ความหลอนไม่มีที่สิ้นสุด และประสบการณ์หลอนโดยตรงจากคนเขียน ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย

เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด - คืนที่ 12 สูญเสีย โดย Sayu @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ระทึกขวัญ,ลึกลับ,เล่าประสบการณ์,ระทึกขวัญ,สยองขวัญ,หลอน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ระทึกขวัญ,ลึกลับ,เล่าประสบการณ์

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ระทึกขวัญ,สยองขวัญ,หลอน

รายละเอียด

ความหลอนไม่มีที่สิ้นสุด และประสบการณ์หลอนโดยตรงจากคนเขียน ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย

ผู้แต่ง

Sayu

เรื่องย่อ

สารบัญ

เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 1 กลับบ้าน,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 2 ห้องดนตรี (ประสบการณ์จริง) เมื่อ 10 ปีที่แล้ว,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 3 บ้านร้าง,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 4 เส้นผม,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 5 พนักงานส่งพิชซ่่า,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 6 ออฟฟิศ,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 7 ป่า,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 8 ข้างบ้าน,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 9 ดวงไฟประหลาด,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 10 ลองของ (เรื่องจริงจากรุ่นพี่ท่านนึง),เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 11 ในบ้าน,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 12 สูญเสีย,เรื่องเล่าสุด(หลอน)ประหลาด-คืนที่ 13 Darkweb

เนื้อหา

คืนที่ 12 สูญเสีย

สวัสดีฉันชื่อเจนแต่ไม่ต้องห่วงนะฉันไม่ได้มากับนุ่นแล้วก็มากับโบว์ ฉันมีน้องสาวคนนึงชื่อเอลล่า เป็นลูกคนพ่อกันน่ะ ตอนสมัยฉันเด็กๆเราเคยไปบ้านพักบังกะโล ที่หนึ่ง เนื่องจากไปพักร้อน แต่บอกก่อนนะพ่อของฉันจริงๆน่ะแยกกับแม่ฉันไปแล้ว ส่วนพ่อใหม่ของฉันเขาชื่อไมเคิล เขาสุภาพอ่อนโยนเอามาๆ แม่ฉันหลงรักเขามากๆเลยล่ะ เอลล่ากับฉันไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่เราเลยไม่ค่อยคุยกัน ฉัันบอกตรงๆเลยว่าพูดอังกฤษไม่ได้ และไม่คิดอยากจะพูดด้วย เมื่อถึงบังกะโล ฉันก็เดินเข้าไปหาห้องของตัวเองแล้วอยู่เงียบๆ ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีแม้กระทั่งอินเตอร์เน็ต คุณคงรู้ใช่มั้ยว่ามันน่าเบื่อขนาดไหน ฉันแทบไม่ออกไปไหนเลย มันไม่มีอะไรด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะสนุกแล้วก็ดูมีความสุขเอามากๆ ตอนเย็นวันนึงเอลล่ามาตามให้ฉันลงไปกินข้าว แต่ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูดเท่าไหร่ ฉันตอบไปว่า "เงียบๆได้มะ" เธอก็ดูงงๆกับภาษาไทยที่ฉันพูด เพราะปกติไม่มีใครพูดภาษาไทยเลยนอกจากฉัน ฉันเดินลงมาแล้วนั่งที่โต๊ะกินข้าว ตอนแรกไม่ได้อะไร ซักพักพวกเขาก็เริ่มสนทนากัน หัวเราะกันสนุกสนานโดยไม่สนใจฉันเลยว่านั่งหัวโด่อยู่นะ ไม่คิดจะมองกันหรือถามอะไรบ้างเลยเหรอ ไม่นานฉันก็ลุกด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ฉันคิดถึงกรุงเทพมากๆ เอ่อ...บอกก่อนนะว่าฉันไปพักร้อนก่อนจะเกิดโคโรน่า เดี๋ยวจะสงสัยว่าทำไมครอบครัวฉันถึงไม่โดนกักตัว 14 วัน  


วันถัดมาฉันก็นั่งนอนเปื่อยๆในห้องตัวเองเหมือนเคย "ก๊อก ก๊อก" มีคนมาเคาะประตูห้องฉันเปิดไปก็พบกับเอลล่าน้องสาวอายุ 10 ขวบของฉัน เธออยากชวนไปเล่นกันข้างนอกเพราะเห็นฉันหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ยี่ฉันอายุ 15 แล้วนะยังต้องมาเล่นกับเด็กอีกเหรอ เอลล่าดูอยากเล่นกับฉันมากๆเธอพยายามพูดภาษาไทยกับฉันแต่มันก็ค่อยข้างแย่นิดนึง แต่ฉันก็ไม่โทษเธอหรอกนะ ฉันขำที่เธอพูดไม่ชัด แต่ก็เข้าใจว่าอยากชวนไปเล่น ก็ตกลงไปเล่นกันซักหน่อย เธอชวนไปเล่นแถวๆชายทะเล ถึงช่วงนี้จะเป็นอากาศร้อนควรเล่นน้ำให้สดชื่นแต่นี่มันไม่บ้าไปหน่อยเหรออากาศร้อนขนาดนี้ผิวก็เสียหมดน่ะสิฉันก็เข้าใจว่าน้องสาวฉันอยากจะเล่นด้วย แต่พระเจ้าแดดเปรี้ยงขนาดนี้ยอมใจเลย วันแรกก็ผ่านไปด้วยดีฉันกับเอลล่าเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น อีก 2 วันเราใกล้จะหมดจากการพักร้อน ฉันและเอลล่าพากันไปเล่นตรงชายทะเลเหมือนเดิม พวกเรานั่งกันจนเย็น ใกล้ถึงเวลากลับฉันก็เรียกหาเอลล่าบอกเธอว่าเราได้เวลากลับกันแล้ว เธอบอกว่าอยากให้ฉันถ่ายรูปให้เธอซักหน่อย เอาแบบเท่ห์ๆเลย ฉันก็เลยถามว่าแบบไหนคือเท่ห์ๆ เธอไปตรงโขดหินอันใหญ่ ฉันบอกกับเธอว่ามันอันตรายมากนะระวังด้วยล่ะ เธอบอกให้ถ่ายตอนโดนลงน้ำ ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรก็เลยตอบไปว่า ได้เลย


เอลล่าตั้งท่าของนักกีฬาว่ายน้ำพอฉันให้สัญญาณเธอก็กระโดดทันที ฉันถ่ายรูปเธอได้ไว้ "ซ่า ซ่า" หลังจากที่คลื่นเงียบลงฉันก็ตะโกนเรียกเธอว่าควรกลับได้แล้ว แต่...มันก็ไร้วี่แวว ไม่มีแม้แต่เสียงของเอลล่าเลย ฉันรู้สึกไม่ดีเลยตะโกนเรียกเธออยู่แบบนั้น จนกระทั่งฉันว่ามันท่าไม่ดีแล้วจึงตัดสินใจวิ่งกลับไปที่บ้านพักบอกเรื่องนี้ให้ พ่อกับแม่ ฉันรู้ พวกเขาตกใจมาก จึงรีบโทรหาความช่วยเหลือโดยด่วน นักประดาน้ำและทีมแพทย์ต่างๆมากันเยอะแยะมากมาย เพื่อตามหาน้องสาวของฉัน ในคืนนั้นทั้งคืน แม่ฉันร้องไห้หนักมากภาวนาว่าอย่าให้เธอเป็นอะไร มันทำเอาทั้งฉันแล้วก็แม่นอนกันไม่หลับ พอเช้ามาก็พบร่างของน้องสาวฉันและเธอเสียชีวิตแล้ว แม่และพ่อของเธอร้องไห้กันใหญ่ ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนน้ำตาคลออยู่แบบนั้น เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันกับแม่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง แม่มองว่าฉันเป็นสาเหตุการตายของน้องสาว ทั้งๆที่ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจและเสียใจไม่น้อยเหมือนกัน ไมเคิลไม่ถือโทษโกรธฉันเขารู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ 


เวลาผ่านไปหลายปีวันนึงฉันได้ไปรื้อค้นเจอกล้องตัวนึงที่ฉันเคยถ่ายรูปของเอลล่าไว้ ฉันไม่รอช้าที่เปิดดูมัน ฉันไปยังรูปสุดท้ายบองเอลล่าก่อนที่เธอจะหายไปแต่ว่าฉันก็ต้องตกตะลึง "นี่มันอะไรกันเนี่ย" รูปอันนั้นมันเป็นรูปที่เธอกำลังดิ่งลงน้ำเหมือนนกตัวใหญ่ฉากหลังที่เป็นพระอาทิตย์แดงฉาด และในทะเลก็มีเงาดำๆคล้ายๆมือคนอยู่เต็มไปหมด ฉันรู้สึกขนลุกมาก ฉันคิดมาตลอดว่ามือพวกนั้นมันกำลังต้องการวิญญาณของคนมาเพิ่มแน่ๆ ฉันรู้สึกผิดมากๆที่วันนั้นไม่ยอมห้ามเธอไว้ ถึงเรื่องนี้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม


ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของฉันจนจบนะ ถึงจะดราม่าเยอะและไม่ค่อยจะสนุกก็ตาม คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ ฉันควรโทษตัวเองไหมที่ทำให้น้องฉันต้องตาย


ช่วงนี้ฝนตกหนัก รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ที่ไหนน้ำท่วมเป็นกำลังใจ ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะครับ🙏