…เขาน่ะเป็นภัยต่อหัวใจที่อ่อนแอของเธอซะเหลือเกิน…

Love Twenty - Chpater 2 Gray Sky โดย ผันพลอย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,รักโรแมนติก,รักมหาลัย,ผันพลอย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Love Twenty

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักโรแมนติก,รักมหาลัย,ผันพลอย,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

…เขาน่ะเป็นภัยต่อหัวใจที่อ่อนแอของเธอซะเหลือเกิน…

ผู้แต่ง

ผันพลอย

เรื่องย่อ

ในวันรับปริญญา แพรวาตัดสินใจจะสารภาพรักกับจิรเมธ แต่แทนที่เธอจะรอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม แพรวากลับเลือกที่จะปฏิเสธที่จะรับฟังคำตอบของชายหนุ่ม


คำตอบของจิรเมธคือสิ่งหญิงสาวกลัวที่จะได้ยินที่สุด หญิงสาวไม่มั่นใจว่าตัวเธอจะรับความผิดหวังได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าต้องเลือกเธอขอแค่ได้บอกความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มและขอแค่มีเขาอยู่ในส่วนลึกของหัวใจก็เพียงพอแล้ว

แต่สุดท้ายเส้นทางของแพรวาก็วนกลับมาเจอกับเส้นทางของจิรเมธอีกครั้ง

—————————————————

“ถ้างั้นทำไมตอนนั้นเธอถึงไม่รอฟังตำตอบของฉันล่ะ ทำไมถึงเมินคำตอบและความรู้สึกของฉัน”

“มะ…ไม่ ฉันไม่อยากรู้”

“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะทนรับความผิดหวังได้มากแค่ไหน”

“แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าตัวเองจะผิดหวัง”

—————————————————

สารบัญ

Love Twenty -Chpater 1 Congenital Heart Disease,Love Twenty -Chpater 2 Gray Sky,Love Twenty -Chpater 3 Thanks,Love Twenty -Chpater 4 Declare Love!,Love Twenty -Chpater 5 Love Reture,Love Twenty -Chpater 6 Infatuated with you ,Love Twenty -Chpater 7 Change,Love Twenty -Chpater 8 What’s wrong with me ,Love Twenty -Chpater 9 Love Lessons ,Love Twenty -Chpater 10 Faded Recollection ,Love Twenty -Chpater 11 Run into,Love Twenty -Chpater 12 First time,Second time ,Love Twenty -Chpater 13 Secretary ,Love Twenty -Chpater 14 Mother ,Love Twenty -Chpater 15 Irritated ,Love Twenty -Chpater 16 Understand of sibling,Love Twenty -Chpater 17 Flowe garden of Pearl ,Love Twenty -Chpater 18 Naked ring finger ,Love Twenty -Chpater 19 The red wedding ,Love Twenty -Chpater 20 The Ending

เนื้อหา

Chpater 2 Gray Sky

เวลา 01:27 AM

ผิวขาวเนียนรู้สึกเย็นวูบจากผลเย็นที่พัดเข้ามาภายในห้อง ร่างบางหยิบสมุดเล่มโปรดขึ้นมาเปิดหน้าที่ยังคงว่างเปล่าขาวโพลน ก่อนจะจรดปากกาเส้นสีดำลงบนหน้ากระดาษบันทึกความทรงจำที่เกิดขึ้น

การเขียนไดอารี่ช่วยให้เธอไม่หลงลืมเรื่องราวดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่หลงลืมอะไรได้ง่าย ๆ แต่เธอก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเธอจะสามารถจดจำเรื่องราวต่างได้ด้วยตัวเธอเอง เรื่องราวของจิรเมธก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ ที่หญิงสาวอยากจะจดจำเอาไว้ไปตลอด



เช้าวันใหม่อันแสนสดใสสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่คงไม่ใช่กับหญิงสาวอย่างแพรวา ทั้งที่ต้องออกไปทำงานพิเศษเลิกงานดึก ๆ ดื่น ๆ แล้วยังต้องมาทำงานบ้านให้กับทุกคนอีก

แพรวาต้องมาแต่เช้าเพื่อตระเตรียมอาหารสำหรับทุกคนภายในบ้าน จัดการงานบ้านในช่วงเช้าก่อนไปเรียน บางครั้งก็อาจจะมีคำตำหนิติเตียนจากธนิธิดาอยู่บ้างเวลาที่หญิงสาวทำอะไรให้รู้สึกไม่พอใจ

“ยัยแพร! แกไม่คิดจะทำอย่างอื่นเลยงั้นเหรอ? เอาแต่ทำแค่ไข่ดาวกับขนมปังปิ้ง หน้าของฉันจะกลายเป็นไข่ดาวอยู่แล้วนะ” เสียงของชวิศามีน้ำเสียงที่ติดหงุดหงิดหน่อย ๆ เพราะอาหารเช้าแบบเดิม ๆ ที่แพรวาเป็นคนทำ

ชวิศา พันธ์วรามีศักดิ์เป็นพี่สาวของแพรวาตามลำดับญาติ เจ้าหล่อนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของธนิธิดา ญาติผู้พี่เป็นผู้หญิงตัวสูง เจ้าหล่อนมีส่วนสูงมากถึง 167ซม. น้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์ที่สมส่วน หน้าอกไซซ์ใหญ่กลมคลึงไร้การเสริมเติมแต่งยิ่งบวกรวมกับเอวบางคอดกิ่วความหนากว้างน่าจะราว ๆ 23นิ้ว ถือได้ว่ารูปร่างของเจ้าหล่อนเป็นส่วนสัดทองคำที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันถึง แม้แต่แพรวาเองยังรู้สึกอิจฉาในรูปร่างของญาติผู้พี่

“ก็แพรมีเวลาไม่มากนี่ค่ะ ไว้วันไหนแพรพอมีเวลาจะทำอย่างอื่นให้นะคะพี่ศา”

“แล้วแม่ของฉันหายไปไหนตื่นมาฉันยังไม่เห็นเลย แกเห็นหรือเปล่า?” ชวิศาเอ่ยถามถึงผู้เป็นแม่

“ไม่รู้สิคะ แพรเองก็ไม่เห็นมาตั้งแต่เช้าแล้ว คงจะออกไปทำงานแล้วล่ะมั้งคะ”

“เอ้อ..หายไปไหนของเขานะ”

“แกมีเรียนไม่หรือยังไง ไปได้แล้วไป๊!!!” ชวิศาออกปากไล่อย่างนึกรำคาญจากเรื่องก่อนหน้านี้

แพรวาได้แต่จัดการงานบ้านช่วงเช้าให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะออกจากบ้านเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย เสื้อนักศึกษาไซซ์ใหญ่กว่าตัว สีขาวสะอาดตา กระโปรงนักศึกษาทรงเทนนิสคือเครื่องแบบนักศึกษาที่เธอใส่เป็นประจำ ร่างบางออกจากบ้านก่อนเวลาเจ็ดโมงเช้าเพื่อไปให้ทันเวลาเข้าเรียน



มหาวิทยาลัย xxx

แพรวาเดินผ่านประตูของมหาวิทยาลัยไม่ทันไร โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าคร่ำครึที่ได้ใช้ต่อจากชวิศากำลังแผดเสียงดังออกมาจากกระเป๋าผ้าใบใหญ่ มือบางควานหาอยู่ชั่วครู่ปลายสายไม่ใช่ใครอื่นแต่คือธนิธิดาป้าแท้ ๆ ของเธอ

“ค่ะป้า มีอะไรหรือเปล่าคะ? ทำไมถึงได้โทรมาหาหนูตอนนี้ล่ะคะ?” แพรวาเอ่ยถาม

(ยัยแพร! ตอนนี้แกมีเงินติดธนาคารอยู่เท่าไร?) คำถามจากปลายสายทำเอาแพรวารู้สึกใจสั่นรัว

ร่างบางเดินหลีกจุดที่คนพลุกพล่านไปยังหลังตึกย่อยที่สองคือจุดที่ไม่ค่อยมีใครแวะเวียนมาเท่าไรนัก

“ป้าถามไปทำไมคะ? ป้าจะขอเงินแพรอีกแล้วงั้นเหรอคะ?”

(อะไรยัยแพร!!! เงินแค่ไม่กี่บาทจะอะไรหนักหนาแกอย่าลืมนะว่าฉันเลี้ยงดูแกมาต้องกี่ปีแล้ว ฉันเดือดร้อนแกก็ควรจะให้การช่วยเหลือโดยที่ไม่ต้องถามอะไรสิ)

“แพรไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะคะ แต่เงินที่ป้าพูดถึงมันก็จำเป็นสำหรับแพรเหมือนกันนะคะ”

“ถ้าแพรให้เงินนั้นกับป้าไปแล้วแพรจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะคะ?” แพรวาพยายามอธิบายความจำเป็นของเงินที่มีต่อเธอยังไง

(อย่าพูดมากความได้ไหมยัยแพร!!! ตกลงแกมีเงินอยู่เท่าไร?!!)

(รีบ ๆ บอกมาได้แล้ว อย่ามาประวิงเวลาได้ไหม? มันเสียเวลาของฉันนะ!!!) เสียงตวาดจากปลายสั่นสะเทือนเข้าโสตประสาทอย่างชัดเจน

“แพรมีเงินอยู่ประมาณหมื่นหนึ่งค่ะ แต่ว่าแพร…”

(ดี!!! ถ้างั้นก็รีบ ๆ โอนมาให้ฉันได้แล้ว!!!)

“แต่ป้าคะ…”

(อย่าพูดให้มากความได้ไหม? ฉันต้องรีบใช้เงินนั้น)

(เร็ว ๆ ฉันให้เวลาแกห้านาที ถ้าเลยห้านาทีแล้วแกยังไม่โอนเงินมา แกเจอดีแน่!!) ก่อนที่ปลายสายจะตัดไปทั้งอย่างนั้น

หญิงสาวมองหน้าจอโทรศัพท์มือถืออย่างท้อใจ ไร้ซึ่งทางเลือกทำได้เพียงแค่กดโอนเงินทั้งหมดที่มีอยู่ให้กับธนิธิดาไป ร่างบางค่อย ๆ ทรุดตัวลงซุกใบหน้าลงกับหน้าขาก่อนจะปลดปล่อยน้ำตาออกมา

สัมผัสบางเบาจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ กำลังถูไถเข้ากับข้อเท้าและเอวบางอย่างออดอ้อนขอความสนใจจากร่างบางหรือไม่ก็อาจจะกำลังปลอบเธอที่กำลังร้องไห้

ลายสลิดสีเทาให้ความรู้สึกอันแสนอบอุ่น หญิงสาวมองตามความเคลื่อนไหวของตัวน้อยนั้นช้า ๆ ก่อนที่มาจะหยุดนั่งลงตรงหน้าของแพรวาก่อนที่จะ…

“เหมียว~~~” เสียงร้องเล็กแหลมของลูกแมวลายสลิดสีเทา ดูจากสายตากะเกณฑ์ดูแล้วคงจะอายุประมาณสามสี่เดือนได้ล่ะมั้ง มือบางลูบเจ้าก้อนขนไปมาด้วยความเอ็นดู

“แกคงจะเหมือนฉันสินะ กำพร้าพ่อกำพร้าแม่เหมือนกันสินะ เรา…มาเป็นเพื่อนกันไหม”

“อืม…ฉันควรจะเรียกแกว่าอะไรดีนะ…อืม…” แพรวามองเจ้าลูกแมวตัวน้อยเพื่อลองหาจุดเด่นบนร่างกายของมัน ลายสลิดสีเทาอันแสนอบอุ่น…สีเทา…

“สีเทา~~”

“ชื่อนี้ดีไหม? สีเทา” แพรวาเอ่ยถามความคิดเห็นจากเจ้าลูกแมวตัวน้อยราวกับว่ามันจะตอบคำมาอย่างไงอย่างนั้น

ดวงตาสีฟ้ามองตรงมายังใบหน้าของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตะเกียกตะกายออกจากมือบางของแพรวาและหนีหายไปตามรอยแตกของกำแพง หญิงสาวได้แต่มองตามอย่างเศร้าใจ น้ำตาที่เหือดแห้งไปก่อนหน้านี้เริ่มกลับมาเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง

ความเศร้าที่เข้าแทรกซึมภายในหัวใจช้า ๆ ก่อนที่มันจะหยุดชะงักเพราะเสียงเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แพรวารู้สึกอายที่มีคนเข้ามาเห็นเธอตอนที่กำลังร้องไห้ มือบางพยายามปาดรอยน้ำตาบนใบหน้าหวานทิ้ง

ร่างบางค่อย ๆ หันหลังกลับไปช้า ๆ ลอบมองคนที่เดินเข้ามา ใบหน้าอันแสนคุ้นเคยเดินเข้ามาพร้อมกับกลิ่นของบุหรี่อ่อน ๆ ที่ลอยมาตามลม



…ชายหนุ่มที่ซ่อนอยู่ภายในหัวใจของเธอมาตลอด…

…ชายหนุ่มที่เป็นอันตรายต่อหัวใจของเธอ…

…ชายหนุ่มที่เธอแอบมองอยู่ตลอด…

…ชายหนุ่มคนที่เธอแอบชอบ…

…จิรเมธ…



“…เมฆ…” น้ำเสียงสั่นเครือที่เจือปนไปด้วยความเศร้า หญิงสาวพยายามเช็ดน้ำตา ก่อนจะยืนขึ้นแต่แข้งขากลับอ่อนปวกเปียกจนจะล้มแหล่มิล้มแหล่ แต่ก็ได้แขนแกร่งเข้ามารับเอาไว้ก่อนจะล้มหน้ากระแทกพื้น

“เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“ขาชางั้นเหรอ?” จิรเมธเอ่ยถาม

“ขอโทษนะ ขอโทษ” จิรเมธค่อย ๆ ประคองแพรวาให้พอยืนทรงตัวได้ ก่อนที่จะใช้นิ้วเรียวยาวปาดคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่ตรงหางตา

“โทษทีฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังเรื่องของเธอ แต่ถ้าเธออยากระบายความอัดอั้นตันใจอะไรก็มาระบายกับฉันก็ได้ ฉันจะรับฟังเธอเอง แพรวา”

คำพูดของชายหนุ่มเหมือนการปลดล็อกความรู้สึกมากมาย นอกจากมารียาแล้วแพรวาก็ไม่มีใครอื่นที่สามารถจะระบายความในใจออกมาได้ หลายต่อหลายครั้งที่แพรวาต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้เพียงคนเดียว แต่วันนี้กลับมีคนเดินเข้ามารับฟังคำรู้สึกภายในใจของเธอ

ร่างบางไม่ได้ระบายอะไรออกมาทำเพียงแค่ทิ้งตัวลงซบกับอกแกร่ง ปลดปล่อยน้ำตาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกมา มือหนาลูบปลอบแผ่นหลังบางที่สั่นเทาจากการร้องไห้ ทำหน้าที่เป็นที่พักพิงที่ดีไม่ได้พูดอะไรมากความ มันเป็นเพียงแค่การกระทำเบา ๆ ที่ใส่ใจ

เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ ชายหนุ่มกอดร่างบางของหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมกอดอย่างนึกห่วง หลังจากการร้องไห้อย่างนึกแพรวาก็ผล็อยหลับทั้งอย่างนั้น

ลมหายใจคงที่หลับสบายราวกับนอนอยู่บนฟูกนอนหนานุ่มของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังนอนอยู่บนตักของเขาและใช้อกแกร่งของเขาเป็นหมอนหนุนนอน อาจารย์เจ้าของคลาสเรียนคงจะเริ่มคลาสไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว

นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ชายหนุ่มโดดเรียนชายหนุ่มเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมาเป็นอันดับแรก แต่ในครั้งนี้กลับไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแย่เลยแม้แต่น้อย

จิรเมธใช้เวลาพินิจมองใบหน้าอันแสนบอบบางของหญิงสาวในอ้อมกอด องค์ประกอบต่าง ๆ บนใบหน้าหวานถูกผสมอย่างลงตัว ทั้งดวงตากลมโตนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มรับเข้ากับคิ้วทรงตรงที่ถูกขีดเขียนขึ้นมาด้วยดินสอเขียนคิ้ว จมูกรั้นและริมฝีปากบาง เส้นผมสีน้ำตาลธรรมชาติยาวสลวยที่เคยถูกมัดเก็บเอาไว้อย่างเรียบร้อย ถูกปล่อยให้เป็นอิสระจากมือของจิรเมธเองด้วยความที่กลัวว่าหญิงสาวจะหลับไม่สบาย

“คงจะเหนื่อยสิท่า ถึงได้หลับอย่างสบายใจอยู่บนตัวของคนอื่นแบบนี้” ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มบาง ๆ ของแพรวาไปมาด้วยความเอ็นดู แต่ดูเหมือนนั่นจะเป็นการรบกวนหญิงสาวซะมากกว่า

ร่างบางเริ่มขยับตัวไปมาพยายามหลบหลีกสิ่งที่เข้ามารบกวนการนอนของเธอ ท่าทางสะลึมสะลือของแพรวาสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง

“ตื่นแล้วงั้นเหรอ?”

“หือ?” หญิงสาวยังตื่นไม่เต็มตาหันมองไปมาเพื่อหาที่มาของเสียง

“เมฆงั้นเหรอ?”

“หลับไปแป๊บเดียว ตื่นมาก็ลืมหน้าของฉันไปแล้วงั้นเหรอ?” แพรวามองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลับใส่นายแต่…แต่มันเหนื่อยนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำด้วย”

“เธอโอเคแล้วใช่ไหม?”

“รู้ไหมตอนที่เธอหลับไปทำเอาหัวใจฉันตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยนะ ไม่รู้ว่าเธอหลับไปเพราะอะไรกันแน่หรือว่าป่วยเป็นโรคอะไรหรือเปล่า”

“ทำไมละก็แค่ผล็อยหลับไปแค่นั้นเองไม่ใช่เหรอ? มันก็เหมือนกับทุก ๆ ที”

“ถ้าเป็นคนธรรมดาก็จะมองว่ามันไม่แปลก แต่ถ้ามองในทางการแพทย์มันมีอะไรที่มากไปกว่านั้นนะ”

“แม้ว่าอาการมันจะไม่ได้ร้ายแรงอะไรแต่ถ้าเกิดในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงอาจอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะรู้ไหม”

“งั้นเหรอ? น่ากลัวจังเลยนะถ้าเกิดหลับไปแล้วไม่ตื่นขึ้นอีกเลย มันจะเกิดขึ้นกับฉันไหมนะ” ใบหน้าหวานก้มลงเล็กน้อยพยายามซ่อนใบหน้าที่เศร้าสร้อยของตัวเธอเอง

มือหนาช้อนใบหน้าขึ้นให้เธอมองตาของเขา สายตาของเขามันอย่างอ่อนโยนจนหัวใจของแพรวารู้สึกอ่อนยวบ “ทำไมถึงได้คิดแบบนั้นล่ะ”

“นาย นายก็ได้ยินมาใช่ไหม? ข่าวลือที่พวกเขา…พูดถึงฉันนะ ที่จริงมันเป็นเพราะโรคประจำตัวของฉันนะ”

“ฉันเป็นโรคหัวใจ ถึงมันจะเป็นแค่แบบที่ไม่ค่อยรุนแรงเท่าแบบอื่น ๆ แต่มันก็ทำให้ชีวิตของมีข้อจำกัดมากมาย”

“ไม่มีใครรู้เลยงั้นเหรอ?”

“มีเพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่ง แต่พวกเพื่อนในคณะไม่มีใครรู้หรอก ถึงอยากจะอธิบายให้ฟังแต่ไม่มีใครอยากจะฟังหรอก พูดไปก็เหมือนคำแก้ตัวที่เอาอาการป่วยมาเป็นข้ออ้างเปล่า ๆ”

“แล้วเธอมีความสุขงั้นเหรอ?”

“ฉันไม่ได้สนใจคนที่ไม่คิดจะรับฟังคำพูดของฉันหรอก ฉันอยากจะให้ความสำคัญกับคนที่รับฟังฉันและคนที่ฉันอยากให้ความสำคัญเท่านั้น”

“หนึ่งในจำนวนนั้นมีฉันรวมอยู่ด้วยหรือเปล่า? แพรวา” สายตาของคนทั้งคู่เหมือนถูกตรอกตรึงให้หยุดอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่แพรวาอยากจะให้มันนานกว่านี้อีกหน่อย

“ไอ้เมฆ!!!” เสียงของใครบางคนเอ่ยเรียกจิรเมธด้วยชื่อเล่นกำลังเดินเข้ามา แพรวาพยายามลุกจากตักของชายหนุ่ม ท่าทีลนลานจนทำอะไรไม่ถูก แต่กลับดูน่ารักในสายตาของจิรเมธ

“ฉะ…ฉันไปก่อนนะ ขอบคุณที่คอยอยู่เป็นเพื่อน”

“ลาก่อน…” หลังจากบอกลาจิรเมธ แพรวาก็เก็บข้าวของของเธอเดินไปอีกทิศทางกับต้นเสียงก่อนหน้านี้

จิรเมธมองตามแผ่นหลังของแพรวาไปจนลับสายตา พร้อม ๆ กับที่เพื่อนสนิทของเขาทั้งสองคนเดินเข้ามาพอดี

“อยู่นี่เอง” รังสิมันต์เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเอ่ยพูดขึ้นเป็นคนแรก

“มึงรู้ไหมว่าตอนที่ไอ้ตะวันโทรมาบอก กูแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างมึงจะโดดเรียนมาอยู่นี่ แค่ออกมาเติมไม่ใช่หรือยังไง”

“กูแค่ขี้เกียจ มันจะอะไรกันนักกันหนากะอีแค่โดดเรียนไปคาบหนึ่ง ทำอย่างกับว่ามึงไม่เคยโดดเรียนไปได้” จิรเมธลุกขึ้นเดินเข้าหาเพื่อนของเขาทั้งคู่

“ถ้าคนที่โดดเรียนมันคือกู มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก แต่กลับคนที่ไม่ทำอะไรนอกจากเรียนหนังสืออย่างมึงแล้ว มันน่าสงสัยนะ ว่าไหม?” รังสิมันต์เอ่ยปากพูดด้วยสีหน้ายียวนกวนประสาท

“มึงมีแฟนใช่ไหม ไอ้เมฆ?” ธนัทตะวันเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพื่อนสนิทคนนี้มีนิสัยที่คล้ายคลึงกับจิรเมธแต่เหมือนจะนิ่งเงียบเสียกว่า

“มึงรู้ได้ยังไงไอ้ตะวัน หรือว่ามึงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไอ้เมฆมันแอบมาเจอผู้หญิงที่นี่” รังสิมันต์เอ่ยถามอย่างสงสัย หันมองเพื่อสนิททั้งสองคนสลับไปมา

“เปล่า แต่ยางรัดผมนั้นต่างหาก”

“ยางรัดผมของผู้หญิง?” ธนัทตะวันชี้ปลายนิ้วตรงไปยังยางรัดผมตรงข้อมือของจิรเมธ ทำให้จิรเมธรู้ว่าเขาลืมคืนมันกับตัวเจ้าของ

“ยังไง ยังไง แอบซุกสาวเอาไว้ไม่ยอมบอกเพื่อนเลยนะมึง” รังสิมันต์ยังคงมีความสุขกับการเอ่ยปากแซวจิรเมธ

“พูดมากไอ้เจมส์”

จิรเมธเดินเลี่ยงออกจากวงสนทนาทิ้งเพื่อนสนิททั้งสองเอาไว้ข้างหลัง ข้อมือของเขาคงต้องเป็นที่พักพิงของยางรัดผมเส้นนี้ไปอีกสักระยะก่อนจะส่งมันคืนให้เจ้าของของมันในวันหลัง