ในเมื่อสองมือสองเท้าเรามีเท่าคนอื่น แล้วเหตุใดจึงต้องกลัวว่าครอบครัวจะอดตาย
ครอบครัว,จีน,ครอบครัว,นิยายจีนโบราณ,หนิงหนิงจิ๋วจี๊ด,พล็อตสร้างกระแส,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ม่านหนิงฮวาเกิดใหม่เพื่อมาช่วยมารดาเลี้ยงน้องในเมื่อสองมือสองเท้าเรามีเท่าคนอื่น แล้วเหตุใดจึงต้องกลัวว่าครอบครัวจะอดตาย
เชื่อเรื่องเกิดใหม่หรือเปล่า? ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ตายแล้วไปไหนหรือตายแล้วเกิดใหม่อะไรพวกนั้นแต่หลังจากที่เบญญาหมดอายุขัยของตัวเองลงไปตามเงื่อนไขธรรมชาติของมนุษย์สิ่งแรกที่เธอพบคือโลกหลังความตายที่วุ่นวายอีนุงตุงนัง
หลังจากกลับมาจากตลาดในตำบลม่านหนิงฮวาก็เริ่มทำการทดลองหมักซีอิ๊วด้วยวัตถุดิบที่ตนเองมีอยู่ในมืออะไรที่ดัดแปลงได้ก็พยายามที่จะทำเพราะไม่รู้จะหาวัตถุดิบที่เหมือนกับชีวิตก่อนของตัวเองได้ที่ไหน โดยวัตถุดิบหลักๆ ในการหมักซีอิ๊วนั้นก็มีถั่วเมล็ดแห้งไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง ถั่วดำ หรือถั่วแดงก็ใช้ได้ทั้งนั้นแต่ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและได้รับความนิยมในการนำมาใช้ก็คงไม่พ้นถั่วเหลืองและนอกจากนั้นก็จะเป็นใบหม่อนหรือใบตำลึง ผลไม้รสเปรี้ยว น้ำตาล และเกลือ
โดยถ้าจะให้ได้ซีอิ๊วหมักที่ดีมีรสชาติกลมกล่อมก็ต้องใช้เวลาหมักทั้งไว้ครึ่งถึงหนึ่งปีขึ้นไปซึ่งระหว่างการทดลองนี้ม่านหนิงฮวาเลือกสูตรหมักมาสามสูตรและใช้วัตถุดิบเพียงเล็กน้อยแค่เพียงหนึ่งไหเล็กเมื่อครบหนึ่งเดือนก็ลองเปิดชิมดูหากสูตรไหนมีรสชาติถูกใจก็จะเลือกมาหมักและเพิ่มสัดส่วนให้เหมาะสมกับการหมักในไหขนาดใหญ่ขึ้นแต่ระหว่างที่รอซีอิ๊วหมักได้ที่เด็กหญิงก็ใช้เงินแก้ปัญหาโดยการซื้อซีอิ๊วหมักที่มีขายในท้องตลาดมาปรุงรสเพิ่มและใช้ดองผักไปพลางๆ ก่อน
จนถึงตอนนี้ผักดองสกุลม่านนั้นก็มีมากมายหลายสูตรให้เลือกได้ตามความพอใจไม่ว่าจะเป็นผักดองเค็มธรรมดาที่ควรมีติดบ้านไว้ ผักดองสามรสและผักดองสามรสสูตรเผ็ดที่สามารถกินเป็นเครื่องเคียงในมื้ออาหารเพื่อตัดเลี่ยนและช่วยให้เจริญอาหารได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือผักดองซีอิ๊วที่นิยมใช้ผักเนื้อแข็งมาทำเช่นแกนผักกาดดองเค็ม หัวผักกาด ก้านผัดคะน้า พริก กระเทียมและหัวหอม
ตั้งใจมุ่งมั่นทดลองสูตรผักดองและทำปลาหมักเกลือรมควันอยู่ทุกวันเผลอไปไม่กี่ลมหายใจม่านหนิงฮวาก็มีอายุได้แปดขวบปีเต็มเข้าไปแล้วซึ่งแม้กิจการผักดองของนางจะเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใดแต่ที่ก็ยังมีเรื่องที่น่าเศร้าก็คือยังไม่มีวี่แววหรือข่าวคราวของท่านพ่อส่งมาที่บ้านเลยแม้แต่น้อยและสงครามก็ยังคงดำเนินอยู่โดยไม่มีท่าว่าจะสิ้นสุดลงกันง่ายๆ มีแต่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ขอยับ” นั่งหลังแข็งทำความสะอาดปลาที่รับซื้อจากชาวบ้านมาได้พักหนึ่งม่านจางหมิ่นที่ในเวลานี้พูดเก่งขึ้นและสามารถเดินด้วยตัวคนเดียวได้โดยไม่ล้มแล้วก็วิ่งมาหาพี่สาวที่ในครัวและเมื่อเจ้าก้อนแป้งตัวขาวเห็นสายตาดุๆ ของพี่สาวที่มองมาก็ชะลอฝีเท้าของตัวเองในทันทีเนื่องจากพี่ใหญ่สอนเด็กน้อยอยู่ตลอดว่าห้ามวิ่งโดยเฉพาะในครัวเพราะอาจจะเกิดอันตรายขึ้นมาได้
“หมิ่นเอ๋อร์มีอะไรกับพี่ใหญ่เหรอ ไหนมาพูดใกล้ๆ พี่หน่อย” เมื่อน้องชายหยุดวิ่งม่านหนิงฮวาก็วางมีดในมือลงพร้อมกับเรียกเจ้าก้อนแป้งให้เข้ามาใกล้ๆ โดยเรื่องนี้ก็เป็นพี่สาวอีกเช่นกันที่สอนให้น้องอยู่ห่างๆ เวลาที่คนในบ้านกำลังถือมีดทำครัวหรือของมีคมอยู่ในมือ
“ท่างแม่ให้ ให้ข้ามาบอกขอยับ บอก บอกว่า” เด็กน้อยคล้ายจะลืมสิ่งที่มารดากำชับให้มาบอกพี่สาวไปเสียแล้วแต่ม่านหนิงฮวาก็ยังรอให้น้องชายคิดทบทวนอย่างใจเย็นไม่ได้เร่งหรือว่าบ่นว่าอะไรด้วยเข้าใจว่าน้องชายก็มีอายุเพียงสามหนาวเท่านั้นบางเรื่องผู้ใหญ่ยังลืมแล้วจะไปถือสาอะไรกับเด็กที่เพิ่งพ้นวัยทารกมาได้ไม่กี่ขวบปี
“ค่อยๆ คิดไม่ต้องรีบพูดพี่ใหญ่รอเจ้าได้”
“อื้อ ท่างแม่บอกว่าผักดองขอยับ”
“คนจากท่านปู่หลงจู๊มารับผักดองแล้วใช่ไหม หมิ่นเอ๋อร์รอพี่ใหญ่ตรงนี้ก่อนพี่ขอล้างไม้ล้างมือแล้วเราจะออกไปดูคนงานขนไหผักดองด้วยกัน” ม่านหนิงฮวาล้างมือและถอดผ้ากันเปื้อนที่ขอให้ท่านแม่เย็บให้ออกจากตัวโดยไม่ลืมที่จะสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เรียบร้อยสักเล็กน้อยว่ามันเหมาะสมที่จะออกไปให้ผู้คนเห็นหรือเปล่าเพราะบางครั้งนางก็ชอบเลือกเสื้อผ้าชุดเก่าๆ มาใส่ทำงานที่มันเลอะเทอะจะได้ไม่ต้องระมัดระวังอะไรมาก
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีม่านหนิงฮวาก็จูงมือม่านจางหมิ่นออกมาจากครัวโดยที่มีจุดหมายคือบริเวณหน้าเรือนที่คนงานจากร้านค้าข้าวของหลงจู๊เฉาตงกำลังลำเลียงไหผักดองหลากหลายขนาดขึ้นเกวียนเทียมวัวกันอยู่
“คารวะท่านลุงอินเจ้าค่ะ วันนี้ผักดองไหใหญ่มีทั้งหมดห้าสิบไหและไหเล็กหนึ่งร้อยไหนะเจ้าคะแบ่งเป็นรายการตามนี้เจ้าค่ะ” ม่านหนิงฮวาทักทายท่านลุงเฉาอินที่เป็นบุตรชายแท้ๆ ของท่านปู่เฉาตงหลงจู๊ร้านค้าข้าวที่เป็นผู้มารับสินค้าจากบ้านสกุลม่านด้วยตัวเองแทบจะทุกครั้งพร้อมกับยื่นใบรายการให้ท่านลุงได้ตรวจสอบเพราะเมื่อตอนที่ฝากท่านปู่โจวผู้นำหมู่บ้านไปแจ้งนางลืมแนบรายการไปด้วยเพียงแต่บอกจำนวนไหไปเท่านั้น
“ขอบใจมากหนิงหนิงแล้วนี่เสี่ยวเหอไปอยู่ไหนเสียล่ะลุงมีขนมมาฝากพวกเจ้าสามพี่น้องด้วยเอาไปแบ่งกันกินนะเป็นขนมน้ำตาลปั้นมาจากต่างเมืองกำลังเป็นที่นิยมมากในตัวอำเภอเชียวรู้สึกว่าตอนนี้มันกำลังจะขาดตลาดลุงเองก็หามาได้ไม่มาก” เฉาอินเองก็เอ็นดูสามพี่น้องสกุลม่านเป็นอย่างมากด้วยตัวเองก็มีบุตรช้าพวกเขาจึงมีอายุพอๆ กับเด็กทั้งสามคนในยามที่เห็นม่านหนิงฮวาแล้วก็เหมือนเห็นบุตรชายของตนเองจึงรู้สึกเอ็นดูพวกนางยิ่งนัก
“ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะ เมื่อเช้าข้าทำเต้าหู้แบ่งไว้ให้ท่านลุงกับท่านปู่ด้วยขอให้นำไปทำอาหารกินภายในวันนี้นะเจ้าคะไม่เช่นนั้นเต้าหู้จะเสียได้” เพราะรู้ว่าคนจากร้านค้าข้าวไม่ว่าใครที่มาก็ต้องมีของมาฝากพวกนางสามคนพี่น้องดังนั้นม่านหนิงฮวาจึงเตรียมของเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ตอบแทนเนื่องจากไม่สามารถปฏิเสธผู้ใหญ่ได้ครั้นจะรับมาแต่ฝ่ายเดียวก็ไม่สบายใจจึงคิดหาทำของฝากเล็กๆ น้อยๆ เป็นการแลกเปลี่ยน
“ดียิ่งนัก ลุงขอบใจเจ้ามากนะหนิงหนิงแล้วนี่ครั้งหน้าเจ้าจะมีอะไรส่งขายล่ะพอจะบอกลุงได้หรือไม่” เฉลี่ยแล้วร้านค้าข้าวจะมารับสินค้าจากบ้านม่านทุกๆ สิบวันไม่ว่าจะเป็นผักดอง ปลาหมักเกลือรมควันหรือว่าเนื้อหมูรมควันที่มีรสชาติอร่อยเนื้อนุ่มไม่เหนียวเหมือนเคี้ยวยางไม้ดังเช่นเนื้อหมูรมควันที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไป
“ครั้งหน้าเป็นปลาหมักเกลือรมควันเจ้าค่ะท่านลุง ข้าเพิ่งบอกรับซื้อปลามาจากชาวบ้านในหมู่บ้านเมื่อเช้านี้เองปลาสดๆ จากแม่น้ำช่วยให้ปลาหมักเกลือรมควันมีรสหวานจากธรรมชาติเจ้าค่ะ ระยะนี้น่าจะทำเนื้อสัตว์ส่งให้มากกว่าเพราะว่าผักต้องรอให้โตได้ขนาดก่อนจึงจะนำมาดองได้” ม่านหนิงฮวาทำสินค้าสลับกันไปตามวัตถุดิบที่มีอยู่ในมือถ้าชาวบ้านขึ้นเขาไปล่าสัตว์ได้อะไรมานางก็จะรับซื้อไม่ว่าจะเป็นหมูป่าหรือกวางเพราะสามารถเอามาทำเนื้อรมควันได้ทั้งสิ้นโดยเรื่องนี้ท่านปู่ผู้นำหมู่บ้านจะคอยดูแลจัดการให้เพื่อที่ทั้งเรือนสกุลม่านและชาวบ้านจะได้รับทั้งสินค้าที่มีคุณภาพและค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ
“ดี ดี เจ้านี่ขยันยิ่งนักเอาล่ะขอลุงไปตรวจนับไหผักดองก่อนเจ้าทำงานได้เป็นระเบียบมากเลยนะหนิงหนิงมีการติดป้ายให้เห็นได้ชัดเจนว่าแต่ละไหบรรจุอะไรไว้ข้างในลายมือบนป้ายก็อ่านได้ง่ายสวยงามยิ่งนัก” นับว่าบุตรสาวสกุลม่านนั้นมีพรสวรรค์ในเรื่องการค้าขายเสียจริงๆ หยิบจับอะไรล้วนแต่เป็นเงินเป็นทองอีกทั้งนางยังมีความคิดในการจัดการกับสินค้าที่น่าสนใจมาก
“เป็นลายมือของเสี่ยวเหอเจ้าค่ะนางคัดอักษรได้งดงามนักแต่ตอนนี้นางออกไปที่แม่น้ำกับชาวบ้านๆ ในหมู่บ้านเพื่อตรวจดูเครื่องมือดักปลาจึงไม่ได้อยู่ทักทายท่านลุงเจ้าค่ะ”
“ขยันกันทั้งพี่ทั้งน้องข้าล่ะภูมิใจแทนครอบครัวสกุลม่านเสียจริงๆ” ท่านลุงอินเอ่ยชมจากใจจริงจากนั้นก็ไปดูคนงานยกสินค้าขึ้นบนเกวียนเทียมวัวและตรวจนับอย่างถี่ถ้วนเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ส่งตั๋วเงินให้พร้อมกับรับของฝากที่เด็กหญิงเตรียมไว้ให้กลับไปร้านด้วยความอารมณ์ดีที่เย็นนี้จะได้มีเต้าหู้อร่อยๆ กินกันเป็นกับข้าวมื้อเย็น
หลังจากที่เกวียนสองคันใหญ่จากร้านค้าในตำบลจากได้ไม่นานม่านหนิงเหอก็กลับมาถึงบ้านพร้อมด้วยปลาอีกหนึ่งถังใหญ่ที่ลุงไช่ช่วยแบกมาส่งและตอนนี้เรือนสกุลม่านจึงได้ตั้งโต๊ะรับซื้อปลาสดๆ กันอีกรอบหนึ่งแล้วเนื่องจากต้องการปลาอีกเป็นจำนวนมาก
“ปลาเยอะขนาดนี้ลำพังลูกกับแม่คงทำไม่ทันหรอกหนิงหนิงเราว่าจ้างคนในหมู่บ้านมาช่วยทำความสะอาดปลาดีหรือไม่จะได้ผ่อนแรงลงไปสักนิด” ปลาสดๆ มากมายต้องทำแข่งกับเวลาซึ่งลำพังมารดากับบุตรสาวคนโตจะทำได้เท่าไหร่กันเชียวขืนชักช้าปลาก็จะตายและเน่าเสียจะเสียวัตถุดิบดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
“ข้าก็คิดเช่นนั้นเจ้าค่ะอยากได้คนช่วยทำความสะอาดปลาสักสองถึงสามคนแต่ต้องมีทักษะในการใช้มีดสักนิดนะเจ้าค่ะ ท่านป้าท่านลุงเจ้าคะใครที่สามารถเตรียมปลาทำความสะอาดปลาได้ข้าจะขอจ้างเจ้าค่ะในการทำข้าจะมีตัวอย่างให้ใครสนใจลองพูดคุยกันก่อนได้วันนี้มีปลาจำนวนมากข้าจึงต้องการแรงงานเพื่อให้ทันต่อเวลา” ว่าแล้วม่านหนิงฮวาก็ประกาศหาคนมันตรงที่รับซื้อปลานี้เสียเลยแล้วไม่นานนางก็ได้ป้าไช่ที่คุ้นเคยกันดีกับสองแม่ลูกบ้านเหมียวที่นำปลามาขายเหมือนกันเป็นแรงงานพิเศษซึ่งหลังจากตกลงราคาค่าจ้างกันแล้วทุกคนก็เริ่มงานของตัวเองในทันที
ช่วงสายของวันม่านหนิงฮวาไม่ต้องทำปลาด้วยตัวเองแล้วเพราะมีแรงงานที่ขยันขันแข็งมาเพิ่มอีกถึงสามคนในตอนนี้นางจึงชวนน้องสาวมาเตรียมพื้นที่สำหรับย่างปลาที่วันนี้ตั้งใจจะตั้งพร้อมกันถึงห้าเตาและคาดว่าจะต้องทำถึงสองรอบเพราะวันนี้ปลาที่ได้มามีจำนวนมากจริงๆ แต่ถึงกระนั้นนางก็เลือกปลาที่ได้มารอบหลังไปขังใส่ถังเอาไว้ก่อนเพื่อจัดการทำความสะอาดกันในวันพรุ่งนี้
“หนิงหนิงแล้วเช่นนี้เจ้าจะรับซื้อผักจากชาวบ้านอีกหรือไม่” เนื่องจากพื้นที่ที่นั่งทำปลากันอยู่ไม่ไกลจากที่ย่างปลาป้าเหมียวจึงตะโกนถามออกมาเนื่องจากเห็นจำนวนปลาที่เด็กหญิงทำขายนั้นมันมีมากเหลือเกินจึงหวั่นใจว่านางอาจจะไม่รับซื้อผักอีก
“รับเจ้าค่ะท่านป้าข้าจะให้ราคาเท่ากับตลาดเหมือนที่เคยและอาจจะรับแรงงานมาช่วยทำผักดองด้วยเพราะร้านค้าในตำบลยังต้องการสินค้าเป็นจำนวนมากเจ้าค่ะ” ที่ม่านหนิงฮวาต้องรับซื้อผักจากชาวบ้านเพราะผักที่ปลูกเองนั้นมีปริมาณไม่เพียงพอแม้จะเพิ่มแปลงผักมาอีกหลายแปลงแล้วแม้อยากจะเพิ่มพื้นที่ปลูกผักให้มากกว่านี้แต่มิอาจจะทำได้เนื่องจากต้องแบ่งพื้นที่บ้านเอาไว้ทำเตาย่างปลารมควัน
โดยในตอนนี้เตาย่างปลาที่ใช้อยู่นั้นมีการทำที่กันลมเพื่อกักเก็บควันเพิ่มขึ้นทำให้ปลาที่ย่างออกมานั้นมีกลิ่นหอมของฟางและกาบมะพร้าวที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงมากกว่าปลาที่ทำออกมาชุดแรกๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าที่ซื้อปลาหมักเกลือรมควันไปรับประทานต่างก็ฝากคำชมผ่านมาทางร้านค้าข้าวอยู่เรื่อยๆ ทำให้ม่านหนิงฮวามีกำลังใจที่จะทำของอร่อยและคุณภาพดีออกมาเพิ่มมากขึ้น