ลึกลับ,ฆาตกรรม,หักมุม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"เอ่าแล้วมีใครโทรแจ้งตำรวจหรือยัง"
สัปเหร่อเอ่ยถามผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบ บางคนก็ส่ายหน้าหรือไม่ส่งเสียงตอบอะไรจนมีเสียงของผู้หญิงรายหนึ่งที่ตะโกนพูดดังขึ้น
"โอ้ยป่านนี้มัวตั้งด่านเรียกเก็บเงินอยู่มั้ง"
คำพูดของหญิงสาวรายนี้เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมาก หลายๆคนต่างมองไปทางหญิงสาว ศพของเด็กผู้หญิงจึงถูกเลิกสนใจไปสักพักหนึ่ง
มันก็อาจจริงที่ตำรวจทำงานล่าช้าไม่สนใจประชาชน
หวิว วี่หว่อ วี่หว่อ วี่หว่ออออ!
เสียงไซเรนรถตำรวจดังเข้ามาตามตลอดเส้นทางจนมาถึงสถานที่ ที่สัปเหร่อและชาวบ้านพบเจอศพเด็กผู้หญิง แต่ศพของเด็กผู้หญิงถูกนำร่างขึ้นรถกู้ภัยไปก่อนหน้าหลายชั่วโมงแล้ว
พอรถตำรวจจอดนิ่งสนิทแล้วนั้นก็มีนายตำรวจนายหนึ่งเปิดประตูลงมา เขาก็ต้องสงนใจคิ้วขมวดที่ไม่พบเจอใครเลย แม้แต่ศพของเด็กผู้หญิงที่ได้รับแจ้งว่าอยู่บริเวณนี้ เขายืนนิ่งไปครู่หนึ่งหันหัวมองซ้ายขวาก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปในทันที
"เห็นไหม ตำรวจมันไม่สนใจ"
"เพราะเขาไม่เห็นใครหรือเปล่าเขาถึงกลับ ส่วนแกน่ะเป็นอะไรของแก เรียกตำรวจว่ามัน ตำรวจไปทำอะไรให้แก"
น้ำเสียงพูดของคนสองคนที่แอบซุ่มดูตำรวจ หลังจากตำรวจขับรถออกไปพวกเธอก็ส่งเสียงพูดคุยกัน
"พรุ่งนี้ฉันจะเล่าให้ฟัง"
เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก...
ยามเช้าวันถัดไป
เสียงไก่ขบขันปลูกผู้คนในยามเช้า สองหญิงสาวที่เมื่อคืนพวกเธอนั้นแอบซุ่มดูตำรวจ ทั้งสองพากันมานั่งพูดคุยในร้านขายน้ำชาร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่เลนถนนใหญ่มีรถราขับผ่านมากมายเรียกได้ว่าทำเลดี
"เฮียเอาชาดำมา2แก้ว"
"ชาดำ2แก้วนะ โอเคๆ"
หญิงสาวนามว่า 'รุ้ง' หันไปสั่งน้ำชากับ 'เฮียบุญมี' ผู้เป็นเจ้าของร้าน เฮียบุญมีหันมองหญิงสาวตอบรับคำสั่งของเธอก่อนจะหันไปชงชาต่อในทันที
"ขอบใจ แต่ถามหน่อยแกจะเล่าเรื่องอะไรของแกต้องมาเล่าที่ร้านค้าเลยเหรอนังรุ้ง"
'วิไล' ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับรุ้งขยับตัวเธอเองเข้าหารุ้งเพื่อเอ่ยถามแต่เธอเลือกใช้น้ำเสียงที่แผ่วเบาคล้ายกระซิบเลยก็ว่าได้
5ปีก่อน....
หญิงสาวนามว่ารุ้งเธอมีลูกชายคนหนึ่งนามว่า 'ริว' อายุ17ปี อยู่ในช่วงเป็นวัยรุ่นแม้เธอจะเลี้ยงดูแลอย่างดีแบบแม่เลี้ยงเดี่ยวแต่การตามใจมักเป็นผลเสียที่เธอไม่เคยรู้เลยว่าลูกชายของเธอเอารถมอเตอร์ไซค์ที่เธอซื้อให้ตามที่ลูกชายเธอร้องขอไปซิ่งตามถนนในยามดึกดื่นเป็นเด็กแว้นส่งเสียงรบกวนชาวบ้าน แม้ยามเช้าลูกชายของเธอจะดูเป็นเด็กเรียนขยันช่วยเธอทำงานบ้านทุกวัน เธอเล่าเรื่องลูกชายของเธอที่เสียชีวิตลงเพราะตำรวจขับรถปาดหน้าขว้างทางรถลูกชายของเธอ น้ำตาหยดไหลออกมาจากดวงตาสองข้างมือก็ใช้ปาดน้ำตาที่เปื้อนแก้มปากก็ยังขยับเล่าต่อ ความเร็วเกินขีดของการขับหมอบแล้วหักหลบรถจึงเสียหลักชนเข้ากับเสาไฟฟ้าทำให้ลูกชายของเธอคอหักเสียชีวิตคาที่ เธอบอกเล่าใส่เรื่องราวมากความเข้าไปเพิ่มเติม แม้เธอจะรู้ในภายหลัง หลังจากที่เธอไปรับศพลูกชาย เธอร้องเรียนตำรวจกลับถูกชาวบ้านสาปแช่งตัวเธอไปพร้อมกับลูก เธอจึงต้องย้ายออกจากหมู่บ้านนั้น ก่อนที่เธอจะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนี้จนปัจจุบัน
"ตำรวจฆ่าลูกชายของฉัน ลูกฉันคอหักตายคาที่"
น้ำเสียงที่กัดปากสะอื้นร่างกายสั่นไหว ถึงอย่างงี้เธอก็ไม่หยุดที่จะเล่า ปากของเธอกำลังจะขยับพูดต่อก็ได้ถูกวิไลใช้มือปิดปากของเธอไว้
"พอๆหยุดๆ ฉันสงสารแกล่ะนังรุ้ง"
"ทำไมไม่เขียนชื่อตำรวจด้วยปากกาแดงล่ะ"
สองสาวทั้งรุ้งและวิไลหันหน้ามองไปทางเฮียบุญมีพร้อมๆกัน เฮียบุญมีเดินถือถาดที่มีน้ำชาตรงมาทางโต๊ะของรุ้งกับวิไลเขายื่นวางไว้บนโต๊ะก่อนจะมองกลับสองสาวเช่นกัน
"ช้ามากนะเฮีย พึ่งจะได้"
วิไลบ่นอุบในทันทีที่เหมือนหลุดออกจากอาการเหม่อค้างเมื่อครู่ ยกเว้นเเต่รุ้งยังมองค้างเฮียบุญมีตลอดแม้เฮียบุญมีจะกลับไปชงชาให้ลูกค้าท่านอื่นต่อแล้ว
"นังรุ้งๆ"
แปะ.....
"อะไรเนี่ยนังวิไล"
วิไลกำลังดื่มลิ้มรสชาดำอยู่นั้นเธอก็รู้สึกมองเห็นรุ้งผิดปกติไปเธอจึงตะโกนเรียกชื่อแต่รุ้งก็ยังนิ่งเฉยเหมือนคนเหม่อลอยเหมือนกับเธอที่เป็นก่อนหน้าแต่รุ้งนั้นนิ่งไปนานกว่า เรียกแล้วก็ยังไม่มีอาการตอบสนองรับเธอจึงลองตบมือเธอเองตรงต่อหน้ารุ้ง จนรุ้งมีสติกลับคืนพร้อมด้วยคำบ่นเล็กๆ หลังจากดื่มชากันเรียบร้อยแล้วเมื่อออกมาจากร้านทั้งสองสาวก็แยกย้ายกันกลับบ้านตนเอง
ยามบ่าย
"เล่นพนันก็เสียหมดตัวโอ๊ยเซ็งคงต้องกลับไปหาเจ้าหลานชายซะหน่อย นั้นอีนังรุ้งนี่"
'นิภา' สาววัยกลางคนเอ่ยคำดั่งกล่าวออกมาอย่างคนคุ้นเคยกับรุ้ง เธอยืนบ่นคำสบถคนเดียวแต่เสี้ยวสายตาเธอมองเห็นรุ้งเหมือนยืนรอใครสักคนอยู่ในซอกซอยทำตัวลับๆล่อๆกระสับกระส่ายร้อนรนใจ ในขณะนั้นรุ้งก็เดินออกไปที่ตรงนั้นนิภาเธอจึงเดินตามไปแบบทิ้งระยะห่างไม่ให้รุ้งรู้ตัวว่าเธอแอบตามมา ทำไมถึงต้องตามมาหนะเหรอเพราะรุ้งเคยเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับเธอ หลังจากรุ้งย้ายออกจากหมู่บ้านไม่มีใครรู้ว่ารุ้งไปอยู่ที่ไหน จนเธอได้มาเห็นกับตาตัวเองจากการชื่นชอบเล่นพนันไปทุกหมู่บ้านที่ไหนมีเล่นเธอก็จะไปหมด เธอตามรุ้งมาจนเห็นว่ารุ้งนั่งอยู่ในร้านขายน้ำชา
"เฮียที่พูดเมื่อเช้าหมายความว่าไง"
"อั๊วว่าแล้วอารุ้งลื้อต้องอยากรู้"
"มันพูดอะไรกันวะ"
แม้นิภาจะอยากได้ยินเสียงคนสองคนพูดคุยกันแต่เธอก็เข้าไปใกล้มากไม่ได้ ทั้งสองคนนัดแนะกันอีกทีในเวลาที่คนนอนหลบถึงจะไม่ได้ยินเสียงเลยนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะนิภาก็แอบตามรุ้งอยู่ตลอดจนครั้งนี้เธอได้ยินแล้วว่าคนทั้งสองคุยอะไรกัน
"ถ้าลื้อเขียนชื่อตำรวจด้วยปากแดง แล้วหมึกปากกาซึมหายไปเอง แปลว่า ตำรวจนั้นตาย"
"จริงหรือเฮีย"
"มันเป็นความเชื่อมาจากตระกูลอั๊ว ครอบครัวอั๊วก็เคยเสียชีวิตเพราะตำรวจ"
06:00น.
เสียงนาฬิกาปลูกภายในห้องนอนของต๊ะดังขึ้นเขาจึงเอื้อมมือไปปิดพร้อมดีดตัวเองลุกขึ้น เขาเอาผ้าห่มที่คลุมร่างกายเขาออกก่อนจะลุกเดินตรงไปอย่างห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่ก่อนหน้านั้นเขาได้หยิบผ้าขนหนูมาด้วยแล้ว หลังแต่งตัวชุดนักเรียนเรียบร้อยเขาก็มายืนอยู่หน้าบ้านเพื่อกินข้าวที่เขาทำเองอย่างเร่งรีบ
"ว่าไงหลานรักไม่เห็นตั้งนาน น้าคิดถึงแกเหลือเกิน"
เขาไม่ตอบกลับหรือสนใจน้าของเขาเลยด้วยซ้ำเขายังคงเร่งกับเวลาต่อไป นิภาเธอจึงงัดไม้เด็ดออกมาเพราะคิดว่าถ้าบอกเรื่องนี้ไปหลานชายเธอต้องสนใจอย่างแน่นอน
"น้ามีเรื่องหนึ่งที่ว่าเขียนชื่อใครด้วยปากกาแดง แปลว่า ต้องการให้คนๆนั้นตาย"
ไม่รู้ว่าข้าวจะติดคอเขาไหมเพราะเขาหยุดการเคี้ยวหันไปมองน้าตัวเอง เธอที่เห็นหลานชายมีความสนใจก็แสยะยิ้มออกมาอย่างคนมีชัย
"น้าขอเงินแกหน่อย น้าอุตส่าห์บอกเรื่องนี้กับแก น้ารู้ว่าแกสนใจ ถือเป็นค่าตอบแทน''
ต๊ะไม่ได้ตอบกลับอะไรน้าของเขาไปเหมือนเคยแต่กลับยื่นจานข้าวให้น้าของเขาพร้อมกับเปิดฝาขวดน้ำเพื่อดื่มน้ำที่เขาเหน็บใต้รักแร้ก่อนจะยื่นขวดน้ำให้น้าเช่นเดิม แล้วจากนั้นเขาก็เดินออกไปตามถนนเพื่อมุ่งหน้าไปโรงเรียน
"ไอ้หลานเฮงซวย ฉันอุตส่าห์เลี้ยงดูแกขอเงินแค่นี้ก็ไม่ได้"
เธอเกิดอารมณ์โมโหในทันทีจึงสาดคำด่าไล่หลังหลานตัวเอง
ภาพและคำพูดทั้งหมดถูกไผ่เห็นและได้ยิน เขาจึงหลบเลียงใช้เส้นทางอื่นผ่านเพราะปกติเขาจะต้องผ่านบ้านของต๊ะ ทำให้วันนี้เขาเข้าเรียนสาย
"เฮ่ยวันนี้ไอ้ไผ่มาสายวะ"
เทมป์พูดแซวเสียงดังในตอนที่ไผ่เดินเข้ามาในห้องเรียนให้เพื่อนๆคนอื่นๆได้ยินทุกๆคนต่างส่งเสียงหัวเราะยกเว้นแต่ต๊ะเท่านั้น ไผ่ฉุนเฉียวในทันทีจึงเข้าไปคว้าเสื้อของเทมป์กำมือหง่ามจะต่อยเทมป์
"เอาดิ กูยังไม่ได้คิดบัญชีมึงในวันนั้นเหมือนกัน"
ไผ่ทำท่าจะต่อยเทมป์อยู่แล้วแต่ก็มีเสียงของฝีเท้าเดินเข้ามาพร้อมน้ำเสียงที่ดูสุขุม
"นี่พวกเธอสองคนทำอะไรกัน"
น้ำเสียงที่ไม่ใช่เสียงของครูกวิตาดั่งเดิมแต่เป็นเสียงของครูผู้ชาย
"กลับไปนั่งที่ของพวกเธอครูจะไม่ทำโทษเธอสองคน แต่อย่าให้ครูเห็นอีก"
"ครูมาผิดห้องไหมคะ ห้องนี้ครูกวิตาเป็นคนสอนนะคะ"
"นั้นสิครูกวิตาไปไหน"
"ครูคนนี้มาจากไหนกัน"
เสียงซุบซิบเริ่มดังเข้ามาจากเด็กนักเรียนที่อยู่ภายในห้องด้วยความสงสัย
"เอ่าเงียบๆนะเด็กๆ ครูขอแนะนำตัวเอง ครูชื่อว่าวิทยา ครูจะมาสอนแทนครูกวิตานะ"
"แล้วครูกวิตาไปไหนเหรอคะ"
"เรื่องนี้ครูก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ครูได้รับหน้าที่มาสอนแทนนะ"
หลังจากบอกที่มาของตัวเขาแล้วเขาก็เริ่มทำการสอนในทันที
มือสี่มือจับด้ามปากกาสีแดง เขียนชื่อใครกัน ?
"กรี๊ดดดด.."
"มีอะไร เป็นอะไรถึงกรี๊ด"
"ผอ. ผอ.สุขอนันต์เสียชีวิตแล้ว
คุณครูหลายๆคนต่างพากันมามุงดูบางคนก็กรี๊ดร้องให้กับภาพตรงหน้า คือผอ.สุขอนันต์ที่นอนเสียชีวิตตรงทางเดินใกล้ห้องผู้อำนวยการ