นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

The Promised พรากสัญญา - ตอนที่4 พรากสัญญา โดย paiinara @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก,อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Promised พรากสัญญา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

ผู้แต่ง

paiinara

เรื่องย่อ

The Promised พรากสัญญา


            เป็นเพราะคำสัญญาก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปเลยทำให้ชาฮีจูต้องติดอยู่ในวังวนความรู้สึกผิดมาตลอด เขาเป็นผู้ลั่นวาจาสัญญากับใครคนหนึ่งเอาไว้แต่กลับจำสัญญานั้นไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องหาคำตอบเลยทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับคังเยนาและคังยูรีอย่างไม่ได้ตั้งใจ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะครั้งใหญ่ที่พวกเขาต้องเผชิญ และพวกเขาต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันและไว้ใจกัน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปให้ได้

สารบัญ

The Promised พรากสัญญา -ตอนที่1 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่2 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่3 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่4 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่5 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่6 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่7 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่8 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่9 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่10 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่11 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่12 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่13 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่14 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่15 พรากสัญญา

เนื้อหา

ตอนที่4 พรากสัญญา

“แม่! แม่อยู่ไหน หนูไม่ได้คิดไปเอง หนูรู้ว่าเป็นแม่ แม่กลับมาหาหนูนะ หนูคิดถึงแม่มาก”

คังยูรีร้องตะโกนเรียกหาผู้เป็นแม่ เด็กสาวเสียใจมากที่แม้แต่อ้อมกอดนั้นก็ให้เธอไม่ได้ คังยูรีไม่สนใจว่าเธอจะกอดผู้เป็นแม่ผ่านร่างของใคร ขอแค่เธอสัมผัสถึงอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ได้ก็พอใจแล้วสำหรับเธอ

ชาฮีจูถูกพลังแรงดึงดูดพามายังห้วงนิมิต ชายหนุ่มเงยหน้ามองต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าจึงรู้ตัวว่าตัวเองได้กลับมายังห้วงนิมิตแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความสับสน ทำไมเขาถึงได้กลับมาอยู่ในโลกนิมิตโดยที่เขาไม่ได้ยินยอมเลยด้วยซ้ำ

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้” ชายหนุ่มกุมมือไว้ที่อกข้างซ้าย ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน เขาทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารให้โลกวิญญาณมาก็เนิ่นนาน แต่ก็ไม่เคยสักครั้งที่จะรู้สึกแบบนี้

“อย่าทำเกินหน้าที่ตัวเอง ระวังผลลัพธ์ที่จะตามมาด้วย"

เสียงทุ้มใหญ่และเย็นชาของชายสูงวัยบางคนดังขึ้นทำให้ชาฮีจูต้องรีบกวาดสายตามองหาเสียงนั้นในทันที เขารู้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของซอนอินผู้เป็นอาจารย์ของเขา ผู้ที่มีพระคุณและดูแลเขาตลอดมาตั้งแต่เขามาทำงานให้โลกวิญญาณในฐานะผู้ส่งสาร

“อาจารย์หมายถึงอะไรครับ ผมทำอะไรพลาดไปหรือครับอาจารย์”

ชาฮีจูตะโกนถามชายสูงวัยแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ ทุกอย่างดูนิ่งสงบไปหมด ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจที่ผู้เป็นอาจารย์สื่อสารกับเขาเท่าไหร่นัก แม้แต่ในตอนนี้เขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำพลาดอะไรลงไป ผู้เป็นอาจารย์ถึงได้กล่าวตักเตือน

___________________

คังยูรีออกมายืนอยู่หน้าประตูบ้านในช่วงดึกสงัด เด็กสาวคิดหาวิธีที่จะเรียกให้ชาฮีจูให้ออกมา แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มปรากฏตัวออกมาให้เห็นเลย คังยูรีเดินกอดอกครุ่นคิดเดินไปมาก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นร่มคันสีแดงโบราณตกอยู่ใกล้บริเวณพุ่มไม้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอเท่าไหร่ เด็กสาวไม่รีรอรีบเดินตรงไปยังร่มคันนั้นในทันที

“นี่มันร่มของเขานี่ งั้นก็แปลว่า…เขาก็ต้องกลับมาอีกเพื่อจะมาเอาร่มของเขาแน่นอน” คังยูรียิ้มอย่างมีความหวัง หยิบร่มที่กางอยู่ตรงใกล้พุ่มไม้นั้นขึ้นมา ก่อนจะหุบร่มนั้นลงและกางมันออกอีก เธอทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง

“ร่มก็อยู่นี่แล้ว ทำไมเจ้าของร่มถึงยังไม่มาอีก หรือต้องเผาร่มทิ้ง…”

เด็กสาวเกิดความคิดมากมายในหัว เธอแค่ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ชายเจ้าของร่มปรากฏตัวอีกครั้ง ไม่ทันได้ลงมือทำ ก็สัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดผ่านตัวเธอไป และร่มที่อยู่ในมือของเธอก็หายวับไปกับตา ก่อนที่ร่มคันสีแดงนั้นจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้งในมือของชาฮีจู ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของร่มโดยตรง

“นี่เธอคิดจะเผาร่มฉันเหรอ” ชาฮีจูขมวดคิ้วจ้องไปที่คังยูรีอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“ฉันแค่คิด ไม่ได้จะเผาจริงๆ ซะหน่อย ก็ฉันอยากเจอคุณอีกนี่ก็เลยคิดหาวิธีเพื่อจะได้เจอคุณเท่านั้น”

“เธอรู้มั้ยถ้าร่มนี้มันถูกทำลาย ฉันก็จะ….”

ชายหนุ่มยั้งคำพูดไว้ได้ทัน เมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาก็ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวให้คนอื่นได้รู้ ต่อให้ร่มนั้นไม่มีทางถูกเผาได้อย่างง่ายดายด้วยน้ำมือคนก็ตาม แต่พอได้ยินว่าเด็กสาวจะเผาร่มก็ทำให้เขาไม่พอใจอยู่ดี

“ไม่กลัวฉันแล้วเหรอถึงอยากเจอฉันน่ะ” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง

“กลัว แต่ก็ไม่กลัวเท่าการไม่ได้เจอแม่อีก คุณมองเห็นแม่ฉันใช่มั้ย แล้วตอนนี้แม่ฉันอยู่ที่ไหน คุณพามาเจอฉันหน่อยได้มั้ย” คังยูรีกระตือรือร้นยิ่งนัก เธอเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากจนทำให้เขาต้องรีบถอยหลังออกห่างจากเธอไป

“แม่เธอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาของพวกวิญญาณ ทุกอย่างต่างก็มีกฎเกณฑ์ไม่เว้นแม้แต่โลกวิญญาณ ฉันเป็นแค่ผู้ส่งสารคนที่นำส่งวิญญาณไปยังที่ที่พวกเขาต้องไปแค่นั้น”

“หมายถึงไปส่งให้ยมทูตเหรอ”

“จะเรียกอย่างนั้นก็ได้” ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย

“แล้วฉันต้องทำยังไงถึงจะได้เจอแม่อีกครั้ง คุณบอกฉันได้มั้ย ให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอม”

“คังยูรี เธอจะไม่มีวันได้เจอแม่เธออีก เธอกับแม่เธออยู่คนละภพกันแล้วเธอก็รู้นี่ แล้วทำไมถึงเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ล่ะ”

“แล้วก่อนหน้านี้มันคืออะไร ฉันรู้ว่าเป็นมือแม่ที่โอบแก้มฉันเอาไว้ ฉันรับรู้ว่าแม่อยู่ใกล้ๆ ฉัน ฉันมั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเอง”

“ใช่เธอพูดถูก เธอไม่ได้คิดไปเอง แต่นั่นก็เป็นแค่ความรู้สึกที่เธอสัมผัสได้แค่นั้น และอีกอย่างก็อย่าทำแบบนั้นอีก การกระทำของเธอมันทำให้ฉันสูญเสียพลังไปไม่ใช่น้อยเลยนะ”

ชาฮีจูดุให้เด็กสาวเล็กน้อยเมื่อคิดถึงช่วงที่เธอปรี่เข้ามาโอบกอดเขาเอาไว้ จนเขาต้องถูกพลังแรงดึงดูดไปยังห้วงนิมิตโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

คังยูรีละสายตาออกจากชายหนุ่ม แววตาแห่งความหวังเมื่อสักครู่ก็ค่อยๆ จางหายไปเหลือไว้เพียงความโศกเศร้าที่เธอรู้สึกมาตลอด สิ่งที่ชายหนุ่มพูดก็มีเหตุผล แม่ของเธอจากไปแล้วจะกลับมาหาเธอได้ยังไง เธอนี่ช่างคิดอะไรไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

ชาฮีจูมองเด็กสาวที่แววตาเซื่องซึมด้วยความเห็นใจ เขาเองก็จะช่วยเธอเท่าที่จะช่วยได้ เพราะหน้าที่ของเขาคือผู้ส่งสาร คงจะทำอะไรเกินกำลังหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่ได้

“คังยูรี แม่ของเธอจะถูกส่งตัวไปในวันพรุ่งนี้ เธออยากจะบอกอะไรกับของแม่เธอก็บอก แต่อย่ารั้งให้แม่ของเธอต้องเป็นห่วง น้อยคนนักที่จะได้โอกาสเหมือนกับเธอเพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบ เพราะนั่นจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เธอจะได้บอกลาแม่ของเธอ”

“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าแม่จะมาหาฉันตอนไหน แล้วฉันจะสัมผัสถึงแม่ได้เหมือนวันนี้หรือเปล่า”

“พรุ่งนี้ค่ำๆ ฉันจะมาหาเธอพร้อมกับแม่ของเธอ เธอรออยู่ที่นี่ก็แล้วกัน”

“ได้ ฉันจะรออยู่ที่บ้าน” เด็กสาวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

คังยูรีไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคำพูดของชายหนุ่มนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เขาจะโกหกเธอหรือเปล่า มันมีจริงเหรอคนที่สามารถสื่อสารกับโลกความตายได้ สิ่งที่เธอเชื่อมั่นคือตัวเธอเอง เพราะเธอรู้สึกถึงแม่เธอได้จริงๆ ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปได้แค่ไหน หรือเรื่องทุกอย่างเป็นแค่เรื่องที่ชายหนุ่มสร้างจินตนาการและสะกดจิตเธอขึ้นมา ยังไงพรุ่งนี้เธอก็จะได้รู้อย่างแน่นอน

___________________

เช้าวันต่อมา

คังยูรีมาโรงเรียนตามปกติ วันนี้เด็กสาวจดจ่ออยู่แต่กับเรื่องของผู้เป็นแม่ เธอรู้แค่ว่าหลังเลิกเรียนต้องรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด เด็กสาวยิ้มไปเดินไปอย่างมีความหวัง ถึงเรื่องดังกล่าวจะดูเกินความเป็นจริงไป แต่เธอก็ยังเฝ้ารออยู่ดี

คังยูรีเดินมาถึงห้องเรียนก็เห็นซออึนซูนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนเลยรีบเดินตรงไปหาเพื่อนสาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เด็กสาวแตะไปที่ไหล่ของซออึนซูเบาๆ เพื่อทักทายเธอ

“อึนซูเป็นยังไงบ้าง”

“อย่ามายุ่ง!”

ซออึนซูตะคอกใส่คังยูรีทันทีที่เธอเอามือไปแตะมาไหล่ น้ำเสียงดุดันนั้นทำให้คนที่อยู่ในห้องเรียนทั้งหมดหันมามองที่พวกเธอทั้งสอง

“ขอโทษนะยูรี พอดีฉันมีเรื่องเครียดนิดหน่อย” ซออึนซูเอ่ยขอโทษต่อเพื่อนสาวเมื่อรู้ตัวว่าทำเกินไป ก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกนอกห้องเรียน

คังยูรีได้แต่มองตามหลังเพื่อนสาวด้วยความสับสน เธอเองก็ไม่เคยเห็นซออึนซูเครียดมากขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเห็นเพื่อนสาวเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เธอคิดมากและเป็นกังวล คังยูรีตัดสินใจวางเป้ที่สะพายอยู่ไว้บนโต๊ะนักเรียนของเธอแล้วเดินตามซออึนซูออกไป

คังยูรีเดินลงมาจากห้องเรียนก็เห็นเพื่อนสาวนั่งอยู่ที่ม้านั่งริมทางเดินไม่ไกลจากอาคารเรียนของพวกเธอนัก คังยูรีค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ซออึนซูที่นั่งนิ่งเอาแต่ก้มหน้า

“อึนซู เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้เลย หรือฉันทำอะไรให้เธอโกรธเหรอ”

“เปล่า ฉันไม่เป็นไร พอดีมีเรื่องที่บ้านนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว”

เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตาคังยูรีพร้อมกับรอยยิ้มหวาน คังยูรีเองเมื่อเห็นซออึนซูยิ้มได้ก็โล่งใจ เธอเองก็กังวลใจว่าก่อนหน้านี้ทำอะไรให้ซออึนซูไม่พอใจไปหรือเปล่า เมื่อเพื่อนสาวบอกไม่เกี่ยวกับเธอเลยคลายความกังวลออกไปได้

“แล้วเธอล่ะ วันนี้ดูยิ้มแย้มผิดปกตินะ มีเรื่องดีๆ แล้วไม่บอกฉันหรือเปล่า” ซออึนซูถามกลับเพื่อนสาวบ้าง เธอเองก็สังเกตเห็นว่าคังยูรีมีท่าที่แปลกไปเล็กน้อย ไม่ได้ดูเซื่องซึมเหมือนในทุกๆ วันที่ผ่านมา

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ฉันเองก็อธิบายไม่ถูกมันค่อนข้างซับซ้อนไปหน่อย ไว้ผ่านวันนี้ไปแล้วฉันจะบอกเธอนะ”

“วันนี้ทำไมเหรอ วันนี้เธอจะทำอะไร” ซออึนซูหันมาถามเพื่อนสาวด้วยความสงสัย

“วันนี้จะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับฉันน่ะ ฉันหวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ฉันเองก็ตื่นเต้นมากอยากให้เลิกเรียนไวๆ จะได้รีบ…"

“ยูรี เธอเข้าห้องเรียนไปก่อนได้มั้ย ฉันขอโทรหาแม่สักหน่อยเดี๋ยวฉันตามไป”

ซออึนซูตัดบทก่อนที่คังยูรีจะพูดจบ เด็กสาวกำมือแน่นแววตาดูหลุกหลิกอยู่ไม่น้อย คังยูรีเองก็ยอมทำตามที่เพื่อนขอแต่โดยดี บางทีซออึนซูเองก็ต้องการความเป็นส่วนตัวในการคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นแม่เลยเลือกที่จะให้เธอออกไปก่อน

ซออึนซูมองตามหลังคังยูรีจนแน่ใจว่าเธอได้ไปแล้วจริงๆ เด็กสาวครุ่นคิดถึงคำพูดของคังยูรีเมื่อสักครู่ หรือเรื่องดีๆ วันนี้ที่เธอพูดถึงจะเป็นเรื่องนั้น เรื่องที่เธอเองก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น

ย้อนกลับไปช่วงหลังเลิกเรียนของเมื่อวาน

ซออึนซูยิ้มกว้างให้ชายที่กำลังเดินมาหาเธอ ถึงเด็กสาวจะประหม่าอยู่บ้างที่ก่อนหน้านี้คังยูรีหนีเธอไปก่อนแล้วปล่อยให้เธอต้องเผชิญหน้ากับคิมคยองซานอยู่ตามลำพัง

“แล้วเพื่อนเธอที่มาด้วยไปไหนแล้วล่ะ” หนุ่มนักเรียนเอ่ยถามเด็กสาวอย่างเป็นมิตร

“พี่หมายถึงยูรีเหรอคะ พอดียูรีมีธุระต้องไปทำต่อค่ะ”

“ยูรี… น้องคนนั้นชื่อยูรีเหรอ”

“ค่ะ ยูรี คังยูรี” เด็กสาวยิ้มรับ

“อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเธอชื่ออะไรก็ยังดี งั้น…ไม่เป็นไร ไว้ครั้งหน้าค่อยเจอกันใหม่ก็ได้ พี่ชื่อคยองซานนะ คิมคยองซาน ไว้เจอกันใหม่นะ….”

“อึนซูค่ะ ฉันซออึนซู” เด็กสาวรีบบอกชื่อตัวเอง

“งั้นไว้เจอกันนะอึนซู”

“เดี๋ยวสิคะพี่คยองซาน พี่เป็นคนส่งจดหมายให้ฉันไม่ใช่เหรอคะ พี่ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันอีกเหรอ นี่ไงคะ…จดหมายพี่ที่เอาไปวางไว้บนโต๊ะของฉัน” ซออึนซูรีบยื่นจดหมายดังกล่าวให้กับเด็กหนุ่ม

“นี่พี่เอาไปวางที่โต๊ะเธอเหรอ พี่ก็นึกว่าเป็นโต๊ะของยูรีซะอีก ขอโทษด้วยนะอึนซู พี่คงทำให้เธอเข้าใจผิดซะแล้ว" เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด แววตาจ้องไปที่ซออึนซูเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“งั้น…จดหมายนี้พี่ตั้งใจจะให้ยูรีเหรอคะ”

“ใช่ จริงๆ พี่เคยเห็นยูรีก่อนที่พี่จะย้ายมาเรียนที่นี่แล้ว ลุงของพี่เปิดร้านบะหมี่อยู่ที่นี่ วันนั้นพี่มาช่วยงานลุงแล้วเห็นยูรีสั่งบะหมี่กลับบ้าน พี่ยอมรับนะว่าพี่ชอบเพื่อนเธอ เลยอยากรู้จักเพื่อนเธอให้มากกว่านี้ เมื่อวานพี่เดินผ่านห้องเรียนเธอก็เห็นยูรีนั่งอยู่ที่โต๊ะนั้น พี่ก็เลยคิดว่าเป็นโต๊ะของยูรี พี่ขอโทษจริงๆ นะอึนซู”

“ฮ่าๆๆ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย พี่ต่างหากที่คิดมาก ฉันก็แค่แปลกใจที่อยู่ๆ ก็ได้รับจดหมายปริศนาเลยอยากรู้ว่าใครเป็นคนส่งมาน่ะ"

“จริงเหรอ เธอไม่โกรธพี่จริงๆ ใช่มั้ย งั้น…เธอช่วยบอกยูรีให้หน่อยได้มั้ย หลังเลิกเรียนพรุ่งนี้พี่จะรออยู่หน้าประตูโรงเรียนอีก เธอบอกให้ยูรีมาหาพบพี่หน่อยนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นว่าซออึนซูไม่ได้ขุ่นเคืองอะไรก็สบายใจขึ้นมาได้หน่อย

“ค่ะ ไว้ฉันจะบอกยูรีให้ แต่ไม่รับปากนะว่าเธอจะมาพบพี่ได้มั้ย”

“ไม่เป็นไร แค่เธอไปบอกยูรีให้พี่ก็พอ ขอบใจมากนะอึนซู”

คิมคยองซานเข้าไปกุมมือซออึนซูด้วยความดีใจอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบคลายมือนั้นออกเมื่อเห็นแววตาเลิ่กลั่กของเด็กสาว เด็กหนุ่มยิ้มให้ซออึนซูเล็กน้อยก่อนจะขอตัวกลับ

ซออึนซูจับจ้องไปที่แผ่นหลังของคิมคยองซานที่พึ่งเดินออกไป ก่อนจะละสายตานั้นออกแล้วหันกลับมามองมือทั้งสองข้างของตัวเอง สัมผัสอุ่นๆ จากมือเด็กหนุ่มเธอยังคงรู้สึกได้ ไม่มีใครมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนแบบนี้มาก่อน ไหนจะเรื่องที่เขากุมมือเธออีก ทุกการกระทำของเขาทำให้เธอหวั่นไหวอย่างมาก ซออึนซูยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวก่อนจะหุบยิ้มนั้นลงเมื่อนึกถึงความเป็นจริงว่าคนที่คิมคยองซานชอบคือคังยูรีไม่ใช่เธอ

ปัจจุบัน

“หรือว่ายูรีกับพี่คยองซานจะคุยกันแล้ว วันนี้เลยจะออกไปข้างนอกด้วยกัน เรื่องดีๆ ของยูรีหมายถึงเรื่องนี้เหรอ”

เด็กสาวพึมพำกับตัวเอง เธอรู้สึกไม่ชอบใจนักถ้าสิ่งที่เธอคิดไว้จะเป็นจริง ซออึนซูแหงนหน้ามองไปยังห้องเรียนของเธอที่เป็นมุมของคังยูรีนั่ง เด็กสาวว้าวุ่นใจนัก เธอจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี จะยอมให้คังยูรีไปเจอคิมคยองซานหรือจะขัดขวางดี ดูเหมือนว่าซออึนซูจะตกหลุมรักคิมคยองซานเข้าเสียแล้ว