"คุณแค่อยากได้ร่างกายฉันเท่านั้น" "ผมชอบคุณ ถ้าไม่หวังแบบนั้นจะให้หวังอะไร"

บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก - #TRACK1 อยากแย่ง โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ครอบครัว,ตะวันตก,รัก,โรมานซ์,ฟีอาห์,เคียน,กีตาร์,แต่งงาน,ภรรยา,คลุมถุงชน,ฝรั่ง,ตะวันตก,วงร็อก,นักดนตรี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ครอบครัว,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,โรมานซ์,ฟีอาห์,เคียน,กีตาร์,แต่งงาน,ภรรยา,คลุมถุงชน,ฝรั่ง,ตะวันตก,วงร็อก,นักดนตรี

รายละเอียด

"คุณแค่อยากได้ร่างกายฉันเท่านั้น" "ผมชอบคุณ ถ้าไม่หวังแบบนั้นจะให้หวังอะไร"

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ



เคียน เคซเพอร์ (Cian Kezper) | อาชีพ : นักดนตรี | วง : Paranoiz (พารานอยซ์) | ตำแหน่ง: Guitar (กีตาร์โซโล่)


เขาเป็นนักดนตรีของวงชื่อดัง และปราถนาหญิงสาวในคราแรกที่เห็น และไม่คาดคิดว่าความอิจฉาที่อยากแย่งเธอมาจากแฟนหนุ่ม มันจะถูกสนองราวกับพรที่พระเจ้าประทานให้ แม้การผูกมัดมันค่อนข้างจะเหมาะเจาะกับคำว่า 'จังหวะนรก' ก็ตาม

ฟีอาห์ ไอดิน (Fiadh Aidyn) | อาชีพ : พนักงานบริษัทเอกชน | ตำแหน่ง : นักสังคมสงเคราะห์

เพียงแค่เห็นเคียนในคราแรก ก็เกิดอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด จากสายตาที่จดจ้องราวกับจะถอดเสื้อผ้าออกมาทีละชิ้น ชายหนุ่มไม่มีสิ่งใดเลยที่ตรงเสปคของฟีอาห์ แต่ทว่าอุบัติเหตุไม่คาดคิด มันทำให้เธอกับเขาต้องผูกพันธะที่เรียกว่าชีวิตคู่ไปตลอดการ

บทรักน้ำเน่าของนักดนตรีกับนักสังคมสงเคราะห์สาวที่มีเหตุให้ต้องคลุมถุงชนจะดำเนินจะจบเช่น เชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสนิยายรักแนวดนตรีเซ็ตติ้งยุโรปกันค้าาาาา

สารบัญ

บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#TRACK บทนำ,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#TRACK1 อยากแย่ง,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#TRACK2 ปัจจุบัน,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#TRACK3 สมรส,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#TARCK4 #track4,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track5 บาร์เหล้าที่ครึกครื้น ,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track6 บ้านพักตากอากาศ,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track7 รวมเป็นหนึ่ง(NC),บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track8 ศึกสะใภ้,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track9 รดน้ำดอกไม้,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track10 เสียงไฮโน้ต,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track11 อดีตย้อนกลับมาหา,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-#track12 โมลีนยอดนักสันนิษฐาน,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#13 คนใกล้ตัว,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#14 หลอกล่อ,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#15 ฟีอาห์ติดกับ,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#16 เหนือกว่าผู้หญิงทุกคน (NC),บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#17 ฟีอาห์หายไป,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#18 นางเอกหนังน้ำเน่า,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-TRACK#19 จุมพิตหวานเริ่มทางใหม่ (End),บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-Bonus Track #1,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-Bonus Track #2,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-Bonus Track #3,บทรักน้ำเน่าของคนไม่ถูกเลือก-Bonus Track #4

เนื้อหา

#TRACK1 อยากแย่ง

ปลายผมหางม้าปลิวไสวดั่งลอนคลื่นไหลบนอากาศ เหมือนสายใยแห่งโชคชะตาที่ขีดให้มาพบพาน หญิงสาวรูปร่างอรชรใส่สายเดี่ยวสีดำตัดกับผิวเนื้อนวล แล้วคลุมทับอีกชั้นด้วยเสื้อเชิ้ตผ้าชีฟองสีขาวเนื้อโปร่ง ท่อนล่างสวมกางเกงขายาวเอวสูงขากระดิ่ง ซึ่งช่วยเสริมให้เธอดูสูงเพรียวยิ่งขึ้น เรือนผมบนศีรษะทรงสวยมัดรวบสูงเป็นหางม้า อวดหน้าผากมนที่มีปอยผมปรกหน้าประปราย ยิ่งประกอบกับจมูกโด่งรับกันกับริมฝีปากงาม และดวงตาคู่กลมเป็นประกายระยับราวแก้วด้วยแล้ว จึงดูเย้ายวนในทันที

ฟีอาห์ ไอดิน (Fiadh Aidyn)

รุ่นน้องร่วมค่ายคนหนึ่งกล่าวแนะนำ ต่อด้วยสถานะที่ทำให้รอยยิ้มภายในใจของคนฟังต้องหดหาย

"เธอเป็นแฟนของผมเองครับ"

‘เคียน เคซเพอร์ (Cian Kezper)’

พยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับพ่นนิโคตินกลิ่นแรงออกมาจากเรียวปากหม่นเป็นเชิงรับรู้ตามมารยาท

ขนาดยามกลางวันเช่นนี้ คนตรงหน้ายังอัดทั้งเหล้าและบุหรี่ไปในคราเดียว หากเขาใช้ชีวิตเช่นนี้จนเป็นปกติแล้วละก็...น่ากลัวจะเสียสุขภาพแย่

สายตาคมทอดตามองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย...ไม่รู้ว่าเขาจ้องพวกเธอหรือว่าหาดทรายข้างหลังกันแน่นะ

เคียนเป็นมือกีตาร์วัย 27 ของวง พารานอยซ์(PARANOIZ) ที่แฟนหนุ่มชอบเล่าให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง แหงละ...คนโนเนมอย่างเธอก็ย่อมต้องดีใจที่ได้เจอพวกเซเลบริตี้เป็นธรรมดา แม้จะไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนก็ตาม

ฟีอาห์มองคนตรงหน้าแล้วชวนสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมคนถึงได้ร่ำลือว่าเขาหล่อเหลาอะไรนัก โครงหน้ากับสันกรามเด่น ๆ และจมูกโด่งเป็นสันแบบนั้นเหรอ ที่ถูกแต่งเสียจนมองไม่ออกว่าสีเดิมเป็นอย่างไร แต่ทรงของมันที่ยาวจนปรกหน้าผาก กลับทำให้ดวงตาที่ซ่อนเร้นดูน่าค้นหาอยู่ไม่น้อย

ไม่นานนักแฟนหนุ่มก็ขึ้นบทสนทนาเรื่องดนตรีที่เธอไม่เข้าใจ จึงได้แต่ยืนมองตาแป๋วยิ้มเก้ออยู่อย่างนั้น
ฝ่ายร่างสูงที่นอนเอนตัวกับเก้าอี้หาดทราย มีรอยยิ้มผุดออกมาเป็นการรับคำ นอกจากเพื่อแสดงความรับรู้ในสิ่งที่แฟนหนุ่มบอกกล่าวแล้ว มันยังเหมือนเป็นการบ่งบอกกลาย ๆ ให้ควรรีบออกไปได้แล้ว เพราะมันรบกวนเวลารับลมเย็นของเขา

จากนั้นหมวกที่หัวก็ค่อย ๆ เลื่อนลงไปบังใบหน้าจนมิด เพื่อป้องกันเศษทรายที่อาจลอยเข้ามาปะทะหน้าได้ เมื่อร่างของทั้งสองคนเดินหายไปแล้ว เคียนก็เปิดหมวกออกอีกครั้ง เพื่อมองตามร่างของเธอจนลับสายตา

งานรื่นเริงประจำปีของก๊วนค่ายเพลง นีโอคอน(Neocon) แม้เขาไม่อยากมาร่วมวงแต่คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันคืองานสานสัมพันธ์มิตรภาพ ครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในธีมหาดทราย ซึ่งต่างจากผับบาร์ที่เกลือกกลั้วด้วยเหล้าเบียร์อย่างที่เคยเป็น

แม้ชายหนุ่มจะรู้สึกน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่งานนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เหมือนบ่อน้ำพุโผล่กลางทะเลทราย และจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่แม่สาวตาสวยคนนั้น เสียดายมากทีเดียวที่เธอดันมีเจ้าของแล้ว

เพราะความอ่อนหวานของรูปโฉมคอยวนเวียนทำลายสมาธิอยู่เรื่อยไป จนไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบเงียบได้ ทันใดนั้นในหัวก็มีความคิดเห็นแก่ตัวที่แสนชั่วร้ายปรากฏ ‘แย่งสิ’ ราวกับจะย้ำเตือนว่าเขาไม่ใช่คนดีเด่น...นักดนตรีหนุ่มจึงตัดสินใจเลิกนั่งรับลมเย็น แล้วผุดลุกขึ้นกลับไปบนห้อง

ไม่นานนักปาร์ตี้ช่วงค่ำก็ถูกเนรมิตขึ้น สมาชิกในค่ายต่างพากันไปยังเลานจ์หรูแพงลิบ มันอยู่บนชั้นสูงของใจกลางตึกชื่อดัง ส่วนเขาใช้รถส่วนตัวที่ขับมาเอง ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ในวง

เพราะอายุในวงการสะสมมาหลายปี ทำให้พารานอยซ์พอจะมีฐานะอยู่บ้าง ไม่เหมือนวงน้อง ๆ หน้าใหม่ที่ต้องนั่งอัดกันในรถตู้ของบริษัทเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ขณะที่เดินโยนกุญแจรถเล่นในฝ่ามือ ร่างสูงกำยำในชุดกางเกงยีนกับเสื้อเบลเซอร์สีดำถึงกับหยุดฝีเท้า เมื่อบังเอิญเจอคู่รักเมื่อตอนกลางวัน และสายตาของเขาจดจ่อไปที่ร่างบางในชุดสายเดี่ยวคอลึก มากกว่ารุ่นน้องในค่ายที่รู้จักเสียอีก

หน้าอกของเธอนูนขึ้นมาได้รูป เนื่องจากมันไม่ได้ดูอิ่มเต็มไม้เต็มมือนัก ทำให้การล้นทะลักไม่รู้สึกโป๊ มันสะดุดตาด้วยการประดับเกล็ดระยิบสีทองตัดกับสีพื้นของเนื้อผ้า ส่วนกระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยสีดำสนิท เส้นผมเกล้าหลวมอวดลำคอเรียวระหง พร้อมสร้อยสีทองเช่นกัน มันเป็นตัวอักษร H ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งแทนใจของทั้งคู่

“อ้าว พี่เคียน นึกว่าไปพร้อมกับพี่ ๆ คนอื่นแล้ว” โฮปกล่าว

“อ้อ ฉันขับรถมาเองน่ะ นายนั่นแหละ รถตู้บริษัทออกไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ”

“พอดีมีธุระนิดหน่อยน่ะครับ ก็เลยจะเรียกแท็กซี่ตามไปทีหลัง”

“งั้น ก็ไปด้วยกันสิ จะเสียเงินทำไม”

“เอ่อ...” โฮปยังไม่ตกลงทันที แต่หันไปมองหน้าฟีอาห์เพื่อรอคำตอบ “ก็ได้ครับพี่” สุดท้ายหนุ่มรุ่นน้องก็พูดออกมาจนได้ แม้แฟนสาวจะไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ

จากนั้นเคียนจึงเป็นฝ่ายเดินนำไปยังที่จอดรถ และแขกทั้งสองก็ขึ้นโดยสารอย่างสงบนิ่ง ไม่มีแม้แต่คำพูดจา โฮปที่นั่งเบาะคู่กับเขามองไปยังวิวถนนข้างทางอย่างเลื่อนลอย

ส่วนฟีอาห์นั่งอยู่ตรงกลางเบาะหลัง และกอดอกเหมือนเด็กที่กำลังงอน บรรยากาศดูแปลกไปจนเขานึกสงสัย“เพิ่งทะเลาะกันมาเหรอวะ” เป็นสิ่งที่เคียนคิดในใจ และแอบส่งสายตาคมเฝ้ามองร่างบางบ่อยครั้ง

เมื่อฟีอาห์รู้สึกว่าต้นคอเริ่มล้า จึงต้องหันมามองตรงหน้าเพื่อบรรเทาอาการ และทันใดนั้นเองที่เนื้อตัวเริ่มร้อนผ่าว ความรู้สึกวูบวาบไล่ตามแผ่นหลังจนไม่อาจนั่งพิงเบาะได้ตามปกติ เพราะรับรู้ถึงรังสีประหลาดบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมาจากคนขับ

เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นชัดเจน เสื้อผ้าสีเข้มทั้งตัวมีเพียงเสื้อยืดข้างในเท่านั้นที่เป็นสีขาว ไม่ได้สวมลุคนักดนตรีเหมือนที่ปรากฏในสื่อ เพียงเท่านั้นก็โดดเด่นมากพอที่จะกลบแฟนหนุ่มของเธอได้มิดเลยทีเดียว

คงเพราะเส้นผมสีบลอนด์มันถูกเสยพาดไปข้างหลัง ทำให้รูปหน้าเต็มของเขามันเผยออกมา เบ้าตาล่างคล้ำธรรมชาติ หากมองผ่านชั่วพริบตานึกว่าเขากรีดเมกอัปเหมือนร็อกเกอร์สมัยก่อน

ใบหูข้างหนึ่งสวมจิวสองห่วง ส่วนข้อมือใหญ่มีสร้อยโซ่เป็นสิ่งประดับ ตอนนั้นเขาเดินเอามือล้วงกางเกงสองข้างเหมือนไม่สนโลก จนต้องหยุดกะทันหันเมื่อเจอเธอกับโฮปที่ทางเดิน

นี่คือความรู้สึกของฟีอาห์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ซึ่งขณะนี้มันถูกย้ำเตือนผ่านกระจกมองหลังด้วยสายตาคมกริบ เธอรู้สึกเหมือนเสื้อกำลังถูกถอดทีละชิ้น จนต้องคอยโอบกอดตนเองเอาไว้ เพื่อห้ามสายตาเขาไม่ให้สัมผัสเรือนร่างอย่างกระหายไปมากกว่านี้ แต่กลับทำให้โฮปคิดว่าแฟนสาวหนาวเพราะลมแอร์

“หนาวเหรอครับ ผมจะได้เปลี่ยนมาเปิดฮีตเตอร์ให้” แต่เสียงที่เอ่ยขึ้นมากลับเป็นหนุ่มเจ้าของรถ ทำให้โฮปที่กำลังอ้าปากถามต้องหุบลงแล้วหันมายิ้มให้เธอแทน

“ปะ...เปล่าค่ะ” ฟีอาห์ปฏิเสธ

จะปิดแอร์ได้อย่างไร ก็ตอนนี้เธอร้อนฉ่าไปทั้งตัวเพราะเขา แต่ดีมากแล้วที่มีบทสนทนาขึ้นมา เพราะสายตาที่จ้องมาราวกับอยากกลืนกินไปทั้งตัวจะได้จบลง แฟนหนุ่มที่ทะเลาะกันเมื่อครู่ก็เริ่มใจเย็นและส่งยิ้มมาให้ ความบาดหมางจึงคลายหมดสิ้น

ทั้งสามคนเดินไปเจอเพื่อน ๆ ในบริษัทที่เริ่มสังสรรค์ไปสักพักแล้ว ถึงแม้ฟีอาห์ไม่รู้จักใครเลย แต่บรรดาผู้คนก็นิสัยน่ารักชวนคุยอย่างไม่ถือตัว ในงานปะปนไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งแฟนสาวหรือภรรยาที่ศิลปินในค่ายหนีบตามมาด้วย เธอจึงมีผู้หญิงด้วยกันชวนพูดคุยไม่เหงาปาก

“นั่นไง โมลีน ริช แฟนเก่าของแองกัสและเคียน” หญิงคนหนึ่งชี้ให้มองนางแบบสาวผู้โด่งดัง

รูปร่างของเธอดูสูงโปร่ง มากับชุดเดรสเกาะอกสีดำรัดรูป และผมสีเดียวกับเคียนไม่มีผิด อีกทั้งดวงตาปรือชวนให้ดูเซ็กซี่มากกว่าสาว ๆ ทั่วไป เอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์เช่นนี้ ฟีอาห์ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหล่อนถึงได้ประกอบอาชีพนางแบบได้

ขยับเข้ามานั่งแทรกตัวกลางวงผู้ชายเหมือนตัวเองเป็นราชินี และที่ฟีอาห์สนใจนั้น ไม่ใช่ความใจกล้าที่หล่อนสร้างตัวเองให้เป็นแม่คนเนื้อหอม แต่เป็นความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชายวงเดียวกันมากกว่า

แฟนเก่าทั้งสองนั่งพบหน้ากันอย่างไม่สะทกสะท้าน ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย หากเป็นเธอคงมองหน้าใครไม่ติดแน่ ๆ

ฟีอาห์เลิกสนใจรุ่นพี่ในวงการของแฟนหนุ่ม และหันมาเมาท์กับคนอื่นตามประสาผู้หญิง เรื่องราวส่วนใหญ่ช่างน่าเบื่อหน่าย เธอจึงแกล้งหัวเราะบ้างในบางครั้ง เพื่อกลบความรู้สึกที่แท้จริงในใจ

พวกเธอเหล่านี้ดูเหมือนจะรู้เรื่องคนอื่นไปเสียหมด ราวกับกล้องวงจรติดตามชีวิต หากฟีอาห์เป็นนักข่าวสายบันเทิง คงได้วัตถุดิบชั้นดีไปใส่สีตีไข่จนเพจมียอดติดตามถล่มทลาย

จากนั้นก็หันไปมองแฟนหนุ่ม เพราะตั้งใจจะถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกเมามากหรือเปล่า แต่เห็นโฮปหัวเราะร่วนกับกลุ่มเพื่อน ร่างบางจึงหมุนตัวเดินไปเติมแอลกอฮอล์ลงแก้ว เมื่อสังเกตว่าลำคอมันเริ่มแห้งเหือดขึ้นมาบ้างแล้ว

ทันใดนั้นเอง! เธอดันเห็นนางแบบสาวกำลังนั่งคร่อมตักเคียนแล้วนัวเนียกัน ยามบดริมฝีปากแลกรสจูบ ทำให้หัวของโมลีนเบี่ยงไปมาทั้งซ้ายขวา ดังนั้นสายตาคมของชายหนุ่มจึงไม่ถูกบังในบางคราว

และยามที่มันแง้มมาให้เห็น เขาก็ใช้สายตาจ้องมองใบหน้านิ่งของเธอที่บังเอิญหยุดยืนอยู่ตรงนั้น

สายตาเหมือนครั้งที่อยู่ในรถไม่มีผิด เขาทำเหมือนตัวเองมานั่งโชว์บทรักหน้ากล้องให้ผู้ชมได้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง ฟีอาห์จึงรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับโดนร่างสูงบดจูบเสียเอง จากนั้นอาการโอบรัดตัวเองเพื่อป้องกันภัยจึงเกิดขึ้น จนต้องสับขาเดินเข้าห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์

ฟีอาห์ไม่อาจต้านทานสายตาเช่นนั้นได้ และไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่าเหตุใด เพื่อนร่วมวงของเขาถึงไม่สนใจ เอาแต่นั่งชนแก้วกันราวกับเคยเห็นบทรักที่แสนประเจิดประเจ้อนั้นจนชินตา ทั้งที่การกระทำของสองคนนั้นใกล้เคียงกับการขึ้นเตียงได้อยู่แล้ว



แซ่...

เธอเปิดก๊อกมองสายน้ำไหลวนลงท่อ ก็พอจะทำให้กู้คืนสติกลับมาได้บ้าง หลังจากที่เหมือนวิญญาณปลิวหายไปทุกครั้งเมื่อจ้องมองสายตาคู่นั้น

“ใจเย็น ๆ หน่อยฟีอาห์ เป็นอะไรของเธอเนี่ย”

แปะ แปะ

เรียวมืองามตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ ที่ตอนนี้หายใจหอบเหมือนที่วิ่งแข่งขัน จากนั้นล้างมือให้ร่างกายสัมผัสความเย็นเพื่อไล่ความรุ่มร้อน และขณะที่มองหน้าตัวเองในกระจกไปพลาง ก็ได้แต่วิงวอนกับพระเจ้าว่า อย่าให้เขาคนนั้นใช้สายตาลึกล้ำมองตนอีกเลย มิเช่นนั้นเธออาจจะล้มพับลงไปกองกับพื้นได้

จากนั้นสองขาเรียวก็ก้าวออกไป แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว!


ตุ๊บ!!

“อุ๊ย! ขอโท...”

เมื่อพุ่งตัวออกมาจากห้องน้ำ ฟีอาห์ไม่ทันสังเกตว่ามีคนเดินออกมาจากฝั่งผู้ชาย ทำให้ทั้งคู่ชนกันจนร่างบางเกือบล้ม แต่โชคดีที่ชายหนุ่มคนนั้นเข้ามาประคองไว้ได้ทัน ทำให้ตอนนี้เธออยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อแหงนมองหน้า ไล่ขึ้นไปตามความสูงกลับทำให้คำขอโทษถูกกลืนหายเข้าไปในคอ


...เคียน...

เสียงในหัวของฟีอาห์บอกเช่นนั้น

“ปากของคุณ...ไปโดนอะไรมาคะ”

เมื่อหญิงสาวมองเห็นริมฝีปากมีสีแดง จึงถามโพล่งออกไปราวกับห่วงใย และจิ้มที่มุมปากตัวเองเพื่อบอกตำแหน่งแผลของชายหนุ่ม เพราะเธอไม่ได้รู้จักมักจี่ที่จะไปแตะตัวเขาโดยพลการ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจูบใครมา ความสงสัยก็คลายลง

ใบหน้าของเคียนดูเคลิ้มจนรับรู้ได้ว่าเขาคงเมากรึ่มอยู่ไม่น้อยเลย เสียงหายใจถี่รดออกมามีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ ผสานกับน้ำหอมราคาแพงจนเธอรู้สึกเข่าอ่อนยวบ จากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!

“อื้ออออ!!!”

ริมฝีปากสากรุกเข้ามาจาบจ้วงฟีอาห์อย่างรวดเร็ว จนร่างบางถอยเข้าไปแนบกับกำแพง แขนของเธอตั้งการ์ดขึ้นมาเพื่อบังหน้าอกของตัวเอง พร้อม ๆ กับห่อไหล่เพราะความตื่นกลัว

เขาบดเบียดเนื้อปากฉ่ำของเธอจนมันเผยอ ไรฟันกระทบกันเล็กน้อยเมื่อแรงรุกล้ำแนบแน่น เรียวลิ้นร้อนจึงเข้ามาพันเกี่ยวกันเพื่อสร้างน้ำหวานฉ่ำปาก ทำให้เสียงแลกลิ้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ฟีอาห์หายใจไม่ทัน ร่างกายก็อ่อนยวบเหมือนจะทรุดลงกับพื้นเสียให้ได้ เคียนจึงกระชับเอวบางเข้ามาแนบลำตัวของเขามากกว่าเดิม ทำให้เสียงของเสื้อผ้าที่เสียดสีกันดังขึ้นมาเป็นระยะ และช่วงบนที่เป็นหน้าอกนิ่มก็ถูไถไปกับอกแกร่งไม่ต่างจากปากที่ติดหนึบ
 
“สวยจริง ๆ ด้วย” ความในใจร่างสูงปรากฏ เมื่อจ้องมองดวงตาคู่นั้นขณะที่ยังไม่คลายจูบ เขาลิ้มรสเธอจนใบหน้าสวยหงายคอพับ บ่งบอกความดุดันที่ประเคนให้อย่างไม่เกรงใจ

“ปากของคุณ...อร่อยกว่ายัยนั่นตั้งเยอะ” เขาพูดทั้งที่สะลึมสะลือ

ผลัวะ!!

“โฮป!!”

บุคคลที่ปรากฏขึ้นทำให้เธอต้องตกใจ เมื่อแฟนหนุ่มทลายจูบที่ไร้มารยาทนั้นลง!

จากนั้นเหวี่ยงหมัดใส่รุ่นพี่ในค่ายจนเคียนลงไปนอนกองกับพื้น เขาคงเมาเหมือนกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งติดตัว

เพราะวินาทีที่ล้มตึง ร่างสูงแทบไม่มีแรงดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาสู้กลับได้

“กูเคารพมึง มึงทำแบบนี้กับกูได้ไง! ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ย!” โฮปขึ้นคร่อมแล้วประเคนหมัดใส่แบบไม่ยั้งมือ จนใบหน้าของเคียนเลอะไปด้วยเลือด

“พอได้แล้วโฮป!!”

เห็นดังนั้นฟีอาห์จึงทุ่มแรงทั้งหมดผลักแฟนหนุ่มออกไป มิฉะนั้นแล้วเขาอาจกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตายก็ได้

“แสดงว่าชอบใช่มะ” คราวนี้โฮปหันมาคาดโทษกับเธอแทน

“ไม่ใช่นะโฮป...ดูสภาพเขาสิ”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องอื่นหรอก คงอยากทิ้งผมใจจะขาด เห็นคนดังกว่าหน่อยก็ใจอ่อนเลยนะฟีอาห์”

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ!”

“แล้วมันเป็นแบบไหน เพราะแบบนี้ใช่มั้ยถึงอยากแต่งตัวโชว์อกโชว์ขาจนตัวสั่น”

ฟีอาห์อึ้งกับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากเขา มีสักเสี้ยววินาทีไหมที่จะถามว่าเธอเต็มใจหรือเปล่า? และห้ามไม่ให้ทำร้ายชายที่นอนหมดสภาพเพราะอะไร? อีกทั้งยังขุดประเด็นที่ทะเลาะกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนขึ้นมาป้ายสีอย่างไม่ไว้น้ำใจกันเลย

“เรื่องเสื้อผ้า เคยบอกไปแล้วว่าร่างกายของเรา เธอไม่มีสิทธิ์มาชี้เป็นชี้ตาย และเราไม่ได้เพิ่งแต่งแบบนี้ แค่ไม่ได้ใส่ให้เห็นตอนอยู่กับเธอเท่านั้นเอง”

“กลับไปคุยกันที่โรงแรม!”

“โฮป เราเจ็บนะ!” ทันใดนั้นเองที่แขนบางโดนกระชากให้เดินตาม โดยไม่สนใจว่าเธอจะสับขาทันหรือไม่ ฟีอาห์ทั้งสะบัดและพยายามอธิบายให้โฮปเข้าใจ แต่มันก็ไร้ผล

เมื่อลงมาถึงถนนเพื่อมองหาแท็กซี่ ร่างบางจึงใช้โอกาสกัดเข้าที่หลังมือของแฟนหนุ่มเต็มแรงฟัน

“เชี่ย!!” โฮปสะบัดมือออกแล้วเตรียมง้างตบกลับ ทำให้ฟีอาห์ชะงักด้วยความตกใจที่เขาคิดที่จะทำแบบนี้กับเธอ

“คงอยากทำแบบนี้มานานแล้วล่ะสิ”

“ถ้าคุณไม่นอกลู่นอกทางผมก็ไม่ทำหรอก”

“อะไรคือนอกลู่นอกทาง? เธอเป็นพ่อเราเหรอ ถึงได้ใช้คำนั้น? แล้วเคยถามไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ยังต้องถามอีกหรอก หน้าคุณพอใจขนาดนั้น”

“โฮป!!”

“ผมทำแบบนี้เพราะคุณเป็นแฟนผมไง สิ่งที่ขอทำให้หน่อยไม่ได้เหรอ คุณรักผมจริง ๆ หรือเปล่า? หรือแค่อยากใช้เป็นทางผ่านหาผู้ชายรวย ๆ ในวงการ”

“คุณทุกข์ใจขนาดนั้น เราก็เลิกกันเถอะ ไปหาผู้หญิงที่เชื่อฟังคุณเหมือนทาสน่าจะเหมาะ”

“ฟีอาห์!” เป็นโฮปนั่นเองที่เบิกตาโพลงกับคำต่อว่า เธอพูดราวกับเขาเป็นคนชอบกดขี่บงการ ทั้งที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด ก็แค่หวงตามประสาแฟนเท่านั้นเอง

“ได้! ตกลง! จะไปเอากับไอ้เคียนได้อย่างสบายใช่ไหมล่ะ เชิญ!”

จากนั้นเขาก็เดินข้ามถนนจากไปด้วยอารมณ์โกรธ แม้เธอจะร้องเรียกชื่อกี่ครั้งก็ตาม แต่โฮปไม่หันมาฟังเลยสักนิด และเมื่อเขาเดินจากไป ฟีอาห์ก็รู้สึกใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก ทำได้เพียงใช้สองมือปิดหน้าตัวเอง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น และทันใดนั้นเองสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!

โครม!!!


“โฮป!”