอาหารย่อยได้สักพัก หญิงสาวก็ปลีกตัวจากห้องนั่งเล่นมาเคลียร์อุปกรณ์ในครัวให้มันเรียบร้อย

เสียงโลหะดังกระทบกันก๊องแก๊งเเว่วผ่านหูของพานิล ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวมีท่าทีกังวลจากการคิดมากเกี่ยวกับเรื่องเดิม ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะผ่านเหตุการณ์คืนชีพให้กิลลรีมาร่วมหลายเดือนแล้วก็ตาม

เขากลัวคนอื่นจะจำเธอได้ เพราะนอกจากบรรดาญาติแล้ว ไม่มีใครรับรู้เรื่องนี้เลย นั่นก็เพราะว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของหญิงคนรัก อีกทั้งช่วงนี้เจ้าหล่อนมักจะแวะมาคอนโดของเขาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่เคยบอกไปอย่างชัดเจนแล้วว่า ถ้าหากอยากเจอหน้าให้โทรบอก เดี๋ยวเขาจะเป็นฝ่ายไปหาที่บ้านเอง

แต่พานิลก็เข้าใจกิลลรีอยู่ไม่น้อย เพราะถึงแม้เธอบอกว่าอยากเก็บตัวเงียบๆ ที่บ้านมากกว่า เนื่องจากอาการแพนิคหลังเหตุฆาตกรรมมันยังคงติดอยู่ในใจ แต่มันไม่ได้แปลว่าต้องขลุกตัวทั้งวันทั้งคืนเสียเมื่อไหร่ ก็ต้องมีบ้างที่อยากจะออกมาเปลี่ยนบรรยากาศข้างนอกเหมือนกัน

ชายหนุ่มสะบัดหัวราวกับอยากให้ความกลัวนี้จางหาย พร้อมกับตำหนิตัวเองในใจว่าจะคิดมากไปทำไม ส่วนที่เป็นหุ่นยนต์ของเธออยู่ได้ด้วยไสยเวทย์ มันต้องเป็นระเบิดระดับนิวเคลียร์เท่านั้นถึงจะทำลายชิ้นส่วนจากโลกอนาคตได้ และคงไม่มีใครที่ไหนไปปล่อยเธอไว้กลางสนามรบหรอก

“เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคนแก่ที่ลูกหลานไม่รักได้แล้ว! นี่คือคำสั่ง!”

กิลลรีที่ล้างจานเสร็จเรียบร้อยหันมายืนเท้าเอวดุ ทั้งที่มือเรียวทั้งสองข้างยังไม่ได้เช็ดคราบน้ำออกด้วยซ้ำ คงเพราะบังเอิญเห็นใบหน้าของชายคนรักเคร่งเครียดเช่นนั้น เธอจึงคิดว่าเขายังคงเฝ้าห่วงเป็นใยเธอเหมือนเคย
ถึงจะบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่าคิดมาก ถ้ารู้ว่าพอเธอฟื้นขึ้นมาแล้วเขาเป็นแบบนี้ล่ะก็ ยอมตายไปให้จบๆ เสียดีกว่า

“ผมขอโทษ”

น้ำเสียงอ้อยอิ่งเอ่ยออกมา ทำให้ความขุ่นเคืองของกิลลรีหายวับไปในทันที อีกทั้งใบหน้ายังจ๋อยเหมือนเด็กน้อยสำนึกผิดแบบนั้น เธอคงโกรธเขาไม่ลงหรอก

หญิงสาวตั้งท่ายืนทำหน้าดุได้ไม่นานจึงเดินเข้ามานั่งตักพานิล และหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ให้คุณชายแห่งมาลากาฬได้สบายใจ

“คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะตายซ้ำซาก ไม่เห็นต้องคิดมากเลยถ้าต่อจากนี้มันจะมีอะไรเกิดขึ้นเพราะสิ่งที่คุณทำเพื่อฉันมันเติมเต็มทุกอย่างแล้ว ฉันไม่มีความข้องใจหรือห่วงอะไรอีก แล้วถ้าการที่ฉันฟื้นแล้วคุณต้องพะว้าพะวังอยู่แบบนี้ ฉันไม่ฟื้นขึ้นมาซะดีกว่า”

“กิล...”

คำพูดทิ้งท้ายของกิลลรีเหมือนการเตือนสติพานิลไปในตัว เขาจึงกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเกลี่ยใบหน้านวลนั้นไปพลาง

รู้ทั้งรู้ว่าที่ตนทำตัวแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับจิราเมธที่ส่งคนไปเฝ้าลูกสาวตัวเองอยู่ตลอดเวลา แล้วการฟื้นคืนชีพจะมีประโยชน์อะไรหากชีวิตไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ เหมือนคำทิ้งท้ายที่จิราเมธคนเดิมได้บอกพานิลเอาไว้

“การคืนชีพไม่มีอยู่จริง มันคือการยื้อเพื่อให้มนุษย์ทำใจได้”

สุดท้ายแล้ว คนหรือหุ่นยนต์ก็มีชะตาที่ต้องเสื่อมสลายเหมือนกัน กิลลรีอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจนชิ้นส่วนของเธอผุพังแล้วจากเขาไปอีกครั้ง แล้วมันยังไงล่ะ?

กว่าจะถึงวันนั้นเติมเต็มให้กันและกันจนสุดความสามารถไม่ดีกว่าเหรอ

“ผมเคยบอกคุณสมบัติของร่างกายคุณ จำได้บ้างมั้ยว่ามันมีอะไรบ้าง” พานิลถามและมองไปยังร่างกายท่อนบนที่เป็นหุ่นยนต์ของเธอ

“อืม...เป็นโลหะชนิดพิเศษที่ถูกปลุกด้วยพลังอำนาจบางอย่างกลมกลืนและแนบเนียนไปกับผิวเนื้อของฉัน” ว่าแล้วหญิงสาวก็เลิกปลายเสื้อขึ้น เพื่อจิ้มพุงตัวเองว่ามันนุ่มนิ่มไม่ต่างจากส่วนที่เป็นมนุษย์ของเธอมากนัก “แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าหุ่นมันจะท้องได้ยังไง อันนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไปนะ”

“พิสูจน์มั้ยล่ะ” จู่ ๆ พานิลก็เลื่อนมองกายช่วงล่างที่ยังเป็นมนุษย์ของกิลลรี แล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวยจนหวนนึกถึงรสรักในวันเก่า ๆ และพึงตระหนักได้ว่าเรื่องบนเตียงที่ทำกันอย่างสม่ำเสมอมันขาดไปนานหลายเดือน จึงเป็นสาเหตุให้เขาถามคำนั้นออกไป

แววตาเจ้าเล่ห์ปรากฏออกมาหลังจากนั้น อีกทั้งยังไม่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้ตอบเลยสักนิดด้วยการรุดเข้าประกบปากนุ่มทันที

เหมือนกับชายหนุ่มได้ปลดล็อกความกังวลที่ตามหลอกหลอนออกไปได้จนหมดสิ้น เรี่ยวแรงของเขาถูกรวบรวมเพื่ออุ้มเธอในท่าเจ้าสาวและจ้ำอ้าวเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว

ฟุบ!

พานิลโยนกิลลรีบนเตียงโครมใหญ่ ทำให้นึกถึงช่วงแรกที่เขาระแวดระวังเกี่ยวกับร่างกายเธอ ว่ามันจะแตกหรือกระทบกระเทือนหรือไม่ แต่ด้วยแรงปรารถนาที่สูงปรี๊ดพุ่งเข้ามาเล่นงาน ชายหนุ่มก็แทบหลงลืมตัวเองในอดีตไปทันที

มันน่านัก!

“ร้ายมากนะ คุณชาย ทำเป็นถามว่าจำอะไรเกี่ยวกับร่างกายได้บ้าง ที่จริงอยากทำแบบนี้ล่ะสิ!”

“ก็คุณบอกผมว่าให้เลิกกังวล ผมก็ทำอยู่นี่ไง”

“คุณนี่มะ...อื้อ” เรียวปากนิ่มถูกปิดอย่างรวดเร็ว
พานิลขบกลืนเนื้อปากด้วยจังหวะแสนนุ่มนวล ราวกับกลัวว่าหญิงผู้บอบบางจะแตกสลาย ทำให้กิลลรีหลับตาพริ้มรับรสจูบนั้นอย่างเต็มใจ

มือใหญ่ของเขาที่ลูบไล้แผ่นหลังของเธอไปด้วยในคราวเดียวกัน มันชวนสยิวจนปลุกให้อารมณ์ส่วนลึกของกิลลรีนั้นพลุ่งพล่าน พลอยทำให้รสจูบที่แนบแน่นดำเนินไปด้วยความต้องการอันเร่าร้อนมากขึ้นกว่าเดิม

อีกทั้งจมูกโด่งทั้งสองยังคอยซุกไซ้ซึ่งกันและกันจนหายใจไม่ค่อยถนัด

“....”

กระทั่งเขาปล่อยเธอสูดอากาศเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายนั่นแหละ จึงทำให้รู้ว่าปอดเทียมมันยังสบายดีอยู่ไม่ดับสูญไปพร้อมกับจูบร้อนแรงที่แผดเผา

อีกทั้งกิลลรีก็ตระหนักรู้อีกหนึ่งอย่างว่า...ควรทำกันบนโซฟาข้างนอกมากกว่า เพราะห้องนอนหรูในคอนโดสูงของเขามันเป็นกำแพงกระจกที่มองออกไปเจอวิวระยิบระยับด้วยแสงไฟของตึกระฟ้า

และลองคิดดูสิ ถ้าฝั่งตรงข้ามกำลังเห็นบทรักขย่มเตียงอันโล่งโจ้งเช่นนี้ เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะ

“ปิดม่า...น อื้อ...”

ปิดม่านก่อน! ทำไมเขาถึงไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดนะ แต่กลับมอมเมาด้วยแรงจูบหนักหน่วงอย่างไม่หยุดพัก ทำให้กิลลรีได้หลงลืมคำเอ่ยเตือนที่อยากบอกเขาไป

รู้ตัวอีกครั้งลิ้นร้อนของพานิลก็ได้มาครอบงำที่ยอดถันสวยเข้าแล้ว กิลลรีเบิกตาโพลงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่โลหะกายและอวัยวะเทียมภายในตอบสนองต่อสัมผัสเย้ายวนจากริมฝีปากของเขา

เหมือนมีพัดลมภายในร่างกายกำลังหมุนเร็วจี๋ เพื่อบรรเทาความร้อนแรงของเครื่องจักรไม่ให้วงจรมันช็อตจนพังไปเสียก่อน

ยิ่งเรียวลิ้นตวัดหยอกเย้ากับยอดอกนูนเท่าไหร่ ประสาทสัมผัสก็กระตุ้นจนหญิงสาวต้องยกทรวงอกให้ถูกครอบงำลึกมากเท่านั้น

....ช่างอันตรายเหลือเกิน...

เพราะร่างกายนี้ถูกออกแบบมาอย่างดี ทำให้การปลุกเร้าหลงลืมความอายไปจนหมดสิ้น เพราะระบบกำลังประมวลผลว่าขณะนี้เธอมีความต้องการในเรื่องนั้นสูงมาก ทำให้ค่าความเข้มข้นของอารมณ์มันจึงพุ่งปรี๊ดจนฉุดไม่อยู่

กิลลรีจำได้ว่า ครั้งตนเป็นมนุษย์ถึงแม้จะเกินอารมณ์กำหนัดมากเพียงใด ก็ยังมีความยับยั้งชั่งใจเล่นตัวบ้างตามจริตผู้หญิง ไม่ใช้ประเคนเต้าให้เขาโลมเลียอย่างกระหายเช่นนี้

บทเรียนแรกของหุ่นยนต์ครึ่งมนุษย์ได้รับรู้ความแตกต่างของร่างกายตอนมีเซ็กซ์หรือนี่...

“คุณร้อนแรงเป็นบ้าเลยกิลลี่...” เขาเอ่ยชมเมื่อปฏิกิริยาเธอตอบสนองอย่างแปลกใหม่

“ฉะ..ฉัน...อื้ออออ”

เขาปิด...ที่ไม่ได้แปลว่าปิดปาก แต่เลื่อนไปแนบจูบเข้ากับส่วนอ่อนไหวแทน ทำให้เธอลืมความตั้งใจไปแล้วว่าจะตอบเขาว่าอะไร

พานิลใช้ลิ้นร้อนถูกไถไปกลับร่องร้อนที่เขาไม่ได้ลิ้มรสมานานหลายเดือน และใช้นิ้วใหญ่แหวกหาความงดงามของมันและจ้องมองเพื่อชื่นชม

ลึกเข้าไป...ในขณะที่ปีกเนื้อฉ่ำน้ำอ้าออก พานิลเห็นจังหวะเต้นตุ๊บเป็นนัยเชิญชวน จึงใช้ปลายลิ้นจิ้มช่องทางรักเพื่อรูดขึ้นตามทางยาวกระทั่งสิ้นสุดอยู่ที่เม็ดเกสรอิ่มสวย และจัดการรัวให้มันสั่นไหวจนเอวของกิลลรีดีดเด้งอย่างฉุดไม่อยู่

“อะ....อื้ออออออ พะ...พัด...” เธอครวญครางขอร้องว่าอย่าทรมานกันเช่นนี้

มันช่างเป็นรสชาติที่ละมุนลิ้นจนไม่อยากถอนตัว จึงตวัดผ่านตุ่มนั่นจนฝ่ายหญิงร้องครางด้วยความเสียวซ่าน
เมื่อกลีบงามถูกเล้าโลมจนน้ำเมือกออกมาเคลือบเป็นวาวใส พานิลจึงรับรู้ถึงความพร้อมที่เธอมี และถ้าหากไม่เข้าไปชิมส่วนลึกให้มากกว่านี้ เขาก็คงเป็นไอ้งั่งจนไม่อาจให้อภัยตัวเอง

ดอกไม้งามบานรับให้เขาสอดเข้ามาจับจองเป็นเจ้าของอย่างไม่เขินอาย พานิลจึงเลื่อนลำเอ็นเข้าไปหาความสุขภายในตัวเธอช้า ๆ

“อ่า...” ทั้งคู่ประสานเสียงกันด้วยเพื่อประกาศเริ่มต้นจังหวะรัก

พานิลจับข้อพับเข่าเธอไว้ให้มั่นจากนั้นยกขึ้นให้พ้นทาง เพราะเอวแกร่งกำลังจะกดทับเพื่อส่งแรงสอดได้อย่างสะดวก

เขามองดูหญิงสาวใต้ร่างนั้นเด้งตัวขึ้นลงตามจังหวะลีลารักอย่างพอใจ เม็ดเหงื่อแห่งความร้อนแรงก็เริ่มผุดพรายเต็มใบหน้า เรียวปากเผยอออกอย่างเซ็กซี่บ่งบอกถึงความรู้สึกเอ่อล้นที่ทั้งคู่มีต่อกัน

การขยับเคลื่อนตามจังหวะแห่งรักแต่ละครั้งทำให้ผมยาวสวยสยายออกไปทีละนิด และยุ่งเหยิงยามหันใบหน้าไปกัดผ้าปูที่กำลังกำไว้แน่น เพื่อไม่ให้เสียงครางมันดังลั่นจนเกินงาม ถึงจะกำลังเริงรักในกันห้องหรูกว้างเพียงแค่สองคน แต่เธอก็ยังมีความเขินอายอยู่บ้าง

กิลลรีมองท่อนแกร่งที่ผลุบโผล่เข้าช่องทางรักของตัวเองอย่างเต็มตา เพราะบางครั้งชายหนุ่มก็สอดลึกสุดโคนจนหัวหน่าวกระทบกันหนัก เธอยอมรับเลยว่ามันช่างเร้าใจจนภายในตอดรัดเขาแน่น และเป็นตัวเองที่อ้าขาให้กว้างกว่าเดิมทำให้กลีบงามเต่งตึงขณะถูกสอดใส่
สัญญาณนั้นทำให้พานิลโถมตัวลงทับกายงามอย่างไม่หวั่นเกรงว่าโลหะชนิดพิเศษมันจะเสียหายหรือไม่ จากนั้นขยับเอวถี่ให้ท่อนเนื้อร้ายพุ่งชนภายในอันลึกล้ำจนกิลลรีร้องครางเสียงกระเส่า

ไม่นานเขาก็ถอนมันออกจนครูดน้ำรักภายในให้ไหลเลอะออกมาด้วย จึงเห็นเป็นใยหนืดเกี่ยวติดมากับปลายหัวยัก สิ่งนั้นทำให้พานิลรู้ว่าครั้งนี้หญิงสาวอันเป็นที่รักมีแรงปรารถนามากมายขนาดไหน

เขาจึงไม่อยากทำให้เธอผิดหวัง จึงจัดการล็อกเอวบางออกเธอและพลิกคว่ำอย่างง่ายดาย ทำให้สะโพกงามงอนนั้นโค้งโก่งจนเห็นกลีบที่ถูกหนีบให้มิดชิด

แต่ถึงอย่างนั้น ปีกคู่งามที่ผ่านการร่วมรักกันมาบ่อยครั้งก็แล่บออกมาให้เห็น พานิลจึงใช้ปล่อยหัวแดงก่ำถูกไถ่รองมิดนั้นไปหลายที กิลลรีจึงรู้ตัวแล้วว่าตนต้องกางเข่าให้กว้างกว่านี้เพื่อชายคนรักจะได้สะดวกในการจ้วงแทงเข้ามาปล่อยความสุข

เมื่อรู้สึกถึงสะโพกงามของตัวเองกำลังเคลื่อนไหวจากการกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าที่แนบไปกับเตียงก็

หลับตาพริ้มและร้องครางเพื่อขานรับแรงโยก
เสียงของเนื้อนุ่มกระทบกัน ทำให้พานิลเห็นผิวหนังของกิลลรีสั่นเป็นระลอกคลื่นแสดงถึงความรุนแรงจากสะโพกแกร่งของตัวเองที่ไม่อาจหยุดยั้งความสุขนี้ได้
ไม่นานนักเขาสอดมือใต้วงแขนที่นอนคว่ำเหมือนคนหมดแรง เพื่อยกร่างบางให้หงายขึ้น ส่งผลให้แผ่นหลังนวลของกิลลรีแนบกับอกแกร่ง จากนั้นก็ถูกปลายหัวของลำเอ็นร้อนต่อยหนักกระทบผนังนุ่มข้างในอย่างเร็วถี่

กิลลรีร้องเสียงดังละสิ้นความอาย พร้อมสะบัดศรีษะทรงสวยไปด้วยราวกับจะร้องขอชีวิต ชายหนุ่มจึงหยุดขย่มเพื่อให้เธอไม่ขาดใจตายไปเสียก่อน

ให้กลีบร้อนของหญิงสาวได้หยุดพัก จากนั้นจึงดันให้เธอคลานสี่ขาไปข้างหน้า กระทั่งไปหยุดที่จุดหมาย นั่นคือการที่แขนสองข้างของกิลลรีเกาะไปกับกระจก

แก่นกายที่เสียบคาจึงเริ่มบรรเลงบทเพลงใคร่ขึ้นอีกครั้ง จนเตียงนุ่มยุบเด้งราวกับติดสปริง

สะโพกงามแอ่นรับความเสียวซ่านที่เข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ร่างเธอขยับจนหน้าอกนุ่มชนเข้ากับแผ่นกระจก และดังครืด...ครืดติดต่อกันเป็นจังหวะตามแรงกระแทก

สายตาของกิลลรีมองไปยังฝั่งตรงข้าม และภาวนาว่าอย่าได้มีใครเปิดระเบียงออกมาสูดอากาศตอนนี้เลย เพราะเธออาย...อายที่ไม่สามารถหยุดความต้องการที่มีร่วมกับพานิลได้ และคงให้เขาบดเบียดกลีบร้อนของตัวเองต่อจนสุขสม แม้จะมีสายตาจดจ้องอยู่ก็ตาม

คำว่ารักถูกบอกผ่านแก่นกายร้อนที่ครูดเข้าออกไม่รู้จบ เธอตอบรับด้วยความโหยหาอย่างเต็มเปี่ยมและแสดงออกมาผ่านเสียงครางกระเส่าอันหวานล้ำ

กิลลรีปล่อยให้ร่างกายตัวเองถูกชายหนุ่มจับเคลื่อนไปตามใจปรารถนา พร้อมกับฝากคราบหยดน้ำรักให้ไหลหยดตามพื้นเพื่อเป็นพยานแห่งพายุราคะในค่ำคืนนี้
ไม่นานเธออ้าปากกว้างเพื่อเปล่งเสียให้ดังลั่นกว่าเดิม เมื่อความเสียวซ่านได้เพิ่มระดับขึ้นทีละนิดจนรู้สึกถึงสายใยร้อนเร่าที่ถูกพ่นเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามจนร้อนฉ่าไปทั่วท้อง

อะไหล่ภายในของเธอหมุนวนอย่างหนักหน่วง และรู้สึกถึงความโปร่งโล่งอย่างบอกไม่ถูก ความหฤหรรษ์พุ่งเต็มหลอดแห่งความสุขยิ่งกว่าตอนเป็นมนุษย์เต็มตัวเสียอีก และมันสะท้อนออกมาจากแบตเตอรี่ที่จ้างเตือนเป็นสีแดง ว่าให้รีบชาร์ตโดยไว มิฉะนั้นเธอจะหยุดทำงานไปชั่วขณะ

ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับคนรักได้ถอนอาวุธร้ายออกจากตัว จะพรมจูบไปที่หัวไหล่มนอย่างลุ่มหลง

“หยิบแบตให้หน่อยสิคะ”

คำเตือนเพียงเท่านั้น ความใคร่ก็หายไปในทันที เมื่อรู้ว่าตนใช้เวลาเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากร่างกายงามนานเกินไป

“ผมขอโทษ ให้ตายเถอะ! ลืมไปสนิทเลยว่าร่างกายคุณไม่เหมือนเดิม” พานิลโทษตัวเองเล็กน้อย ที่สร้างความสุขอันสั่นสะเทือนเนิ่นนานเกินไป จนลืมว่าเธอใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนลมหายใจ

พานิลกุลีกุจอวิ่งลงจากเตียงเพื่อไปควานหาที่ชาร์ตจากกระเป๋าของหญิงสาว และวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยหน้าตาตื่น
กิลลรีเห็นดังนั้นก็อดขำไม่ได้กับท่าทางของเขา เพราะแบตเธอมันไม่ได้หมดลงภายในวิสองวิเสียหน่อย มันเตือนเป็นสีแดงก็จริงแต่ก็อยู่ได้เกือบครึ่งชั่วโมง

คู่นอนกอดรัดกันอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข และคอยถามไถ่ความรู้สึกของเซ็กซ์เมื่อสักครู่ว่าพึงพอใจมากแค่ไหน

เพราะพานิลรู้ว่าร่างกายของเธอนั่นเป็นอย่างไร หากมีตรงไหนที่เขาทำรุนแรงและกระทบเธอมากไป ก็อยากรับทราบไว้เป็นข้อปฏิบัติและต่อไประวังให้มากขึ้น

ไม่อยากให้เธอปกปิดเพียงเพราะอยากให้ผู้ชายอย่างเขานั้นมีความสุข ความใส่ใจของชายคนรักทำให้กิลลรียิ้มไม่หุบ ก่อนจะตอบไปว่าเขานุ่มนวลมากทำให้เธอมีความสุขได้ทุกอณูรัก ก่อนจะพลิกตัวทับร่างใหญ่แล้วใช้แก้มแนบกับแผ่นอกกว้างด้วยความเสน่หา และหยอดคำพูดทิ้งท้ายเพื่อเป็นรางวัลให้กับจังหวะเอวพลิ้วไหวของเขาว่า...

“…Wonderful…”