ไพรดงพิศวง ความหมาย: * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย "ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปพร้อมๆกัน
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไพรดงพิศวงไพรดงพิศวง ความหมาย: * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย "ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปพร้อมๆกัน
ไพรดงพิศวง ความหมาย:
ค่ำคืนที่ท้องฟ้าสว่างไสวเต็มไปด้วยหมู่ดาวนับไม่ถ้วน แสงจันทร์ทราสีเหลืองสาดส่องไปทั่วทุกสารทิศ ทุกชีวิตหลับใหลอยู่ในห้วงลึกของจิตใจ ชางเวียงที่เฝ้ายามแรกนั้นบัดนี้ดิเรกได้ตื่นขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเวรเฝ้าและให้อีกคนพักผ่อน ก่อนที่เจ้าตัวจะโยนท่อนไม้ใส่กองไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่น และเพิ่มความสว่างให้พื้นที่รอบๆ
จนได้หารู้ไม่ว่ามีบางสิ่งกำลังคลืบคลานภายใต้เงามืดเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้
ในยามรัตติกาลในคืนดึกเงียบสงัด ดิเรกที่กำลังนั่งพิงต้นไม้เหมอมองดวงดาวที่ปรากฎเต็มบนท้องฟ้า ก็ต้องสะดุ้งตัวเมื่อบริเวณรอบด้านล่างหน้าผา ไม่ไกลจากจุดที่พักนั้นเกิดเสียงดังประหลาดเสมือนเสียงของต้นไม้หักเป็นเสียงดังแว่วๆที่ลอยมาตามลม ดิเรกเพียงแค่เอี้ยวตัวหันข้างไปตามเสียง ก่อนจะขมวดคิ้วเพ็งสายตาให้เข้ากับความมืดเพื่อมองไปทางหน้าผา แต่กลับไม่พบอะไรผิดปกติก่อนจะนั่งใช้ผ้าเช็ดปืนกระบอกสั้นฆ่าเวลาอย่างไม่ร้อนใจ
ถัดไปไม่ไกลนั้นร่างของภพที่นอนอยู่ข้างน้องสาวนั้นได้เกิดอาการกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา และมีกลุ่มควันสีดำเบาบางลอยตัวอยู่บนร่างคนตัวขาวก่อนจะจางหาย และนั้นทำให้คนตัวขาวหลับสนิทจนเข้าสู่การหลับลึก ตัวตนภายในจิตใจล่องลอยออกไปตามเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
บัดนี้ ภพได้ลืมตาตื่นขึ้นม่านแสงสีขาวสาดเข้ามาทำให้ตาพร่ามัวเลือนลางจนต้องเอามือมาปิดบังหน้าหลังแสงสว่างวาบนั้นค่อยๆจางหายไป สายตาที่กลับมามองทุกอย่างได้ชัดเจนท่ามกลางเสียงโวกแวกวุ่นวายของคนรอบข้าง นั้นทำให้คนตัวขาวตะลึงจนใจเต้นระรัวต่อเนื่องเมื่อภาพที่เห็นตรงหน้ามันเหมือนจะมีอยู่จริงๆ
ทั้งสองข้างทางมีโต๊ะและการขายข้าวของมากมายเสมือนคล้ายกับตลาด แต่การแต่งตัวของผู้คนชายหญิง ล้วนนุ่งสั้นห่มน้อย เนื้อตัวสีเข้ม ต่างพากันเดินขวักไขว่ วาจาการคุยนั้นผิดแปลกไปจากปัจจุบัน
จนคำบางคำนั้นทำให้คนตัวขาวที่ยืนตาค้างคำสิ่งที่เห็นและได้ยิน งงงัน นานเท่าใดจนมีหญิงผู้หนึ่งที่กำลังเดินตรงมาทางตนนั้นจนทำท่าจะชน แต่นั้นทำให้ภพเองตะลึงไปอีกเมื่อรู้ว่าร่างกายของเขานั้นโปร่งแสง แต่นั้นทำให้ภพคิดว่าตนกำลังฝันจึงเดินตามทางไปเรื่ิอยๆผ่านผู้คนมากมายที่พูดคุยวาจา คล้ายโบราณ แต่ยังพอฟังออก
"นี้เราฝัน หรือหลุดมาในมิติไหนว่ะเนี้ย"
ภพอุทานเบาๆ ก่อนจะเดินมาหยุดทีี่ร้านสนุนไพรซึ่งกลิ่นยาหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
ในขณะที่กำลังดูหญิงแก่ชรากำลังขายสมุนไพรให้กับชายวัยกลางคนอยู่นั้น ด้านหน้าตลาดเกิดเสียงเอะอะของบ้านชาว ภพจึงหันมองตามเสียงนั้นไป
ด้านหน้าตลาด ชาวบ้านต่างพากันนั่งริมทางเดินอย่างรีบรนก่อนจะก้มมองพื้น ก่อนที่จะมีขบวนเสด็จของของใครสักคนที่เขาไม่รู้จัก ทำให้เจ้าตัวต้องมายืนหลบข้างๆชาวบ้านก่อนจะได้เสียงพูดคุยเบาๆของชาวบ้านที่ก้มหมอบอยู่
"องค์หญิงท่านมาทำกะไรที่ตลาดรึป้า เห็นแต่อยู่ในปราสาท" สาวรุ่นคราวเดียวกับภพถามหญิงชราที่นั่งหมอบข้างกาย
"อ้าวอีนี้ ข้าก็อยู่กับเองทั้งวันข้้าจะไปรู้ได้อย่างใดเล่า" หญิงชราตอบกลับพร้อมก้มมอบต่อ พอภพได้รู้ว่านั้นคือ
ขบวนเสด็จขององค์หญิงจึงทำให้ตนรีบเดินมาอยู่ใกล้ๆขบวน ก่อนขบวนจะหยุดที่หน้าร้านสนุนไพรของยายชรานางหนึ่ง แคร่เสลี่ยงที่ถูกชายฉกรรจ์หกคนหามนั้น ถูกวางลงอย่างช้าๆก่อนที่ประตูเสลี่ยงจะเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาววัยประมาณอายุรุ่นราวคราวเดียวกับภพ ผิวขาว ผมยาว ใส่ชุดที่มีเครื่องเพรชประดับต่างๆจนแวววาวเมื่อมันต้องแสงแดด ใบหน้าเนียนสวยผ่อง
จนภพเองชมอยู่ในใจ พวกสนมและคนรับใช้ต่างช่วยกันประคองแขนองค์หญิงท่าานนั้นลงมาจากเสลี่ยง
"ขอบใจ ข้าเดินเองได้"
องค์หญิงท่านนี้ทำไมหน้าคุ้นจัง ภพขมวดคิ้วคิดในใจเมื่อจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่กำลังก้าวเดินไปหาหญิงชราที่ก้มหมอบอยู่ไม่ไกล
เมื่อขบวนเสด็จนั้นได้หยุดลงที่ร้านของยายชราขายสมุนไพร เหล่าผู้คนต่างพากันลุกเดินแยกย้ายกันตามเดิม
เหล่านางบ่าวรับใช้ที่ตามติดตัวกระชิบข้างตัวหญิงในชุดกษัตริย์อย่างเบาๆว่า
"เรือนนี้แหละเจ้าค่าท่านหญิง ข้าเจ้าเคยมาซื้อสมุนไพรนั้นแล้วเอากลับไปต้มให้ผัวกิน มันก็ไม่เคยแอบไปคบชู้ที่ใดอีกเลยเจ้าค่ะ" นางบ่าวรับใช้พูดก่อนจะมองหาใครบางคนข้างใน
"ในเรือนไม่มิผู้ใดอยู่ฤา องค์หญิงทิพย์ฤทัย ท่านอุตส่าห์เสด็จมาเพื่อซื้อสมุนไพร เอ็งจะไม่ออกมาตอบรับหน่อยรึ"
"องค์หญิงทิพย์ฤทัยหรอทำไมคุ้นๆจังว่ะ" ภพเกาหัวพยายามคิด แต่คิดไม่ออกจนต้องเดินตามมาใกล้คนรับใช้ด้านข้าง
"มาเเล้ว มาแล้ว หม่อมฉันขออภัยเจ้าค่่ะ พอดีกำลังเตรียมสมุนไพรให้องค์หญิงนะเจ้าคะ ยายของฉันป่วยเลยไม่มีใครช่วย ทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วยคะ" หญิงสาววัยรุ่นหน้าตาสะสวยรีบยกพานที่มีสมุนไพรหลายอย่างให้กับคนบ่าวคนรับใช้ ก่อนจะรีบก้มกราบกลัวความผิดที่ทำให้หญิงในชุดกษัตริย์รอ
"ไม่เป็นไรบัวแดง ข้าไม่ว่ากะไรหรอกแล้วว่านที่ข้าอยากได้เล่ามีหรือไม" ต่างกันหล่อนไม่ได้ที่จะด่าหรือโทษคนที่ก้มหัวตัวสั่นเทาเลย กลับถามถึงว่านชนิดหนึ่งที่ภพเองก็ตั้งใจฟังอยู่ใกล้ๆ
"มีจ้ะ อยู่นี้จ้ะ" ก่อนที่นางบัวแดงจะเปิดห่อผ้าสีแดงที่ห่อมาไว้อย่างดีออก
มันเรืองแสงพราวระยิบระยับ ลำต้นมีสีเหลือง โค้งงอไปมาคล้ายเถาวัลย์
ว่านจตุรมิตรสีเหลือง
บัวแดงหยิบใส่มือก่อนจะส่งให้บ่าวรับใช้อีกทีนางจึงส่งต่อให้องค์หญิงทิพย์ฤทัย หล่อนหยิบมาขึ้นมาส่องดูใกล้ จนเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา จนภพถึงกับผงะ มันเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวแฝงไปอารมณ์ที่มุ่งร้าย จนภพเองถึงกับขนลุก ก่อนที่เสียงใครบางคนจะดังไปทั่วโสตประสาทของชายหนุ่มที่ยืนมององค์หญิงตรงหน้า
"มึงจงนำว่านจตุมิตรชนิดนี้ไปต้มและนำไปให้มันดื่ม เมื่อผ่านไปสองยามมันจะใคร่หลงมึงเพียงเจ้าผู้เดียว.."
เสียงของชายผู้หนึ่งดังขึ้นจนภพต้องหันซ้ายขวาเพื่อตามหาคนเสียง แต่กลับไม่มีวี่แววของใคร บัดนี้รอบตัวภพกลับกลายเป็นพื้นที่โล่ง ก่อนจะมีกลุ่มเงาประหลาดก่อตัวขึ้น มันกำลังพุ่งมาทางเขา แต่ร่างกายเกิดผิดปกติตัวแข็งไม่สามารถหลบหนีได้ มันก่อรูปร่างเป็นหญิงหน้าตาเละน่าสยดสยอง ก่อนที่เงานั้นจะพูดบางอย่างจนภพสดุ้งตื่น
"มึงใช้ว่านนี้แล้วเอาท่านพี่ไปจากกู
ไอ้ชนากรมึงจำได้หรือไม"
พร้อมกับเสียงกรี้ดดดยาวแหลม จนภพต้องลืมตาตื่น
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
: เครดิต ว่านจตุรมิตรสีเหลือง มีฤทธิ์เดชในการลุ่มหลง มึนเมา ใคร่หลง เสน่ห์หา เย้ายวน
กูจะเครซี่มากกกกกกก แม้ๆๆๆๆๆ