ความยุติธรรมเป็นคำที่สังคมศรัทธานับถือมาก แต่สังคมบางกลุ่มความยุติธรรมแค่คำที่ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาเลย

สืบพิสดาร - ตอนที่1 บทนำ โดย Kim Sooyoung @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,อาชญากรรม,Mpreg,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สืบพิสดาร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,อาชญากรรม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

Mpreg,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

ความยุติธรรมเป็นคำที่สังคมศรัทธานับถือมาก แต่สังคมบางกลุ่มความยุติธรรมแค่คำที่ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาเลย

ผู้แต่ง

Kim Sooyoung

เรื่องย่อ


เรื่องย่อ…..

“พี” เป็นทนายหนุ่มไฟแรงที่เก่งมีความสามารถในการทำคดีจนชนะไปหลายครั้ง อยู่มาวันหนึ่งได้มีลูกความให้ทำคดีเกี่ยวกับการฆาตกรรมในงานปาร์ตี้ซึ่งลูกความได้บอกกล่าวกับพีว่า “ตนเป็นแพะรับบาป” เพราะตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเหตุการณ์ที่ในงานปาร์ตี้และมาทราบตอนที่เหยื่อกลายเป็นศพไปแล้ว………ทำให้ดีคดีฆาตกรรมนั้นได้กลายเป็นข่าวโด่งดังเพราะมีคนที่มีชื่อเสียงที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยในคดีว่ามีการใช้เส้นสายในคดีหรือเปล่า!? พีเองอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนั้นแถมโดนกดดันจากเพื่อนร่วมงานว่าให้วางคดีนี้ซะ!!! แล้วมีกลุ่มนักเลงพยายามจะติดสินบนกับพีเพื่อที่จะให้พีไม่ต้องตั้งใจทำคดีมาก แต่พีไม่รับ พวกกลุ่มนักเลงก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตทำให้พีเกิดความลำบากและเหนื่อยหน่ายใจจนท้อแล้วมาระบายกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ใต้ตึกคณะ จนมาเจอ “วิน” เพื่อนสมัยเรียนของพีที่อยู่คณะเดียวกันตอนนี้วินเป็นตำรวจแถมเป็นวิทยากรพิเศษที่คณะที่ตนเคยเรียนอีกด้วย ช่วงแรกพีเองก็ไม่อยากคุยกับวินซะเท่าไรเพราะไม่ค่อยถูกกันนัก แต่……ด้วยงานคดีที่พีทำจนทำให้พีจำต้องคุยกับวินอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ วินได้ยินอย่างนั้นยื่นมือมาช่วยทำคดีให้พีทันที ยิ่งสืบคดีไปเมื่อไรยิ่งได้เห็นความดำดิ่งของกลุ่มไฮโซมากขึ้น พีและวินจะสามารถให้ความยุติธรรมกับเหยื่อและต้องตามฆาตกรตัวจริงมารับผิดให้ได้……….

สารบัญ

สืบพิสดาร-ตอนที่1 บทนำ,สืบพิสดาร-บทที่1 ชีวิตประจำวัน&รั้วมหาวิทยาลัย,สืบพิสดาร-บทที่2 การทำงานในที่อากาศร้อน,สืบพิสดาร-บทที่3 งานคอสเพลย์ (คำเตือน อย่าอ่านในช่วงทานอาหารเด็ดขาด!!!!!),สืบพิสดาร-บทที่4 ดีใจที่ได้เจอกัน,สืบพิสดาร-ชี้แจง นักอ่านทุกท่าน,สืบพิสดาร-บทที่5 ความคาดหวัง&เพื่อนที่จริงใจ(เหรอ?)

เนื้อหา

ตอนที่1 บทนำ

       เช้าวันจันทร์ที่แสนน่าเบื่อแถมคนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยชอบการต้อนรับในวันทำงานซะเท่าไร ยามเช้าที่แสนวุ่นวายการจราจรติดขัดทุกชั่วโมง ทำให้ผู้คนต้องเร่งรีบไปทำงานเพื่อให้ทันเวลาเข้างาน เวลาชั่วโมงวุ่นวายนี้กลับทำให้คนบางกลุ่มนั้นเริ่มสนุกกับการทำงานอาจจะเป็นงานที่รักที่ชอบจริงๆ สังคมดีเลยทำให้มีไฟออกจากตัวเพื่อลุยกับงานที่ทำ

             "ตึก!!! ตึก!!! ตึก!!!"

        เสียงฝีเท้าเร่งรีบเข้าไปที่สำนักงานภายนอกดูอลังการใหญ่โตบรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยคนใส่สูทถือกระเป๋าเอกสาร ดูมีความน่าเชื่อถือและบางคนเดินไปคุยโทรศัพท์ไปเพื่อที่จะออกไปพบลูกค้า ซึ่งบ่งบอกได้เลยว่าคนกลุ่มนี้ทำอาชีพเป็นนักกฎหมายหรือที่เราคุ้นหูกันเลยคือ อาชีพทนายความนั่นเอง ชายหนุ่มกำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อที่จะเข้าไปในสำนักงานของตัวเอง สีหน้าท่าทางดูเร่งรีบพอสมควรทำให้เขาต้องรีบวิ่งขึ้นลิฟต์ที่กำลังจะปิดลง ภายในลิฟต์ดูมีความแน่นเต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องขึ้นไปชั้นต่างๆตามแผนกทำงานของตนเองที่อยู่ 

                "ตึ๊ง!!!!"

     เสียงลิฟต์เปิดออกบ่งถึงสัญญาที่ถึงชั้นของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มออกมามุ่งตรงไปสำนักงานที่ตนเองอยู่รถหว่างทางก็มีคนเดินสวนทางไปมาเป็นเรื่องปกติของที่นี่อยู่แล้ว บางคนต้องไปศาลตั้งแต่เช้า นัดลูกความบ้าง จัดส่งเอกสารไปที่สำนักงานที่จ้างมาความวุ่นวายที่เห็นจนชินตาทำให้ชายหนุ่มมีความกระตือรือร้นในการทำงานที่จะประสบความสำเร็จตามที่ตนเองหวังเอาไว้ ทันใดนั้นเองหญิงสาววัยกลางคนแต่งตัวสไตล์ลุคCEOกับการแต่งหน้าที่ดูเป็นสาวเกาหลีแบบนางเอกหลุดออกมาจากในซีรีย์เกาหลี

         "อ้าว!!! พีมาแต่เช้าเลยนะ ขยันจังนะเราอะ" เสียงหญิงสาววัยกลางคนเอ่ยทักขึ้นมา

         "ไม่เชิงพี่หนิง!!! ผมต้องมารีบเคลียร์สัญญาที่ลูกค้าให้เสร็จภายในวันนี้ด้วย แล้วพี่ละคดีเป็นไงบ้าง?" ชายหนุ่มทักทายด้วยความสดใส แล้วเอ่ยถามกลับ

          "โอ้ยยยย………พี่จะบ้าตายอยู่แล้ว!!!! คดีฟ้องหย่าพี่ไม่อยากทำเลยยยยย แต่ก็นะ ลูกความจ้างมา" หญิงสาวพูดน้ำเสียงแอ็คดูเศร้าๆ

           "เข้าใจพี่ ผมเอาใจช่วยนะ" ชายหนุ่มตบบ่าอีกคนเพราะความสนิทสนมกัน

            "จ้า…………พ่อคนงามมมม!!!!! พี่ไปละ" หญิงสาวบกมือลา

            "ครับผม" ชายหนุ่มตอบกลับแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง

             "ตุ้บ!!!"

     เสียงวางกระเป๋าเอกสารดังขึ้น ร่างบางนั่งเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทำงานแล้วเอ็นตัวไปตามเก้าอี้ สายตาค่อยๆหลับลงเพื่อใช้สมาธิในการทำงานสักพักเพียงใช้เวลาแค่5นาที มือเรียวเอื้อมมาเปิดโน้ตบุ๊กสายตากวาดไฟล์เอกสารที่ตนต้องรีวิวสัญญาตามลูกค้าที่ตกลงกันไว้ ชายหนุ่มเข้าสู่โหมดการทำงานแบบจริงจังอย่างที่ทุกคนในสำนักงานเห็นจนชินตา เสียงรองเท้าส้นสูงที่กำลังเดินมาหาอีกฝ่ายอย่างร้อนรนหญิงสาวที่ดูการแต่งการค่อนข้างเรียบง่ายออกไปทางสาวเรียบร้อย มัดผมรวบตึงไม่ได้มีการดัดลอนใดๆกับผม ใส่แว่นตาสีดำหนาเตอะแต่งหน้าดูออกโทนหวานไม่มากยื่นเอกสารกองโตมาวางไว้ที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่ม 

         "นี่เอกสารที่หนูทำเสร็จแล้วนะคะ" หญิงสาวพูดเสียงหอบ

         "ขอบใจนะ เอวา" ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ

          "ค่ะ!!! เออพี่พี...พี่อยากกินกาแฟไหมเดี๋ยวหนูไปซื้อให้" หญิงสาวเอ่ยถาม

         "งั้น......พี่เอาอเมริกาโน่ ไม่หวาน แล้วก็ครัวซ็องนมสดชิ้นนึง" ชายหนุ่มยิ้ม

          "ได้เลยค่ะ เดี๋ยวเอวาจะรีบไปซื้อนะคะ" หญิงสาวหันหลังแล้วรีบเดินอย่างไว

          "เอวา!!!! ระวังล้มด้วยละ!!!!" ชายหนุ่มตะโกนเตือนด้วยความเป็นห่วง



    11.00น.

    เสียงฝีเท้าวิ่งซอกแซะอย่างไวในมือถือกระเป๋าสะบายของผู้หญิงที่ตนวิ่งราวมา ผู้คนที่ขายของข้างทางกำลังชุลมุนวุ่นวายกับเหตุการณ์ปล้นชิงทรัพย์ ชายหนุ่มดูท่าทางมอมแมมเหมือนคนไร้บ้านกำลังวิ่งหนีตำรวจที่กำลังตามจับกุมตนอยู่จากนั้นวิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่แคบลง สภาพในซอยเริ่มไม่ค่อยมีผู้คนมากนักเลยง่ายมากที่ชายไร้บ้านสามารถหลบหนีได้ แต่ต้องสะดุดสายตาซะก่อนเพราะมีนายตำรวจหนุ่มวิ่งมาดักหน้าชายคนดังกล่าว ในมือถือปืนเพื่อข่มขู่ให้ชายคนไร้บ้านยอมมอบตัว

         "หนีไปไหนก็ไม่รอดแล้วละ!!! ยอมมอบตัวมาซะดีๆ" ตำรวจหนุ่มเอ่ยขึ้นมา

    ชายไร้บ้านยกมือขึ้นแล้วค่อยนั่งลงกับพื้นตำรวจอีกสองนายก็รีบวิ่งมาหาแล้วค่อยๆเดินเข้าไปใส่กุญแจมือของชายไร้บ้านทันที ตำรวจอีกนายก็คุยเรื่องในตัวไปสถานีตำรวจที่ตนประจำอยู่ สักพักรถตำรวจก็ดังเข้ามาแล้วพาชายคนไร้บ้านขึ้นรถไป

       "ตอนนี้ผู้เสียหายเป็นไงบ้างจ่า" ตำรวจหนุ่มถาม

       "ผู้เสียหายรอให้สอบปากคำเรียบร้อยแล้วครับ" ตำรวจชายวัยกลางคนตอบ

      "ดี งั้นเดี๋ยวฉันรีบไปนะ" ตำรวจยิ้มตอบแล้วไปสถานีตำรวจทันที



   ณ สถานีตำรวจ

   ตำรวจหนุ่มมานั่งเก้าอี้โดยมีหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสะสวย แต่งตัวสไตล์วัยรุ่นแต่ไม่ได้เปิดเนื้อเปิดตัวมาก ผู้เสียหายที่กำลังนั่งอยู่อีกฝั่งด้วยความกระวนกระวาย ตัวสั่น ทำให้ตำรวจหนุ่มพูดปลอบให้ผู้เสียหายใจเย็นๆแล้วค่อยๆเริ่มสนทนาในการสอบสวนครั้งดังกล่าว

      "ตอนนี้ผู้ต้องหาเราจับได้แล้วนะครับ ผมอยากให้คุณไปตรวจร่างกายก่อนว่ามีอาการบาดเจ็บอะไรตรงไหนไหม" ตำรวจหนุ่มพูดน้ำเสียงอย่างนุ่มนวล

       "ข.....ขอบคุณมากค่ะ แล้ว......จะดำเนินการยังไงต่อคะ!?" หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น

        "ผมจะให้คุณแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วทางตำรวจจะส่งเรื่องให้อัยการฟ้องต่อไปตามกฎหมายครับ แต่ตอนนี้คุณต้องให้ความร่วมมือในสอบสวนด้วยนะครับ" ตำรวจหนุ่มพูดไปเตรียมเอกสารไป

        "แล้วคนร้ายจะไม่ปล่อยตัวออกมาเหมือนในข่าวใช่ไหมคะ!?" หญิงสาวถามซ้ำอีก

"ไม่หรอกครับ แล้วอีกอย่างยังมีพยานแวดล้อมที่คุณอยู่แถวนั้นให้ความร่วมมือในการสอบสวนด้วย ส่วนคนร้ายยังไงก็ต้องฝากขังแล้วอาจจะต้องตรวจร่างกายว่ามีสารเสพติดหรือไม่ ผมไม่ปล่อยคนร้ายซี้ซั้วเหมือนที่เป็นในข่าวหรอกครับ" ตำรวจหนุ่มพูดยิ้มปลอบ

       "ดีแล้วค่ะ ประชาชนอย่างเราจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก" หญิงสาวยิ้มอย่างปรื้มใจ

     เวลาล่วงเลยผ่านไปการสอบสวนในครั้งนี้ถือว่าเป็นการสวบสวนที่นานพอสมควรเพราะมีพยานผู้พบเห็นเหตุการณ์ค่อนข้างเยอะ ตำรวจหนุ่มกำลังพิมพ์สำนวนอย่างเคร่งเครียด สักพักใหญ่ๆมีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นตำรวจเหมือนกัน รูปร่างสูงแต่ไม่ได้กำยำมาก หน้าตาออกไปทางตี๋หน่อยๆผิวขาวเนียนเดินมาที่โต๊ะทำงานแล้ววางของจนมีเสียงวางของอยู่ที่โต๊ะเป็นการบ่งบอกว่ามีเพื่อนร่วมงานซื้อของมาฝากให้ สายตาคมเรียวเหลือบมองไปเห็นของที่วางไว้อยู่บนโต๊ะแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วก็โฟกัสที่งานของตนเองต่อ จนตำรวจเพื่อนสนิทเอ่ยปากขึ้นเพื่อที่ได้คุยกันโดยที่ไม่ได้เจอกันนาน

       "เพื่อนซื้อของฝากมาให้ไม่คิดจะขอบคุณบ้างเลย" ตำรวจเพื่อนสนิทพูดแบบกวนๆ

        "ขอบใจ" ตำรวจตอบกลับแบบเสียงเรียบ

         "โธ่.......เพื่อนอุตส่าห์ห่างกันไปทั้งที ไม่คิดจะถึงกันบ้างหน่อยเหรอ!?" พูดน้ำเสียงแบบน้อยใจ

         "เห็นนายไปอบรมที่ต่างจังหวัดอาทิตย์นึงนิ! คงไม่เป็นอะไรหรอก" ตำรวจหนุ่มนั่งทำงานต่อ

         "เสียใจที่เพื่อนไม่รัก!!!!!" ตำรวจเพื่อนสนิททำเสียงร้องไห้

          "เว่อร์!!!!!!" ตำรวจหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ

          "ออกเวรแล้ว.......นายมีธุระอะไรไหม" เดินมาข้างเก้าอี้

        "ไม่อะ ฉันจะกลับบ้าน" หันมามอง

        "ไม่มาเลี้ยงฉลองเพื่อนไนท์คนนี้อะไรหน่อยเหรอ!? สารวัตวินจริงจังกับงานมากเดินไปแล้วนะครับ" กอดคออีกคน

         "ก็ได้.....แต่ต้องไปกินที่คอนโดฉันนะ" วินตอบไปด้วยความจำใจ

          "โอเค!!! หมูกระทะหรือชาบูดี" ไนท์เอ่ยถาม

          "ชาบู" วินตอบกลับ

         "ได้เลย!!!" ไนท์ยิ้มด้วยความดดีใจ

         หลังจากนั้นไนท์ก็เดินไปทักทายตำรวจคนอื่นๆส่วนวินก็นั่งทำงานต่อจนได้เวลาออกเวรแล้วตระเวนไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกับไนท์เพื่อที่จะทำอาหารเลี้ยงเพื่อนสนิทของตนที่กลับจากอบรมที่ต่างจังหวัดมา