เมื่อแฟนสาวถูกฆาตกรรมทำให้ 'พานิล' จมดิ่งสู่ห้วงความเศร้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเธอกลับบอกว่า 'การคืนชีพมีอยู่จริง' ให้เขาตามหาบันทึกปริศนานั้นให้เจอ
ไซไฟ,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,รัก,ระทึกขวัญ,ลึบลับ,ดราม่า,ข้ามภพ,แฟนตาซี,เกิดใหม่ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
‘หม่อมเจ้านิลพันธุ์’ คลั่งไคล้วิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก ความฝันสูงสุดคือการได้สนับสนุนให้ประชาชนคนไทยได้ก้าวหน้าด้านนี้เพราะมีหลักคิดที่เป็นเหตุเป็นผลไม่งมงาย
ท่านเกิดในปี ค.ศ 1916 หรือก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจะสงบได้เพียง 2 ปี และมีน้องชายหนึ่งคนนั้นก็คือ ‘หม่อมเจ้าเพชรพระกาฬ’ ที่อายุห่างกัน 2 ปี
เหตุจากสงครามทำให้ตระกูลมาลากาฬ มีไม่มีคล่องตัวด้านทุนทรัพย์ พระองค์จึงถูกยกให้ญาติใกล้ชิดได้เลี้ยงดู เนื่องจากพระบิดาไม่มีเงินเพียงพอสำหรับการดูแลลูกทั้งสอง จึงต้องกระจายกันเลี้ยงตามความเหมาะสม
ปี 1932 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ท่านและน้องชายถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศพอดี ลำเลียงกันไปตามเหล่าญาติเจ้านายทั้งหลายที่อพยพไปยังประเทศในเครือกษัตริย์
เช่นน้องชายที่ลงเรือไปยังอังกฤษ มีเพียงเพราะองค์เท่านั้นที่มุ่งไปอเมริกา ดินแดนแห่งใหม่ที่ไร้เลือดขัตติยา และที่นั่นเองทำให้ท่านได้พบความหลงใหลของตัวเอง
....วิทยาศาสตร์....
‘My brain is only a receiver, in the Universe there is a core from which we obtain knowledge, strength and inspiration. I have not penetrated into the secrets of this core, but I know that it exists’
(สมองของผมเป็นเพียงเครื่องรับสาร ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ณ.ที่แห่งนั่นยังมีขุมพลังแห่งองค์ความรู้ พลังอำนาจ และ แรงบันดาลใจต่างๆ ที่แม้ตอนนี้ผมยังมิอาจบรรลุถึงแก่นกลางของความรู้อันลี้ลับนั้นได้ เเต่ผมเชื่อว่ามันมีอยู่จริง)
‘นิโคลา เทลล่า’ เป็นนักประดิษฐ์ที่หม่อมเจ้านิลพันธุ์คลั่งไคล้
ประโยคภาษาอังกฤษข้างต้นถูกเขียนลงไปในไดอารี่ของท่าน ซึ่งมีทฤษฎีสมคบคิดจากผู้คนที่เชื่อกันว่าเทลล่าคือคนรับสารจากอารยธรรมอันไกลโพ้น
และท่านเองก็คงเชื่อเช่นนั้น ทำให้เวลาต่อมาจึงจมลึกไปยังห้วงความคิดของตัวเอง ท่านเชื่อว่ายังมีจักรวาลอันยิ่งใหญ่อีกเป็นร้อยพัน และเชื่ออย่างยิ่งว่ากาลเวลาสามารถเดินทางข้ามผ่านไปมาหาสู่กันได้ เพียงแต่
มนุษย์นั้นพัฒนาช้านักจึงไม่สามารถสร้างเครื่องจักรเป็นพาหนะนำทาง
ความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นไปปี 1938 ซึ่งตอนนั้นท่านมีอายุได้เพียง 22 ปี นับเป็นความคิดที่มาก่อนกาลจนชวนให้คนรุ่นหลังได้ตื่นเต้นตาค้างยามได้อ่านมัน
ไม่มีใครรู้ว่าความคลั่งไคล้นี้พาท่านไปพบพานกับอะไรบ้าง รู้เพียงว่าในวันที่ท่านกลับประเทศไทยวัย 28 ปีนั้น ณ.วังศรีไพรที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากท่านพ่อเต็มไปด้วยขดลวดและสายไฟ และเสาเหล็กขนาดย่อมความยาวไม่เกินเพดาน ได้ถูกล้อมให้เป็นวงกลม ในจุดกึ่งกลางเป็นพื้นที่ว่างให้สิ่งมีชีวิตได้ไปยืนอยู่ตรงนั้น
....ท่านสร้างไทม์แมชชีนเป็นของตัวเอง....
จากนั้นก็พล่ามหลายเรื่องที่คนยุคนั้นไม่เข้าใจ ทำให้เหล่าเพื่อนทางสังคมเริ่มหายไปทีละคนสองคน จนกระทั่งท่านต้องโดดเดี่ยวอยู่กับเรื่องเพ้อเจ้อของตัวเอง จนได้ชื่อว่าท่านชายสติเฟื่อง
พระยาสุริยเกียติหัตถี หรือ เศียร สุริยศร เพื่อนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่เคียงข้างและไปมาหาสู่อยู่เป็นประจำ บ่อยเสียกว่าน้องชายแท้ ๆ ของท่านเสียอีก
“เชื่อฉันสิไอ้เศียร การเดินทางข้ามเวลามีอยู่จริง ฉันจะทำให้แกดู”
“ข้ามเวลาอะไรของเอ็ง ฉันไม่เข้าใจเลยไอ้นิล”
“ฉันได้ยิน เสียงยามกระแสไฟถูกดันสูงสุดจนเกิดประกายเส้นสีฟ้า”
“ไอ้นิล!หวังว่าเอ็งจะไม่ตายห่าในเร็ววันนะ แม้ฉันจะรู้ว่าเอ็งมิได้บ้าอย่างใครเขาว่า แต่ข้าอยากให้เอ็งหยุดทำเรื่องพวกนี้ได้ไหมวะเพื่อน”
จากบันทึกประจำวันของเจ้าพระยาสุริยเกียติหัตถีที่ถูกค้นพบในปี 2024 เป็นข้อสันนิษฐานว่าท่านชายกฎหมายพันธุ์อาจจะเป็นนักข้ามเวลาคนแรกของประเทศไทย
เสียงจากเครื่องอัดยังดังอย่างต่อเนื่อง แม้เจ้าของน้ำเสียงที่ร่ายข้อความยาวยืดนั้นจะฟุบหลับไปกับโต๊ะทำงานอย่างไม่รู้สึกตัวก็ตาม
เธอจัดเตรียมข้อมูลของตระกูลตัวเอง เพราะโดนคุณแม่ขอร้องมาในการจัดการรับรองแขกที่จะเดินทางมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หุ่นยนต์ในวันพรุ่งนี้
“นี่! ทำไมยูมานอนแบบนี้ล่ะลูก ง่วงทำไมไม่นอนในห้อง”
เสียงดังของคุณแม่กล่าวขึ้นจนทำให้หญิงสาวสะดุ้งตัวตื่น และลนลานหาแว่นกลมโตมาประดับใบหน้าเพื่อขยายภาพให้มันชัดเจนก่อนจะลุกลี้ลุกลนเปิดปฏิทินเช็กวันที่
xx-xx-2234
“โถ่ แม่หนูตกใจหมดเลย นึกหลับข้ามวันซะแล้ว”
“ไอ้หลับน่ะไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่รู้จำข้อมูลที่จะรับรองแขกได้บ้างหรือยัง”
“หนูเตรียมตัวมาเป็นอาทิตย์ เหลือแค่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเท่านั้นแหละ ว่าแต่ทำไมต้องจริงจังด้วยคะ สุริยศรกับมาลากาฬมีประวัติศาสตร์ร่วมกัน ตระกูลเขาไม่เก็บบันทึกไว้ให้อ่านบ้างหรือไง”
กินรี มาลากาฬ เกาหัวที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง ก่อนจะอ้าปากหาวโดยไม่เกรงใจรูปลักษณ์ที่สวยงามของตัวเอง
“เขาจะรู้หรือไม่รู้มันก็อีกเรื่อง แต่พาชมพิพิธภัณฑ์ในส่วนของมาลากาฬก็ต้องขายเรื่องราวให้เขาประทับใจสิ”
“แหม สุริยศรก็มีหุ้นร่วมนี่คะ มาในฐานะคนคุ้นเคยก็ได้ ทำไมต้องทำตัวเหมือนผู้บริหารมาตรวจลูกน้องด้วย มันก็หมายความว่าเขามองเราเป็นพนักงานไงคะแม่”
“ยัยกิน!” แม่ของเธอถึงกับเท้าสะเอวบ่น ที่ลูกสาวคนเล็กช่างคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“ค้า ๆ ขอโทษค้า”
“...” คุณแม่ยิ้มรับแม้จะรู้ว่าเป็นคำขอโทษแกมประชดประชันก็ตาม
สองตระกูลรู้จักกันมาช้านาน มีเรื่องราวมากมายผูกพันกันจนไม่สามารถแยกจากกันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องน่าตลก เพราะมีการรวมสองตระกูลเข้าด้วยกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือปี 2024 พานิล มาลากาฬ และ กิลลรี สุริยศรใช้ชีวิตร่วมกัน
จากนั้นมาจนถึงตอนนี้ไม่มีทายาทของทั้งสองตระกูลแต่งงานกันอีกเลย ลูกหลานก็แตกหน่อขยายสาขากันมากมายไม่รู้จบ
คิดแล้วก็น่าขำ บริษัทผลิตหุ่นยนต์ของมาลากาฬมีหุ้นใหญ่อยู่ 3 ตระกูลนั่นก็คือ มาลากาฬ แบล็คเบิร์น และสุริยศร แต่คุณจิรเมธ มาลากาฬ พ่อของเธอดันเลือกสมรสกับ นิโคล แบล็กเบิร์นมากกว่าตระกูลสนิทอย่างสุริยศร
สายเลือดของทั้งสองจึงกลับกลายเป็นผู้ร่วมลงทุนเท่านั้น ลูกหลานรู้จักกันบ้างตามลักษณะนิสัยการเข้าสังคมของแต่ละคน
กินรีที่มักจะหมกมุ่นอยู่กับการค้นคว้าไม่ค่อยได้ออกไปพบใครบ่อยนัก เธอเป็นนักประดิษฐ์เหมือนบรรพบุรุษและเป็นยัยแว่นลูกคนเล็กที่ใส่เสื้อกาวน์ในห้องแล็บอยู่ตลอดเวลา ช่วงเช้าก็ไปทำหน้าที่ผู้จัดการที่พิพิธภัณฑ์ จนโดนพี่สาวคนรองเอ่ยแซวเป็นประจำว่าจะหาสามีได้กี่โมง
ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอใส่ใจ เพราะพ่อเธอมีลูกตั้งสามคน คนโตเป็นผู้ชาย ได้รับมอบหมายให้สืบสอดธุรกิจ พี่คนที่สองก็คบกับลูกหลานคนดัง มาลากาฬคงไม่จบที่เธอไม่มีสามีหรอกมั้ง
หญิงสาวชอบเรื่องราวของตระกูลตัวเองมาก ตั้งแต่หม่อมเจ้านิลพันธุ์จนไปถึงพานิล และเชื่อในทฤษฎีที่ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเคยข้ามเวลาเดินทางไปมาจากอดีตสู่อนาคต จนได้ความรู้มาพัฒนาบริษัทหุ่นยนต์ตัวเอง
บันทึกถูกพิมพ์เป็นหนังสือเก็บไว้ให้ลูกหลานอ่านในห้องหนังสือ ประหนึ่งสารานุกรมแห่งองค์ความรู้ ทั้ง ๆ ความจริงแล้วก็แค่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ และชีวิตคู่ของใครคนหนึ่ง
เหมือนจะดูไร้สาระแต่มันก็มากเพียงพอที่จะมัดใจผู้หญิงอย่างกินรีได้ เพศที่ขึ้นชื่อว่าไวต่อเรื่องรักโรแมนติก
หญิงสาวนวดคอตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำและทำธุระให้เรียบร้อย จากนั้นก็เปิดม่านรับทิวทัศน์ของตึกระฟ้าที่มีเครื่องยนต์เดินทางบนอากาศโฉบเฉี่ยวไปมาให้เห็น รูปร่างของเครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทาง หุ่นยนต์ส่งขอ และอีกมากมาย ดู ๆ ไปแล้วก็คล้ายวาฬอยู่มาก และเมื่อมันอยู่บนฟากฟ้าจึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในมหาสมุทรจำลอง และนอนหลับฝันดีทุกคืนด้วยหุ่นยนต์ปิดกั้นเสียงภายนอกซึ่งเธอตั้งค่าเอาไว้
ยุคที่กินรีอยู่ไม่ต่างอะไรกับยุคที่หม่อมเจ้านิลพันธุ์เดินทางข้ามเวลามามากนัก เพียงแต่มีกฎหมายและข้อจำกัดอย่างเคร่งครัดสำหรับการสร้างหุ่นยนต์ที่จะทำมาใช้กับชีวิตมนุษย์
หญิงสาวคิดเรื่องไร้สาระไปพลางขณะที่นมอุ่น ๆ หยดสุดท้ายได้ร่วงลงกระเพาะ เธอจึงเข้านอนเพื่อรับรุ่งอรุณแห่งความถาโถมจากงานพาทัวร์ที่คุณแม่ได้ฝากฝังเอาไว้