ไม่อยากจะเชื่อ... แค่การใช้ ลิปแดง ของสวยงามประจำตัวสำหรับผู้หญิงหลายคน จะทำให้ชีวิตเรามาเจอกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นได้ขนาดนี้ (มีกลิ่นอายของ Yuri ใครสายจิ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ห้ามพลาด!!!)

ลิปแดง - บทที่ 1 สายน้ำแห่งเลือด โดย CokeAuttaphon @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ลึกลับ,ระทึกขวัญ,สืบสวนสอบสวน,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง,นิยายยูริ,yuri,หลอน,เพื่อนเก่า,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,เพื่อนสนิท,เพื่อนรัก,เพื่อน,ฆาตรกรรม,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,ยูริ,ผีในห้อง,ผี,ผีไทย,สยองขวัญ,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ลิปแดง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ระทึกขวัญ,สืบสวนสอบสวน,หญิง-หญิง,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายยูริ,yuri,หลอน,เพื่อนเก่า,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,เพื่อนสนิท,เพื่อนรัก,เพื่อน,ฆาตรกรรม,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,ยูริ,ผีในห้อง,ผี,ผีไทย,สยองขวัญ,รักวัยรุ่น,ดราม่า

รายละเอียด

ไม่อยากจะเชื่อ... แค่การใช้ ลิปแดง ของสวยงามประจำตัวสำหรับผู้หญิงหลายคน จะทำให้ชีวิตเรามาเจอกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นได้ขนาดนี้ (มีกลิ่นอายของ Yuri ใครสายจิ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ห้ามพลาด!!!)

ผู้แต่ง

CokeAuttaphon

เรื่องย่อ

ไม่อยากจะเชื่อ...

แค่การใช้ ลิปแดง ของสวยงามประจำตัวสำหรับผู้หญิงหลายคน
จะทำให้ชีวิตเรามาเจอกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นได้ขนาดนี้
ไหนจะเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมิตรภาพของพวกเราอีก
ความหายนะนี้มัน...
มักเกิดขึ้นกับ คนอย่างพวกฉัน เท่านั้นสินะ



มี E-Book สามารถสั่งซื้อได้ที่

https://bit.ly/47HBpXd

(มีกลิ่นอายของ Yuri ใครสายจิ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ห้ามพลาด!!!)



ลิปแดง

RedLips

CokeAuttaphon



จัดทำครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2566

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใด ๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น

Author : CokeAuttaphon

Proof & Editor : Khotwang

Illustrator : Punix

Contact

Facebook: WriteCokeAuttaphon

Instagram: Write_CokeAuttaphon

Tiktok: CokeAuttaphon

Line: WriteCokeAuttaphon

Gmail: Auttaphoncoke457@gmail.com

สารบัญ

ลิปแดง-บทที่ 1 สายน้ำแห่งเลือด,ลิปแดง-บทที่ 2 เสียงทักทาย,ลิปแดง-บทที่ 3 คำถามจากเพื่อน,ลิปแดง-บทที่ 4 อาถรรพ์ ,ลิปแดง-บทที่ 5 อย่าพึ่งมายุ่ง,ลิปแดง-บทที่ 6 คำสารภาพ

เนื้อหา

บทที่ 1 สายน้ำแห่งเลือด

ซ่าาา…

สายน้ำจากฝักบัวทรงสูง ไหลปะทะใบหน้าหวานก่อนชโลมเรือนร่างระหง มือเรียวคอยขัดผิวชำระล้างร่างกาย พลันความรู้สึกแปลกประหลาดกลับเกิดขึ้น เธอสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนบริเวณขาหนีบ มีของเหลวบางอย่างค่อย ๆ ไหลลงมา สายตาทอดมองลงไปที่หน้าขาตัวเองก็เป็นไปตามคาด กลิ่นคาวสนิมคละคลุ้งหนักขึ้น ของเหลวสีแดงไหลลงมาดั่งเปิดก๊อกน้ำเลือด

“กรี๊ดดด…” ความตื่นตระหนกเกิดขึ้นชั่วขณะ ยิ่งจ้องมอง เลือดยิ่งไหลทะลักออกมามากยิ่งขึ้น น้ำสีใสปะปนกับสีแดงสดไหลลงท่อไม่หยุดหย่อน

จริงอยู่ที่การมีประจำเดือนสำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คนคือเรื่องปกติ หากแต่ครั้งนี้มันกลับพรั่งพรูออกมาจนน่ากลัวดูผิดปกติ

ลดารีบล้างทำความสะอาดกลิ่นคาวบนร่างกาย ก่อนจะออกไปหยิบแผ่นพับทรงสี่เหลี่ยม สิ่งจำเป็นของหญิงสาวทุกคน ในลิ้นชักเก็บผ้าอนามัย

เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด จับจีบติดกระดุมอย่างประณีต เข็มประดับอกปักลงเสื้อขาวนวล ชุดที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้ใส่ถูกประดับตกแต่งบนร่างอรชร ทรงผมดำขลับถูกปล่อยลงให้ตรงสง่า ก่อนจะนำแปรงหวีมาจัดทรง

เนื้อครีมราคาถูกปาดลงบนใบหน้ารูปไข่ ดวงตาดอกท้อฉายแววบั่นทอนตัวเอง จู่ ๆ ก็มีความคิดขึ้นมาว่า ทำไมฉันต้องเกิดมาจนด้วยนะ ในขณะที่เพื่อน ๆ ต่างมีรถหรูขับกัน ออกไปเที่ยวเล่นใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น แต่ทำไมฉันกลับมานั่งอยู่ในบ้านหลังเก่า ๆ อยู่ในครอบครัวที่ขายแค่ข้าวแกงในตลาดกันนะ ความรู้สึกนึกคิดที่บั่นทอนจิตใจคอยโถมเข้ามาไม่หยุด และมันเป็นแบบนี้ในทุก ๆ วัน แต่จะให้ทำอย่างไร นี่มันคือชีวิตที่ฉันต้องทนอยู่ เพราะมันคือชีวิตที่เกิดมาเพื่อเป็นของลดาไง

ตึก ตึก ตึก

“ลดา พ่อวานหนูหยิบถุงแกงที่พ่อซื้อมาเมื่อวานหน่อยลูก” เสียงจากชายอายุสี่สิบกว่าเรียกขึ้นมาทันทีที่มองเห็นลดาเดินลงมาจากบันได

“อยู่ตรงไหนเหรอคะพ่อ” หญิงสาวถามชายผู้เป็นบิดา

“ในครัวเลยลูก พ่อวางไว้อยู่ข้าง ๆ หม้อข้าว” ลดามองตามมือพ่อที่ชี้ไปในครัว จะว่าไปวันนี้ก็แปลก ทุกทีพ่อออกไปตลาดตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แต่นี่ก็จวนจะเก้าโมงอยู่แล้ว ทำไมยังไม่ออกไปอีก ลดาฉุกคิดขึ้นมา ทว่าคิดไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ ลดาจึงเดินไปในครัวหยิบถุงแกงก่อนจะเอาไปให้พ่อ

“เร็ว ๆ หน่อยลดา พ่อสายมากแล้ว พอดีเมื่อเช้าแก๊สดันหมด พี่แก้วก็มาป่วยติดโควิดพอดี ดูท่าแล้ววันนี้พ่อคงต้องไปขายของคนเดียว” แรก ๆ ก็ดูปกติ แต่ทำไมประโยคหลังฉันรู้สึกเหมือนพ่อกำลังบ่นกราย ๆ ว่าอยากให้ไปช่วยงานนะ…

“งั้นเดี๋ยวหนูไปช่วยพ่อขายละกัน ยังไงวันนี้หนูก็มีเรียนตอน10โมง”

“จริงเหรอลูก ทำไมวันนี้ลูกสาวพ่อมาแปลกจังนะ” พูดจบมือหยาบก็ยื่นมายีหัวลดา ใบหน้าบึ้งตึงเมื่อครู่แย้มยิ้มร่าขึ้นมาจนมีรอยหยักข้างตา ไงล่ะ.!! เซ้นส์ฉันเคยผิดที่ไหน ทำไมเรื่องโชคดีไม่เคยถูกแบบนี้บ้างนะ แต่ก็เอาเถอะ ยังไงก่อนไปเรียนก็ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ดี รับบทลูกที่ดีสักวันก็แล้วกัน

“พ่อสายแล้วรีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูขึ้นไปเอากระเป๋าก่อนแล้วจะตามไป” ลดาพูดกับพ่อก่อนจะหันหลังเดินกลับขึ้นไปเอากระเป๋า แต่ก็ไม่ลืมที่จะยืนดูพ่อขนของออกไปก่อน

“ผักสดจ้า ผักสดถูก ๆ จ้า”

“เอาหมูกี่โล!”

“ป้า! ลดราคาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ”

เสียงพูดเจื้อยแจ้วของเหล่าแม่ค้า พ่อค้า หรือลูกค้า ที่เดินผ่านไปมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงสับเนื้อ สับปลา เสียงขนของที่ดูวุ่นวายไม่หยุดหย่อน ทำให้ตลาดสดในช่วงเช้าดูไม่อึมครึมมากนัก เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่พวกเราต้องเจอ คนหาเช้ากินคํ่าทุกคนจะมารวมตัวที่นี่ บ้างก็มาขายของ บ้างก็มาซื้อของ ที่สำคัญราคาถูกและอร่อยกว่าของแพง ๆ เสียอีก

อย่าว่าแต่ร้านคนอื่นเลย สถานการณ์ร้านฉันในตอนนี้ก็คงไม่ต่าง ถุงใสในมือฉันตอนนี้ถูกมัดด้วยหนังยางสีแดงคุ้นตา สกิลลูกพ่อค้าตั้งแต่เด็กคงส่งผลทำให้มือฉันคุ้นชินกับการมัดถุงแกง ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉันจริง ๆ

“นี่จ้า 100 บาท” ลดายื่นกับข้าวสามถึงสี่ถุงให้ลูกค้าตรงหน้า และรับเงินมาใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อนักศึกษา

“คนต่อไปเลยจ้า รับอะไรดีคะ” ป้าที่มาใหม่ชี้ไปที่หม้อแกงปลาดุก และต้มข่าไก่ หน้าที่นี้คงไม่มีทางว่าจะจบง่าย ๆ ลูกค้าคนต่อ ๆ ไปก็ทยอยมาเรื่อย ๆ คิดแล้วก็น่าหงุดหงิด ทั้งที่คนเข้าร้านไม่หยุดหย่อนแบบนี้ ทำไมลดาคนนี้ไม่รวยสักทีนะ ลดาบ่นในใจ

“ลดา ไปเรียนเถอะลูก คนเริ่มน้อยลงแล้ว เดี๋ยวพ่อขายต่อเอง” พ่อละสายตาจากลูกค้าตรงหน้าก่อนจะหันมาพูดกับลดาด้วยน้ำเสียงเอ็นดู

“ได้ค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ” ฉันตอบรับก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนที่คาดเอวออก แล้วหันไปเก็บของใส่กระเป๋า

“เออ เกือบลืม พ่อคะ วันนี้หนูอาจกลับดึกหน่อยนะ พอดีมีงานกลุ่ม”

“ได้ลูก” พ่อยิ้มรับให้ฉันทันทีที่บอก ก่อนจะขานตอบกลับมา

ใช้เวลาไม่นานจากตลาดมาถึงป้ายรถเมล์ ลดารอรถไม่นานนัก รถเมล์คันเก่าดูโทรมก็เคลื่อนมาจอดอยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่ารถเก่าขนาดนี้ทำไมถึงยังวิ่งให้บริการผู้โดยสารได้ ซ้ำยังไม่มีปัญหาอีกด้วย

ฉันเลือกที่นั่งริมหน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก มีหลายคนที่ใช้ชีวิตเหมือนฉัน และมีหลายคนที่ใช้ชีวิตแตกต่างกัน สภาพเมืองหลวงในประเทศนี้มันช่าง....น่ารำคาญ ความคิดของฉันบอกแบบนี้เสมอ แต่อย่างน้อยตัวฉันก็ชินกับความรู้สึกพวกนี้ไปแล้ว ฉันหยิบเงินสดสามร้อยยี่สิบบาทออกมาจากกระเป๋าเสื้อ วันนี้ฉันขายได้มากกว่านั้น แต่หยิบมาได้แค่นี้ ใช่ ทุกคนมองไม่ผิด ฉันหยิบเงินมาจากกล่องเงินในร้าน แค่คิดไว้ว่า ควรหยิบมาสักนิด มันคงเพิ่มที่มีอยู่ในกระเป๋าตังค์ตัวเองได้สักหน่อย ครั้งแรกมันยากเสมอ แต่พอมีครั้งต่อ ๆ ไป...ไม่รู้สิ…!!

“หึ..” ลดายิ้มแห้งให้กับความคิดของตัวเอง พร้อมกำเงินในมือของตัวเองไว้แน่น ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่สนใจอะไร

ท่ามกลางถนนที่รถพลุ่งพล่านไปมาอย่างวุ่นวาย สองสาวเพื่อนซี้ในรถสปอร์ตสุดหรูกำลังขับรถอย่างใจเย็น เพื่อรับเพื่อนไปเรียนเหมือนกับทุกวัน

“เออ…พิมพ์ วันนี้ไปนั่งทำงานแถวไหนดีวะ” สาวผิวสีน้ำผึ้งที่ดูไม่ได้คล้ำมากหรือขาวมากจนเกินไปเอ่ยถามขึ้น ใบหน้ากลมมนมีเเก้ม จมูกโด่งเป็นสัน ตาเฉี่ยวสูง ชื่อว่าออมหันไปหาเพื่อนข้าง ๆ

หน้าตาจิ้มลิ้ม ผสมเสี้ยวจีนผิวขาวผ่องมีสไตล์ตัดกับเม็ดไฝเสน่ห์ที่มุมปากขวา

ส่วนออมแม้จะหันไปหาเพื่อนเพียงเสี้ยววิแต่มือทั้งสองข้างยังมีสมาธิอยู่กับพวงมาลัยรถและเส้นทางบนถนนอยู่

“ไม่รู้ว่ะ แถวสยามก็โอเคดีนะมึง” พิมพ์ ตอบอย่างนึกคิดตาม

“โอเค งั้นไปสยาม”

“เลิศ >.< “พูดจบพิมพ์ก็เอื้อมมือไปเปิดเพลงที่หน้ารถ บรรยากาศภายในรถดูสดใสสบายตา คำพูดเจื้อยแจ้วจากสองสาวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไปโดยง่าย

ไม่ทันไร รถสปอร์ตคันหรู ก็มาจอดอยู่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง โทรศัพท์มือถือคู่ใจถูกหยิบออกมาก่อนจะต่อตรงเข้าหาสายเจ้าของบ้าน

“โหลมึง เสร็จยัง พวกกูถึงแล้วเนี่ย”

“แป๊บหนึ่ง ๆ กำลังลงไป” ปลายสายตัดคำพูดไปในทันที ร่างบางขาวสะกดมุ่งหน้าไปที่กระจก หยิบขวดนํ้าหอมกลิ่นประจำขึ้นฉีดตามข้อมือก่อนจะนำมาแตะที่หลังหูและฉีดที่ลำตัวเพิ่มกลิ่นหอมให้ฟุ้งกระจาย ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

รองเท้าส้นสูงดูดีมีราศีเดินออกมาจากตัวบ้าน ถือกระเป๋าหนังหรูคู่ใจเพื่อบ่งบอกฐานะของตัวเองอย่างชัดเจน

“นั่นไง มันเดินมานู่นละ” พิมพ์เปิดกระจกพร้อมแค่นยิ้มให้กับเพื่อนสาวของตัวเอง ที่กำลังเดินมาประหนึ่งลูกคุณหนูหัวแก้วหัวแหวนของทุกคน

ดวงตาสีนิลทอดมองไปยังรถสปอร์ตคุ้นตา ก่อนจะยกยิ้มทักทายเพื่อนผ่านหน้าต่างรถที่เปิดกว้างและเดินสับไปเปิดประตูหลังข้างพิมพ์

“โหมึงสวยเกินหน้าเกินตาพวกกูมากไม่ทราบว่าจะไปเดินแฟชั่นวีคที่ไหนคะ?” ออมกล่าวแซะ ๆ เพื่อนของตนอย่างเฮฮา

“ธรรมดาป่าวมึง” เบลยักไหล่อย่างไม่แคร์ให้กับคำพูดของออมด้วยท่าทางที่มั่นใจ

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” คำพูดหยอกล้อหลุดออกมาจากออม ทันทีที่เบลขึ้นมาบนรถ ก็เรียกเสียงหัวเราะจากพิมพ์ได้ทันที

ตื้อดึง!

ระหว่างทางเสียงแจ้งเตือนข้อความของเบลดังขึ้นทำให้ต้องหยิบมือถือขึ้นมา ไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าคมสวย เมื่อรู้ว่าคนที่ส่งมาคือแฟนหนุ่มที่ตัวเองรัก

เจมส์: ไปเรียนหรือยังคะ

กำลังไปค่ะ อยู่บนรถออมแล้ว พี่เจมส์ล่ะทำไรอยู่? : เบล

“เออมึง มึงว่าลดามันเป็นคนยังไงวะ” ออมถามเพื่อนในรถทั้งสอง

“อืมม กูก็ไม่รู้ดิ แต่มันบอกว่าเพื่อนสนิทมันซิ่วออกไป เลยเหงา ๆ มั้ง..” เบลนึกตามคำที่ออมถาม ก่อนจะตอบออกมาอย่างเนือย ๆ

“มึงนี้ถ้ามันไม่ฉลาดนี้กูไม่คุยด้วยหรอกนะ รสนิยมเเต่ละอย่างแม่งแย่อะ” จู่ ๆ พิมพ์ก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ด้วยท่าทางพูดเหยียดแบบสนุกปาก

“เออจริงมึง นี้ถ้าไม่เก่งแบบท๊อปของห้องนะ กูจะไม่ให้เข้ากลุ่มเลย” ออมหัวเราะเยาะและพูดจาส่อเสียดเหยียดหยามให้กับบุคคลที่สี่ ที่กำลังเอ่ยถึง

“โอ๊ย ๆ เอาน่าพวกมึง อย่าไปว่าไรมันมากเลย คนเรามันก็ไม่ได้เกิดมารวยทุกคนป่าววะ อีกอย่างลดามันเข้าเรียนที่นี่ได้ ทั้ง ๆ ที่ค่าเทอมที่นี่แพงขนาดนี้ กูว่ามันก็ต้องมีเงินบ้างล่ะ” เบลพูดห้ามปรามเพื่อน ๆ ให้ดูดีไว้ แต่ทุกคำที่แฝงมากลับสนุกปากอยู่เรื่อยไป

“กูว่ากู้ ก.ย.ศ. ค่า” ออมขึ้นเสียงสูงติดตลกขึ้นมา

“อีสัตว์ โคตรช็อตฟีลอะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” พิมพ์หลุดขำตามออม

“โอ๊ย พวกมึงอะ บูลลี่เพื่อน ฮ่า ๆ ๆ” เบลอมยิ้มพยายามกลั้นขำกับคำพูดเพื่อนตัวเองอย่างสุดใจ

“เอาเถอะ ๆ มึงเอามันเข้ามาก็ดู ๆ มันด้วยละกัน” ออมพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึมเพื่อบอกเป็นนัยให้เบลรับรู้สำหรับการรับผิดชอบดูเเลลดาไม่ให้ล้ำเส้นตน

“เออ ๆ” เบลตอบตกลง พร้อมส่ายหัวไปมาให้กับเพื่อน ๆ ของตัวเอง ก่อนจะโฟกัสกับเพลงในรถที่เปิดเอาไว้