เรื่องราวของเทพแห่งพงไพรที่กำลังประสบปัญหาโดนสัตว์อสูรขนปุยจ้องจับกิน

เจ้าแมวยักษ์ ได้โปรดหยุดลักพาตัวข้าเสียที! - ตอนที่ 2 โรงแรมสัตว์วิเศษ โดย ทึนทึน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,แฟนตาซี,วาย,วายแฟนตาซี,เวทมนตร์,แฟนตาซี,#BL,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เจ้าแมวยักษ์ ได้โปรดหยุดลักพาตัวข้าเสียที!

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,วายแฟนตาซี,เวทมนตร์,แฟนตาซี,#BL,นิยายวาย

รายละเอียด

เรื่องราวของเทพแห่งพงไพรที่กำลังประสบปัญหาโดนสัตว์อสูรขนปุยจ้องจับกิน

ผู้แต่ง

ทึนทึน

เรื่องย่อ

สารบัญ

เจ้าแมวยักษ์ ได้โปรดหยุดลักพาตัวข้าเสียที!-ตอนที่ 1 การโจมตีของสัตว์อสูร,เจ้าแมวยักษ์ ได้โปรดหยุดลักพาตัวข้าเสียที!-ตอนที่ 2 โรงแรมสัตว์วิเศษ

เนื้อหา

ตอนที่ 2 โรงแรมสัตว์วิเศษ

นิ้วเรียวยกขึ้นแนบข้างหูเพื่อส่งข้อความเสียงไปให้เทพผู้คุมดันเจี้ยน แสงสีเขียวสว่างวาบขึ้นที่ปลายนิ้ว “พบสัตว์อสูรนอกดันเจี้ยนที่เขตตะวันออกของป่าทอว์เรียน ข้ารบกวนเจ้าตรวจสอบที”

ซาซาเอลเดินทอดน่องออกจากป่าใหญ่เข้าไปในเมือง นอกจากหน้าที่เทพผู้คุ้มครองผืนป่าแล้วเขาก็เปิดกิจการโรงแรมสัตว์วิเศษเล็ก ๆ เป็นของตัวเองในเมืองมนุษย์ใกล้ ๆ กับป่าทอว์เรียน อย่างไรเสียเขาก็มีความคุ้นเคยกับเหล่าสรรพสัตว์ในป่ามามากประมาณหนึ่ง แล้วก็มีพลังเวทเหลือเฟือพอที่จะสรรค์สร้างห้องพักออกมาให้ตรงตามความต้องการของสัตว์แต่ละชนิดด้วย เพราะฉะนั้นการเปิดโรงแรมนี้ก็ถือเป็นกิจกรรมฆ่าเวลาแถมยังเป็นแหล่งรายได้ที่ดีมากทีเดียว

ถามว่าเอารายได้ไปทำอะไรน่ะหรือ...

ก็เอาไปซื้ออาหารรสเลิศของพวกมนุษย์กินน่ะสิ

ให้รอรับแต่เครื่องบรรณาการมีหวังไส้กิ่วตายกันพอดี เทพก็หิวเป็นเหมือนกันนะ!

เดินเอื่อยเฉื่อยมาจนถึงโรงแรมไม้ที่อยู่นอกใจกลางเมือง เทพหนุ่มเหลือบมองซ้ายขวา เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีใครเห็นก็แอบตวัดนิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นต้นไม้ที่เริ่มจะเหี่ยวแห้งที่เลื้อยพันตกแต่งอยู่รอบ ๆ ก็กลับกลายเป็นต้นไม้สุขภาพดีเขียวขจีมีชีวิตชีวาทันตาเห็น ดอกไม้หลากสีต่างผลิบานพาให้ภายนอกของโรงแรมดูสดใสขึ้นมาในทันที

ซาซาเอลมองอาคารไม้สูงของตนเอง อมยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านใน

“กริฟฟินสองตัวจะออกจากโรงแรมวันนี้แล้วสินะ เจ้าของยังไม่ยอมจ่ายเงินค่ารังเสริมเลย แย่จริง ๆ ” ซาซาเอลเปิดหนังสือบันทึกผู้เข้าอาศัยเล่มหนาเตอะก่อนจะบ่นออดแอดเมื่อจำได้ว่าลูกค้ารายหนึ่งเบี้ยวค่าห้อง

กรุ๊งกริ๊ง~

“อะ... ยินดีต้อนรั-- เจ้า!!”

ยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยคก็ต้องร้องขึ้นด้วยความตกใจอย่างเสียมาดเทพ

นั่นมันเจ้าสัตว์อสูรกลายพันธุ์ไม่ผิดแน่! ตามมาถึงนี่เลยอย่างนั้นหรือ!

เสือขาวตัวใหญ่เดินอาด ๆ เข้ามาใกล้

“หยุด! ข้าบอกเจ้าไว้ว่าอย่างไร หากเจ้าตามข้ามาข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า ถูกหรือไม่!” ซาซาเอลชี้หน้าขู่เข้าเสือยักษ์เสียงดัง

และเมื่อได้ยินดังนั้นก็เข้าอีหรอบเดิม สัตว์อสูรขนขาวก้มหมอบลงกับพื้น ช้อนตาขึ้นมองเพียงเล็กน้อย หางลู่หูตกไม่ต่างจากตอนที่พบกันในถ้ำ ทำท่าทีราวกับว่ายอมจำนนแล้ว แต่ทว่าก็ยังดื้อดึงตามมาถึงที่นี่

“เจ้าต้องการอะไรกันแน่” เทพหนุ่มเอ่ยถามเสียงอ่อนลง

สัตว์อสูรตัวใหญ่ครางครืดในลำคอคล้ายแมวบ้าน ไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น

ซาซาเอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของสัตว์ขนปุยตรงหน้า

“ออกไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเจ้า เจ้าจะทำให้ชาวเมืองหวาดกลัว”

สัตว์อสูรตัวใหญ่ก็ยังคงครางครืดไม่หยุด ร่างปุกปุยหมอบอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน ราวกับเป็นการแจ้งเจตจำนงว่าจะไม่ไปไหน นัยน์ตาสีฟ้าใสช้อนมองออดอ้อน หูลู่ไปด้านหลัง หางส่ายกวาดไปมาช้า ๆ แนบไปกับพื้น

ท่าทางเชื่อง ๆ ไม่มีพิษมีภัยแบบนั้นทำให้เทพแห่งพงไพรทำใจโจมตีมันไม่ลง ครั้นจะไล่ก็ไล่ไม่ไปอีก

ซาซาเอลมองนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่อาจนับ “เห้อ... ข้าล่ะไม่เข้าใจเจ้าจริง ๆ ” สองเท้าก้าวเข้าไปใกล้สัตว์อสูรที่ยังหมอบนิ่ง ดวงตาของนักล่าที่บัดนี้ดูเชื่องประหนึ่งลูกแมวโข่งมองตามเทพหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้ไม่ละสายตา

เทพแห่งพงไพรย่อตัวนั่งลงตรงหน้าอีกฝ่าย มือเรียวยื่นออกไปช้า ๆ เพื่อลองเชิง เมื่อพบว่าเจ้าเสือขาวยังนิ่งดีก็แตะมือลงบนศีรษะปุยนั่นแล้วลูบไปมาเล็กน้อย เจ้าเสือขาวครางครืดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม มันหลับตาพริ้ม ยื่นหัวดันถูไถไปกับมือเขาอย่างออดอ้อน

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ใช่แมวบ้าน”

ท่าทางแบบนี้ ตายเป็นตายก็ไม่ใช่สัตว์อสูรตามตำราอย่างแน่นอน

“หากเจ้ามาที่นี่เพราะอยากนอนที่โรงแรมข้า ตอนนี้ห้องเต็มแล้ว คงจะต้องรออีกค่อนวัน”

เจ้าเสือยักษ์ไม่ส่งเสียงอะไรตอบกลับมา เพียงแค่ยกหัวหนัก ๆ ของมันขึ้นมาเกยบนตักของเขาพลางหลับตาพริ้ม ท่าทางสบายอกสบายใจเสียจนคนมองรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาชอบกล

มือเรียวลูบหัวอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ คิดเสียว่ากล่อมแมวบ้าน จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกกำลังเดินเข้ามาใกล้ประตูโรงแรมจึงต้องหยุดไว้ก่อน “เจ้าไปหลบด้านหลังก่อน ห้ามให้ชาวเมืองเห็นเจ้า เข้าใจนะ”

สัตว์อสูรตัวใหญ่บัดนี้ดูจะง่วงสลึมสลือเสียเหลือเกิน จนซาซาเอลต้องช่วยดันก้นอ้วน ๆ ของเจ้าเสือขาวที่จะหลับแหล่มิหลับแหล่อีกแรงให้ไปซ่อนในห้องเก็บของด้านหลัง

กรุ๊งกริ๊ง~

เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นพร้อมกับผู้มาใหม่

“ท่านโยเซฟนี่เอง มารับกริฟฟินกลับสินะ” ซาซาเอลเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ แต่เขายังไม่ลืมหรอกนะว่ามนุษย์ผู้นี้ยังไม่ยอมจ่ายค่าเตียงเสริมสำหรับสามคืน!

“อืม” ชายร่างท้วมตอบหน้าตายด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรเช่นเคย สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ดูไม่ได้สนใจจะคุยกับเขาเท่าไรนัก

“ท่านค้างค่าห้องไว้ 90 เหรียญเงิน ข้าต้องรบกวนท่านจ่ายยอดที่เหลือก่อน”

ชายร่างท้วมตวัดสายตามามองเขาอย่างไม่พอใจ “ข้าไม่เห็นคุ้นว่าเคยค้างคาอะไรเจ้าไว้”

“ครั้งที่แล้วท่านแจ้งว่าเงินสดติดตัวไม่พอ แต่เป็นข้าที่ไม่ติดใจอะไรจึงให้กริฟฟินของท่านเข้าพักได้ตามปกติ คงต้องรบกวนท่านลองคิดทบทวนดูใหม่” เทพหนุ่มไกล่เกลี่ยด้วยรอยยิ้มสุภาพ ทว่าสองมือที่ไพล่หลังอยู่เตรียมพร้อมจะปล่อยเวทโจมตีได้ทุกเมื่อหากอีกฝ่ายคิดเล่นตุกติก

90 เหรียญเงินซื้อข้าวหน้าปูขนยักษ์ร้านอาร์มันได้ 3 ชามเชียวนะ คิดหรือว่าข้าจะยอมปล่อยไปง่าย ๆ ฝันไปเสียเถอะ เจ้ามนุษย์หน้าหนวด!

“หึ เจ้าคิดโกงข้ามากกว่าล่ะมั้งหนุ่มน้อย” ชายร่างท้วมแสยะยิ้ม มือเอื้อมไปด้านหลังเพื่อหยิบอาวุธ

แต่มีหรือมนุษย์ธรรมดาที่มีพลังเวทเพียงเล็กน้อยจะสู้ระดับเทพอย่างเขาได้

เห็นเขาดูตัวบางร่างน้อยเลยคิดว่าจะอ่อนแอสู้ไม่ได้อย่างนั้นล่ะสิ

ซาซาเอลตวัดนิ้วเพียงแค่นิดเดียวเถาวัลย์ที่เดิมทีเป็นไม้เลื้อยตกแต่งอยู่ตามกำแพงขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้ามาโอบรัดร่างของชายร่างท้วมให้ลอยห้อยหัวอยู่กลางอากาศอย่างรวดเร็ว

“อ๊ากกก ปล่อยข้า! ปล่อยข้า!” เสียงร้องดังน่าหนวกหู ซาซาเอลจึงลากนิ้วในอากาศเพื่อให้เถาวัลย์บางส่วนเลื่อนไปปิดปากของอีกฝ่ายเอาไว้ “อื้อออ อื้อออ”

เถาวัลย์ลูกสมุนเส้นเล็กล้วงเข้าไปในถุงเงินที่ห้อยอยู่กับเข็มขัดของมนุษย์ร่างท้วมก่อนจะดึงเอาเหรียญทองเหรียญใหญ่ออกมา

“ข้าขอ 1 เหรียญทองแล้วกันนะ ส่วนต่างเป็นค่าปรับที่เจ้าคิดไม่ซื่อกับข้า” ซาซาเอลส่งยิ้มยิงฟันให้คนที่กำลังดีดดิ้นอยู่กลางอากาศอย่างร่าเริงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น รับเหรียญทองจากเถาวัลย์มาไว้ในมืออย่างอารมณ์ดี

เทพหนุ่มเดินขึ้นบันไดวนไปยังชั้น 3 เปิดประตูห้องแล้วพากริฟฟินตัวใหญ่สองตัวออกมาพร้อมกัน

“ข้ายินดีเป็นอย่างมากที่ได้ดูแลกริฟฟินของท่าน ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ” สายเถาวัลย์ปล่อยชายร่างท้วมร่วงตุ้บลงกับพื้น ในขณะที่ซาซาเอลกล่าวลาลูกค้าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับโค้งตัวเก้าสิบองศาขนานกับพื้น ชายร่างท้วมรีบกุลีกุจอออกไปจากพื้นที่ของเขาพร้อมกับกริฟฟินที่วิ่งตามกันไปติด ๆ

ซาซาเอลยิ้มแป้นมองเหรียญทองบนโต๊ะไม้

วันนี้รวยแล้ว จะกินอะไรดีน้า~

ทันใดนั้นก็มีเสียงทุ้มลอยมากับลม ดังขึ้นข้างหู “เฮ้!”

หืม เทพคุ้มครองดันเจี้ยนสินะ สงสัยว่าจะได้รับข้อความที่เขาฝากไว้แล้ว

“ราซาน เจ้าว่าอย่างไร”

“ข้าเพิ่งจะได้รับรายงานจากพวกนักผจญภัยว่าบอสตัวหนึ่งของดันเจี้ยนหายตัวไป เกรงว่าจะเป็นสัตว์อสูรที่เจ้าเจอ เจ้าพอจะรู้ตำแหน่งของมันตอนนี้หรือไม่”

ซาซาเอลชะเง้อมองเข้าไปในห้องเก็บของ เจ้าก้อนขนยักษ์ยังนอนหลับปุ๋ยครางครืดสบายใจอยู่ที่เดิม

“อยู่ที่โรงแรมของข้าเอง”

เทพคุ้มครองดันเจี้ยนตกลงว่าจะมาหาเขาที่โรงแรมและไหว้วานให้เขาขังมันไว้ที่เดิมก่อน ราซานเข้าใจว่าซาซาเอลจับเจ้าสัตว์อสูรมาขังไว้ระหว่างรอ แต่ในความเป็นจริงน่ะหรือ อย่าว่าแต่ขังเลย ไล่แล้วมันยังไม่ยอมไปเสียด้วยซ้ำ

รอไม่นานราซานก็มาถึงที่โรงแรม ร่างใหญ่ยังคงความบึกบึนสมบุกสมบันสมกับเป็นเทพผู้คุ้มครองดันเจี้ยนและเหล่าสัตว์อสูร

“ทางนี้”

เทพคุ้มครองป่านำทางเทพคุ้มครองดันเจี้ยนมาที่ห้องเก็บของ ภายในยังมีสัตว์อสูรตัวใหญ่ที่นอนหลับดูไร้ซึ่งพิษภัยอยู่ภายใน

ราซานขมวดคิ้ว

“เจ้าทำอย่างไรให้มันหลับ”

“เอิ่ม... ก็ลูบหัวนิดหน่อย”

“หา?”

“ข้าพูดจริง เจ้านี่ขี้อ้อนมาก”

“เจ้าประสาทกลับหรือ”

“ข้าพูดจริง!”

“เอาล่ะ ๆ ข้าขอพามันกลับก่อน ต้องขอบใจเจ้ามากที่ขังมันไว้ให้ข้า”

ควรจะบอกอย่างไรดีว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะขังมันไว้... แต่ก็ช่างมันเถอะ ราซานจัดการหอบหิ้วสัตว์อสูรตัวใหญ่ออกไปเรียบร้อย

หลังจากนี้ก็คงไม่มีสัตว์อสูรกลายพันธุ์มาตามติดเขาอีกแล้ว...



เสียเมื่อไหร่!

ตกดึกวันนั้นซาซาเอลกลับเข้ามานอนในกระท่อมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นบ้านของเขาในป่าทอว์เรียน ตอนเช้าก็แน่นอนว่าควรจะต้องตื่นขึ้นมาในกระท่อม

ทว่า!

เช้าวันนี้เขากลับตื่นขึ้นมาในถ้ำมืด ๆ เห็ดโคนประกายแสงสีฟ้าดูแล้วช่างคุ้นตาเสียจนอยากจะเขกกะโหลกตัวเองให้ยุบไปถึงดันเจี้ยนใต้ดิน

มองไปข้างตัวก็แทบไม่ต้องลุ้นเลยว่าจะพบกับอะไร แน่นอนว่าเป็นก้อนขนยักษ์เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ตอนนี้นอนเอาหัวเกยพุงจ้องหน้าเขาอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

ซาซาเอลนึกเกลียดตัวเองที่มีนิสัยหลับลึกเหมือนซ้อมตายก็ครานี้

สงสัยเทพป่าไม้จะต้องส่งกระแสจิตไปเฉ่งเทพดันเจี้ยนเสียหน่อยแล้วกระมัง ทำไมถึงได้สะเพร่าในหน้าที่จนปล่อยให้เจ้าสัตว์อสูรตัวนี้หลุดออกมาอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะผ่านมาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้นเอง หลุดมายังไม่เท่าไร ทำไมเจ้านี่จึงต้องลักพาตัวเขามาถึงสองครั้งสองคราด้วย!

เทพแห่งพงไพรยันหัวโต ๆ ของเจ้าแมวโข่งออกไปจากร่างของเขาก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน นิ้วมือเรียวยกขึ้นแนบหู

“ราซาน! ตื่นมาตอบข้าเดี๋ยวนี้ ราซา-- อ๊ะ!”

ยังไม่ทันที่จะได้รับการตอบกลับจากปลายสาย แรงควายก็กระโจนเข้าใส่จากด้านหลัง โชคดีที่ยังทรงตัวอยู่และไม่โดนทับจนแทบแบนตายเหมือนคราวก่อน

“เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันแน่” ซาซาเอลเอ่ยถามด้วยความหน่ายใจ แม้จะรู้ว่าถึงอย่างไรก็สื่อสารกันไม่เข้าใจอยู่ดี

คำตอบที่ได้รับกลับมาคือลิ้นหนาอุ่นที่แลบเลียแก้มเขาจนหน้าโยก

เห็นข้าเป็นขนมแมวเลียหรืออย่างไร!