ระทึกขวัญ,อาชญากรรม,ลึกลับ,เลือดสาด,ลึกลับ,สยองขวัญ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
มันกระฉากแขนผมแทบหลุด
"มึงจะรีบไปไหนวะ! อ้าวสวัสดีครับพี่แวว"
ผมยกมือไหว้ทักทายพี่แววแม่บ้านของไอ้นิลมัน แกพยักหน้ายิ้มรับ มาครั้งนี้บ้านมันใหญ่กว่าเดิมอีก ครั้งล่าสุดผมมาก็เมื่อสองเดือนที่แล้ว ช่วงไหนที่พ่อแม่มันอยู่บ้าน ผมรู้สึกเกรงใจแบบไม่เป็นตัวเองเลยไม่ค่อยได้มาหามันบ่อยๆส่วนใหญ่มันจะมาหาผมที่บ้านมากกว่า
" พ่อแม่มึงไม่อยู่หรอ แล้วมึงต่อเติมหน้าบ้านตั้งแต่ตอนไหนวะ"
ผมกวาดสายตามองรอบบ้านมัน
" ไปดูแลงานที่ต่างจังหวัด กลับอาทิตย์หน้านู้นทิ้งเงินไว้ให้กูกองหนึ่ง แล้วหายเข้ากลีบเมฆ แม่งไม่สนใจกูสักคนทั้งพ่อและแม่ ขึ้นข้างบนกันเถอะเดี๋ยวกูเอากระดาษให้มึงดู"
มันพูดเชิงน้อยใจ แล้วไม่ลืมที่จะดึงแขนผมเข้าไปในห้องอีกตามเคยโดยที่ไม่ปล่อยให้ผมเดินเข้าไปเอง
" เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำตัวเป็นคนจนสักทีวะ ดูห้องมึงดิ แค่ห้องน้ำก็กว้างกว่าห้องนอนกูอีก"
"เออ...ถ้าไม่รังเกียจมึงก็มานอนในห้องน้ำกูบ้างก็ได้นะฮะฮ่ะฮา...ที่กูทำตัวแบบนี้ก็เป็นตัวกูแหล่ะการไม่มีเพื่อนที่คบกูที่เงินมันก็ดีนะ อย่างน้อยกูก็มีมึงเป็นเพื่อนที่เข้าใจกู ไม่ได้คบกูที่ฐานะ ขนาดพ่อแม่ยังไม่เข้าใจกูเลย...มาๆจุ๊บทีซิ"
มันอ้าแขนทำท่าทำทางใส่ผม
"มาๆ มาจุ๊บส้นตีนกูนี่..."
ผมยกเท้าขึ้น แต่ผิดคาดมันก้มลงจุ๊บส้นเท้าผมจริงๆ
"เห็นมั้ย...ว่ากูรักมึงมากแค่ไหนไอ้เพื่อนสนิทฮ่าๆๆ"
"บ้าไปแล้วมึงอะ เออๆ เอากระดาษมาดูเร็ว"
ผมคิดว่ามันจะกลับมาเป็นปรกติแล้วซะอีก แต่พอมันเอาการ์ดออกมา มันก็มีท่าทีเหมือนสามวันก่อนทันที
"มันก็กระดาษสีดำธรรมดาๆหนิ"
ผมพลิกไปมา ไม่เห็นตัวหนังสือเห็นแต่ลายไทยสีเงินอยู่รอบมุมกระดาษคล้ายการ์ดงานศพ
"มึงดูดีๆ"
พูดจบมันก็ปิดไฟทำให้ตัวหนังสือเรืองแสงปรากฎขึ้นมา
[ขอแสดงความเสียใจ...คุณคือผู้โชคร้ายจะตายในวันเสาร์ที่18เดือนxxปีxxxxเวลา10:00น.ผู้กำหนดชะตาBB15 ]
" นี่มันอะไรกัน แล้วไอ้บีบีสิบห้านี่คืออะไร? "
ผมหันไปถามมัน
"กูก็ไม่เข้าใจกูถึงอยากให้มึงช่วยไง ไม่แน่ถ้าเรารู้ความหมายของมันกูอาจรอดก็ได้"
มันพูดก่อนเปิดไฟ
"ใครมันมาเล่นตลกแบบนี้วะ"
ผมรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่ได้รับรู้
“ที่แน่ๆกูรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกหรอก ทั้งครูมานะชัย และทั้งมิ้น ต่างก็ตายอย่างมีเงื่อนงำ มึงไม่แปลกใจเหรอ ทำไมครูมานะชัยต้องมาแขวนคอที่ใต้อัฒจันทร์ของสนามวอลเลย์บอล ทั้งๆที่ทำที่บ้านก็ได้ มันไม่ใช่การฆ่าตัวตายกูคิดว่างั้นนะ"
ไอ้นิลใช้นิ้วชี้ลูบคางตัวเองไปมาพร้อมพูด
" แต่กูคิดว่าคนถ้าเขา อยากจะตายที่ไหนเขาก็ไม่เลือกหรอก แล้วมึงคิดว่าใครเป็นคนทำครู? "
" กูจะไปรู้เหรอ แค่สงสัยน่ะ"
พูดจบมันก็ไปหยิบปากกากับสมุดที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วเดินมานั่งที่พื้นปลายเตียง ผมจึงลุกจากเตียงแล้วนั่งลงพื้นเอาหลังพิงปลายเตียง ขยับไปอยู่ข้างๆมัน
"มึงเอาสมุดกับปากกามาทำไม"
ผมถามด้วยความสงสัย
"กูจะเอามาจดรายชื่อคนที่ได้การ์ดสีดำ มึงช่วยกูคิดด้วยนะ มึงจำได้ไหมว่ามีใครบ้าง"
"กูจำได้นะว่ามีห้าคน ถ้าตัดมิ้นออกไปก็เหลือสี่ มีมึงอีกคนก็เหลือสาม"
ผมคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เราทั้งคู่พยายามที่จะเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดเท่าที่จะจำได้
บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดทันที เมื่อผมกับมันได้แต่คิดย้อนกลับไปในวันที่เพื่อนนักเรียนได้รับการ์ดสีดำ โดยไม่พูดกันสักคำ
" กูจำได้แล้ว!"
ไอ้นิล พูดเสียงดังขึ้นมา กลบความเงียบทำให้ผมตกใจจนสะดุ้งโหยง
“ สัตว์! กูตกใจหมด มึงจำอะไรได้วะเล่ามาซิ "
ผมพูดพร้อมเอาไหล่กระแทกไหล่มัน
"กูพอจะจำได้บางส่วน ครูมานะชัยมาในคาบสุดท้ายของวันนั้น มึงสังเกตไหม สีหน้าของครูดูวิตกกังวลตลอดเวลาไม่พูดไม่จากับใครเลย"
มันพูดก่อนกัดหัวปากกาไปมาจนเสียงดังต๊อกแต๊กๆ
" จำได้สิ ทุกคนก็พูดกันในห้อง จากนั้นต่างก็พากันคิดว่าครูต้องเจอเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ถึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยที่ไม่มีใครสงสัยแบบเราเลยนะ"
"ไอ้แก๊ป ใครเป็นคนเจอศพครูคนแรกนะ"
มันหันควับมาถามผม
"ลุงภารโรงมาเห็นตอนเช้าไง พอเห็นก็รีบแจ้งตำรวจทันที"
"อ๋อ...แกน่าจะผูกคอตายของเย็นวันแจกการ์ดเลยแน่นอน ข่าวก็บอกว่าเย็นวันนั้นครูโทรไปบอกเมียแกว่าจะไม่กลับบ้านจะทำงานต่อให้เสร็จ แล้วที่คุณครูตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะปัญหาหนี้สินแถมยังคงทำใจไม่ได้กับการตายของลูกสาว ทางเมียครู ก็ไม่ได้ติดใจอะไรคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตายธรรมดา"
ไอ้นิลพูดพลางจับปากกาเขียนลงกระดาษวนไปมา
"วันนั้นครูบอกว่า จะมีบททดสอบให้นักเรียนห้องห้าทับสี่ทำ และสุ่มเอาจากเลขที่ประจำตัว เพียงแค่ห้าคน คนที่ทำแบบทดสอบได้ก็จะได้รับคะแนนสะสมพิเศษ มึงจำบรรยากาศในห้องวันนั้นได้ไหม มีทั้งคนอยากได้แล้วก็มีทั้งคนไม่อยากทำ หนึ่งในนั้นคือกูที่ไม่ได้อยากทำเลย"
ผมพูดตามภาพของดีเทลที่จำได้ในตอนนั้น
"คนแรกที่ครูจับสลากได้จากเลขที่ประจำตัวนักเรียนห้าสิบคน ก็คือมิ้น คนที่สองคือมึง
แล้วคนที่สามใครวะ? "
ผมคิดไม่ออก
"อ๋อกูจำได้แล้ว คนที่สามแพรไหม คนที่สี่ไอ้เคน คนสุดท้ายไอ้นัทไง"
ไอ้นิลมีท่าทางตื่นเต้นที่จำได้ทั้งหมด
"มิ้นโดนรถชนตอนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวริมถนน หลังเลิกเรียน แต่กูก็แปลกใจเมื่อมันรู้ว่ามันจะตายแต่ทำไมมัน ถึงไม่มาถามพวกกูคนที่ได้การ์ดเหมือนกันวะ หรือไม่ก็ขังตัวเองไว้ในห้องไม่ออกไปไหนจนเลยเวลาที่ถูกกำหนดไว้"
มันยังคงเกิดคำถามขึ้นมากมายทำให้ผมตอนนี้เริ่มสับสนไปหมดแล้วว่ามันคืออะไรกันแน่
"ก็โบไง เห็นมันบอกว่า มันก็รู้สึกผิดเหมือนกัน ที่บอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมิ้นหรอก มันเลยพาไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวปลอบใจไงจนเกิดเหตุการณ์ขึ้น"
"ดีนะที่มึงเชื่อกู กูรู้สึกโคตรรักมึงเลยมาๆ... เออว่าแต่พรุ่งนี้เราจะบอกคุณครู ยังไงวะเรื่องไปงานศพมิ้น "
มันพูดพลางทำท่าอ้าแขนใส่ผม ผมจึงทำท่าง้างหมัดใส่ มันเลยเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
"ก็บอกไปสิว่ามึงไม่สบาย"
"แล้วมึงล่ะจะบอกครูยังไง"
มันชี้นิ้วมาที่ผมแล้วถาม
"กูก็บอกว่า หมาไม่สบายเลยเฝ้าหมา"
ผมพูดแหย่มัน
"กูยอมเป็นหมาก็ได้ถ้ามีเจ้านายดีๆแบบมึง"
พูดจบมันก็ทำท่าแลบลิ้นเลียนแบบหมาทันที
"มึงนี่ก็เน่าได้ตลอดเวลาเนาะ แต่ก็ยังดี ที่มึงอะกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว"
ผมยิ้มแล้วลูบหัวมันที่ตอนนี้กำลังทำท่าหมาอยู่
แต่ก็อดสงสารมันไม่ได้ ที่เหมือนมันมีผมเป็นเพื่อนมันเพียงแค่คนเดียว มีครอบครัวก็เหมือนไม่มี ผมก็ได้แต่หวังว่าสิ่งที่มันเจอเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น และเรื่องบังเอิญ พรุ่งนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมันอย่างแน่นอน ขอให้เป็นอย่างที่ผมคิดเถอะ
"เออไอ้แก๊ป เราโทรไปเตือนทุกคนดีไหม ที่ได้การ์ดไง บางคนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าการ์ดเขียนว่าอะไร"
มันหยุดทำท่าหมาแล้วพูดขึ้นมาทันที
"กูว่าอย่าเพิ่งเลย รอพรุ่งนี้ดีกว่า เพราะรายต่อไปก็คือมึง หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรืออาจเป็นเรื่องแกล้งเล่นตลกของใครบางคน ไม่อยากให้เป็นเรื่องตื่นตระหนกใหญ่โต ดีไม่ดีมันอาจจะเป็นงานแบบทดสอบ ที่สะสมคะแนนพิเศษก็ได้นะมึงว่ามะ "
พูดจบผมก็ดูอาการมัน ที่ตอนนี้นิ่งเงียบจ้องมองหน้าผม
"ถึงขนาดนี้แล้วมึงยังคิดว่าเป็นเรื่องแกล้งเรื่องล้อเล่นอะไรอยู่หรอ หรือว่ามึงยังคงไม่เชื่อกู หรือต้องรอให้เกิดขึ้นกับกูก่อนถึงจะเตือนพวกมัน"
เอาอีกแล้วมันดึงดราม่าอีกแล้ว ผมไม่รู้จะพูดยังไงละนะ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง
"แต่...ก็เอาตามที่มึงบอกแหละ ยังไงกูก็ต้องไม่ตายพรุ่งนี้ ปะ เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน แล้วค่อยกลับมาอาบน้ำเล่นเกมต่อยาวๆเลย"
" อะไรของมึงวะ มึงเป็นไบโพล่าเหรอ กูตามอารมณ์มึงไม่ทันแล้วนะเว้ย"
ผมตามมันไม่ทันจริงๆ แต่ถึงยังไงผมก็แอบเป็นห่วงเรื่องที่จะเกิดกับมันอยู่ดี
💀💀💀