ไพรดงพิศวง ความหมาย: * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ  * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย "ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปพร้อมๆกัน

ไพรดงพิศวง - ตอนที่ 13 ผู้มาเยือนใต้เงามืด 2 โดย makitomak @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไพรดงพิศวง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ลึกลับ,ระทึกขวัญ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ทะลุมิติ,แฟนตาซี

รายละเอียด

ไพรดงพิศวง โดย makitomak @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

 ไพรดงพิศวง ความหมาย: * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ  * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย "ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปพร้อมๆกัน

ผู้แต่ง

makitomak

เรื่องย่อ

 ไพรดงพิศวง ความหมาย:


 * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ

 * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น

 * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย



"ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ

 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨

ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ 

และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปด้วยกันในป่าจะมีอะไรรออยู่เตรียมเสบียงให้พร้อม😏😏😏

แล้วพบกันท่านผู้เดินทาง (แสยะยิ้ม)

______________________

รบกวนท่านผู้เดินทางกดเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจกดติดตาม คอมเม้นท์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะครับ จุ้ฟๆ 

_______________________

1.1 นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมุติ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ ของผู้แต่งเท่านั้น เหตุการณ์ ​​​สถานที่ ตัวละคร ไม่มีอยู่จริงครับ

2.2 เนื้อหาในเรื่องมีการใช้อาวุธ การต่อสู้การทำร้ายร่างกาย การฆ่า เลือด การร่วมเพศสัมพันธ์ุุของชายชายและหญิงหญิง  มีการใช้คาถาอาคม พลังเหนือธรรมชาติ ผีสาง วิญญาณร้าย 

3.3 นิยายเรื่องนี้อาจมีคำหยาบคาย เหมาะกับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไปโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 



​​​​​​​​​​​​ ขอบคุณท่านผู้เดินทางทุกคนที่เข้ามาอ่านและขออภัยถ้าเกิดมีความผิดพลาดในเนื้อเรื่องบางประการจะพยายามไม่ให้ออกทะเลไปไกลจ้ะ

สารบัญ

ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 1 สามเดือนก่อนการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 2 งานวัดก่อนการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 3 ประชุมก่อนการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 4 จุดเริ่มต้นการเดินทาง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 5 คืนพักแรม 1,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 6 คืนพักแรม 2,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 7 การเผชิญหน้าเสือสมิง,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 8 สู้กับสมิง 1 ,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 9 สู้กับสมิง 2,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 10 คืนพักแรม 3,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 11 คืนพักแรม 3 การเคลื่อนไหวในเงามืด,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 12 ผู้มาเยือนใต้เงามืด 1,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 13 ผู้มาเยือนใต้เงามืด 2 ,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 14 ปะทะผีป่า,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 15 ปะทะผีป่า 2,ไพรดงพิศวง-ตอนที่ 16 ปะทะผีป่า 3

เนื้อหา

ตอนที่ 13 ผู้มาเยือนใต้เงามืด 2



หลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝันประหลาด จมูกของภพก็ได้กลิ่นหอมของพืชชนิดหนึ่งจนต้องลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะหันไปทางต้้นกลิ่น จึงพบว่าพี่ชายที่เฝ้าเวนรนั้นกำลังกินมันเผาอย่างอร่อย ดิเรกที่กำลังกินมันเผาซึ่งชางวีเก็บมาริมบึงที่ผ่านมาไว้ตั้งแต่ตอนค่ำ หลังเห็นน้องชายลุกตื่นจึงยื่นมันเผาให้ 


" อ้าวไอ้ภพแกตื่นแล้วรึ เอ้านี่กินด้วยกันสิ หนาวๆแบบนี้ได้กินมันเผาช่วยให้อุ่นขึ้นนะโว้ย" 

ก่อนที่ภพจะลุกขึ้นมาหยิบมันที่ดิเรกยื่นให้แล้วไปนั่งอีกฝั่ง พร้อมกับยื่นมันเผาอีกอันให้ใครบางคนจากด้านข้าง 

"นี่ครับพราน ของคุณ" 


พร้อมกับเป่่ามือที่ถือมันเผาเบาๆเพราะความร้อนที่พึ่งจะเขี่ยออกมาจากกองไฟ

"ระวังร้อนน่ะครับ"

ดิเรกพูดต่อ ก่อนที่พรานจะหยิบแล้วไปนั่งข้างๆชายตัวขาวซึ่งกำลังกินมันเผาอย่างสบายใจ 


"เออนี่่ พรานคุณบอกว่า ถ้าเราผ่่านคืนนี้ไปได้ ประตูมิติอะไรนั้นจะเปิด แล้วเราจะรู้ได้ไงล่ะครับว่ามันจะเปิดตอนไหน"

ดิเรกถาม ซึ่งภพเองที่นั่งใกล้ๆก็หันมาพลางทำหน้าอยากรู้คำตอบ ซึ่งพรานเองก็ทำหน้าคิ้วขมวดก่อนจะตอบอย่างเป็นจริง 


"รอบที่แล้วเสือสมิง รอบนี้คงหนักกว่าเดิมไม่ว่าจะเจออะไรพวกเราต้องผ่านมันไปให้ได้ครับ" พรานตอบพร้อมกับสายตาที่ครุ่นคิดอยู่ภายใน การสู้กับเสือสมิงตัวเดียวในคืนที่ผ่านมาก็ทำให้เขาเสียพลังไปไม่น้อย ถ้าพวกศัตรูมากันเป็นกลุ่มล่ะจะทำยังไง   


 ดวงจันทร์ที่ส่องสว่างเคลื่อนตัวเฉียงไปด้านซ้ายพร้อมกับอากาศที่เริ่มเบาบางลง ทั้งสามนั่งพิงไฟโดยที่อีกสามคนนอนอยู่ข้างๆกัน 


บัดนี้บางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนตัวในเงามืดนั้นได้มุ่งหน้ามาทางกองไฟที่สว่างไสวอยู่บนลานกว้าง 

ก่อนที่ใครบางคนในกลุ่มจะสัมผัสถึงลางสังหรณ์ของบริเวณพื้นป่าได้ 


" ฮึกกกก " ชางเวียงที่นอนอยู่ข้างท่อนไม้ผุผัง สดุ้งตัวตื่นจนคนทั้งสามที่นั่งอยุ่ข้างกองไฟหันขวับไปตามเสียง 

"ชางเวียงฝันร้ายหรอ สดุ้งแรงเชียว"

ภพถามเมื่อเห็นเจ้าตัวสดุ้งตื่นพร้อมกับหันซ้ายขวาอย่างผิดแปลก พรานเห็นท่าทางชางเวียงผิดปกติจึงรีบถาามต่อ 


"ชางเวียงมีไร" พร้อมใบหน้าที่เริ่มตึงขึ้นจนคนที่กำลังผวาหันมองไปรอบนั้น รีบตอบพรานก่อนจะลุกขึ้นหยิบหน้าไม้ไว้ในมือ 


"พรานมีบางอย่างกำลังดูพวกเราอยู่" ตอบกลับด้วยเเสียงที่สั่นหวาดกลัว ก่อนที่พรานจะส่งสัญญาณมือให้อีกสองคนปลุกสองสาวที่นอนอยู่ไม่ไกล พรานจึงรีบเพ่งสมาธิจับตาสามยาม ก่อนจะคลื่นพลังจะฉายให้เห็นเงาคล้ายลิงตัวใหญ่หลายตัว เดินบ้าง โหนต้นไม้บ้าง ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา


ทั้งหมดต่างพากันยืนรอบกองไฟต่างพากันตื่นตัวใจเต้นสั่นแรง มองซ้ายมองขวาในมือกำอาวุธพร้อมกับรอสัญญาณของพราน 


  แฮร่กกกกกก โฮกกกกกก 


เสียงคำรามกึงก้องยาวแหลมบาดแทงจิตใจ จนคนทั้งหกต่างพากันใจเต้นระรัว เสียงพวกมันเคลื่อนไหวไปมาตามบนยอดไม้ กระโดดบนพื้นดินบ้าง แต่พวกมันยังไม่ปรากฎตัว

"พรานมันคือตัวอะไรครับพราน" 

 ดิเรกถามเมื่อเห็นเงาของพวกมันกระโดดไปมา 


"ไม่แน่ใจครับ แต่ถ้ามันตัวไหนเข้ามาไกลยิงได้เลยครัับ"


ตอบกลับโดยที่สายตายังคงจ้องมองไปทางต้นไม้ใหญ่ในเงามืด ที่นั้นมีเงาขนาดใหญ่ดวงตาสีแดงกร่ำ จ้องมองมาทางพรานเช่นกัน สายตาของทั้งคู่จ้องมองกัน ไม่นานพรานก็พูดขึ้นจนคนทั้งห้าที่ยืนอยู่ใกล้สดุ้งตกใจ 


"พวกกูไม่ได้ต้องการมาต่อสู้ หรือลองดีอะไรทั้งนั้น กูแค่ต้องการเข้าไปในดินแดนฝั่งนั้น แต่ถ้าพวกมึงอยากแดกกระสุนลงอาคมกู ก็เข้ามา"


คนทั้งห้าต่างพากันตาเบิกโพลงหลังได้ยินว่าพรานท้าให้ตัวที่อยู่ด้านนอกต่อสู้ ภพที่ได้ยินเหมือนกันจึงหัวเสีย ก่อนจะสวนกลับพราน 


"คุณคิดว่าพวกเรามีอาคมเหมือนคุณหรือไงห่ะ"


พรานอมยิ้มมุมปาก ก่อนจะหลับตาตั้งสมาธิ และร่ายอาคม "โอมพะยันชาโม นะลิติ อะมังชาตุ ขอสิ่งศักสิทธิ์ปกป้องผู้ที่อยู่ในกรอบแก้วด้วยเทิด" พลันเกิดแสงสีทองสว่างจ้า ก่อนจะมีม่านสีเหลืองอร่ามขนาดใหญ่คลุมบริเวณที่คนทั้งหกอยู่ คนทั้งห้าตะลึงอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็นมันมหัศจรรย์เหลือเกินบรรยาย


 และด้านนอกเองก็เกิดเสียงพูดคล้ายสำนวนของภาษามนุษย์บางอย่างจนคนทั้งหกต่างพากันมองไปยังต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง  


"พวกมนุษย์มักโลภ จิตใจต่ำช้า


เมื่อกาลเวลา ไม่อาจย้อนกลับ


สิ่งใดที่หวัง จักปรารถนา 


หวนคืนชีวา กลับสู่ ฤธาจักรดิ์ทราวดี"



 มันปรากฏตัวและแสยะยิ้ม พร้อมเสียงหัวเราะในลำคอ