ความยุติธรรมเป็นคำที่สังคมศรัทธานับถือมาก แต่สังคมบางกลุ่มความยุติธรรมแค่คำที่ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาเลย

สืบพิสดาร - บทที่4 ดีใจที่ได้เจอกัน โดย Kim Sooyoung @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,อาชญากรรม,Mpreg,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สืบพิสดาร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,อาชญากรรม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

Mpreg,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

ความยุติธรรมเป็นคำที่สังคมศรัทธานับถือมาก แต่สังคมบางกลุ่มความยุติธรรมแค่คำที่ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาเลย

ผู้แต่ง

Kim Sooyoung

เรื่องย่อ


เรื่องย่อ…..

“พี” เป็นทนายหนุ่มไฟแรงที่เก่งมีความสามารถในการทำคดีจนชนะไปหลายครั้ง อยู่มาวันหนึ่งได้มีลูกความให้ทำคดีเกี่ยวกับการฆาตกรรมในงานปาร์ตี้ซึ่งลูกความได้บอกกล่าวกับพีว่า “ตนเป็นแพะรับบาป” เพราะตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเหตุการณ์ที่ในงานปาร์ตี้และมาทราบตอนที่เหยื่อกลายเป็นศพไปแล้ว………ทำให้ดีคดีฆาตกรรมนั้นได้กลายเป็นข่าวโด่งดังเพราะมีคนที่มีชื่อเสียงที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยในคดีว่ามีการใช้เส้นสายในคดีหรือเปล่า!? พีเองอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนั้นแถมโดนกดดันจากเพื่อนร่วมงานว่าให้วางคดีนี้ซะ!!! แล้วมีกลุ่มนักเลงพยายามจะติดสินบนกับพีเพื่อที่จะให้พีไม่ต้องตั้งใจทำคดีมาก แต่พีไม่รับ พวกกลุ่มนักเลงก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตทำให้พีเกิดความลำบากและเหนื่อยหน่ายใจจนท้อแล้วมาระบายกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ใต้ตึกคณะ จนมาเจอ “วิน” เพื่อนสมัยเรียนของพีที่อยู่คณะเดียวกันตอนนี้วินเป็นตำรวจแถมเป็นวิทยากรพิเศษที่คณะที่ตนเคยเรียนอีกด้วย ช่วงแรกพีเองก็ไม่อยากคุยกับวินซะเท่าไรเพราะไม่ค่อยถูกกันนัก แต่……ด้วยงานคดีที่พีทำจนทำให้พีจำต้องคุยกับวินอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ วินได้ยินอย่างนั้นยื่นมือมาช่วยทำคดีให้พีทันที ยิ่งสืบคดีไปเมื่อไรยิ่งได้เห็นความดำดิ่งของกลุ่มไฮโซมากขึ้น พีและวินจะสามารถให้ความยุติธรรมกับเหยื่อและต้องตามฆาตกรตัวจริงมารับผิดให้ได้……….

สารบัญ

สืบพิสดาร-ตอนที่1 บทนำ,สืบพิสดาร-บทที่1 ชีวิตประจำวัน&รั้วมหาวิทยาลัย,สืบพิสดาร-บทที่2 การทำงานในที่อากาศร้อน,สืบพิสดาร-บทที่3 งานคอสเพลย์ (คำเตือน อย่าอ่านในช่วงทานอาหารเด็ดขาด!!!!!),สืบพิสดาร-บทที่4 ดีใจที่ได้เจอกัน,สืบพิสดาร-ชี้แจง นักอ่านทุกท่าน,สืบพิสดาร-บทที่5 ความคาดหวัง&เพื่อนที่จริงใจ(เหรอ?)

เนื้อหา

บทที่4 ดีใจที่ได้เจอกัน

"หมดความวุ่นวายซะที"

พีรู้สึกเหนื่อยกับเหตุการณ์ที่ต้องเจอในวันนี้แถมเป็นเวลาช่วงบ่ายกว่าๆเข้าไปแล้วข้าวหอมได้แต่ยืนปลอบขอโทษทีตนนั้นไม่ได้ระวังตัวเองจากโรคจิตที่มาก่อเรื่อง พีส่ายหน้าว่าไม่ใช่ความผิดของข้าวหอมหรือคนในงานหรอก พีพูดปลอบใจข้าวหอมอย่างจริงใจเพราะเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่สามารถบังคับหรือควบคุมสถาการณ์ได้ ทันใดนั้นมีสองหนุ่มตำรวจที่เจอกันในงานก็เดินเข้ามาทักทายแล้วได้อธิบายการดำเนินคดีสอบสวนไปเรียบร้อย สองหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกสบายใจเข้ามาหน่อย

"ขอบคุณนะที่พวกคุณมาช่วยฉันและหลายๆคนที่เป็นผู้เสียหายด้วย" ข้าวหอมก้มหัวให้เพื่อเป็นการขอบคุณ

"เรื่องแค่นี้เอง ยังไงมันเป็นหน้าที่ของตำรวจอย่างพวกเราอยู่แล้ว" วินพูดเสียงออกขำเล็กน้อย

"หิวแล้วววว!!!! ยังไม่ได้กินอะไรมาเลย" พีขึ้นเสียงเพื่อที่จะแยกตัวออกจากสองคนนี้

"เอ้า!? ยังไม่ทานอะไรมาเหรอครับเนี่ย!?" ไนท์ตกใจว่าอีกฝ่ายว่ายังไม่ได้ทานอะไรมาเลย

"ยังเลยครับ กว่าพวกเราจะมาที่นี่ใช้เวลาแต่งตัวไปเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว" ข้าวหอมขำแห้งๆ

"งั้นเองงี้ไหม ไหนๆพวกเราก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วก็ไปทานข้าวด้วยกันสิ" วินยื่นข้อเสนอ

"เดี๋ยว!!!" พีกำลังจะพูดสวนแต่ข้าวหอมขัดซะก่อน

"ได้เลย!!!! จะได้เล่าเรื่องสารทุกข์สุขดิบกัน" ข้าวหอมพูดแทรก

"ดีเลย ผมจะได้รู้จักพวกคุณด้วย" ไนท์ยิ้มอย่างดีใจ

"รีบไปกันได้แล้ว....หิว!!!!" พีเร่งให้อีกฝ่ายรีบไปแล้วตะโกนเบิกตาใส่วิน

"โอเคๆ เดี๋ยวหาร้านอาหารให้" วินพยักหน้าแล้วยิ้มให้พีถึงแม้พีจะทำตัวเป็นศัตรูก็ตาม แต่วินก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรมากนัก

สี่หนุ่มมุ่งตรงเข้าไปที่ห้างสรรพสินค้าอีกครั้งเพื่อไปหาร้านอาหารทานกัน แต่ครั้งนี้พียื่นข้อเสนอมาแค่ขออาหารที่เป็นแบบบุปเฟ่ต์ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องตรงกันเลยเลือกร้านอาหารจากในโทรศัพท์ว่ามีร้านไหนน่าสนใจบ้างแล้วลงความเห็นกันจนสุดท้ายก็ได้ร้านอาหารที่เป็นบุปเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลีเลยจองคิวทางออนไลน์ไป ทุกคนเลือกที่จะไปเดินเล่นก่อนที่จะไปร้านอาหารเพราะได้ดูคิวโทรศัพท์ที่จองก็อีกหลายสิบคิวกว่าจะถึงคิวของตนสักพักพีเองก็นึกขึ้นได้ว่าข้าวหอมอยากได้ปากกาแท็ปเล็ตใหม่เลยเสนอไปว่าจะเข้าไปดูร้านที่ขายเครื่องมืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แต่ไนท์เสนอมาอีกว่าตนจะเป็นคนซื้อให้ข้าวหอมเอง ทำให้พีแอบอมยิ้มไม่หายดูๆแล้วไนท์น่าจะจีบข้าวหอมแบบไม่หยุดหย่อนเลยทีเดียว

"มีคนป๋าขนาดนี้ ไม่ต้องพึ่งฉันแล้วมั้ง" พีพูดเสียงสูงใส่

"พอเลย!!!! รีบไปกันได้แล้ว" ข้าวหอมชักสีหน้าแล้วรีบเดินออกไป

"เพื่อนผมก็เป็นแบบนี้แหละครับ" พียิ้มแห้งๆใส่แล้วเดินตามข้าวหอมไป

"ไอไนท์ แกนี่มันชัดๆเลย" วินตบบ่าให้

"เอ้า!? ก็เขาน่ารักนิ" ไนท์ทำหน้าจ๋อยๆ

"เอาเถอะ! ไหนๆแล้วรีบตามไปถ้าเขาปฏิเสธแล้วค่อยมาเฟล" วินให้กำลังใจ

ไนท์รีบตามสองคนนั้นไปทันทีแล้ววินก็เดินตามจนไปถึงร้านขายโทรศัพท์ขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมสำหรับคนหมู่มาก พีกับข้าวหอมเดินมาดูสินค้าที่ตั้งโชว์ไว้แล้วได้ทดลองสินค้าที่ตนอยากได้ไนท์กับวินก็เดินดูรอบร้านเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรมาก พีหันไปมองสองหนุ่มตำรวจที่กำลังดูสินค้าอยู่แล้วมาพูดกระซิบใส่ข้าวหอม

"จะว่าไปคุณไนท์ก็ดูหล่อเหมือนกันนะ" พีกระซิบใส่

"นี่!!!! อย่ามายุยงให้เชียร์เลยนะ ฉันไม่ชอบ" ข้าวหอมกรอกตาใส่

"ทีตอนให้นายนั่นมานายไม่เห็นปฏิเสธเลย" พียูปาก

"อันนี้มันวินไหม!? แล้วอีกอย่างเรื่องที่นายมีปัญหากับวินมันก็นานมากแล้วนะ" ข้าวหอมถอนหายใจ

"มันเจ็บใจนิ!!! ถ้าฉันได้เงินรางวัลจากการตอบปัญหากฎหมายมานะคงไม่มีปัญหาขนาดนี้หรอก" พีรู้สึกโมโหที่นึกถึงเหตุการณ์นั้น

"เฮ้อ......นายนี่ยังไม่เปลี่ยนเลยนะ ฉันไม่ได้มีปัญหากับนายเลยถ้านายไม่มีเงินฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ" ข้าวหอมส่ายหน้า

"ช่วงนั้นนายเองก็เริ่มไม่ค่อยมีเงินแล้วนิ" พีทำหน้าเศร้า

"อืม ตอนนั้นพวกเราก็เริ่มลำบากจริงๆ แต่สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ไหม!?แล้วยังดีที่ฉันยังได้เงินจากงานคอสเพลย์ที่ขายเซกิและก็งานประกวดด้วย" ข้าวหอมพยักหน้ายอมรับ

"เลือกกันเสร็จยัง!? เริ่มใกล้จะถึงคิวเราแล้ว" วินเดินเข้าพูดแทรก

"ยังเลยอะ" พีส่ายหน้า

"อ๋อ!!! ฉันเลือกเสร็จแล้ว" ข้าวหอมหันมา

"เลือกได้แล้วเหรอ" พีถามเพื่อความชัวร์

"อืม!!! เลือกได้แล้วเอาอันนี้แหละ" ข้าวหอมพยักหน้า

"ราคาเท่าไรครับ" ไนท์เดินเข้ามาถาม

"คุณจะจ่ายจริงๆใช่ไหม!?" ข้าวหอมถามย้ำอีกรอบ

"ครับผม ผมจ่ายให้คุณเอง" ไนท์ยิ้มตอบอย่างหวานๆ

"ไนท์เอ้ยยยย" วินหยุดขำไม่ไหว

"ข้าวหอมยอมๆเขาไปเถอะ" พีเชียร์สุดฤทธิ์แบบสุดๆ

"อืม ผมให้คุณจ่ายให้ก็ได้" ข้าวหอมพยักหน้าแบบยอมๆ

"ขอบคุณครับ" ไนท์ยิ้มอย่างดีใจ

ข้าวหอมเรียกพนักงานบอกว่าตนสนใจปากการุ่นนี้แล้วพนักงานที่อยู่บริเวณร้านก็เดินเข้าหาแล้วพยักหน้าตอบรับไปเอาของที่ห้องเก็บของข้าวหอมและไนท์เดินที่ตรงเคาน์เตอร์คิดเงินเพื่อให้ตรวจสอบสินค้าก่อนที่จะจ่ายเงินทั้งคู่นั้นเหมือนแฟนที่ซื้อของให้กันทำให้พีและวินอดยิ้มไม่ได้แล้วทั้งคู่ก็หันหน้ามาด้วยความเขินแต่ก็ต้องหุบยิ้มที่พีต้องเห็นหน้าวิน พีทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นส่วนวินก็ได้แต่ทำหน้านิ่งตาม เพราะตนเคยทำอดีตไว้ไม่ดีกับอีกฝ่ายจนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดจนเรียนจบ วินในใจลึกๆเองก็อยากให้พีทำดีกับเขาบ้างเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากมาเป็นศัตรูกันเลยที่สำคัญเขาเบื่อที่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ทั้งสี่คนออกมาจากร้านโทรศัพท์แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่ตนจองไว้ทันทีทั้งพีและข้าวหอมวิ่งอย่างสุดแรงและวินกับไนท์ก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามในที่สุดทั้งสี่คนก็ได้มาถึงร้านอาหารตามเป้าและได้คิวทันเวลาพอดีเลยเลือกโปรที่จะกินและเลือกน้ำซุปที่ตนเองชอบ พนักงานเดินไปที่โต๊ะกำลังว่างอยู่แล้วพนักงานแนะนำเมนูและเครื่องที่ต้องบริการตนเองและไปทำหน้าที่ต่อ ทั้งสี่ก็ไปตักอาหารและกดเครื่องดื่มของตัวเองพนักงานก็วางถาดปิ้งย่างและหม้อต้มของทุกคน สักพักทุกคนก็มาพร้อมอาหารและเครื่องดื่มที่ทุกคนตักและกดมา

"ดีใจจังที่ได้ที่ได้กินปิ้งย่างในรอบสองเดือน" พีดมกลิ่นควัน

"นี่หิวถูกไหม?" ข้าวหอมแซว

"ก็........" พีเก็บอาการตัวเองเล็กน้อย

"เออ แล้วหลังจากเรียนจบชีวิตเป็นไงบ้าง" วินถามเรื่องสารทุกข์สุขดิบ

"หลังจากเรียนจบแล้วฉันกับพีก็กลับบ้านต่างจังหวัดแล้วมาหาอะไรทำก่อนที่จะตั้งตัวอยู่กรุงเทพ" ข้าวหอมได้เล่าเรื่องให้วินฟัง

"เหรอ!? แล้วพีละ" วินหันมาถามพี

"ฉันไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับข้าวหอมแล้วก็เตรียมสอบตั๋วทนายและเรียนเนติไปด้วยอะ" พีตอบเสียงเรียบแล้วคีบเนื้อลงมาย่าง

"แล้วนายละ!? หลังจากเรียนจบแล้วทำอะไร" พีถามต่อแล้วเชิดหน้าใส่

"ฉันไปหางานทำอะไรปกตินี่แหละ แต่งานที่ทำช่วงแรกๆก็ไม่ตรงสายฉันเท่าไรนะ พักหลังฉันก็เริ่มเบื่อเลยกลับมาอยู่บ้านอ่านหนังสือสอบพอสอบได้ตั๋วกับเนติแล้วเลยลองไปสอบเป็นพนักงานสอบสวนดู" วินยิ้มแล้วทานเนื้อย่างต่อ

"อ๋อ! แต่นายก็ดูไม่เปลี่ยนเลยนะ" พียักไหล่แล้วมานั่งต้มผัก

"นี่แสดงว่าพวกนายไม่ได้เรียนคณะเดียวกันหมดทุกคนเหรอ!?" ไนท์มองอย่างงงๆ

"ใช่!!! ฉันกับข้าวหอมไม่ได้เรียนคณะเดียวกันหรอก ส่วนฉันกับพีเรียนคณะเดียวกันที่ได้เจอกันนั้นเพราะตอนนั้นอยู่ปีหนึ่งเลยได้เรียนวิชาพื้นฐานด้วยกัน" วินอธิบายให้ไนท์ฟัง

"อ๋อ!!! แล้วพีกับข้าวหอมสนิทกันเพราะเป็นเพื่อนสมัยมัธยมใช่ไหม" ไนท์ถามต่อ

"จริงๆแล้ว ผมกับข้าวหอมมาสนิทกันตอนเรียนมหาลัยครับ ไม่ได้เรียนรู้จักตั้งแต่ม.ปลายเลยหลายคนเข้าใจกันผิดเยอะมาก" พีอธิบายแล้วทานเนื้อย่าง

"เหรอ!?" ไนท์กระพิบตา

"ที่พีคไปกว่านั้นคือ ผมกับพีอยู่จังหวัดเดียวกันแถมอยู่อำเภอเดียวกันอีกแล้วมากไปกว่านั้นหมู่บ้านพีกับหมู่บ้านข้าวหอมอยู่ประมาณสามกิโลกว่าแหนะ" พีพูดขำๆ

"ใช่!!! ทั้งๆที่อยู่จังหวัดเดียวกันยังแทบไม่ได้เจอกันเลย หลังจากที่รู้ขนาดนี้ผมกับพีก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันตลอด" ข้าวหอมยิ้มตอบอย่างดีใจ

"โห!!!! ขนาดนั้นเลยเหรอ" ไนท์อึ้ง

"แล้ว.......พวกนายสองคนเดินทางมายังไงเหรอ!?" วินพูดแทรกถาม

"มารถไฟฟ้า ทำไมนายจะไปส่งเหรอ!?" พีนั่งเท้าคาง

"ใช่!!!" วินตอบ

"ฮะ!!!" พีมองอึ้ง

"อืม ฟังไม่ผิดหรอก ฉันจะไปส่งจริงๆ" วินคีบเนื้อย่างมาวางที่จาน

"ล้อเล่นจริงๆใช่ไหม!?" พีถามย้ำอีกที

"ไม่ได้ล้อเล่น ฉันจะไปส่งนายกับข้าวหอมจริงๆ" วินพยักหน้า

"นายจะไปส่งพวกเราจริงๆเหรอ" ข้าวหอมถาม

"ก็พวกนายเจอเรื่องอะไรไม่ดีมาหนะ ฉันเลยเป็นห่วงเลยอาสาไปส่ง" วินพูดน้ำเสียงอย่างจริงจัง

"จริงอย่างไอวินมันพูดนะครับ สังคมสมัยนี้มันน่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ" ไนท์พูดเสริมอีก

"อย่างที่สองคนว่าแหละสังคมมันน่ากลัวแล้วเราก็เจอเรื่องไม่ดีมาด้วย" ข้าวหอมทำสีหน้ากังวล

"ได้!!! ไหนๆก็ได้เจอกันแล้วถือว่า........เป็นการขอบคุณแล้วกันที่ช่วยเพื่อนฉันเอาไว้" พีพูดหลบสายตา

"อืม!!!" วินยิ้มกว้างอย่างดีใจ

"กินต่อแล้วนะ" พีทานเนื้อย่างเอร็ดอร่อย

หลังจากที่ทุกคนเริ่มอิ่มกันแล้วก็ลุกออกจากโต๊ะที่กินปิ้งย่างเกาหลีเสร็จและไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ทั้งสี่เดินออกจากร้านวางแผนจะไปร้านต่อไปดูว่าจะไปร้านไหนต่อทุกคนเริ่มวางแผนกันอีกครั้งสุดท้ายก็จบลงที่ร้านขายของเล่นที่กำลังฮิตกันอยู่ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปที่ร้ายขายของเล่นดังกล่าวจนไปถึงหน้าร้านทำให้ต้องตกตะลึงเพราะมีสินค้าที่ทุกคนอยากได้อยู่แล้วเลยเข้าไปที่ร้านขายของเล่นทันที ทั้งสี่คนก็ไปดูของที่ตัวเองอยากได้เลยได้จัดมาคนละกล่องสองกล่องคละกันไป จากนั้นก็ไปซื้อของตามซุปเปอร์ในห้างเพื่อจะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันที่กำลังจะหมดแล้ววินกับไนท์ช่วยกันถือของให้แล้วไปคิดเงินจากนั้นเดินออกมาจากห้างไปที่ลานจอดรถจนมาเจอรถยุโรปทรงSUVสีดำ ทั้งสี่ก็ได้ยกของจากรถเข็นแล้วเก็บของตรงประตูหลังที่เป็นที่เก็บของเสร็จแล้วทุกคนฏ้พร้อมออกเดินทางทันที

พีได้บอกพิกัดที่อยู่ของตนเองไปแล้ววินก็เปิดโทรศัพท์เข้าGPSแล้วปักหมุดตามที่พีบอกจากนั้นวินค่อยๆขับรถอย่างระมัดระวังแล้วค่อยรถออกจากลานจอดรถที่ตนอยู่ตามลงชั้นมาเรื่อยๆจนมาถึงจุดรับบัตรขาออกวินลดกระจกลงแล้วยื่นใบเสร็จสแกนแล้วที่กั้นรถยกขึ้นเพื่อให้รถของตนออกในระหว่างทางทุกคนก็ได้พูดคุยบ้างเล็กน้อยแต่ไนท์กับข้าวหอมจะพูดเยอะนิดนึงเพราะต้องเถียงกันเรื่องอนิเมะที่ตนชอบและพูดถึงทฤษฎีที่เกิดขึ้นในตอนต่างๆที่เคยดู ทำให้พีกับวินต้องคอยห้ามปรามสองคนนี้เอาไว้พอผ่านช่วงรถติดรถในถนนก็เริ่มโล่งแล้วแถมแสงอาทิตย์ที่ตกดินลับแล้วจนมืดค่ำมีแสงไฟเริ่มเปิดส่องตลอดทาง ร้านข้างทางเริ่มเปิดไฟจัดโต๊ะบ้างเพราะบางร้านเป็นร้านอาหารกลางคืน ในที่สุดรถคันสีดำเลี้ยวมาที่คอนโดของทั้งสองคนอยู่ซะทีแล้วจอดอยู่ตรงหน้าคอนโดทั้งสี่คนก็ช่วยกันถือของออกมาจากรถจนขนเสร็จแล้วและเช็คอีกรอบว่าของยังหลงเหลืออยู่ไหม พอเช็คเสร็จแล้วว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยมาคุยกันที่หน้าคอนโดเล็กน้อย

"ขอบใจมากนะที่มาส่ง" ข้าวหอมโค้งตัวเป็นการขอบคุณ

"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้" วินส่ายหน้า

"แล้ว......ขอบคุณนะที่เลี้ยงอาหารมื้อนี้ด้วย" พีพูดเสียงเรียบ

"อืม!!! ฉันรู้ว่าอยากกินปิ้งย่างเลยจัดให้" วินยิ้มตอบ

"ทีนี้ไหนๆก็รู้จักกันแล้ว ถ้าไม่เสียมารยาทเกินไปผมขอช่องทางติดต่อของพวกคุณได้ไหม" ไนท์เหลือบมองไปที่ข้าวหอมจนข้าวหอมกรอกตาใส่

"ได้สิ!!!" พียิ้มให้

"ฉันขอด้วย" วินพูดแทรกขึ้นมาทันทีจนทำให้พีต้องอึ้ง

"ก็ได้ แต่ต้องเป็นธุระจำเป็นเท่านั้นนะ" พียื่นข้อเสนอ

"ฉันด้วย!!!!" ข้าวพูดสวนต่อแล้วมองหน้าไนท์

"ก็ได้ครับ" วินกับไนท์พูดพร้อมกันแล้วได้แลกช่องทางในการติดต่อกัน

"ดีใจที่ได้เจอกันนะ หวังว่าจะได้เจอกันใหม่อีกครั้ง" วินยิ้มให้

"อืม หวังว่านะ" พีตอบห้วนๆ

"เช่นกันครับ" ไนท์ยิ้มให้อีกฝ่าย

"พอเลยไปได้แล้ว!!!" ข้าวหอมมองสายตาอย่างดุ

สองหนุ่มตำรวจก็ได้ลากับสองหนุ่มอีกฝ่ายเรียบร้อยทั้งคู่ก็ขึ้นรถแล้วขับรถออกไปทันที ทั้งคู่ก็ได้เก็บของช่วยกันขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องของตนเอง พอถึงห้องทั้งคู่ก็ไขกุญแจประตูแล้วเข้าห้องล็อกประตู เดินไปเก็บของตรงโต๊ะรับแขกทั้งคู่ทั้งตัวลงบนโซฟาบ่งบอกว่าวันนี้เจอเรื่องอะไรมาหนักบวกกับเดินเล่นในห้างจนขาปวดระบมไปหมด ทั้งคู่ก็ได้เกิดบทสนทนาขึ้นหลังจากที่ไม่ได้เจอเพื่อนกันมาหลายปี

"นี่ พีจะว่าไปวินเองก็ดูดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะแถมหน้าที่การงานก็ดีอีก" ข้าวหอมเริ่มบทสนทนาก่อน

"อย่าพูดถึงอีกได้ปะ!!!" พีชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ

"เอ้า! นี่เพื่อนนะแถมยังช่วยพวกเราจับคนร้ายได้อีก แถมวินเขาก็ทำดีกับนายแล้วไม่ได้ชักสีหน้าใส่ด้วย" ข้าวหอมลุกหันข้างมามอง

"ก็......มันยังเจ็บใจไม่หายนิ ถ้าตอนนั้นทีมฉันชนะคงไม่มีปัญหาขนาดนี้หรอก" พีนั่งกอดอก

"เรื่องมันผ่านมานานแล้ว อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ปล่อยเถอะ วินเขาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยขนาดนั้นแค่เขาตอบคำถามผิดนายก็มองเขาแบบนั้นเลยเหรอ" ข้าวหอมถามอย่างจริงจัง

"ตอนนั้นพวกเราเองแทบจะไม่มีข้าวกินอยู่แล้วนิ แถมยังไม่กล้าขอเงินแม่อีกอะ" พีทำหน้าเศร้า

"ฉันเข้าใจนะว่าที่บ้านนายก็ลำบาก แต่ไม่ต้องถึงขั้นโกรธหรือเกลียดวินขนาดนั้นไหมคนเรามันผิดพลาดกันได้ยังไงซะทุกคนต้องมีโอาสแก้ตัวเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีก" ข้าวหอมพูดแบบสั่งสอน

"........" พีนิ่งเงียบ

"ที่ฉันพูดเพราะฉันเป็นห่วงนาย ถ้าวันใดวันหนึ่งวินไม่เห็นค่านายเลยแม้แต่เงา นายจะทำยังไง" ข้าวหอมตั้งคำถามให้พีกลับไปคิด

"อืม" พีพยักหน้าแบบไม่เต็มใจ

"ยังไงซะ สักวันนายกับวินก็ต้องได้เจอกันไม่ทางใดก็ทางนึง" ข้าวหอมพูดปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็น

"ทำไมพูดเป็นลางขนาดนั้นเลยอะ" พีมองอย่างกังวล

"ฉันพูดความจริง ช้าหรือเร็วยังไงก็ต้องเจอกันอยู่ดี" ข้าวหอมพูดเสียงเรียบ

"รวมถึงคุณไนท์ด้วยใช่ไหม" พีกลับมาเข้าเรื่องไนท์ทันที

"ตาบ้า!!! อย่างนั้นไม่มีทางหรอก" ข้าวหอมหันลุกมาตะโกนใส่

"ทีตัวเองยังรับไม่ได้เลย" พีพูดสวนใส่แล้วแลบลิ้นแบบสมน้ำหน้า

"อันนั้นดูเจ้าชู้ๆยังไงไม่รู้" ข้าวหอมรู้สึกขนลุกตามตัว

"เอาจริงๆดูแล้ว......คุณไนท์จะชอบนายมากเลยนะแถมออกเงินซื้อค่าปากกาให้" พีแซว

"ฉันแค่ตัดความรำคาญไปเองไหม" ข้าวหอมยูหน้าใส่

"แต่ฉันดูแล้วคุณไนท์เขาชอบนายมากจริงๆเลยนะ อีกหน้าที่การงานเขาก็ดีด้วยแถมซับพอร์ตในเรื่องต่างๆอีกไม่ดีตรงไหน" พีมองสีหน้าด้วยอารมณ์กวนๆ

"ไม่ต้องพูดแล้ว......ฉันไปล้างหน้าก่อนละ" ข้าวหอมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ

"จ้าาาาา" พียิ้มแบบขำๆ