รักที่ต้องแลกด้วยเลือด
ชาย-ชาย,เลือดสาด,ระทึกขวัญ,ดราม่า,แอคชั่น,แอ็คชั่น ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,สยองขวัญ,นิยายวาย,#BL,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Wedding : วิวาห์เลือดรักที่ต้องแลกด้วยเลือด
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ.2559 และ (พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ทุกฉบับที่มีการคุ้มครองลิขสิทธิ์อันเป็นของเจ้าของผลงานทุกประการ)
ไม่อนุญาตให้คัดลอก ปลอมแปลง ดัดแปลง สแกนหนังสือ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหา เพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือทางอื่นทางใดก็ตาม รวมถึงภาพปกนิยายและภาพประกอบนิยายในเล่มด้วยประการเดียวกันทั้งสิน
เรื่องย่อ : คิวเด็กหนุ่มไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะได้แต่งงานกับแมคแฟนหนุ่มของเขา กระทั้งแมคได้ทำเซอร์ไพรส์ขอคิวแต่งงานในภัตตาคารแห่งหนึ่ง งานแต่งจะถูกจัดขึ้น ณ คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูล MARA หลังจากจบพิธีแต่งงาน และมีความสุขได้ไม่นาน คิวกับต้องมาเล่นเกม “prey or hunter” ของตระกูล MARA เพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง จนเขาต้องมาพบกับเหตุการณ์ สุดคลั่ง หลั่งเลือด ในคฤหาสน์หลังโต พร้อมกับความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนเร้นไว้ในคฤหาสน์ MARA …!!
มี 8 ตอนจบครับ จะถยอยลงตามเวลาที่ตั้งไว้ (อ่านฟรี 4 ตอน) และ(ติดเหรียญ 4 ตอน)นะครับ
เด็กหนุ่มที่กำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาอยู่นี้ ทอดมองเบื้องหน้าเผยให้เห็นใบหน้าของสามีอันเป็นที่รักยิ่ง เมื่อยิ่งมองก็ยิ่งทำให้เขาย้อนนึกถึงเรื่องราววันวานที่แสนหวานแต่มันกลับถูกความบ้าคลั่งของเหตุการณ์ถาโถมประดังหน้าราวกับคลื่นสึนามิขนาดมหึมาซัดเข้าที่หน้าของคิวอย่างจัง ความสุขที่เคยมีร่วมกันมันได้มลายหายไปพร้อมคลื่นยักษ์ที่พัดพาความสุขเหล่านั้นไปจนหมด เหลือไว้เพียงซากปรักหักพังที่คลื่นลูกนี้ได้ทำไว้ก่อนจะจากไป สภาพจิตใจของคิวในตอนนี้ก็ไม่ต่างเช่นกัน จิตใจแตกสลายและบิดเบี้ยวไม่เหลือชิ้นดี
“แมครู้ ว่าแมคมันเลว คิวจะโกรธจะเกลียดแมคก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่คิวมากับแมคก่อนจะได้ไหม” เสียงชายอันเป็นที่รักเรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนราวกับต้องการเชื้อเชิญให้คิวตามไป
ในตอนนี้คิวไม่รู้จะต้องโกรธหรือเกลียดอย่างไรดีความคิดมันสับสนวุ่นวายอยู่ในหัวเต็มไปหมดจากที่เคยคิดจะกวาดล้างตระกูลอำมหิตพวกนี้ให้หมดไป แต่เมื่อเขาได้มาพบแมคชายอันที่รักยิ่งที่ยืนตรงหน้าของเขาในตอนนี้ ความคิดเหล่านี้อยู่ ๆ มันก็ถูกสูบออกไปจากหัวโดยที่เขาไม่ได้อยากจะทำ มันช่างทรมานทรกรรมใจของเขาอย่างแสนสาหัส มันเจ็บเสียยิ่งว่าบาดแผลตามร่างกายที่ได้รับมาทั้งเสียยิ่งกว่า แต่แล้วชายอันเป็นที่รักก็เดินลงมาจากบันไดที่ถอดยาวจนมาถึงเบื่องหน้าของคิว แมคค่อย ๆ เดินตรงมาหาคิวที่เอาแต่ยืนนิ่งราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในร่างนี้เลย ไม่ช้าชายอันเป็นที่รักก็ได้เข้ามาโอบกอดจนคิวรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดที่คุ้นเคย คิวถูกแมคจูงเดินไปตามทางเดินโดยที่ใจเขาไม่ได้ต้องการจะไปเลย แต่ร่างกายมันไม่คิดจะเป็นดั่งใจ ร่างกายมันเดินตามชายอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ไม่ช้าแมคก็พาคิวมาถึงยังห้องรับแขก ห้องที่เขาได้สังหารคนในตระกูลนี้ไปถึง4ชีวิต เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องเชือดอีกครั้งทว่าเบื่องหน้าของเขาได้สร้างความตื่นตระหนกภายในใจจนเขาเผลอปล่อยปืนคู่ใจทิ้งลงไปกับพื้น เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ อะดรีนาลีนมันเริ่มพลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่าง ที่อยู่ตรงหน้ามันคือเหล่าสมาชิกที่เขาเคยปลิดชีพไปจนหมด บัดนี้ร่างที่ตายไปกลับลุกขึ้นมาจากขุมนรก ร่างที่เคยเหลวแหลกคามือ ร่างที่เคยเละเทะกระจัดกระจาย ร่างที่ถูกเป่าสมองและร่างกายจนไม่เหลือความเป็นคน ทุกสิ่งเหล่านี้มันได้ถูกหล่อหลอมเข้าร่างที่ตายดังเดิม มันยิ่งทำให้คิวสับสนวุ่นวายภายในหัวไปยิ่งกว่าเดิมแค่ความเจ็บปวดทางใจที่ได้รับมันยังไม่สาแก่ใจอีกหรือ ทำไมเขาจะต้องมาเจอเรื่องราวนรกพวกนี้ด้วย คิวเริ่มสับสนจนหัวแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแมค” ชายหนุ่มถามยอดรักด้วยความสับสนในภาพเบื้องหน้าของเขา
“ความจริงไงคิว” แมคส่งยิ้มอันอ่อนโยนที่ซ่อนเร้นความเจ้าเล่ห์ไว้ในนั้นให้กับคิว
“ความจริงอะไรกันแมค คิวไม่เข้าใจในเมื่อ…” คิวสับสนไปหมดจนพูดแทบไม่ออก
“ในเมื่อพวกเราตายกันไปแล้วน่ะเหรอ ลูกสะใภ้”
เสียงหญิงวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นแม่สามีได้เอ่ยแทรกขึ้นมา เมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้คนใหม่กำลังสับสนกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ใช่แล้วคิวในตอนนี้เขาได้สับสันปนเปกันไปหมดทั้งความโกรธ ความเกลียดชัง และยังจะต้องมาเจอร่างคนตายที่ลุกขึ้นมาอีก เป็นใครก็สับสนยากที่จะเข้าใจเมื่อต้องมาเจอเหตุการณ์นรกนี่
“อย่าได้งงไปไอ้หนุ่ม เดี๋ยวเอ็งก็ได้รู้ความจริง เมื่อมาเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเรา”
เมื่อเสียงชายแก่ที่มีศักดิ์เป็นลุงสามีของคิวเอ่ยขึ้นมา จนสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ต่างขำขันกันอย่างสนุกสนาน มีเพียงแค่เด็กหนุ่มคนเดียวที่ไม่รู้สึกตลกอะไรเลยสักนิด ในหัวของเขามันขาวโพลนไปหมด แต่ทว่าแมคยอดรักหนึ่งเดียวของเขากลับพาร่างที่ไร้ความรู้สึกนี่ไปนั่งด้วยกันที่โซฟา ก่อนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวได้เอ่ยขึ้น
“ยินดีด้วยนะพี่สะใภ้” เจด้าแฝดหญิงได้กล่าวยินดีให้กับพี่สะใภ้ของเธอ
คิวได้แต่งงกับคำพูดของคนตายที่ฟื้นคืนชีพมาพูดอยู่ต่อหน้าเขาราวกับไม่เคยตายมาก่อนหน้า เขาไม่เข้าใจเลยว่าคนพวกนี้ฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร หรือทั้งหมดที่เขาได้ทำไปก่อนหน้ามันจะเป็นความฝันกันแน่ คิวบีบแผลที่แขนของเขาเพื่อทดสอบดูว่านี่ไม่ใช่ความฝันจริง ๆ ใช่ไหม ทว่าคิวกับรู้สึกเจ็บแสบมาก มันจึงยิ่งตอกย้ำกับเขาว่าเรื่องบ้า ๆ พวกนี้มันไม่ใช่ความฝันแต่มันคือความจริงที่แสนเจ็บปวด
“ทำไมล่ะน้องสะใภ้ คิดว่าเธอฝันไปหรือไงถึงบีบแผลน่ะ” เสียงของมุกเอ่ยถามน้องสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาทั้งคู่จะสู้กันจนตายไปข้างก็ตาม
คิวไม่ตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะตอนนี้จิตของเขามันได้หลุดลอยไปไกลแสนไกลจนไม่อยากที่จะรับรู้หรือฟังเสียงสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย ในระหว่างที่จิตของคิวได้ล่องลอยอยู่นั้นก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา มันคือเสียงเปิดประตูของเหล่าคนรับใช้ในคฤหาสน์หลังนี้กำลังเข็นรถเข็นสำหรับใส่อาหารมาเสริฟ ไวน์ แชมเปญ ที่เรียงรายอยู่บนรถเข็นนี้เพื่อนำมาฉลองอะไรสักอย่าง คิวยิ่งแปลกใจเข้าไปอีกที่จู่ ๆ ก็มีคนรับใช้ออกมาจากขุมนรกแห่งไหนก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีคนรับใช้คนไหนโผล่หัวออกกันมาเลยสักคน ไม่ช้ารถเข็นที่ขนเครื่องดื่มมึนเมาก็มาถึงข้าง ๆ คิว และเหล่าคนรับใช้ก็เดินออกจากห้องไป ก่อนจะมีเสียงแม่สามีเอ่ยขึ้นมา
“ยินดีด้วยลูกสะใภ้ เธอผ่านบททดสอบแล้ว ตอนนี้เธอเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเราแล้ว”
เมื่อผู้เป็นแม่เอ่ยยินดีให้กับลูกสะใภ้จบ สมาชิกในครอบครัวจึงหยิบเครื่องดื่มที่คนรับใช้นำมาให้แจกจ่ายกันไปรอบ ๆ วงของสมาชิกทุกคน เหลือเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวที่ไม่แตะมันเลยสักนิด
“คิว…ไม่ดื่มสักหน่อยเหรอนี่มันเป็นการฉลองให้กับคิวเลยนะรู้ไหม” แมคชายหนุ่มยอดรักได้กระซิบบอกคิวที่เอาแต่เหม่อลอยอยู่ในขณะนี้
“เลี้ยงฉลองให้เหรอ” คิวถามแมคด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึกและว่างเปล่า
“ใช่…ฉลองที่คิวผ่านบททดสอบของตระกูลแมคไง” แมคขยายความให้คนรักของเขาได้ฟังอีกครั้ง
“ฉลองห่าเหวอะไรกันล่ะแมค บ้ากันไปหมดแล้วหรือไง”
คิวแผ่เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดออกมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่มันตีกันไปหมด ไม่ว่าจะโกรธจะเกลียดหรือแม้แต่ความสับสน มันถาโถมจนเขาจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่ทุกคนกลับมาฉลองบ้า ๆ พวกนี้อยู่ได้ เมื่อเสียงอันกราดเกรี้ยวถูกพ่นออกมา สมาชิกในครอบครัวที่กำลังหัวเราะมีความสุขกับการฉลองกับต้องหยุดชะงักลงเมื่อเสียงของสะใภ้คนใหม่มันดังกึกก้องไปทั่วห้องรับแขก
“ได้…ถ้าอยากฉลองกันนัก ฉันจะจัดให้”
เมื่อคิวเอ่ยจบเขาหยิบขวดไวน์มาและกระดกดื่มอย่างกระหาย แมคที่เห็นคนรักดื่มอย่างไม่บันยะบันยังถึงกับต้องดึงขวดไวน์ออก แต่คิวขัดขืนไม่ยอมให้แมคมาหยิบขวดไวน์ที่มือ เขาจึงลุกขึ้นยืนและเอ่ยอะไรบางอย่าง
“แมครู้ไหม ว่าพี่ตินนี่เขาก็เด็ดใช้ได้เหมือนกันนะ” จู่ ๆ คิวก็พูดอะไรบางอย่างออกมา
“นี่คิวเมาและนะ จะยั่วแมคด้วยอะไรแบบนี้เหรอ” แมคถามคนรักที่เริ่มเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เพียงไม่กี่อึก
“ไม่เชื่อก็ถามเขาดูสิ โดยเฉพาะเรื่องจูบนี่เขาน่าจะเด็ดกว่าแมคอีกนะ ฮ่า ๆ” ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เริ่มแสดงความจริงออกมาพร้อมกับเป็นสิ่งที่คิวต้องการจะพูดเองด้วยอยู่แล้ว
“พี่…มันหมายความว่ายังไง” แมคหันไปถามพี่ชายของเขาด้วยความสงสัย ถึงแม้คนรักของเขาจะเมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่คิวไม่เคยพูดโกหกเขาเลยสักเรื่อง มันยิ่งทำให้เขาเริ่มเชื่อกับสิ่งคนรักได้เอ่ยออกมา
คิวเมื่อเห็นว่าแมคกำลังเริ่มไม่พอใจในพี่ชาย เขาจึงฉีกยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ส่วนมาตินพี่ชายของแมคที่เอาแต่อ้ำอึ้งได้หันมามองหน้าน้องสะใภ้ราวกับจะบอกคิวว่า ‘จะเอาแบบนี้เหรอจะทำให้เรื่องมันบานปลายเลยใช่ไหม’ คิวเห็นสีหน้าแมคเริ่มไม่พอใจขึ้นมา เขาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“จริงสิ คิวไม่เคยโกหกแมคเลยนะ ตอนที่พี่เขายัดไอ้นั่นมาคิวรู้เจ็บมากเลยแต่ว่ามันกลับรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก พอเขาเห็นว่าคิวชอบ เขาก็กระแทกเจ้านั่นใส่แรงเลยแหละ” คิวพูดใส่สีตีไข่จากความเป็นจริงไปมากเพื่อยั่วยุให้แมคโมโห
“ไม่จริงแมค ฉันไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นกับเมียแกเลย” มาตินปฏิเสธคำกล่าวหาของน้องสะใภ้
“เอ้า ทำไมพี่พูดแบบนั้นล่ะ ก็เห็นกระแทกแรงขนาดนั้นจะไม่จริงได้ไง ไม่เชื่อก็ไปดูที่ห้องนั้นสิ ห้องที่เราเสพสุขด้วยกันก่อนผมจะแทงพี่ให้ตายคาเตียงไง ฮ่า ๆ” คิวหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมเติมเชื้อเพลิงให้ไฟของยอดรักลุกโชนขึ้นมา
แมคเชื่อคิวคนรักอย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะคนรักของเขาไม่เคยโกหกเลย ตลอดเวลาที่ใช้ร่วมกันมาแมครู้ดีว่าคิวคนรักของเขาไม่มีทางที่จะโกหกแน่นอน ความโกรธที่มีต่อพี่ชายเริ่มทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้แมคกำลังเดือดจัดอย่างถึงที่สุด ไม่นานนักแมคก็ถึงขีดสุดของความอดทน เขาพุ่งทยานหมัดไปที่หน้าพี่ชายหนึ่งทีจนล้มลงไปกองที่พื้น เขาไม่รอให้พี่ชายลุกขึ้นมาสวนเขาได้ แมคคร่อมตัวของพี่ชายและรัวหมัดใส่ มาตินในตอนนี้ทำได้แค่เพียงใช้แขนป้องกันใบหน้าของเขาไว้ สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนรีบกรูกันเข้าไปห้ามปราม แต่ก็ไม่สำเร็จแมคต่อยพี่ชายของเขาไม่ลดละ มันแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อคิวคนรักของเขา
แต่ในทางกลับกันในสายตาของคิวเองไม่ได้มองเช่นนั้น ถึงคิวยังรักแมคมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในตอนนี้ความรู้สึกโกรธและเกลียดชังมันได้กลืนกินความรักที่มีให้กับยอดรักไปจนเกือบมลายหายไป เขาจ้องมองความวุ่นวายฉิบหายของตระกูลนี้อย่างมีความสุขและสมเพชไปพร้อมกัน คิวกระดกดื่มไวน์จนหมดและหยิบอีกขวดติดมือมาด้วย ก่อนจะเดินไปยังจุดที่แมคและพี่ชายแมคกำลังสวนหมัดใส่กันอยู่
ในตอนนี้มาตินได้สลับมาเป็นคนคร่อมตัวน้องชายแทนเพราะเขาเองก็ไม่ยอมให้น้องชายมาทำกับเขาแบบนี้เช่นเดียวกัน มาตินต่อยแมคอยู่หลายทีจนไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของเขามีใครบางคนยืนอยู่
โพะ…!!!
เสียงขวดแก้วกระทบเข้ากับหัวของมาติน ร่างที่ถูกตีด้วยขวดแก้วล้มลงไปกับพื้นในทันที แมคที่นอนอยู่กับพื้นได้หันมามองคนที่ใช้ขวดแก้วตีหัวของพี่ชาย เผยให้เห็นหน้าของคนรักที่กำลังหัวเราะด้วยความชอบใจที่ได้ฟาดหัวคนจนสลบไป
“คิวช่วยแมคเหรอ?” แมคถามคนรักที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา
“เปล่าเลยแมค” คิวตอบปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
หลังจากนั้นคิวก็ใช้ขวดไวน์ที่หยิบติดมือมา ราดไปที่หัวของยอดรักแล้วจึงล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบบางสิ่งออกมาจนเผยให้เห็นกล่องไม้ขีดไฟ เป็นกล่องไม้ขีดไฟที่เขาหยิบติดมือมาด้วยตอนสู้กับเมสันเมื่อก่อนหน้านี้ คิวส่งยิ้มให้กับแมค ชายอันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจุดประกายไฟแห่งความตายนั่นขึ้นมา
“ไม่ ๆ”
“อย่านะ ๆ”
สมาชิกในครอบครัวต่างห้ามปรามสะใภ้คนใหม่ แต่ทว่าคำห้ามปรามของพวกเขามันไร้ค่าสำหรับเด็กหนุ่มไปแล้ว คิวปล่อยก้านไม่ขีดที่มีไฟกำลังลุกโชนอยู่ลงไปที่หัวของแมค ไม่ช้าไฟแห่งนรกก็ได้ติดขึ้นมาอย่างไวจนสมาชิกทุกคนปรี่เข้ามาช่วยดับไฟที่หัวของแมค ส่วนคิวได้ถูกผลักให้ออกห่างจากร่างของยอดรักที่กำลังถูกเผาด้วยไฟบรรลัยกัลป์ คิวได้แต่ทอดมองอยู่ห่าง ๆ เมื่อเห็นสมาชิกทุกคนต่างกรีดร้องออกมากับสิ่งที่เกิดขึ้น มันช่างเป็นภาพแห่งความวุ่นวายและบ้าคลั่งที่สวยงามอะไรเช่นนี้ ช่างเป็นภาพที่น่าพอใจมากกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าแต่ว่ามันยังรู้สึกสะใจได้มากกว่านี้ เขาจึงเดินไปหยิบปืนที่ทิ้งไว้ตรงประตูแล้วหยิบขึ้นมาเพื่อบรรจุกระสุนปืนที่เหลืออยู่และมุ่งหน้าไปทางผู้คนที่กำลังวุ่นวายกับการดับไฟจากร่างของแมค
ปัง…ปัง…ปัง…!!!
เสียงปืนลูกซองถูกแจกจ่ายให้กับสมาชิกแต่ละคนจนชิ้นเนื้อของพวกเขากระจัดกระจายไปทั่วพื้นและผนังของห้องนี้ เด็กหนุ่มนึกอยู่ในใจในเมื่อตายกันไม่ได้ก็ขอละเลงเลือดชั่วของพวกเขาให้เหลวแหลกคามือของเขาอีกครั้งก็แล้วกัน จากนั้นเด็กหนุ่มได้บรรจุกระสุนปืนชุดสุดท้ายลงไปและแจกจ่ายให้กับสมาชิกทุกคนในตระกูล MARA ที่ยังมีชีวิตให้เละคามือของเขาอีกครั้ง…
หลักจากที่คิวสังหารล้างบางตระกูลนรกอีกครั้งได้สำเร็จ ก่อนจะเดินเข้าไปล้วงกระเป๋ากางเกงของชายวัยกลางคนเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา เขาจำได้ว่าเมื่อตอนงานแต่งได้เห็นลุงชาลีสูบบุหรี่อยู่จึงหยิบซองบุหรี่ขึ้นมา แล้วหยุดมองซองบุหรี่อยู่ครู่หนึ่ง เพราะได้ย้อนนึกถึงตอนที่เขาเคยสูบเมื่อนานมาแล้วที่เลิกรากับแฟนคนเก่าทั้งสองคน แต่พอได้มาเจอกับแมคก็ไม่ได้แตะต้องของพวกนี้อีกเลยนับแต่นั้นมา จนบัดนี้เป็นวันที่เขาต้องพึ่งพิษร้ายนี่เพื่อละลายความตึงเครียดที่อยู่ในหัวของเขาออกไปไม่มากก็น้อย เมื่อคิวได้สิ่งที่ต้องการแล้วจึงเดินออกมาจากคฤหาสน์เส็งเคร็งนี่ทันที และค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปนั่งเก้าอี้ที่เรียงรายไว้เมื่อช่วงพิธีแต่งงานก่อนหน้า เขานั่งลงก่อนจะหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟแล้วสูบเข้าสู่ปอดและปล่อยออกมา มันช่างเป็นความผ่อนคลายชั่วคราวที่ไม่เลวเลยทีเดียว คิวได้แต่นั่งมองย้อนนึกถึงภาพพิธีงานแต่งของเขากับยอดรักมันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากมายมหาศาลสำหรับเขาเลยทีเดียว แต่ในตอนนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น มันมีแต่ความรู้สึกที่ว่างเปล่าอ้างว้างไร้แก่นสารใด ๆ โดยสิ้นเชิง คิวละสายตาจากงานพิธีแล้วมองคฤหาสน์หลังโตที่มีหมอกควันสีขาวออกมาตามประตูและหน้าต่าง มันคือควันจากเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ไปทั่วทั้งคฤหาสน์ ไฟจากร่างของชายอันเป็นที่รักของเขามันช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ คิวหัวเราะลั่นอย่างคนบ้าคลั่งเสียสติเพราะรู้สึกสะใจมากที่ได้เอาคืน มันเป็นชัยชนะที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ก็คุ้มค่าที่ได้ล้างแค้นเพื่อทวงคืนความชอกช้ำที่ได้รับจากคนเหล่านี้ ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังเพลิดเพลินกับเปลวไฟที่ลามมอดไหม้ไปทั่วทั้งคฤหาสน์หลังเก่า จู่ ๆ ก็มีรถลีมูซีนขับเข้ามาจอดบริเวณที่เขานั่งอยู่ ก่อนจะเผยให้เห็นร่างของคนขับรถที่อยู่ในรถคันสีดำทมิฬเพื่อเดินออกมาเปิดประตูรถให้กับใครบางคน ไม่ช้าก็เผยให้เห็นร่างของคนสองคนที่ลงมากจากรถ หนึ่งคนเป็นหญิงวัยชรา ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นชายวัยกลางคนกำลังมุ่งหน้ามาทางที่เด็กหนุ่มได้นั่งอยู่
“เล่นใหญ่เหมือนกันนะเรา” หญิงชราเอ่ยถามเด็กหนุ่มเมื่อเดินมาถึงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเด็กหนุ่มราวเมตรหนึ่งถึงจะได้
คิวไม่ตอบหญิงชราที่ถามถึงวีรกรรมอันบ้าคลั่งที่เขาได้ทำลงไป แต่กลับส่งยิ้มให้หญิงชราอย่างชั่วร้ายก่อนจะหันมาสูบบุหรี่ตามเดิม
“แล้วเธอได้เจออะไรมั่งในนั้น” หญิงชราเอ่ยถามอีกครั้ง
“นี่ครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยการส่งมีดพกที่มีลักษณะเฉพาะตัวให้กับหญิงชราแทน
หญิงชรารับมีดจากเด็กหนุ่มมาดู เมื่อเธอและชายวัยกลางคนที่เดินมาด้วยกันได้เห็นมีดพกที่มีลักษณะเฉพาะตัวเล่มนี้ พวกเขาถึงกับถอดสีหน้าไปในทิศทางเดียวกันเหมือนกับว่าทั้งคู่รู้จักมีดเล่มนี้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
“เธอได้เข้าไปในห้องนั้นแล้วสินะ” หญิงชราถามด้วยความสงสัยว่าเด็กหนุ่มไปเอามีดเล่มนี้มาจากไหน
“ห้องไหนล่ะครับ คฤหาสน์นี่มีไม่รู้ต่อกี่ห้องต่อกี่ห้อง” เด็กหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะตอบหญิงชราด้วยประโยคที่ดูมีนัยยะแอบแฝง
“เอาเถอะ เธอจะเจออะไรมาก็ช่าง ตอนนี้เธอชนะเกมแล้วนี่” หญิงชราเอ่ยขึ้นก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มก้าวเดินไปยังคฤหาสน์ที่กำลังมอดไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง
“ยินดีกับชัยชนะด้วยนะ ลูกสะใภ้” ชายวัยกลางคนจากที่ไม่พูดก่อนหน้านี้เลย ได้เอ่ยยินดีกับลูกสะใภ้ก่อนจะเดินตามหญิงชราที่มีศักดิ์เป็นแม่ของเขาไป
หญิงชราที่มีศักดิ์เป็นย่าสามีกับชายวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นพ่อสามีได้ทิ้งเด็กหนุ่มไว้เบื้องหลัง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่คฤหาสน์ และได้สร้างความประหลาดใจให้กับเด็กหนุ่ม เพราะเมื่อหญิงชราเดินเข้าไปข้างในจากไฟที่กำลังลุกไปทั่วทั้งคฤหาสน์กับถูกบางสิ่งสูบกลืนหายเข้าไป จากคฤหาสน์ที่กำลังมอดไหม้กลับกลายมาเป็นคฤหาสน์ที่ไม่เคยถูกเผาเหมือนดังเดิม เด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนเพราะกำลังแปลกใจในสิ่งที่เห็น ก่อนจะหัวเราะออกมาและนั่งลงไปเช่นเดิม ถึงแม้มันจะสร้างความแปลกใจให้ แต่ว่าความแปลกใจนี้ได้หายไปในทันทีที่ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา ซึ่งมันก็แปลกประหลาด บ้าคลั่ง และหลุดโลกไปหมดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จะมีอะไรที่มันเหนือจินตนาการเขาไปมากกว่านี้ก็เชิญตามสบาย ในตอนนี้เด็กหนุ่มได้เห็นสิ่งพวกนี้จนเริ่มชาชินไปเสียแล้ว เขาได้ทิ้งกายลงที่เก้าอี้ตัวเดิมและนั่งอยู่ตรงนั้นไปเรื่อย ๆ เพราะความเหนื่อยจากทุกสิ่งที่ได้เจอมา ก่อนที่เขาจะเงยหน้ามองท้องฟ้ายามเช้าและย้อนนึกถึงอดีตก่อนหน้าที่จะมาเจอแมค แล้วเด็กหนุ่มก็ฉีกยิ้มท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ…
…
(จบ)