ความหลอนไม่มีที่สิ้นสุด และประสบการณ์หลอนโดยตรงจากคนเขียน ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย
ระทึกขวัญ,ลึกลับ,เล่าประสบการณ์,ระทึกขวัญ,สยองขวัญ,หลอน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาดความหลอนไม่มีที่สิ้นสุด และประสบการณ์หลอนโดยตรงจากคนเขียน ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย
ช่วงไม่กี่วันก่อนมีงานที่พ่อของผมเสนอเข้ามาให้ไปเฝ้าบ้านเศรษฐีหลังนึง โดยเป็นเหมือน รปภ ภายในบ้าน เจ้าของบ้านจะบินไปต่างประเทศ 2-3 วัน เลยต้องการคนมาเฝ้าบ้านของเขา พวกเขาเป็นเพื่อนของพ่อผม พ่อผมเห็นผมไม่ค่อยทำอะไรงานการไม่ทำโดนไล่ออกจากงานเป็นว่าเล่น เลยคิดว่าให้ผมมาทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงอะไรมากมาย จริงๆผมเบื่อมากแทบไม่อยากทำงานเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไงได้พ่อผมบอกไม่ทำก็ไม่มีเงินไม่ต้องกินข้าว ด้วยความรำคาญผมเลยต้องออกไปทำงานนี้
เมื่อมาถึงที่ทำงานเจ้าของแกก็บอกว่ามีห้องรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน แกบอกหิวอะไรของในตู้เย็นมีกินได้ตามสะดวก ผมก็รู้สึกยินดีไม่น้อยที่ได้ยินคำนี้ ผมกะจะกินให้ราบเป็นหน้ากลองกินให้หมดตู้เย็น พวกเขาบอกห้องต่างๆภายในบ้านจากนั้นก็ออกไปที่สนามบินกัน ผมก็นั่งสำรวจรอบๆหน้าในบ้านผ่านห้องรักษาการ ช่วงกลางวันก็ผ่านไปด้วยดีเวลาหิวผมก็กินขนมนมเนยซะอิ่มแปร่ ถึงจะเอาแต่กินแต่ผมก็ไม่ลืมงานของตัวเอง ตกกลางคืนค่อนข้างจะเงียบมากๆเป็นหมู่บ้านที่สงบสุดๆผมก็รู้สึกผ่อนคลายเอามากๆ ตี1-2ผมได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นระหว่างที่ผมนั่งเล่นมือถือชิลๆสบายๆอยู่นั้น ผมมองไปที่กล้องทุกตัวในบ้านว่ามีขโมยหรืออะไรรึเปล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววอะไร
ผ่านไปช่วงตี2-3 เสียงแปลกๆก็ดังขึ้นอีก ผมก็มองไปที่จอดูกล้องทุกตัวภายในบ้านแต่ก็ไม่มีอะไรเช่นเคย แต่ไม่ทันไรก็มีเสียงดังขึ้นมาจากในบ้านผมจึงหยิบไฟฉายแล้วออกไปสำรวจดูหาต้นตอของเสียงแปลกๆนี่แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ผมเลยเดินไปที่ห้องครัวเพื่อหากาแฟหรืออะไรที่ช่วยให้ผมหายง่วงได้ แล้วก็กลับมายังห้องรักษาความปลอดภัยเหมือนเดิม ไม่ทันใดผมมองไปยังกล้องตัวที่ติดอยู่ในห้องรับแขก เห็นเงาดำๆซึ่งไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนค่อยๆเคลื่อนไปหน้าประตูห้องครัวจากนั้นก็หายไป ผมรู้สึกตกใจนั่งอึ้งอยู่พักนึงแล้วตั้งสติ ผมคิดว่ามันต้องเป็นภาพหลอนหรือไม่ก็ผมตาฟาดไป พอเช้าผมเลยโทรหาพ่อแล้วเล่าเรื่ิองนี้ให้ท่านฟัง พ่อผมหัวเราะแล้วพูดประมาณว่า "ไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าแกจะกลัวผีด้วย" ผมไม่รู้สึกขำเลยสักนิดผมรู้สึกกังวลมากกว่า ว่ามันคืออะไร
วันถัดมาผมก็ทำเหมือนวันแรกนั่งอยู่ในห้องรักษาความปลอดภัยของบ้าน ในช่วงกลางวันผมเลยถือวิสาสะเดินดูห้องต่างๆภายในบ้าน ผมรู้ว่ามันผิดแต่ผมก็อยากแน่ใจในความปลอดภัยของตัวเอง
คืนนี้เองผมนั่งจ้องดูทุกกล้องดูทุกความเคลื่อนไหวภายในและภายนอก ช่วงหัวค่ำมันก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ผมเริ่มรู้สึกหิวเลยลงไปเอาของกินมาแบบทีเดียวเลยกะออกจากห้องทีเช้าไปเลย เที่ยงคืนตี 1 เหตุการณ์ปกติถึงแม้จะมีเสียงประหลาดๆดังมาเป็นบางช่วง ผมไม่แน่ใจว่ามันดังจะข้างนอกหรือในบ้านกันแน่ ผ่านไปจนใกล้ๆจะตี 2 เงาที่ผมเห็นในคืนแรกก็โผล่มา มันเหมือนผู้ชายตัวใหญ่มากๆ เดินอยู่ภายในบ้านห้องรับแขก เสียงเท้ากระทบกับพื้นมันดังจนผมได้ยิน ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาสายตาจ้องมองดูว่าไอ้สิ่งนี้เนี่ยมันกำลังทำอะไรอยู่ มันเดินๆไปทั่วชั้นล่างเดินเหมือนคนลงส้นเท้าหนักๆ ประมาณเกือบๆ 10 นาทีได้ แล้วก็เดินหายไป ผมนั่งสั่นไปทั้งตัวมองทั่วทุกมุมกล้องว่ามีอะไรมาอีกมั้ย เชื่อมั้ยผมไม่ได้นอนเลยจนเช้า แล้วจึงโทรศัพท์หาพ่อของผมอีกครั้ง
ผมก็เล่าเรื่องเมื่อคืนให้พ่อฟังรอบนี้พ่อผมฟังอย่างไม่มีน้ำเสียงล้อเล่นเลยด้วยซ้ำ จากนั้นพ่อแนะนำกับผมว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นใผ้โทรแจ้งตำรวจทันที เพื่อความปลอดภัยในตัวผม ซึ่งพ่อผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเห็นเป็นอะไรกันแน่ แต่พ่อผมเดาว่าน่าจะเป็นพวกขโมย แต่มันสวนทางกับความเป็นจริงมาก โจรอะไรมันไม่หยิบของมีค่าหรือของในบ้านแม้แต่อย่างเดียว มันเป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะมาเป็น รภป ให้บ้านหลังนี้ ผมเตรียมตัวอีกเช่นเคย ของกิน โถสำหรับฉี่ ขวดน้ำเปล่าอีกสองสามใบกันเหนียวเอาไว้ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปยันเช้าผมจะไม่ออกจากห้องนี้อีกเลย เตรียมการใหญ่ไว้
ช่วงหัวค่ำก็เช่นเคยปกติทุกอย่างไม่มีอะไรแปลกประหลาดจากเกตุการณ์ 2 คืนทำให้รู้ว่าสิ่งนั้นมันจะมาเวลาไหน สองวันมานี่ผมต้องมานอนกลางวันเอาตาก็เริ่มมัวๆนอนก็น้อย ช่วงตี 2 จะตี 3 เสียงแปลกๆมันก็มาทักทายก่อนเลย ใจเล่นเต้น ตุ้บๆ มันเต้นแรงมากๆ สติแทบไม่อยู่กับตัว ทันใดนั้นเงาประหลาดก็โผล่ออกมาจากกลางห้องรับแขก มันเดินไปทั่วชั้นล่างเหมือนเดิม แต่คราวนี้มันมาหยุดตรงบันได ผมจ้องมันตาไม่กระพริบ เผลอไปทำกระป๋องกาแฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตกลงมา ทันใดนั้นเงานั่นก็หันมามองผมที่เฝ้ามองจากกล้องวงจรปิด ขนลุกไปทั้งตัว จากนั้นมันก็ค่อยๆเดินขึ้นบันไดมา ผมรีบไปลงกลอนประตูแล้วกับมาดูที่กล้อง มันค่อยๆขึ้นบันไดมาแล้วเดินเลี้ยวตรงมายันห้องที่ผมอยู่ วินาทีนี้ผมได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้มันมาทางนี้แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล มันตรงมาแล้วมาหยุดตรงหน้าห้องของผม ผมแทบหยุดหายใจแล้วมองไปที่ประตูกับกล้อง หันไปหันมา ผมเริ่มรู้สึกกลัวมากๆจึงกดปุ่มขอความช่วยเหลือไป เงานั้นมันยืนอยู่หน้าประตูผมไม่ไปไหน ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่จะไปซักทีวะ
จากนั้นเงานั้นก็เดินไปทางอื่นผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดนึงจนกระทั่งได้ยินเสียงเท้าเหมือนคนวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วทุบประตูห้องของผมพร้อมกับกรีดร้องด้วยเสียงประหลาดมากๆ ผมแหกปากร้องแล้วนั่งกุมปิดหูตะโกนออกมา "อย่าเข้ามา" แต่มันก็ทุบประตูไม่หยุด ผมมุดไปใต้โต๊ะพร้อมกับร้องไห้นึกถึงพ่อของผมขึ้นมา ไม่นานผมได้ยินเสียงไซเรนของตำรวจมาล้อมบ้านหลังนี้ พวกเขางัดบ้านเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ เมื่อเขาเจอตัวผมกำลังนั่งสั่นร้องไห้ หวาดระแวงไปหมด พ่อผมรีบมาอย่างทันทีที่รู้เรื่อง พวกเขาถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมก็เล่าไปตามความจริง ผมบอกให้พวกเขาลองเปิดกล้องดูได้ ไม่น่าเชื่อสิ่งที่ทุกคนมาดูพร้อมกันหมดมันกับมีแค่ผมที่ทำอะไรบ้าๆอยู่คนเดียว ตำรวจคิดว่าผมเสพสารเสพติดหรือไม่ก็จิตไม่ดี แต่ผมสาบานได้ว่าเรื่องนั้นมันคือความจริง แต่พ่อผมสอบถามเกี่ยวกับบ้านหลังนี้เพื่อนพ่อผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
"คืนนั่นมันเลวร้ายสำหรับผมมากๆ"