ระทึกขวัญ,อาชญากรรม,ลึกลับ,เลือดสาด,ลึกลับ,สยองขวัญ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผมเดินลงมาชั้นล่าง นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์รอมันลงมา ดวงอาทิตย์เริ่มลับลา แสงโพล้เพล้สีส้มอ่อนสะท้อนระยิบระยับในบ่อน้ำพุ ทำให้ผมยากที่จะละสายตา ความรู้สึกหดหู่กรูเข้ามาในจิตใจ
"จะ...อะ ออก ปะ ปะ ไป ขะ ข้างนอกกันเหรอคะ คุณแก๊ป"
ผมหันไปมองตามเสียงที่พูดติดอ่างของพี่แวว
"ใช่ครับผมจะออกไปกินข้าวข้างนอกกับไอ้นิลมัน แต่ก็ไปไม่นานหรอกครับกินเสร็จเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว"
" ว้า... พี่แววกะ วะ ว่า จะ จะ ทะ ทำ
อาหาร ยะ ยะ เย็น ให้สักหน่อย "
ผมพยายามฟังลุ้นว่าพี่แววแกจะพูดอะไรแบบเผลอกลั้นหายใจไปด้วย
"อ๋อไม่เป็นไรหรอกครับพี่แวว ลำพังดูแลบ้านดูแลไอ้นิลคนเดียวแบบนี้คงจะเหนื่อยมากอยู่แล้ว ไว้ถ้าพี่จะทำให้กินจริงๆก็ พรุ่งนี้ละกันเนาะ"
พี่แววพยักหน้ายิ้มรับ ก่อนเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ผมพูดรักษาน้ำใจแก และก็รู้สึกสงสารที่ทำงานบ้านคนเดียว ผมเคยถามไอ้นิลว่าทำไมไม่จ้างคนเพิ่ม มันบอกว่าประหยัดเงิน แล้วก็ไม่ชอบให้คนเยอะด้วย แต่ผมว่ามันก็โอเคตรงที่มันทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองนะ ไม่รอให้แต่แม่บ้านทำ ชอบมันก็ตรงนี้แหละติดดินดี
"ปะไปกัน แดกไรดี"
มันเดินมาตบไหล่ผม กลิ่นน้ำหอมของมันฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
“ โอ้โหไอ้นี่ แค่ออกไปกินข้าวแค่เนี้ย ถึงขั้นแต่งเต็มขนาดนี้เลย แล้วน้ำอาบหรือยังเนี่ย กลิ่นน้ำหอมฟุ้งเชียว "
มันใส่ชุดการ์ดบิ๊กไบค์เต็มยศ ทำให้ผมแปลกใจหรือว่ามันจะเสียเส้นไปแล้วจากการที่กลัวตายครั้งนี้ แต่ความรู้สึกที่แปลกไปกว่านั้นคือ ผมรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่มันใส่ชุดแบบนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์เดจาวู อะไรแบบนั้น
"อื่อ...ยังไม่ได้อาบกลับมาค่อยอาบ อะกูขี่เอง"
มันยื่นหมวกกันน็อคให้ผม ก่อนสวมหมวกกันน็อคของมันเอง ผมยืนงงกับการกระทำ จะอะไรกันของมันขนาดนั้น
" แล้วมึงก็ไม่ดูกูเลยเนาะ ใส่ชุดนักเรียนอยู่เนี่ย แล้วดูมึงดิ "
ผมรู้สึกไม่พอใจที่มันไม่มีชุดให้ผมใส่
" เออน่าไปกินข้าวข้างนอกแป๊บเดียวเอง จะอะไรนักหนา เดี๋ยวกูให้ยืมชุดนอนของกูแล้วไง ใส่ชุดเดียวก็พอมึงอ่ะเปลือง"
มันย้อนประโยคที่ผมพูดกับมัน โคตรกวนเลย
ไม่นานนักผมกับมันก็มาที่ร้านอาหารตามสั่งริมฟุตบาท จากการบิดแบบสปีดเร็วกว่านรก
ของมัน
" กูคิดว่ากูจะไม่ได้แดกข้าวเย็นละ ขี่เร็วขนาดนั้นคงไม่ได้ตายพรุ่งนี้แน่"
" เออกูรู้แล้ว กูกลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตกดิน
มึงจะกินอะไรสั่งเลย แต่ต้องสั่งใส่กล่องนะ"
ผมคงไม่ใช่เพื่อนสนิทของมันจริงๆแล้วล่ะ เพราะเดาอารมณ์มันไม่ถูกเลย เมื่อกี้ก็บอกว่าจะมากินข้าวข้างนอกบ้าน แต่ตอนนี้ก็บอกให้สั่งกลับบ้านแล้ว แต่ผมก็ไม่เถียงมัน และไม่ถามเหตุผลมันด้วย ปล่อยให้ทำอะไรตามใจมันอยากทำเลย
" เอากระเพราหมูกรอบไข่ดาวสองกล่องครับป้า"
ไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากสั่งอาหาร มันก็สั่งตัดหน้าผมไปแล้ว แต่ก็ยังดีที่เป็นกระเพราหมูกรอบที่ผมกำลังจะสั่งอยู่พอดี
" เป็นไงล่ะมึงกูรู้ว่ามึงต้องสั่งกระเพราหมูกรอบ แค่นี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่ากูสนิทมึงขนาดไหน"
มันยิ้มอย่างภูมิใจ
" เออกูรู้แล้ว มึงจะเอาโล่รางวัลคนสนิทอันดับหนึ่งจากกูเหรอ ไม่มีใครแข่งกับมึงหรอกเพราะกูก็ไม่มีใครเป็นเพื่อนเหมือนกัน มีแค่มึงคนเดียวนั่นแหละ"
ผมพูดประชดมัน แต่มันก็คือความจริงนั่นแหละ ผมก็ไม่มีใครที่จะสนิทไปมากกว่ามันแล้ว
"ไอ้แก๊ป กูรู้สึกว่ามีคนคอยมองดูเราอยู่"
มันมองไปที่ข้างหลังผม ทำให้ผมหันไปมองตามสายตามัน
"ใครวะ แต่ก็ไม่น่าแปลกหรอกมึงแต่งตัวซะขนาดนี้ กูเห็นกูก็มอง เหมือนกันกับทุกคนแหละ"
" มันไม่ใช่แบบที่มึงคิด กูเห็นมาสักพักแล้ว ผู้ชายตัวสูงมาก ใส่แจ็คเก็ตมีฮู้ด ยืนอยู่มุมตรงนั้น มึงอย่ารีบหันไปมองนะ ทำตัวตามปกติมันกำลังจ้องเราอยู่ อย่าให้มันรู้ว่าเรารู้"
ไอ้นิลพูดเบาๆในลำคอ โดยไม่มองหน้าผม
"ได้แล้วจ้า"
แม่ค้ายื่นถุงใส่ข้าวกล่องให้กับไอ้นิล
"เก้าสิบบาทจ้าหนุ่ม "
มันจ่ายเงินเสร็จแล้วก็รับถุงข้าวกล่อง
จากป้าแม่ค้า
"ขอบคุณนะจ๊ะ พรุ่งนี้ก็ตายแล้วสิเนาะวันเสาร์"
แม่ค้าพูดพลางยิ้ม
เมื่อได้ยินประโยคนั่นผมถึงกับ พูดไม่ออก และกำลังจะลุกต่อว่าป้าแม่ค้าที่ปากพล่อย แต่ไอ้นิลกับยิ้มแล้วพยักหน้าตอบรับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" ไอ้นิลเมื่อกี้แม่ค้าว่ายังไงนะ"
ผมดึงแขนมันมากระซิบถาม
"ก็แกแค่ขอบคุณแล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้ก็ได้หยุดกันแล้วเนาะวันเสาร์ อะไรทำไมเหรอ?"
"เปล่าไม่มีอะไรหรอกกูแค่หูฝาด"
ผมคิดในใจว่าขออย่าให้เป็นลางสังหรณ์ที่ผมได้รับรู้แบบนั้นอีก
"ว่าแต่ไอ้ผู้ชายตัวสูงคนนั้นไปไหนละ"
มันพูดพร้อมกวาดสายตามองหา ก่อนขึ้นควบบิ๊กไบค์
“ ช่างเหอะอย่าไปสนใจเลย รีบๆกลับกูหิวข้าวแล้ว แล้วมึงก็มาแค่เนี้ย มึงออกมาซื้อเองแล้วให้กูรออยู่บ้านมันก็จบ "
ผมบ่นอยู่ข้างหลังมัน
" อะไรของมึงวะ ไม่เป็นห่วงกูเลยเหรอ มึงก็ต้องอยู่ติดกับกูตลอดเวลาจนถึงเส้นตายของกู
กูจะจ้างมึงเป็นบอดี้การ์ด จ่ายค่าจ้างเป็นเลี้ยงข้าวกระเพราหมูกรอบ ทุกมื้อเย็นดีมั้ย"
" มึงอยากให้กูอ้วนตายหรือไง แล้วดูคำพูดมึงพูดอย่างกับหนังแอ็คชั่นบู้ล้างพลาญ เส้นตงเส้นตายอะไรของมึง ไปรีบไปกูหิวแล้วโว้ย! "
พูดจบผมก็ใช้ฝ่ามือตบไปกลางหลังมันทีนึง ให้มันรีบออกรถไป แล้วหันไปมองข้างหลัง มีผู้ชายใส่ฮู้ดร่างสูงยืนอยู่ที่มุมตรงนั้นจริงๆด้วย ผมแอบตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดให้มันฟัง อยากให้มันมีสมาธิในการขี่ พูดง่ายๆคือผมก็กลัวตายนั่นแหละ
💀💀💀💀