ไพรดงพิศวง ความหมาย: * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ  * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย "ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปพร้อมๆกัน

ไพรดงพิศวง - ตอนที่ 5 คืนพักแรม 1 โดย makitomak @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไพรดงพิศวง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ลึกลับ,ระทึกขวัญ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ทะลุมิติ,แฟนตาซี

รายละเอียด

ไพรดงพิศวง โดย makitomak @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

 ไพรดงพิศวง ความหมาย: * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ  * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย "ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปพร้อมๆกัน

ผู้แต่ง

makitomak

เรื่องย่อ

 ไพรดงพิศวง ความหมาย:


 * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ

 * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น

 * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย



"ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ

 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨

ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ 

และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปด้วยกันในป่าจะมีอะไรรออยู่เตรียมเสบียงให้พร้อม😏😏😏

แล้วพบกันท่านผู้เดินทาง (แสยะยิ้ม)

______________________

รบกวนท่านผู้เดินทางกดเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจกดติดตาม คอมเม้นท์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะครับ จุ้ฟๆ 

_______________________

1.1 นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมุติ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ ของผู้แต่งเท่านั้น เหตุการณ์ ​​​สถานที่ ตัวละคร ไม่มีอยู่จริงครับ

2.2 เนื้อหาในเรื่องมีการใช้อาวุธ การต่อสู้การทำร้ายร่างกาย การฆ่า เลือด การร่วมเพศสัมพันธ์ุุของชายชายและหญิงหญิง  มีการใช้คาถาอาคม พลังเหนือธรรมชาติ ผีสาง วิญญาณร้าย 

3.3 นิยายเรื่องนี้อาจมีคำหยาบคาย เหมาะกับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไปโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 



​​​​​​​​​​​​ ขอบคุณท่านผู้เดินทางทุกคนที่เข้ามาอ่านและขออภัยถ้าเกิดมีความผิดพลาดในเนื้อเรื่องบางประการจะพยายามไม่ให้ออกทะเลไปไกลจ้ะ

สารบัญ

ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 1 สามเดือนก่อนการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 2 งานวัดก่อนการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 3 ประชุมก่อนการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 4 จุดเริ่มต้นการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 5 คืนพักแรม 1,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 6 คืนพักแรม 2,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 7 การเผชิญหน้าเสือสมิง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 8 สู้กับสมิง 1 ,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 9 สู้กับสมิง 2,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 10 คืนพักแรม 3,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 11 คืนพักแรม 3 การเคลื่อนไหวในเงามืด,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 12 ผู้มาเยือนใต้เงามืด 1,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 13 ผู้มาเยือนใต้เงามืด 2 ,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 14 ปะทะผีป่า,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 15 ปะทะผีป่า 2,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 16 ปะทะผีป่า 3

เนื้อหา

ตอนที่ 5 คืนพักแรม 1



 นี้ก็บ่ายคล้อยจนตะวันเริ่มจะลงต่ำคณะเดินทางทั้งหกชีวิตได้เดินผ่านป่าจากตีนเขาลัดเลาะมาตามแนวสันเขา เดินผ่านทุ่งไร่ของชาวบ้านที่รกร้างบางแห่งขึ้นเนินเขาเล็กๆไปมาหลายลูก บางครั้งก็หยุดพักหายใจเป็นระยะๆ 


"นี้พรานอีกไกลไหมกว่าเราจะไปถึงเนินเขาที่พรานว่าตั้งแคมป์ได้" ดิเรกที่กำลังกระดกน้ำดื่มอย่างกระหายพรางเอ่ยถามหลังดื่มน้ำเสร็จ


"ไม่ไกลหรอกครับ เดินเลยเนินเขาลูกนั้นไปก็ถึงครับ" พรานยอดกล้าพูดบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปทางเนินเขาที่เห็นไม่ไกลเท่าไหร่ หลังจากที่พักหายเหนื่อยทั้งหมดจึงพากันมุ่งหน้าเดินตามสันเขาตรงไปยังจุดพักแรมของคืนนี้


ตะวันเริ่มโพล้เพล้ไล่ลงต่ำ เหล่าคณะเดินทางก็ได้มาถึงยังจุดพักแรมคืนนี้


"เย้ ในที่สุดก็ถึงสะที"


จันทน์แก้วเอ่ยขึ้นหลังวางกระเป๋าพิงกับต้นไม้คนที่เหลือจึงปลดสัมภาระวางไว้ตามข้างต้นไม้ใหญ่ บนเนินเขาเล็กแห่งนี้ มีพื้นที่ตรงกลางโล่งเตียน รอบข้างมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นรอบๆ ไม่ได้รกนัก "ชางเวียง ข้างล่างตรงนั้นมีลุ่มน้ำอยู่ เอ็งลองไปหาปลาเผื่อได้อาหารคืนนี้"


พรานหนุ่มชี้นิ้วพร้อมกับพยักหน้าไปด้านล่าง "ได้ครับพราน" ชางเวียงรับคำก่อนจะเตรียมอุปกรณ์ลงไปจับปลาดิเรกเห็นจึงขอไปช่วยจับปลาด้วย ส่วนผู้หญิงทั้งสองก็ช่วยกันแยกสัมภาระออกจากกระเป๋า พร้อมหาพื้นที่ไว้สำหรับนอนคืนนี้ ภพเองก็กำลังหาท่อนไม้ขนาดกลางมากองรวมตรงกลางลานเพื่อก่อไฟสำหรับคืนนี้


"คุณภพถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้น่ะเดียวตรงนี้ผมจัดการเอง" พรานกล้าบอกกับหนุ่มตรงหน้าที่กำลังยกท่อนไม้มาวางกอง ก่อนที่เขาจะยกเสื้อขึ้นมาชับเหงื่อที่หน้า เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกที่มีเหงื่อไหลผ่านร่องลงมาที่ขนไรๆใต้สะดือ "ไม่เป็นไรครับผมยังไหว" ภพตอบและหันไปเก็บท่อนไม้ต่อ


ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าสองหนุ่มที่ไปหาปลาได้กลับมาพร้อมกับปลาตัวใหญ่และกล้วยอีกหนึ่งหวี ทั้งสองพี่น้องผู้ติดตามจึงช่วยกันทำอาหารก่อนจะพลบค่ำ ภายในบริเวณรอบกองไฟกลิ่นปลาย่างและอาหารอีกสองสามอย่างลอยฟุ้งไปไหนอากาศทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นเริ่มหิวจนท้องร้อง สองสาวช่วยกันแบ่งอาหารเท่าๆกัน ยื่นให้คนที่เหลือ ทั้งหมดกินอาหารรอบกองไฟอย่างเอร็ดอร่อย ยกเว้นพรานกล้า ที่กำลังเดินครุ่นคิดมองทอดยาวออกไปรอบๆป่า


"นี้ชางวีตักให้ผมอีกถ้วยสิ"


ภพพูดพร้อมกับยื่นถ้วยอีกใบที่ว่างอยู่ให้ชางวี "ผมจะเอาไปให้พรานอ่ะ"


หล่อนตักไปด้วยสีหน้าสงสัย หลังจากได้ถ้วยอาหารมาจากชางวี ภพจึงลุกขึ้นมองไปยังจุดที่พรานยืนอยู่ก่อนจะเดินถือถ้วยอาหารอ้อมด้านหลังของคนทั้งสี่ไป ครั้นดิเรกเห็นสีหน้าของชางวีที่กำลังสงสัยเพราะอันที่จริงส่วนใหญ่ชางเวียงจะคอยนำอาหารไปให้พรานกิน


"เขาคงอยากคุยกันสองต่อสองมั้ง กินต่อเถอะ วันนี้น่ะตอนจับปลา ชางเวียงเก่งมากเลยล่ะ....." รอบกองไฟมีเสียงคุยกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของผืนป่า


หลังพุ่มไม้ขนาดกลางพรานหนุ่มที่กำลังมองไปรอบบริเวณที่มีแต่ความมืดปกคุลม ด้านหลังเกิดเสียงจาการเดินผ่านหญ้าที่กำลังมุ่งมาที่เขา


ทำให้พรานหนุ่มละสายตาจากความมืด หันกลับมายังต้นเสียง "ของพรานครับ" ภพยื่นอาหารให้พรานก่อนจะยิ้มบอกต่อ "ไม่เห็นต้องลำบากเอามาให้เลยเดียวผมก็กลับเข้าไปแล้ว" พรานบอกตอบก่อนจะหยิบอาหารมาถือไว้ "ไม่เป็นไรเลยครับผมเต็มใจ" ภพตอบพลางขยับมายืนใกล้ๆพรานหนุ่ม หัวใจของภพเองก็หวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้พราน รู้สึกคุ้นเคยกับชายผู้นี้แปลกๆ แต่มันเหมือนมีบางอย่างกั้นเอาไว้


ทั้งคู่สบตากันคิดความในใจไม่รู้นานเท่าไหร่ จนพรานต้องทำลายความคิดอันไกลอันซะ "จ้องขนาดนี้ผมไม่กินอาหารได้ไหม" พรานหนุ่มยักคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายเม้มปากทำท่าเขินอาย "กินอะไรอีกล่ะพราน นี้ไงอาหารปลาของชางเวียง" ภพตอบแบบเลิ่กลั่ก


"นี้ต่างหากอาหารของผม"


แขนข้างหนึ่งของพรานโอบเกี่ยวชายหนุ่มตรงหน้าขยับเข้ามาชิดใกล้จนลมหายใจชนกัน


"อือ พรานเดียวใครเห็น ผมว่าเรากลับไปหาคนอื่นเถอะ เดียวพวกนั้นก็เป็นห่วงเอา "


ภพพูดพร้อมแกะมืออันใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อแน่นและเส้นเลือดปูดพาให้คิดไปไกล หลังจากภพเดินกลับไปที่กองไฟ พรานก็ตามมาติดๆพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์น่าหลงไหล ทั้งหมดพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน 




 หารู้เลยไม่ว่ามีบางสิ่งกำลังคืบคลานออกมาจากเงามืด 


ถัดไกลออกไปจากกลุ่มคณะเหล่าเดินทาง ไกลออกไปจนสุดสายตา ณบริเวณพื้นที่ลานกว้างที่มีช่องทางเดินระหว่างกลาง ได้ปรากฏเงาดำทมิฬปกคลุมไปทั่วพื้นที่ จนบรรยากาศทั่วบริเวณลดลงต่ำจนเกิดน้ำแข็งเกาะตามพืชหญ้า ปรากฏกายหญิงสาวในชุดกษัตริย์ นัยน์ตาสีแดงแสดงอาการโกรธแค้น ยืนบนโขดหินก่อนจะกล่าวความในใจที่เก็บมาเนิ่นนาน


"กูรอเวลานี้มาเป็นพันๆปี กูจักไม่มีทางยกท่านพี่ให้มึงเป็นอันขาด ไม่ว่าภพนี้หรือภพหน้ากูก็จะจองล้างจองผลาญมึงไปทุกชาติภพ ท่านพี่ต้องเป็นของกูผู้เดียวเท่านั้น ในเมื่อกูไม่ได้ครอบครองมันผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์"


สิ้นเสียงของหญิงสาวในชุดกษัตริย์ ทั่วผืนป่าเกิดเสียงโหยหวนของบางสิ่งบางอย่างที่น่าขนลุก ก่อนที่เสียงอันน่าขนลุกนั้นจะอันตรธานหายไปพร้อมกับแสงดวงอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นจากยอดเขาจาก

แสงอันอบอุ่นขับไล่ความมืดชั่วร้ายออกไปจนหมดสิ้น


           

 แล้วเจอกันท่านผู้เดินทาง