รักที่ต้องแลกด้วยเลือด

Wedding : วิวาห์เลือด - ตอนที่6 พลิกเกมมรณะ nc โดย Jigsaws X VIIII @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ระทึกขวัญ,ดราม่า,แอคชั่น,แอ็คชั่น ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,สยองขวัญ,นิยายวาย,#BL,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Wedding : วิวาห์เลือด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ระทึกขวัญ,ดราม่า,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอ็คชั่น ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,สยองขวัญ,นิยายวาย,#BL,ดราม่า

รายละเอียด

รักที่ต้องแลกด้วยเลือด

ผู้แต่ง

Jigsaws X VIIII

เรื่องย่อ

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ.2559 และ (พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ทุกฉบับที่มีการคุ้มครองลิขสิทธิ์อันเป็นของเจ้าของผลงานทุกประการ)

ไม่อนุญาตให้คัดลอก ปลอมแปลง ดัดแปลง สแกนหนังสือ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหา เพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือทางอื่นทางใดก็ตาม รวมถึงภาพปกนิยายและภาพประกอบนิยายในเล่มด้วยประการเดียวกันทั้งสิน




เรื่องย่อ : คิวเด็กหนุ่มไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะได้แต่งงานกับแมคแฟนหนุ่มของเขา กระทั้งแมคได้ทำเซอร์ไพรส์ขอคิวแต่งงานในภัตตาคารแห่งหนึ่ง งานแต่งจะถูกจัดขึ้น ณ คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูล MARA หลังจากจบพิธีแต่งงาน และมีความสุขได้ไม่นาน คิวกับต้องมาเล่นเกม “prey or hunter” ของตระกูล MARA เพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง จนเขาต้องมาพบกับเหตุการณ์ สุดคลั่ง หลั่งเลือด ในคฤหาสน์หลังโต พร้อมกับความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนเร้นไว้ในคฤหาสน์ MARA …!!


มี 8 ตอนจบครับ จะถยอยลงตามเวลาที่ตั้งไว้ (อ่านฟรี 4 ตอน) และ(ติดเหรียญ 4 ตอน)นะครับ






สารบัญ

Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่1 แต่งงานกันนะ nc,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่2 วิวาห์ ณ คฤหาสน์ MARA,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่3 เดโม่ nc ,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่4 ความจริงหรือฝันไป,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่5 เปิดเกมมรณะ,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่6 พลิกเกมมรณะ nc,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่7 ล้างบาง MARA,Wedding : วิวาห์เลือด-ตอนที่8 THE END,Wedding : วิวาห์เลือด-ประกาศ นิยายภาคแยก,Wedding : วิวาห์เลือด-ประกาศ WEDDING UNVERSE TIMELINE

เนื้อหา

ตอนที่6 พลิกเกมมรณะ nc

ขณะที่คิวได้ลั่นไกปืนไปนั้น ร่างของเขาได้กระแทกเข้าที่ผนังห้องที่ติดรูปภาพใครบางคนไว้อยู่ด้วยแรงถีบของปืนลูกซองแต่ร่างของคิวสัมผัสผนังห้องเพียงเสี้ยวเดียวร่างของเขากลับล้มลงไปบนพื้นแห่งหนึ่ง เผยให้คิวได้รู้ว่าผนังที่มีรูปใครบางคนติดไว้นั้นมีประตูลับซ่อนอยู่ ระหว่างที่คิวกำลังแปลกใจในห้องลับที่เขาพึ่งได้ค้นพบกลับต้องหันมาสนใจในเสียงฝีเท้าและเสียงพูดของคนกำลังมุ่งตรงมาทางห้องที่เขาอยู่เป็นแน่ เพราะเสียงมันดังขึ้นมาเรื่อย ๆ เมื่อใกล้มาถึง คิวใช้จังหวะที่ค้นพบห้องลับนี้เป็นโอกาสเขารีบปิดบานประตูลับนี้ทันทีก่อนที่จะมีคนมาเห็นเขาอยู่ในนี้


“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”


เสียงหญิงวัยกลางคนร้องลั่นไปทั่วคฤหาสน์หลังเก่าเมื่อได้เห็นสภาพของลูกชายที่นอนแน่นิ่งไร้วิญญาณอยู่ที่พื้น ชายหนุ่มตายคาที่ในทันทีที่ลูกปืนแล่นด้วยความรุนแรงเข้าไปยังตาฝั่งซ้ายจนลูกตาและสมองระเบิดเละเผยให้เห็นถึงอนุภาคของปืนลูกซอง ผู้เป็นแม่ได้แต่กรีดร้องร่ำไห้กับร่างที่ไร้วิญญาณของลูกชาย ส่วนคนเป็นพ่อก็ทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจภรรยาของเขา


“ไอ้เด็กเวรนั่นมันจะต้องชดใช้ที่มาทำร้ายลูกชายฉัน” ภรรยาหันไปบอกกับสามีของเธอด้วยความมุ่งมั่น


“จะเสียใจอะไรนักหนาล่ะคุณหญิงเมย์” สามีเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจกับภรรยาของเขาก่อนจะมีใครเอ่ยบอกเรื่องร้ายแก่พวกเขาอีกเรื่อง


“พ่อ แม่ สงสัยจะไม่ใช่เจสันคนเดียวแล้วล่ะที่เละเทะไปแล้ว” เมสันลูกสาวคนโตเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาจากการสำรวจไปยังห้องต่างๆ


“ทำไมอีกล่ะ” ชายวัยกลางคนเอ่ยถามลูกสาวด้วยความสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นอีก


“เจด้าก็โดนหอกเสียบทะลุปากอยู่ที่ห้องคลังอาวุธโน่นแหนะ” เมสันพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาไร้ความรู้สึกกับการตายของน้อง ๆ เธอ


ผู้เป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกอีกคนก็โดนฆ่าตายเธอจึงร้องห่มร้องไห้ยิ่งกว่าเดิม ชาลีผู้เป็นสามีได้แต่สายหัวไปมากับความน้ำเน่าของภรรยาตัวเอง จากนั้นผู้มีศักดิ์เป็นพ่อจึงบอกกับเมสันให้ไปตามล่าตัวคิวมาให้ได้ ส่วนเขาต้องพาภรรยาไปที่ห้องก่อนถึงจะตามออกไปล่ากับลูกสาวของเขาด้วยเช่นกัน


“หึ…ก็ใช้ได้นี่หว่าพี่สะใภ้” เมสันเอ่ยขึ้นคนเดียวขณะที่กำลังไล่เดินหาคิวพี่สะใภ้คนใหม่ของเธอ



คิวที่เดินตามทางห้องลับมาเรื่อย ๆ ก็ได้แต่แปลกประหลาดและสงสัยสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายในนี้ดูเหมือนว่าห้องลับนี่มันเชื่อมเข้าด้วยกันทุกที่เพราะจากที่คิวได้เดินสำรวจอยู่นานพอสมควรก็พอที่จะเดาได้ว่าคฤหาสน์หลังโตมีบานประตูลับอยู่ทุกที่เพียงแค่ว่าแต่ละทางจะไปโผล่ยังจุดไหนของบ้าน คิวได้แต่เดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับครุ่นคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง เขารู้สึกว่าต้องลองเลือกทางโผล่ไปสักที่ไม่อย่างนั้นเขาต้องเดินวนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยเป็นแน่ ในที่สุดเขาก็เลือกทางได้และเดินตรงไปอย่างมุ่งมั่นโดยไม่สนใจว่าทางที่จะโผล่ออกไปนั้นจะต้องเจอกับอะไรบ้าง พอเดินมาได้สักพักเขาเปิดประตูลับไปโผล่ตู้เสื้อผ้าเก่าจากห้องของใครสักคนที่มีแต่อุปกรณ์สำหรับใช้กิจกรรมทางเพศ


“โธ่เว้ย”


คิวสบถออกมาทันทีที่เผลอดันประตูเสื้อผ้าจนเปิดออกมาเพราะมัวดูสิ่งที่อยู่ในตู้จนลืมตัวไปว่าเขาจะต้องระมัดมากกว่านี้เพื่อไม่ให้ใครมาพบเจอเขา แต่เมื่อคิวเงยหน้าขึ้นและเบิกตามองกับพบชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านอะไรอยู่บนโต๊ะทำงาน แต่ที่แย่กว่านั้นคือชายคนนี้เขาได้จ้องมองคิวทั้งแต่ที่เขาโผล่ออกมาจากตู้แล้ว


“คงจะหนีตายเหนื่อยน่าดูเลยนะน้องสะใภ้” ชายหนุ่มเอ่ยถามคิวที่กำลังทำหน้าเหวอกับสถานการณ์ในตอนนี้


ส่วนคิวที่กำลังแสดงอาการเลิ่กลั่กหน้าตาตื่น เขารีบคว้าปืนลูกซองคู่ใจขึ้นมาทันทีด้วยสัญชาตญาณและเล็งไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อหมายจะสังหารให้ตายในทันที


“คิดดีแล้วเหรอคิว ถ้าคนอื่นในบ้านได้ยินเสียงปืนเข้า เธอจะเดือดร้อนเอานะ” ชายหนุ่มพูดจาเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความจริงจังอยู่ในนั้น


คิว จากที่กำลังเล็งปืนลูกซองอย่างไม่ลังเลกลับต้องคลายความมุ่งมั่นออกไปแต่แปรเปลี่ยนมาครุ่นคิดถึงสิ่งที่


มาตินพี่ชายของแมคได้บอกกับเขา สิ่งที่พี่เขยพูดมานั้นก็เป็นความจริงหากเขายิงปืนไปตอนนี้เสียงคงจะดังมาก ไม่ช้าพวกผีห่าซาตานจากเดนนรกพวกนั้นคงมาที่นี่แน่ เขาจึงหยุดเล็งปืนก่อนจะเอ่ยถามมาตินที่มีศักดิ์เป็นพี่เขย


“แล้วทำไมพี่ถึงไม่ร่วมเล่นเกมห่าเหวนี่กับครอบครัวพี่ล่ะ” คิวเอ่ยถามพี่เขยด้วยความสงสัย


“จะว่ายังไงดีล่ะ ฉันคงจะเบื่อที่จะเล่นเกมเก่าแก่นี่ล่ะมั้ง” มาตินตอบคำถามคิวด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความต้องการบางอย่างที่สวนทางกับคำตอบที่ให้กับน้องสะใภ้


“มันจะใช่เหรอพี่” คิวเอ่ยขึ้นพลางยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย


“เธอพูดแบบนั้นหมายความยังไงกันแน่” มาตินถามน้องสะใภ้ที่กำลังพูดมีนัยยะอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่


“พี่ไม่น่าจะต้องถามนะ ในเมื่อความต้องการของพี่มันออกจะชัดเจนตั้งแต่แรก” คิวเอ่ยขึ้นอย่างมีนัยยะแอบแฝงอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะพอทำให้พี่เขยได้เข้าใจมากขึ้น


“เหอะ เธอดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ” มาตินเอยขึ้นก่อนจะยิ้มให้กับคำพูดของน้องสะใภ้ที่รู้ว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่


คิวเองที่รู้เจตนาและความต้องการของพี่เขย เขาจึงทิ้งปืนคู่ใจโดยไม่ลังเลหรือกลัวว่าจะโดนทำร้ายแล้วเดินเข้าไปใกล้พี่เขยที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานและจึงโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูของพี่สะใภ้


“แววตาของพี่มันชัดเจนตั้งแต่ในงานเมื่อวานแล้ว”


คิวพูดกระซิบที่หูพี่เขยด้วยเสียงแผ่วเบาแต่ดังพอที่จะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาได้พูดอะไร มาตินถึงกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และเอ่ยถามขึ้นมา


“ถ้าเธอรู้แล้วมันยังไงล่ะ”


เมื่อมาตินที่มีศักดิ์เป็นพี่เขยพูดจบ คิวจึงจูบไปที่ปากของพี่เขยโดยที่เขาไม่ได้ทันตั้งตัวและไม่คิดด้วยว่าคิวจะทำอะไรแบบนี้ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ มาตินก็ได้ดึงตัวของคิวเข้ามาหาอย่างไว ก่อนทั้งคู่จะพากันไปที่เตียงไม้เก่าแสนโบราณแต่ฟูกกลับนุ่มเสียจนทำให้รู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก ทั้งคู่เริ่มไซ้คอกันไปมาและจูบกันอย่างดูดดื่ม มาตินรีบปลดกระดุมเสื้ออย่างไว ส่วนคิวเองก็รีบแก้กางเกงของพี่เขยออกอย่างคล่องตัว


“เธอดูจะถนัดในเรื่องแบบนี้นะ”


คิวไม่ตอบสิ่งที่พี่เขยพูดกับเขาแต่กลับยิ้มให้เพื่อบอกเป็นนัย ๆ ว่ามันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ก่อนที่คิวจะจูบพี่เขยอีกครั้งพร้อมกับแลกลิ้นกันไปมาไม่ต่างกับตอนที่คิวเคยปฏิบัติกับแมคคู่รักของเขา คิวพลิกตัวพี่เขยให้นอนลงไปที่ฟูกนุ่มบนเตียงไม้ใหญ่แทนตัวเขา ส่วนคิวในตอนนี้ได้ขึ้นคร่อมพี่เขยแทน จากนั้นค่อย ๆ จูบและใช้ริมฝีปากสัมผัสไปทั่วร่างกายของพี่เขยก่อนจะลงไปถึงจุดที่แท่งเอ็นกำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่ คิวใช้ปากสัมผัสไปที่เอ็นอุ่นอย่างนุ่มนวลจนสีหน้าของพี่เขยเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากแมคแฟนหนุ่มของเขาเลย ในขณะที่มาตินกำลังถูกความเคลิบเคลิ้มในโลกีย์เข้าครอบงำ คิวจึงใช้โอกาสนี้ค่อย ๆ หยิบมีดขนาดกำลังพอดีมือออกมาจากด้านหลังและคว้าหมอนใบใหญ่ที่หัวเตียงอีกข้างดึงมาไว้ที่ตน ก่อนจะใช้มันปิดไปที่หน้าของพี่เขย จากนั้นคิวก็รีบลุกไปนั่งทับหมอนใบใหญ่ที่ปิดหน้าของพี่เขยอยู่ เขานั่งสุดแรงเกิดเพื่อไม่ให้ร่างของคนที่อยู่บนเตียงขยับไปไหน ก่อนจะใช้มีดจ้วงแทงเขาไปที่ท้องหลายที มาตินเจ็บปวดและทรมานมากเมื่อถูกของแหลมคมแทงเข้าที่ท้อง แต่เสียงของเขากับเปล่งออกมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเพราะถูกกดทับด้วยหมอนและร่างของน้องสะใภ้ที่กำลังสังหารเขาอย่างเลือดเย็น คิวกระหน่ำแทงรัว ๆ ไม่หยุดหย่อนเขาเงื้อมีดขึ้นสู่อากาศและสิ้นสุดที่กายหยาบของพี่เขยอย่างไม่ลดละ ในที่สุดความพยายามนี้ก็สัมฤทธิ์ผล มาตินพี่เขยของคิวนอนแน่นิ่งจมกองเลือดของเขาในทันที ร่างที่ไร้วิญญาณค่อย ๆ สงบนิ่ง เมื่อคิวรู้ว่าชายผู้นั้นสิ้นลมหายใจไปเรียบร้อยแล้ว เขาจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปหยิบปืนลูกซองก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องแล้วจึงค่อยเปิดประตูออกช้า ๆ อย่างระมัดระวัง หลังจากที่ใช้สายตาทั้งสองคู่มองไปข้างนอกแล้วกลับไม่พบร่างของใครหรือความผิดปกติอะไรเขาจึงรีบเดินออกจากห้องนี้ไป ระหว่างที่กำลังเดินมาเขาก็เจอเข้ากับบันไดขนาดใหญ่ที่ทอดยาวไปยังชั้นล่างสุดของคฤหาสน์หลังนี้ คิวจำได้ดีถึงบันไดนี้นับตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาสู่นรกแห่งนี้ เขารีบเดินลงไปข้างล่างแต่ก็ยังระมัดระวังอยู่ตลอด เพราะไม่อาจรู้ได้เลยว่าบริเวณนี้มีใครอยู่หรือได้แอบซ่อนบ้าง ไม่ช้าคิวก็เดินลงมาจากบันไดได้ เมื่อสำรวจแล้วและพบว่าไร้ซึ่งอุปสรรค จากนั้นเขาก็เดินไปยังประตูเพื่อเปิดแต่ดูเหมือนว่าจะถูกปิดด้วยประตูเหล็กกล้าหนาแน่น คิวได้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถ้าหากเขาใช้ปืนลูกซองยิงไปคงจะใช้เวลานานพอตัวซึ่งจะทำให้เสียงของปืนเรียกเหล่าปีศาจจอมกระหายเลือดทั่วทั้งคฤหาสน์มารวมตัวสังหารเขาที่หน้าประตูนี้เป็นแน่ คิวจึงสลัดความคิดที่จะใช้ปืนออกและเดินไปตามทางอีกครั้งจนเขาหยุดมาเจอห้องห้องหนึ่งที่ใหญ่โตอลังการ ไม่ว่าจะเป็นของประดับตกแต่งต่าง ๆ นานาล้วนแล้วแต่มีมูลค่ามหาศาลจนคิวไม่สามารถเทียบได้เลย ภายในนี้มีโต๊ะอาหารที่ทอดยาวไปไกลพอตัวจนสามารถลองรับแขกได้ราวยี่สิบกว่าคน ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ถ้วย จาน ชาม ช้อน มีด ล้วนทำมาจากทอง และยังไม่รวมโคมไฟเพดานที่ห้อยระยิบระยับไปด้วยเพชรพลอยอยู่เหนือโต๊ะรับประทานอาหาร เมื่อมองไปทางซ้ายก็พบอุปกรณ์หน้าไม้ล่าสัตว์ที่ใช้สำหรับตกแต่งภายในห้องและหากมองไปทางขวาก็พบกับเตาผิงที่ถูกจุดไฟไว้สำหรับให้ความอบอุ่นในคฤหาสน์หลังเก่าที่บรรยายกาศกับเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก ระหว่างที่คิวกำลังเพลิดเพลินไปกับสิ่งของเหล่านี้เขาก็ต้องมาสะดุดตากับเก้าอี้ที่อยู่หัวโต๊ะรับประทานอาหาร เผยให้เห็นมือของใครบางคนที่โผล่ออกมาจากเก้าอี้ทำให้คิวรู้ได้ในทันทีว่าได้มีคนนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงหน้าของเขาอย่างแน่นอน ก่อนจะมีเสียงของคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้เอ่ยขึ้นมาก่อน


“เหนื่อยไหมลูกสะใภ้ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนขนาดนี้” เสียงหญิงมีอายุแต่ผิวกายกลับดูอ่อนเยาว์ได้เอ่ยถาม


เมื่อเสียงของหญิงมีอายุพูดจบ คิวได้แต่ครุ่นคิดว่าเสียงที่คุ้นเคยนี่คือใคร ไม่ช้าเขานึกออกขึ้นมาได้ในทันทีว่าเสียงของหญิงมีอายุคนนี้คือมารีแม่ของแมคหรือจะพูดให้ถูกก็คือแม่สามีของคิวนั่นเอง


“แล้วคุณแม่ล่ะ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ” คิวถามแม่สามีด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา


“แล้วเธอจะทำอะไรต่อจากนี้ล่ะ” แม่สามีไม่ตอบคำถามแต่ถามลูกสะใภ้กลับ


คิวได้แต่นิ่งเงียบไปเพราะตอนนี้เขาเองก็ยังคิดอะไรไม่ออกเลย เมื่อรู้ว่าคฤหาสน์นรกหลังนี้มันถูกปิดตายไว้ทั่วทุกที่จนตอนนี้เขาหมดหวังมากกับการหาทางออก แต่แล้วในช่วงที่เขามัวแต่ครุ่นคิดอะไรอยู่นั้นเสียงของแม่สามีได้พูดขึ้นมาอีกครั้ง


“เธอรู้ไหม ว่าลูกชายฉันรักเธอมากแค่ไหน เขาถึงยอมแต่งงานกับเธอด้วย” แม่สามีเอ่ยถึงความรักของลูกชายที่มีต่อลูกสะใภ้


“รักเหรอครับ รักแล้วเขาหายหัวไปไหนในตอนที่ผมกำลังหวาดกลัวกับสิ่งที่พวกคุณทำอยู่ตอนนี้ล่ะ” คิวพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวโดยไม่สนว่าคนที่เขาพูดกระแทกเสียงใส่จะเป็นแม่สามีก็ตาม


“การเป็นสะใภ้หรือเขยในบ้านหลังนี้มันไม่ง่ายหรอกนะ ฉันเองก็เคยผ่านจุดที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้มาแล้ว”


แม่สามียิ้มที่มุมปาก คิวได้แต่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะฉุกคิดอะไรบางอย่างและได้ฉีกยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย


“หึ ๆ งั้นเหรอครับ ถ้าการเป็นสะใภ้บ้านนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้น งั้นผมจะทำให้มันง่ายขึ้นเอง” คิวหัวเราะออกมาพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างมีนัยยะซ่อนเร้น


แม่สามีทำหน้าคิ้วขมวดเพราะแปลกใจในคำพูดของลูกสะใภ้ที่ดูเหมือนว่าจะซ่อนจุดประสงค์อะไรบางอย่างไว้ ในขณะที่แม่สามีมัวแต่สงสัย คิวได้เดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่ตกแต่งอยู่ภายในห้องรับประทานอาหารอันกว้างขวาง มันคือหน้าไม้ล่าสัตว์ที่เป็นของจริงแต่แค่ถูกนำมาตกแต่งไว้ในห้องนี้ คิวได้หยิบมาชื่นชมในความงามของหน้าไม้ก่อนจะหันไปพูดกับแม่สามี


“แล้วคุณแม่คิดว่าควรทำยังไงมันถึงจะง่ายสำหรับตระกูลนี้ล่ะครับ” คิวหันมาถามแม่สามีพร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้ายเหมือนมีความคิดอะไรบางอย่างไว้ในหัว


“เธอคิดจะทำอะไรกันแน่” แม่สามีเอ่ยถามลูกสะใภ้ที่ได้ถามอะไรแปลก ๆ จนเธอไม่เข้าใจในเจตนาที่ลูกสะใภ้จะสื่อออกมาเลยแม้แต่น้อย


“ก็ถ้าการอยู่ในตระกูลนี้มันยากนัก ผมก็จะล้างบางตระกูลโสโครกนี้ไง” คิวเล็งหน้าไม้ที่มีลูกศรพร้อมใช้งานมาที่แม่สามีของเขา


หญิงมีอายุที่มีศักดิ์เป็นแม่สามีเมื่อเห็นลูกสะใภ้พูดแบบนั้นออกมาพร้อมกับเล็งหน้าไม้มาที่เธอ เธอจึงรู้ได้ในทันทีว่าลูกสะใภ้คนนี้จะทำอะไรต่อจากนี้


“ฮ่า ๆ ก็เอาสิ ทำให้ฉันดูหน่อยว่าเธอจะทำอะไรได้มากแค่ไหน” แม่สามีหัวเราะออกมาอย่างกับคนเสียสติที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะต้องตายในไม่ช้า


“ได้ตามบัญชาครับ คุณแม่” คิวฉีกยิ้มออกมาในทันทีที่แม่สามีได้พูดเบิกทางให้กับเขา


เมื่อพูดจบคิวก็ได้ยิงหน้าไม้อันสง่าเพื่อปล่อยศรให้แล่นไปที่แม่สามี ไม่ช้าลูกศรนี้ก็ได้แล่นไปปักเข้าที่ดวงตาจนทะลุหัวของแม่สามีในทันที ไม่ช้าเธอก็ฟุบไปกับโต๊ะอาหารเลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลเยิ้มออกมาทั่วทั้งโต๊ะอาหารทันทีที่ร่างนี้ได้สิ้นลมหายใจ หลังจากที่คิวได้สังหารแม่สามีจนแน่นิ่งเขาได้โยนหน้าไม้ไร้ประโยชน์ทิ้งไป ก่อนจะสาวเท้าเพื่อจะเดินออกจากห้อง แต่เขากับต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อมีร่างหญิงวัยรุ่นขวางทางออกไว้อยู่


“ไงพี่สะใภ้ เล่นสนุกเลยสิ” เมสันได้เอ่ยขึ้นถึงวีรกรรมของพี่สะใภ้ที่เธอได้เห็นกับตาทั้งสองคู่เมื่อครู่นี้


“ใช่ ฉันสนุกมากเลยล่ะ” คิวตอบน้องสาวและยิ้มด้วยความพึงพอใจกับสิ่งที่ตนได้ทำไป


ตอนนี้สติของชายหนุ่มได้เริ่มหลุดลอยออกไปไกลแสนไกลจนเขาไม่สามารถที่จะกลับมาเป็นคิว เด็กหนุ่มที่ยิ้มแย้มและมีความสุขกับช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคู่ชีวิตของเขาเมื่อพิธีแต่งงานก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันได้เจือจางมลายหายไปกับความโสมมอันบ้าคลั่งของเหล่าตระกูลอำมหิตไปเสียแล้ว


“งั้นเรามาจบเกมนี้กันสักทีเถอะเนอะ”


คิวส่งยิ้มให้เมสันแต่รอยยิ้มนี้กับไม่ใช้รอยยิ้มแห่งความสุข แต่เป็นรอยยิ้มที่ไร้ซึ่งเยื่อใย ปราศจากความรู้สึกราวกับว่าการส่งยิ้มให้นี้คือรอยยิ้มของปีศาจ ในตอนนี้คิวได้เข้าสู่ด้านมืดของจิตใจโดยสมบูรณ์อย่างสิ้นเชิง หลังจากนั้นคิวก็วิ่งเข้าใส่เมสันในทันที แต่ทว่าเมสันกับหลบได้ทันและใช้มีดยาวขนาดไม้บรรทัดมาตรฐานฟันเข้าที่แขนข้างที่เคยถูกเคียวของเจสันตราประทับไว้ คิวรู้สึกเจ็บปวดกับบาดแผลที่ได้รับแต่เขากับไม่กรีดร้องออกมาเลยสักนิด เหมือนกับว่าจิตใจอันดำมืดของคิวได้กลายมาเป็นยาชาให้เขาเสียแล้ว เมื่อร้ายมาก็ย่อมร้ายกลับ คิวใช้ปืนฟาดเข้าที่หน้าของเมสันจนเลือดกำเดาเธอไหลออกมา เมสันเองก็ไม่ร้องออกมาเลยสักนิดและส่งยิ้มให้คิว จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าปะทะกันอีกครั้ง เมสันหยิบมีดอีกเล่มที่ขนาดเท่ากันออกมาจากด้านหลังและเข้ากวัดแกว่งมีดอันคมกริบใส่คิวอย่างไม่ลดละ ส่วนคิวเองก็ไม่ยอมอยู่นิ่งให้ถูกเฉือนด้วยมีดอันเงาวาวง่าย ๆ จึงหลบด้วยความว่องไวจนเขาถอยหลังมาใกล้เตาผิงที่กำลังมีไฟลุกโชนเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับห้องนี้ เมสันใช้จังหวะนี้ฟันเข้ามาทันทีแต่คิวใช้ปืนลูกซองปัดมีดไว้ได้ทัน ในตอนนี้คิวรู้สึกจนตรอกเลยทีเดียวเพราะอีกไม่กี่ก้าวเขาก็จะเข้าไปติดกับเตาผิงแล้ว คิวจึงรีบกลอกตาไปรอบ ๆ บริเวณนี้เพื่อจะหาทางรอดจากเงื้อมมือสาวบ้าคลั่งคนนี้ไปให้ได้ จนในที่สุดสายตาคิวก็เหลือบไปเห็นแท่งเหล็กที่มีตะขอไว้สำหรับเขี่ยไฟเตาผิง เขาจึงรีบถอยหลังไปทางที่แท่งเหล็กถูกวางไว้จนสามารถหยิบมันได้ ทว่าช่วงวินาทีที่คิวมัวสนใจแต่แท่งเหล็กนั่นเขาก็ถูกเมสันใช้มีดด้ามหนึ่งแทงเข้าที่ไหล่ขวาไปแล้ว แต่คิวกลับยิ้มให้เมสันพร้อมกับหัวเราะใส่


“เอาจริงดิ นี่เสียสติไปแล้วหรอ ถึงได้หัวเราะตอนโดนมีดแทงแบบนี้” เมสันขำในความบ้าบอของพี่สะใภ้


ขณะที่เมสันมัวแต่พูดและขำอยู่ คิวใช้จังหวะนี้หยิบแท่งเหล็กนั่นฟาดเข้าที่ตาของเมสันจนเธอกรีดร้องออกมาทันทีเพราะแท่งเหล็กที่มีตะขอมันเกี่ยวจนตาเธอปลิ้นทะลักออกมา


“อีเชี่ย ๆ ตากูบอดเลย” เมสันสบถออกมาด้วยความโมโหและเจ็บเมื่อถูกชิงดวงตาไปหนึ่งข้าง


“ฮ่า ๆ รู้สึกยังไงมั่งล่ะเมื่อเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้าง” คิวหัวเราะเยาะเมสันด้วยความสะใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน


เมสันเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอวิ่งปรีี่เข้ามาที่พี่สะใภ้ด้วยความโกรธเกรี้ยว หมายจะปลิดชีพคิวด้วยมีดของเธอให้ได้ แต่ความคิดนี้มันสายไปเสียแล้ว เพราะคิวได้ใช้ปืนลูกซองยิงเข้าที่ดวงตาอีกข้างของเมสันทะลุไปด้านหลังศีรษะจนเศษสมองปลิ้นออกมา เมสันทำได้เพียงยิ้มแล้วชูนิ้วกลางให้พี่สะใภ้ก่อนที่จิตของเธอจะหลุดออกจากร่างไปในที่สุด ร่างที่ไร้วิญญาณค่อย ๆ แน่นิ่งลงไปจนหัวใจของเธอหยุดเต้นในไม่ช้า และแล้วเธอก็ได้จากไปอย่างสงบอย่างไม่มีวันกลับ